บทที่ 90 เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
เสิ่นเฉียวหันกลับมา เห็นหานเส่โยวพูดอธิบายให้ตัวเองฟังอย่างลุกลี้ลุกลน เธอจึงยิ้มปลอบฝ่ายตรงข้าม
“ ฉันไม่ได้โทษคำพูดของเธอ ฉันแค่กำลังคิดเรื่องของตัวเองเท่านั้น ”
“ เป็นอะไร? ” หานเส่โยวมองเธออย่างเป็นกังวล และยื่นมือออกมาจับเธอไว้: “ เธอกังวลว่าจะหาไม่เจอใช่ไหม? เฉียวเฉียว เธอวางใจเถอะ ฉันจะหาผู้ชายคนนั้นให้เจออย่างแน่นอน! ”
เห็นเธอกำลังรับรองกับตัวเอง เสิ่นเฉียวจึงหัวเราะออกเสียงอย่างอดไม่ได้: “ เส่โยว ทำไมเธอถึงได้โง่ถึงขนาดนี้ละ เห็นอยู่ว่าเป็นเรื่องของฉัน แต่เธอกลับทุ่มเทเพื่อฉันมาตลอด ”
“ เพราะเราเป็นเพื่อนรักกันไง เพียงแต่…… ” อยู่ๆหานเส่โยวก็นึกอะไรออก เธอชะงักไป และพูดถามเสียงเบา: “ เฉียวเฉียว เราจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปถูกไหม? ”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า: “ แน่นอนอยู่แล้ว ”
“ แล้ว……ถ้าสักวัน ฉันทำเรื่องไม่ดีต่อเธอ เธอจะ……ยกโทษให้ฉันไหม? ”
อะไร? เสิ่นเฉียวไม่ได้ตอบสนองไปชั่วขณะ: “ ทำเรื่องไม่ดีต่อฉัน? ”
“ แบบว่า มีบางที…..เธอก็รู้ว่าคนอย่างฉัน บางทีเรื่องที่ทำไปไม่ค่อยได้คิดหน้าคิดหลัง อาจจะไม่ระวังและทำผิดไปไง ถึงตอนนั้นเธอ……ต้องยกโทษให้ฉันนะ! ”
เสิ่นเฉียว: “ ……เธอไปคิดหน้าคิดหลังตอนไหน ตลอดหลายปีมานี้ ฉันไม่เคยโทษเธอเลย ยิ่งกว่านั้น เธอช่วยฉันไว้ตั้งเยอะ ฉันต้องขอบคุณเธอถึงจะถูก ”
“ ไอยา พวกเราพูดเรื่องนี้ทำไม เรื่องที่ยังไม่ถึง ค่อยพูดดีกว่า กินเค้กสักคำไหม? ”
เสิ่นเฉียว: “ ไม่! ”
ทั้งสองคนหยอกล้อกันไปมาอยู่ในร้านกาแฟ ท้ายสุด กินของเสร็จแล้วถึงได้แยกย้ายไปพร้อมกัน หานเส่โยวส่งเสิ่นเฉียวกลับบ้านด้วยความสมัครใจ ตอนถึงหน้าประตูบ้านตระกูลเย่ เธอกระพริบตาไปมา: “ เฉียวเฉียว ฉันพาเธอขึ้นไปส่งข้างบนเอาไหม? ”
ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงคิดเล็กน้อย และส่ายหัวไปมา: “ ไม่ต้องแล้วละ? นี่มันก็ดึกแล้ว เธอขับรถตอนกลางคืนมันอันตราย วันนี้เธอกลับไปก่อนเถอะ ”
หานเส่โยวมีสีหน้าผิดหวัง และทำปากจู๋
“ ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ฉันค่อยมาหาเธอนะ ”
หลังจากที่หานเส่โยวกลับไปแล้ว เสิ่นเฉียวก็ก้าวเท้าเดินเข้าบ้านตระกูลเย่เบาๆ ตอนที่เธอเตรียมจะขึ้นไปบนตึก คนใช้กลับเดินขึ้นมาขวางเธอไว้เสียก่อน
“ คุณนายน้อยสอง นายท่านต้องการพบคุณค่ะ ”
