บทที่ 89 ภูมิหลังของผู้ชายคนนั้นยิ่งใหญ่มาก
“ อือ พี่กับโม่เซินเราพ่อคนเดียวกัน แต่คนละแม่ ”
เย่หลิ่นหานพูดอธิบายเบาๆ: “ เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อน เพียงแต่โม่เซินเขาโตที่ด้านนอก ไม่กี่ปีมานี้ถึงได้กลับมาที่บ้านตระกูลเย่ เพราะฉะนั้นรูปแบบที่เขาคบค้าสมาคมกับพวกเราจึงค่อนข้างแปลกประหลาดนิดหน่อย บวกกับขาของเขาได้รับบาดเจ็บ นิสัยขี้ระเบิดอารมณ์ก็อยู่ในขอบเขตที่ปกติ โม่เซิน……ได้รับความทุกข์มากมายตอนที่อยู่ด้านนอก คุณปู่หวังว่าจะสามารถชดเชยส่วนที่ขาดให้เขา จึงยกตำแหน่งประธานบริษัทให้กับโม่เซิน แน่นอนว่า ตัวเขามีความขยันมาก ต่อให้คุณปู่จะไม่ยกตำแหน่งนี้ให้เขา แต่สักวันเขาก็จะสามารถอาศัยความขยันของตัวเองไปนั่งอยู่บนตำแหน่งนั้นได้อย่างแน่นอน ”
เสิ่นเฉียว: “ …… ” นึกไม่ถึงว่าเรื่องมันจะซับซ้อนขนาดนี้
เพียงแต่ เย่โม่เซินโตที่ด้านนอก? มีพ่อคนเดียวกันกับเย่หลิ่นหาน แต่คนละแม่? งั้นก็เป็น……ลูกคนเดียวสิ?
พอคิดว่าแม่ของเย่โม่เซินอาจจะเป็นเมียน้อย ในใจของเสิ่นเฉียวก็มีความรู้สึกที่พูดไม่ออก
คงเป็นเพราะเธอเพิ่งแยกย้ายความสัมพันธ์ จึง……
คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวเม้มปาก นึกถึงท่าทางของเย่โม่เซิน เป็นเพราะเรื่องนี้เขาถึงโกรธง่ายอย่างนั้นหรอ?
“ เรื่องนี้พี่ได้บอกเธอแล้ว น้องสะใภ้รู้ก็ดีแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าโม่เซินเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาจะโกรธเอาได้ ” เย่หลิ่นหานยิ้มให้เสิ่นเฉียวเล็กน้อย: “ เธอเข้าใจใช่ไหม? ”
เสิ่นเฉียวมองเขา ไม่ได้พูดอะไร ทำแค่พยักหน้า
หลังจากที่ถึงปากทางเข้าบ้านตระกูลเย่ เย่หลิ่นหานก็หยุดรถอย่างนุ่มนวล
“ ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่ ฉันไปก่อนละ ” ก่อนที่เสิ่นเฉียวจะเดินจากไป เย่หลิ่นหานได้เรียกเธอไว้ก่อน หลังจากนั้นก็ส่งถุงให้เธอ “ นี่เป็นเค้กที่เรขาของพี่ซื้อเกินมา แต่พี่ไม่ชอบกินของหวาน พี่ให้น้องสะใภ้ ”
เค้ก?
เสิ่นเฉียวชะงักไปเล็กน้อย เธอก็……ไม่ชอบกินเหมือนกัน ของแบบนั้นเลี่ยนจะตายไป เธอกินคำเดียวก็อ้วกออกมาแล้ว
“ พี่ใหญ่ ไม่ต้องหรอกค่ะ ”
“ เอาไปเถอะ พวกผู้หญิงชอบกินไม่ใช่หรอ ” เย่หลิ่นหานยัดถุงเค้กใส่ในมือของเธออย่างดื้อดึง ช่วยไม่ได้ เสิ่นเฉียวทำได้เพียงรับมา หลังจากนั้นก็ลงจากรถไป
หลังจากที่บอกลากับเย่หลิ่นหานแล้ว เสิ่นเฉียวยืนอยู่ที่ปากทางสักพัก ถึงค่อยเดินเข้าไปด้านใน ในมือยังถือถุงเค้กเอาไว้อยู่
มีความทุกข์ใจเล็กน้อย เธอจะจัดการกับเค้กนี้ยังไงดีละ? ของที่เขาให้มา เอาไปโยนทิ้งคงก็รู้สึกไม่ค่อยดี แต่ถ้าให้กิน……เธอก็กินไม่ลงอีก
นึกออกแล้ว โทรหาหานเส่โยวดีกว่า เธอชอบกินของหวานที่สุดแล้ว
คิดได้ดังนั้น ตอนที่เสิ่นเฉียวกำลังหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมโทรหาหานเส่โยว ได้มีรถคุ้นตาขับผ่านตัวของเธอไป หลังจากนั้นความเร็วรถก็ค่อยๆช้าลง
เสิ่นเฉียวเอียงหัวมองด้วยความด้วยความเคยชิน ก็ได้สบเข้ากับสายตาเยือกเย็นของเย่โม่เซินพอดี การกระทำทุกอย่างจึงชะงักอยู่กับที่
เย่โม่เซิน……เขาก็กลับมาเหมือนกันหรอ?
