บทที่ 891 จองเวรจองกรรม
อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หานมู่จื่อตรวจเสร็จเดินออกจากโรงพยาบาล ตัวเธอก็สั่นกับลมหนาว
ส้งอานปลดผ้าพันคอออกมาผูกให้หานมู่จื่อ
หานมู่จื่อรีบปฏิเสธ “เป็นไรค่ะคุณน้า อากาศหนาวแบบนี้ ถ้าน้าเอาผ้าพันคอมาให้ฉัน น้าจะป่วยได้นะ”
ส้งอานมองเธออย่างจนปัญญา และอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ก็รู้นี่นาว่าจะป่วยได้ ตอนออกจากบ้านทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้เยอะหน่อย ทั้งๆที่ตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ไม่ระวังตัวเองเลย”
เมื่อโดนตำหนิเธอก็ไม่กล้าต่อต้าน ยอมรับแบบเงียบๆ
ส้งอานผูกผ้าพันคอให้เธอ ขณะที่พูดก็มีไอร้อนออกมาจากปากของเธอ เธอมองไปรอบๆแล้วพูดว่า “ตรุษจีนใกล้เข้ามาแล้ว ฉันคิดว่าปีนี้คงได้ฉลองในต่างประเทศกับเธอแล้วล่ะ”
ได้ยินดังนั้นหานมู่จื่อผงะไปชั่วขณะ แล้วหันตามเขาไปแบบไม่รู้ตัว
ไวขนาดนั้นเลยเหรอ ปีใหม่กำลังจะมา…..
เธอใช้มือลูบหน้าท้องเบาๆ เมื่อถึงปีใหม่ ลูกในท้องก็อายุสามเดือนพอดี
หานมู่จื่อคิดถึงลูกชายที่อยู่ในจีน เสี่ยวหมี่โต้ว
เธอกับเขาไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว
อีกทั้งตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่กับเย่โม่เซิน เธอก็วิดีโอคอลกับเขาน้อยมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้หนุ่มน้อยคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงเธอมากไหม
“เอาน่า อย่ามัวยืนโง่อยู่เลย เตรียมตัวกลับเถอะ”
“อืม”
สองคนเดินจูงมือกันไป พอถึงริมถนน รถคันนึงก็เข้ามาจอดขวางไว้ ดูแล้วไม่เหมือนรถแท็กซี่ และก็ไม่เหมือนรถของที่บ้าน
พอประตูเปิดขึ้น ผู้ชายสองสามคนก็เดินเข้ามาล้อมไว้
ผู้ชายในชุดสูทสีดำ สวมแว่นตาดำสี่ห้าคน ดูเหมือนพวกมาเฟีย หานมู่จื่อขมวดคิ้ว มองพวกเขาอย่างสงบ
ส้งอานมองไปที่คนพวกนี้และยิ้มเยาะ “พวกคุณมีธุระเหรอ”
ผู้ชายสามสี่คนที่หน้าตาเย็นชา ในนั้นมีคนหนึ่งที่ดูเหมือนหัวหน้าพูดขึ้นว่า “เจ้านายของพวกเราต้องการพบพวกคุณ”
ส้งอาน “จริงสิ เจ้านายพวกแกเป็นใคร ทำไมเขาอยากพบเรา แล้วเราต้องไปพบเขาด้วย”
“คุณส้งอาน กรุณาอย่าทำให้พวกเราลำบากเลย เจ้านายแค่ต้องการเชิญพวกคุณไปเป็นแขกเท่านั้น”
“งั้นแกก็กลับไปบอกเจ้านายที่ไม่กล้าแสดงตัวตนของแกว่า พวกเราไม่อยากไปเป็นแขก”
พูดจบ ส้งอานรีบดึงมือหานมู่จื่อแล้วเดินออกไป
เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้ชายกลุ่มนั้นก็เดินขึ้นไปล้อมพวกเธอสองคนไว้ “คุณส้งอาน…..”