ได้ยินว่านายท่าน ร่างเล็กของเสิ่นเฉียวก็สั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “ ฉันรู้แล้ว จะไปเดี๋ยวนี้ ”
ตอนที่เธอมาถึงห้อมสมุด เดิมทีคิดว่านายท่านต้องสั่งสอนเธออีกแน่ๆ หรือมีเรื่องให้เธอไปทำ แต่เข้าไปแล้วกลับเห็นนายท่านมองเธออย่างยิ้มแย้ม ใบหน้าเคร่งขรึมที่ดูดุดันในตอนปกติ นึกไม่ถึงว่าเวลานี้จะมีความเมตตาและความอ่อนโยน ทำให้คนไม่กลัวขนาดนั้นแล้ว
“ นาย……ท่าน? ”
“ เสิ่นโย่ว มานี่สิ ” นายท่านลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โต๊ะข้างๆ และชี้ฝ่ายตรงข้าม: “ มานั่ง ”
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้เสิ่นเฉียวรับมือไม่ทัน แต่เธอยังคงเดินไป และนั่งลงตรงหน้าเขาอย่างเชื่อฟัง “ นายท่าน? คุณหาฉัน……มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ? ”
“ เสิ่นโย่ว เธอแต่งงานกับโม่เซินแล้ว ทำไมยังเรียกฉันว่านายท่านละ? ”
ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ชะงักไปทันที เมื่อก่อนตอนเรียกนายท่าน ไม่เห็นเขาจะมีปฏิกิริยาอะไรนี่นา? ”
“ ควรเปลี่ยนเป็นเรียกว่าคุณปู่ได้แล้ว ”
เสิ่นเฉียวตกใจ เบิกตาโตอย่างไม่รู้ตัว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมท่าทีที่นายท่านปฏิบัติต่อเธอถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ละ?
“ นายท่าน ฉัน…… ”
“ เธอมาที่บ้านตระกูลเย่ได้ไม่นาน ถ้ามีตรงไหนที่ไม่ชินก็บอกปู่ได้เลย หรือต้องการอะไร ปู่จะช่วยเธอเอง ” พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆนายท่านก็หยิบบัตรธนาคารออกมาและเอาไปวางไว้ตรงหน้าเสิ่นเฉียว: “ ฉันรู้ว่าสถานการณ์ของตระกูลเสิ่นเป็นยังไง เธอลำบากมากแล้ว ถือว่านี่เป็นเงินเล็กๆน้อยๆที่ปู่ให้เธอก็แล้วกัน ”
ไม่! นี่มันค่อนข้างผิดปกติ!
เสิ่นเฉียวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และยืดตัวตรง: “ คุณปู่คะ ฉันไม่ต้องการเงินพวกนี้ ตอนนี้ฉันเป็นเรขาให้กับโม่เซิน และฉันมีเงินเดือนแล้วค่ะ ”
“ ปู่รู้ แต่เงินพวกนั้นได้ไม่มากไม่ใช่หรอ? คุณนายน้อยสองของตระกูลเย่ ต้องไม่ให้คนด้านนอกมาดูถูกได้ ”
เสิ่นเฉียวจับมุมเสื้อของตัวเองแน่น ใบหน้าขาวซีด
“ คุณปู่คะ มีเรื่องอะไร……ที่ต้องบอกฉันหรือเปล่า? ”
นายท่านลุกขึ้นยืน ลูบหนวดที่อยู่ใต้คาง และมองเธอยิ้มๆ
“ เธอเป็นเด็กฉลาดนะ ”
ในใจของเสิ่นเฉียวเกิดเสียงขึ้น
จริงๆด้วย! ถ้าไม่มีเรื่องก็คงไม่ทำดีใส่ ไม่มีสิ่งไหนที่ได้มาฟรีๆ!
