บทที่ 871 คุณใจเย็นๆหน่อย
เมื่อสักครู่นี้เธอพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้ตัวเองใจเย็นลง ทว่าบนใบหน้าดูเหมือนว่าจะไม่รู้อะไรเลยสักนิดเดียว
แต่ว่ามาพูดต่อหน้าแบบนี้ตรงๆ ถึงอย่างไรก็ตามหานมู่จื่อก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ทันใดนั้นใบหน้าก็แดงระเรื่อไปจนถึงหู
และเฉียวจื้อที่มีแขนขาที่พัฒนามาอย่างดีไม่ได้ใส่ใจกับความคับแค้นลำบากใจของหานมู่จื่อโดยสิ้นเชิง แถมยังอยากจะกำชับอะไรบางอย่างอีก หานมู่จื่อก็ขัดจังหวะเขาโดยทันที ก่อนที่เขาจะพูดออกมา “ พอแล้ว คืนนี้ลำบากนายแล้ว เฉียวจื้อ นายรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ”
หลังจากพูดจบก็ผลักเฉียวจื้อออกจากประตูโดยทันที หลังจากนั้นก็ปิดประตูดังปั้ง
เฉียวจื้อเกือบหงายหลัง และตอนที่อยากจะพูดอะไรอีกต่อไปนั้น กลับไม่เห็นตัวคนแล้ว เขาลูบศีรษะของตัวเองอย่างปวดใจ
“ทำไมแต่ละคนเป็นแบบนี้ไปกันหมด ล้วนแต่สนใจเพศตรงข้ามมากกว่าเพื่อนไปกันหมด”
เฉียวจื้อบ่นไปพลางขึ้นลิฟต์ไปพลาง หลังจากนั้นก็นึกถึงความคับแค้นลำบากใจในเมื่อสักครู่ของหานมู่จื่อได้ จากนั้นเขาถึงจะได้รู้ว่าเมื่อสักครู่นี้ตัวเขาเองได้พูดอะไรโง่ ๆไป เขาคิดอย่างหน้าเหยเก โชคดีที่ยู่ฉือไม่อยู่ ถ้ามิฉะนั้นยู่ฉือจะต้องฆ่าเขาแน่นอน
--
หลังจากหานมู่จื่อปิดประตูเสร็จแล้วนั้น ก็ยืนหันหลังพิงแผงประตูสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินก้าวเข้าทางห้องน้ำใหม่อีกครั้ง และแต่ละก้าว หานมู่จื่อก็ตื่นตระหนก
เมื่อสักครู่นี้เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่รู้เรื่องของเย่โม่เซินแล้วนั้น ก็ให้ เฉียวจื้อออกไปโดยทันที
ตอนนี้คิดย้อนกลับไป หูก็ร้อนไปหมด
ผลักประตูเปิด หานมู่จื่อกำลังคิดพัวพันเกี่ยวกับเรื่องของเย่โม่เซินว่าจะทำอย่างไรดี และได้ยินเสียงน้ำไหลจากห้องน้ำแทรกเข้ามา
ฝีเท้าของหานมู่จื่อก็หยุดลงชั่วขณะ และในวินาทีต่อมาเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ที่ไม่ขยับตัวมาโดยตลอดอย่างเย่โม่เซิน นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะกำลังยืนอาบน้ำเย็น
ตอนนี้เป็นช่วงฤดูหนาว และก็ใกล้จะถึงช่วงหิมะตกแล้ว เขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ แม้ว่าภายในห้องจะเปิดเครื่องทำความร้อนอยู่ แต่ว่าเขาก็หนาวจนใบหน้าซีดขาวแล้ว ริมฝีปากก็เป็นสีม่วงด้วยเช่นกัน
“คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
หานมู่จื่อรีบพุ่งเข้าไปไปปิดน้ำ จากนั้นก็ดึงผ้าขนหนูที่วางไว้บนชั้นวางออกมาเช็ดตัวให้เย่โม่เซิน
แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาบน้ำเย็นหรือเพราะอะไรกันแน่ ตอนที่เย่โม่เซินลืมตาขึ้นมานั้น หานมู่จื่อ รู้สึกว่าขนตาของเขาใกล้จะแข็งเป็นน้ำแข็งแล้ว เจ็บปวดใจ รูม่านตาของหานมู่จื่อก็แดงขึ้นมาหลายระดับ
สติปัญญาในตอนนี้ของเย่โม่เซินแทบจะหายไปหมดแล้ว ลืมตาขึ้นแล้วมองเห็นหานมู่จื่อตาแดงยืนอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้ารูปไข่ขาวนุ่มหนึ่งใบสวยสดงดงามไร้ที่เปรียบ ริมฝีปากสีแดงมีเสน่ห์ราวกับผลไม้ที่เก็บมาสดๆที่ยั่วยวนใจคนเช่นนั้น