ส้งอานขมวดคิ้ว แล้วตะคอกเสียงดัง “หลบไป”
พวกผู้ชายเห็นดังนั้นก็รีบถอยออกอย่างไม่มีทางเลือก
ส้งอานพาหานมู่จื่อออกมา พวกผู้ชายมองดูเบื้องหลังสองคนที่เดินจากไป ก็จับกลุ่มซุบซิบกัน
เมื่อเดินไปสักพัก ส้งอานก็ชะลอฝีเท้าลง “จองล้างจองผลาญจริงๆ พวกแมลงวันน่ารำคาญ”
หานมู่จื่อจับมือเธอไว้ มีแค่ความเงียบสงบตลอดทาง
เมื่อกี้เจ้านายที่พวกนั้นหมายถึงเป็นใครก็ชัดเจนมาก พวกเขาต้องการเชิญส้งอานกลับไป แต่ก็ไม่กล้ารุนแรง แค่ส้งอานตะคอกทีเดียวก็รีบหลบกันแล้ว
เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนายท่านยู่ฉือ
คิดแล้วหานมู่จื่ออดพูดไม่ได้ “นายท่านยู่ฉืออาจจะอยากเจอคุณจริงๆ”
เมื่อได้ยิน ส้งอานก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าและหันไปมองหานมู่จื่อ
ดวงตานั้นลึกล้ำ ดูน่ากลัว สายตาที่จ้องมาทำให้หานมู่จื่อขนหัวลุก “เป็นอะไรคะ”
ส้งอานพูดว่า “เขาอยากพบฉันมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ในตอนนั้นก็พูดกันชัดเจนแล้ว ครั้งนี้ถ้าหากไม่ใช่เรื่องของเธอกับโม่เซิน ฉันก็ไม่ต้องมาที่นี่หรอก”
หานมู่จื่อรู้สึกผิดเล็กน้อย “ขอโทษนะคะ เป็นเพราะฉันแท้ๆคุณเลยต้องมาที่นี่อีก”
“ไม่เป็นไรหรอก” ส้งอันยื่นมือมาบีบแก้มของเธอ “ใกล้เที่ยงแล้ว เธอโทรหาโม่เซินหน่อยไหม บอกเขาให้หาไรทานที่บริษัท พวกเราไปทานกันข้างนอก ฉันมีร้านแนะนำ คิดถึงรสชาติของร้านนั้นเหลือเกิน ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเปิดอยู่ไหม”
หานมู่จื่อตอบตกลง แล้วส่งข้อความหาโม่เซินบอกว่าเธอจะทานข้าวข้างนอกกับน้า ให้เขาทานที่บริษัทไป
ส่งข้อความเสร็จ ส้งอานเห็นเธอเก็บมือถือ จึงจูงมือเธอขึ้นรถที่เพิ่งเรียกได้พอดี บอกที่อยู่กับคนขับรถแล้วพูดว่า “ที่จริง ในเมื่อเธอกับเขาอยู่ด้วยกันแล้ว ต่อไปเธอไม่ต้องไปทำงานที่บริษัทแล้วก็ได้”
ได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อก็ตกตะลึงเล็กน้อย “หากฉันไม่ไป เขาจะคิดว่าฉันขี้เกียจและไม่มีเกียรติไหม”
ส้งอาน “…เธอคิดว่าเธอเป็นเช่นนั้นไหม”
หานมู่จื่อส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ”
“งั้นจะพูดอะไรอีก เธอไม่ใช่คนแบบนั้น โม่เซินก็ไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้น ถ้าเธอไม่ท้อง เธออยากจะไปทำงานเท่าไหร่ก็ได้ แต่เธอดูตัวเองตอนนี้สิ วันนี้หมอที่ตรวจบอกว่ายังไงบ้าง”
เมื่อนึกถึงคำพูดของหมอ มู่จื่อกัดปากไว้ไม่พูดอะไร
ตั้งแต่ท้องลูกคนที่สอง ร่างกายเธอแย่ลงชัดเจน
ไม่ใช่สิ น่าจะตั้งแต่ที่เครื่องบินเย่โม่เซินเกิดอุบัติเหตุ ช่วงนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ แถมยังตากฝนจนเป็นไข้ จากนั้นก็ยุ่งเรื่องนู่นเรื่องนี่ ตอนนั้นเธอก็รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกจะไม่ไหว
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อมาที่นี่แล้ว มีความสัมพันธ์กับเย่โม่เซิน ถึงขั้นมีภาวะแท้งลูก
นึกถึงสมัยตั้งท้องเสี่ยวหมี่โต้ว ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายแต่ร่างกายก็ยังดี ตอนนี้กลับ…..
คิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็ถอนหายใจยาว “ฉันทราบค่ะ ฉันจะหาวิธี”
สองคนมาถึงร้านอาหารอย่างรวดเร็ว ส้งอานเดินไปที่ประตูแล้วหยุดลง
“นี่ร้านที่คุณน้าบอกเหรอ”
ส้งอานมองไปที่การตกแต่งร้านและคนในร้าน สายตาที่เปล่งประกายก็มืดลง “ไม่ใช่”
ร้านอ่ะใช่แต่คนไม่ใช่ ผ่านมาหลายปีแล้ว ปิดร้านไปก็ปกติ
หานมู่จื่อสัมผัสถึงความหดหู่ของเธอได้ จึงพูดว่า “หรือพวกเราจะ……”
“ทานที่นี่สักหน่อยเถอะ”
“ได้”
น่าแปลกที่รสชาติของอาหารยังดีเหมือนเดิม ทานอาหารกลางวันเสร็จ หานมู่จื่อรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำไปฉี่ทันที “น้าคะ ฉันขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
ไม่มีทางเลือก หลังจากตั้งท้องเรื่องที่ยุ่งยากที่สุดก็คือการอั้นฉี่ไม่ได้นี่แหละ
หานมู่จื่อทิ้งมือถือและกระเป๋าไว้บนโต๊ะ แล้วไปห้องน้ำ พอเธอล้างมือเสร็จจะเดินออกมา ก็เจอคนๆนึงยืนขวางไว้ สีหน้าไม่เป็นมิตร
หานมู่จื่อตกใจหน้าซีด ความคิดก็เปลี่ยนรวดเร็วและพูดขึ้นทันที “พวกแกอยากให้ส้ง…..”
เสียดายที่ยังพูดไม่จบ เธอก็ได้รับแรงกระแทกอย่างแรงที่ท้ายทอย คำพูดที่จะพูดต่อต้องหยุดลง ไม่ว่าจะพูดอะไรต่อ ตรงหน้ามีแต่ความมืด
จากนั้นหานมู่จื่อก็หมดสติลง