“ คือแบบนี้ เพื่อนของเธอคนนั้น คนที่เป็นลูกสาวของตระกูลหาน ชื่ออะไรแล้วนะ? ”
เสิ่นเฉียวกัดปาก ไม่พูดอะไร
“ หล่อนเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายนะ เสิ่นโย่ว เธอสนิทกับหล่อนใช่ไหม? ”
เสิ่นโย่ว ตอนนี้เธอคือเสิ่นโย่ว……เสิ่นเฉียวก้มหน้า และพูดออกมาอย่างตื่นเต้น: “ ประมาณนั้นค่ะ ”
“ พวกเธอรู้จักกันได้ยังไง? ”
เสิ่นเฉียวมือสั่น เกือบก้าวถอยหลังแล้ว แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวถอยหลัง คำพูดของนายท่านก็พูดออกมาก่อนที่เธอจะได้ก้าวเดิน
“ ตระกูลเย่มีแค่โม่เซินกับหลิ่นหานสองคน โม่เซินแต่งงานกับเธอแล้ว ต่อไปนี้ฉันก็ไม่ต้องเป็นกังวลแทนเขาอีก แต่หลิ่นหานก็อายุมากแล้ว ยังหาผู้หญิงที่ถูกอกถูกใจไม่ได้เลย ฉันเห็นว่าเด็กบ้านตระกูลหานไม่เลว…… ”
ฟังมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็เข้าใจแล้ว ที่แท้นายท่านก็อยากเป็นแม่สื่อให้เย่หลิ่นหานกับหานเส่โยวนี่เอง
แต่……หานเส่โยวจะชอบเย่หลิ่นหานหรอ? แล้วเย่หลิ่นหานจะชอบหานเส่โยวไหม? เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าน่าจะไม่ เธอรู้จักกับหานเส่โยวมาตั้งนาน เส่โยวไม่เคยชอบสไตล์แบบเย่หลิ่นหานเลย
เมื่อก่อนตอนอยู่ที่โรงเรียน สไตล์ที่หานเส่โยวชอบคือพวกหัวโจกที่ชอบพาลคนไปทั่ว แต่พวกนักเรียนดีเด่น ไม่ว่าจะหน้าตาหล่อแค่ไหน เธอก็ไม่เคยสนใจเลยสักนิดเดียว กลับไปวิ่งตามตูดพวกอันธพาลในโรงเรียนแทน
ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะจีบไม่ได้ก็ตาม
แต่เสิ่นเฉียวรู้ว่า มาตรฐานการเลือกคู่ของเย่หลิ่นหานกับหานเส่โยวนั้นแตกต่างกันมากๆ
“ คุณปู่คะ อาจจะ……ไม่ได้ ”
“ อะไรนะ? ” สายตาของนายท่านได้เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นทันที เสิ่นเฉียวตกใจจนก้าวถอยหลัง และพูดอธิบายเสียงเบา: “ หานเส่โยว……มีแฟนแล้วค่ะ! ”
ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่พูดออกไปแบบนี้
“ มีแฟนแล้ว? ” ตอนแรกนายท่านตกตะลึงไปนิดหน่อย ผ่านไปชั่วขณะถึงได้ตอบสนองกลับมา: “ แล้วมันเกี่ยวอะไรละ? แฟนไม่ใช่สามีสักหน่อย เพียงแค่ยังไม่แต่งงานก็มีโอกาสอยู่ เธอก็ช่วยปู่ถามเด็กหานนั่นหน่อยก็แล้วกัน ”
เสิ่นเฉียว: “ …… ” พูดขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีกหรอ? เธอกัดปาก “ ฉันรู้แล้วค่ะ ฉันจะไปถามเธอให้ ”
“ เงินนี้ เธอเก็บไว้เถอะ ”
เสิ่นเฉียวไม่กล้ารับไว้ แต่สายตาของนายท่านเหมือนไฟฟ้า ผสมปนเปจนขุ่นไปหมด คล้ายกับว่าถ้าไม่รับไป เขาก็จะไม่เชื่อว่าเธอจะช่วยจริงๆ ภายใต้ความจนปัญญาที่มีมากนั้น เสิ่นเฉียวทำได้เพียงรับบัตรธนาคารนั้นมา หลังจากนั้นก็เดินออกไปจากห้องสมุด
เธอเดินขึ้นตึกอย่างทุกข์ใจ
ที่เธอไม่อยากให้เส่โยวคบกับเย่หลิ่นหาน ก็เพราะมีหนึ่งสาเหตุ
สถานการณ์ของตระกูลเย่ซับซ้อนเกินไป
เย่หลิ่นหานกับเย่โม่เซิน ยังมีนายท่านอีก พวกเขาใจไม่ตรงกัน ที่นี้เขาต่อสู้กัน ถ้า……แต่งเข้ามา ก็เท่ากับว่าผลักเธอเข้ามาในกองไฟอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอกับหานเส่โยวเป็นเพื่อนสนิทกัน ตัวเองอยู่ในกองไฟแล้ว จะต้องไม่ลากเธอลงมาด้วยเด็ดขาด!