มีสิ่งอะไรบางอย่างที่มาทุบสติและสมองของเขา
ในวินาทีถัดมา เย่โม่เซินเอื้อมมือไปจับที่ด้านหลังศีรษะของหานมู่จื่อ แล้วโน้มตัวไปจับริมฝีปากของเธออย่างดุเดือด
หนาว
ตอนที่เขาเอนตัวเข้ามานั้น หานมู่จื่อก็มีแค่ความรู้สึกนี้เพียงเท่านั้น และก็ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่นี้เขารดน้ำเย็นไปนานแค่ไหน บนตัวของเขาถึงได้หนาวเย็นเช่นนี้
หานมู่จื่อ อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น และมืออยากจะผลักเขาออกไปตามจิตใต้สำนึก คนที่กอดเธอเบา ๆ ดูเหมือนจะถูกกระตุ้นจากการกระทำเช่นนี้ ทันในนั้นก็กอดเธอแน่นเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
พละกำลังของเขาหนักแน่นมาก ตั้งแต่ตอนแรกที่เขาจูบความเย็นเข้าถึงกระดูกลงมา จนถึงตอนนี้หานมู่จื่อก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งแถบ
ร่างกายของเขาเริ่มเปล่งกระแสความร้อนแรงอีกครั้ง
นั่นก็น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ของยา
หานมู่จื่อไม่ได้ลืมเรื่องที่ตัวเองตั้งครรภ์ ถ้าหากตอนนี้เธอไม่หยุดเขาละก็ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในตอนต่อมาเดาว่าก็คงจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ
คิดไปพลาง หานมู่จื่อก็ใช้แรงผลักเขาออกไป และพูดไปพลางอย่างรีบร้อนว่า “คุณใจเย็นๆ หน่อย ใจเย็น ๆหน่อย “
และหลังจากนั้นในตอนนี้น้ำเสียงของเธอก็เหมือนเป็นยาเร่ง ทำให้การโจมตีของเย่โม่เซินรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก
ในตอนที่หานมู่จื่อเหมือนต้นกล้วยน้ำว้าในยามค่ำคืนที่มีพายุฝน ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็ผลักเธอออก จากนั้นเขาก็หันหลัง และพูดอย่างเย็นชาว่า “ออกไป”
น้ำเสียงแหบพร่าไม่เป็นชิ้นดี เหมือนกับสุราตัวแรงที่แผดเผาคอ ถึงแม้จะเสียงแหบแต่ก็เซ็กซี่
หานมู่จื่อรู้สึกว่า ราวกับว่ามีมดกัดที่หัวใจของเธอเอง รู้สึกชาไปหมด
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังท้องอยู่ เย่โม่เซินในตอนนี้ เธอจะไม่ลังเลใจอย่างแน่นอน
แต่ว่า… ถ้าหากไม่มีทางอื่นจริงๆละก็ งั้นเธอก็เต็มใจ
เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่นี้เขาไปถึงขั้นนั้นแล้ว แล้วทำไมจู่ๆเขาถึงผลักเธอออกไป แล้วให้เธอออกไป
หรือว่าเขากำลังพยายามหักห้ามใจตัวเองอยู่เหรอ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หานมู่จื่อจึงกัดริมฝีปากล่างและเดินเข้าไปใกล้เขา ยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อที่เปียกโชกของเขา “คือว่า… “
ใครจะรู้ว่ามือของเธอเพิ่งจะสัมผัสตัวเย่โม่เซิน เขาก็หันกลับมาเพื่อจับข้อมือขาวบางของเธออย่างแรง กดเธอเข้ากับกำแพงอันหนาวเย็น และเตือนเธออย่างน้ำเสียงเย็นชา
“ฤทธิ์ยาแรงแค่ไหน เมื่อสักครู่นี้คุณก็รู้สึกได้แล้วนี่ ถ้าหากคุณยังไม่ออกไปอีกละก็… ” เขาหรี่ตาลง ภายในดวงตาคู่ลึกแฝงแหลมคม และแรงความปรารถนา
หานมู่จื่อกัดริมฝีปากอย่างประหม่า