เวลาที่ลงรถจนถึงตอนนี้แค่หนึ่งนาทีกว่า งั้นเขา……จะเห็นไหม? คิดมาถึงตรงนี้ เลือดฝาดบนใบหน้าของเสิ่นเฉียวก็ซีดลงทันที
แต่ทว่า เย่โม่เซินทำเพียงมองเธออย่างเยือกเย็น แล้วก็เก็บสายตากลับไป หลังจากนั้นรถก็แล่นผ่านไป และกระเพื่อมฝุ่นละอองขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของเสิ่นเฉียวก็ได้มีสายเรียกเข้าของหานเส่โยว
“ ฮาโหล? เฉียวเฉียว? ฮาโหล? พูดสิ ”
เสียงพูดถามของหานเส่โยวดังมาจากโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง เสิ่นเฉียวถึงได้หันกลับมา และเอาโทรศัพท์มาแนบที่ข้างหู
“ เส่โยว ”
“ เฉียวเฉียว เมื่อสักครู่เธอทำอะไรอยู่? ทำไมฉันเรียกเธอตั้งนาน เธอไม่ตอบกลับสักทีละ? ”
ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงยิ้มออกมา และพูดอธิบายเสียงเบา: “ ฉันเดินอยู่บนถนน เมื่อสักครู่เห็นรถจึงหลบนิดหน่อย ”
“ เธอไม่เป็นไรนะ? ”
“ ไม่เป็นไร ”
“ เธอโทรหาฉันทำไมหรอ? ”
เสิ่นเฉียวมองเค้กในมือ “ ไม่ใช่ว่าเธอชอบกินเค้กหรอ? ในมือของฉันมีอยู่ชิ้นนึง เอาไหมละ? ”
หานเส่โยวได้ฟังจึงรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว: “ เอาสิเอาสิ เธออยู่ไหน? ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้เลย ”
ดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงนัดสถานที่พบเจอ หลังจากที่วางสาย เธอก็ไปร้านกาแฟที่อยู่แถวนี้
เพิ่งนั่งได้ไม่นาน หานเส่โยวก็มา
ตอนเห็นเค้ก ตาของหานเส่โยวก็เป็นประกายทันที
“ เฉียวเฉียวผู้เป็นที่รัก เธอช่างเป็นเพื่อนรักของฉันสะจริง แม้แต่เค้กร้านซิ่งฝูซูซิง เธอก็ยังแย่งมันมาได้! ”
ซิ่งฝูซูซิง?
เสิ่นเฉียวเอียงหัว: “ เค้กร้านนี้ดังมากเลยหรอ? ”
“ แน่นอน! ” หานเส่โยวรอไม่ไหวจึงหยิบช้อนตักครีมขึ้นมาชิม “ เป็นร้านเค้กที่ขายดีที่สุดในเมืองเป่ย เจ้าของร้านแปลกประหลาดมาก ทุกวันจะทำเค้กแค่สิบชิ้น ขายหมดก็ไม่ทำเพิ่ม ฉันไปต่อแถวซื้ออยู่บ่อยครั้ง แต่หมดก่อนทุกครั้ง นึกไม่ถึงว่าเธอจะซื้อมันมาได้ เก่งมาก ”
ซื้อยากขนาดนั้นเลยหรอ? แล้วทำไมเลขาของเย่หลิ่นหานซื้อมันมาได้ละ?