ฉากนี้ทำให้ดวงตาของเย่โม่เซินทั้งเป็นสีดำและมืด ราวกับว่าถูกย้อมด้วยน้ำหมึก ในไม่ช้า เส้นเลือดเขียวบนหน้าผากของเขาก็ปูดขึ้นมา เหงื่อเย็นไหลออกมาโดยตรง และจับมือของเธอก็หนักแน่นขึ้นมาก
หานมู่จื่อเริ่มรู้สึกว่าเจ็บที่ข้อมือ ดิ้นรนตามจิตใต้สำนึกไปสักพัก และเอ่ยเสียงเบาว่า “คุณทำมือของฉันเจ็บแล้ว”
เสียงของเธอทั้งนุ่มนวลและบางเบา ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็ดูเหมือนว่ากำลังยั่วยวนเขา
แต่ว่า…..ไม่ได้
แม้ว่าความทรงจำของตัวเองจะถูกทำลายจนเหลือไม่กี่อย่าง แต่เขาก็ยังจำได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่เขาอยากทะนุถนอมด้วยหัวใจ เขาก็ไม่สามารถ … ต้องการเธอในสถานการณ์นี้ได้
เย่โม่เซินจับไปที่ไหล่ของเธอ ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเธอออกจากห้องน้ำ
“ ถ้าหากคุณกล้าเข้ามาอีก ก็อย่าหาว่าคืนนี้ผมไม่ใช่คนแล้วกัน”
หานมู่จื่อยังอยากที่จะพูดอะไรอีก ปั้งหนึ่งเสียง ประตูก็ปิดลงแล้ว
“… “
เธอยืนอยู่ตรงที่เดิม จ้องมองไปที่ประตูที่ถูกปิดอย่างว่างเปล่า เมื่อสักครู่นี้เป็นเพราะว่ารู้สึกประหม่าถึงไม่ได้รู้สึกหนาว แต่ว่าตอนนี้เธอกลับมามีสติแล้ว หนาวจนเธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่น อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าของเธอถูกเย่โม่เซินทำให้เปียกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง เธอก็หนาวจนถึงขั้นนี้แล้ว แล้วเย่โม่เซินล่ะ?
ภายในห้องน้ำก็มีเสียงน้ำอีกครั้ง
หานมู่จื่อเริ่มกังวลใจขึ้นมา ก้าวไปข้างหน้าเคาะประตู “คุณเปิดประตู ให้ฉันเข้าไปหน่อย”
เขาโดนยาแถมยังสุภาพกับตัวเธอเองมากขนาดนี้ ถ้าหากว่าเธอยังคิดพัวพันอยู่ต่อ งั้นก็แสดงว่าเธอมากเกินไปแล้วจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นแถมยังให้เขาใช้น้ำเย็นดับความร้อนในร่างกายของตัวเองอยู่ตลอด หานมู่จื่อก็รู้สึกปวดใจ หลังจากที่เธอเคาะประตูสองสามครั้งแล้วนั้น ก็ไปบิดลูกบิดประตู และพบว่าประตูเย่โม่เซินล็อกจากด้านในแล้ว
“เย่โม่เซิน คุณเปิดประตูสิ!”
ตอนที่รีบร้อน หานมู่จื่อถึงกับเรียกชื่อจริงของเขาออกมาแล้ว
และหลังจากนั้นเย่โม่เซินในตอนนี้ นั่งพิงกำแพงสติของเขาฟุ้งซ่านจนไม่เป็นชิ้นดี เหลือเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นก็คือ ก็คือขังตัวเองไว้ที่นี่ และอะไรก็ไม่ทำ
คนที่อยู่ข้างนอกกำลังเคาะแผงประตูอยู่ เรียกพลางตะโกนพลาง แต่เย่โม่เซินกลับได้ยินไม่ชัดว่าเธอกำลังพูดอะไร
รู้แค่ว่า มีน้ำเย็นเข้าถึงกระดูกที่ไหลลงมาโดยตลอด ไหลลงมาบนร่างกายของเขา
มู่จื่อ …
หานมู่จื่อเคาะประตูอยู่นานเป็นครึ่งวัน เมื่อได้ยินว่าไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใดๆนอกจากเสียงน้ำไหล เธอก็ใจเย็นลงและคิดๆดู ไปหากุญแจในตู้
มีกุญแจห้องน้ำอยู่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
เธอโชคดี ที่ใช้เวลาไม่นานในก็หากุญแจเจอ และรีบกลับไปเปิดประตู
หลังจากหมุนไปสองสามครั้ง ในที่สุดก็ประตูเปิดออกแล้ว และหานมู่จื่อก็มองเห็น เย่โม่เซินหน้าม่วง นั่งพิงกำแพงอยู่