เพียงแต่นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เธอควรพิจารณา
“ ใช่แล้ว เรื่องที่เธอช่วยฉันสืบหน่ะ? มีข้อมูลหรือยัง? ” เสิ่นเฉียวพูดถามขึ้น
ได้ฟังดังนั้น หานเส่โยวจึงเงยหน้ามองเธอ มุมปากยังเลอะไปด้วยครีม “ รู้อยู่แล้วว่าเธอคงจะไม่ใจดีขนาดนั้น ฉันก็ว่า อยู่ๆวันนี้ทำเป็นซื้อเค้กให้ฉัน ปกติเธอไม่เคยมาเจอเลยด้วยซ้ำ ที่แท้ก็มีเรื่องถามฉันนี่เอง ”
เสิ่นเฉียวมองเธออย่างจนปัญญา: “ ก็ใช่ไง มีเรื่องต้องขอร้องเธอ ดังนั้นจึงต้องเอาอกเอาใจหน่อย ”
“ พอได้แล้วน่า รู้ว่าเธอต้องขูดรีดฉัน แต่เห็นแก่เค้กชิ้นนี้ ฉันจะบอกข่าวดีให้เธอฟัง ” พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของหานเส่โยวก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที เธอวางมีดและซ้อมในมือลง และพูดอย่างตั้งใจ
“ ตอนนี้พวกเราช่วยเธอหาสถานที่ที่ผลิตกระดุมเจอแล้ว ยังมีเป้าหมายที่ใช้อีกด้วย ตอนนี้พี่ชายของฉันกำลังทดลองติดต่อนักออกแบบท่านนั้นอยู่ เพียงแต่ได้ยินมาว่านักออกแบบท่านนี้มีนิสัยที่แปลกประหลาดมาก ของทุกอย่างเขาเป็นคนขายเอง อีกอย่าง ขายให้แค่คนสนิท หรือคนที่มีวาสนาเท่านั้น กระดุมของเสื้อสูทตัวนี้ ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกเธอแล้ว ว่าเสื้อสูทที่ใช้กระดุมอันนี้มีแค่สองตัวถูกไหม? หนึ่งในนั้นขายได้ค่อนข้างดี เพราะนักออกแบบท่านนี้มีชื่อเสียงมาก มีหลายคนที่เสนอราคาสูงแต่กลับไม่ได้มัน ดังนั้น เขาจึงเอาเสื้อสูทที่ใช้กระดุมอันนี้ไปส่งที่หน่วยงานใจบุญ หน่วยงานใจบุญส่งให้หน่วยงานประมูล ต่อมาก็ได้เปิดประมูล ได้ยินมาว่าคนที่ประมูล ประมูลเป็นเงินสิบล้านเหรียญสหรัฐ แน่นอนว่าคนที่ประมูลได้ คือนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงอยู่ที่ต่างประเทศ เขามีภรรยา ลูกชาย และลูกสาวแล้ว อีกอย่าง พวกเราตรวจแล้ว พบว่าเขาไม่เคยมาประเทศจีน ดังนั้น คนนี้สามารถตัดออกไปได้เลย ”
ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวก็กลั้นหายใจอย่างอดไม่ได้ เธอรู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจ
กระดุมอันนั้น……นึกไม่ถึงว่าภูมิหลังจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้
สิบล้านเหรียญสหรัฐ ต้องเป็นเงินเท่าไหร่กัน?
“ อีกชุด พวกเรากำลังสืบหา เพียงแค่ติดต่อนักออกแบบคนนั้นได้ ก็จะสามารถรู้ว่าชุดนี้ได้ถูกนำไปขายที่ไหน แต่ที่สามารถแน่ใจได้คือ……เฉียวเฉียว นกนางแอ่นอย่างเธอจะได้กลายเป็นนกฟินิกส์อันสูงส่งแล้ว! ”
ได้ฟังประโยคหลังนั้น เสิ่นเฉียวก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยน่ามองนัก
เป็นนกฟินิกส์อันสูงส่ง? เธอไม่เคยคิดแบบนั้น อีกอย่าง……ภูมิหลังของฝ่ายตรงข้ามยิ่งใหญ่มากขนาดไหน เสิ่นเฉียวก็เป็นกังวลมากขนาดนั้น
เธอยอมให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนธรรมดาสะดีกว่า
เห็นเธอก้มหน้า ดูเหมือนว่าอารมณ์ได้ตกต่ำลง หานเส่โยวก็คิดว่าคำพูดของตัวเองได้ทำร้ายเธอ จึงรีบพูดอธิบายอย่างลุกลี้ลุกลน: “ เฉียวเฉียว เธออย่าเข้าใจผิดละ ที่ฉันบอกว่านกนางแอ่นอย่างเธอจะได้กลายเป็นนกฟินิกส์อันสูงส่งแล้ว ไม่ได้หมายความว่าฉันดูถูกเธอนะ ฉันแค่ดีใจที่เธอจะได้เจอผู้ชายที่เก่งกาจมากๆคนนึงเท่านั้นเอง! ”