บทที่94 จูบฉันสิ แล้วฉันจะคืนให้
นี่ทำให้เย่โม่เซินอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
เค้าอยากปั่นหัวเสิ่นเฉียว เพราะเห็นว่าเธออยู่กับผู้ชายอื่น
ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เขาโคตรหงุดหงิด เพราะอย่างนั้น เวลาเจอหน้าเธอ ก็มักจะใช้คำพูดแนวนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ ด้วยการทำให้เธอเสียใจ
แต่ตอนนี้อยู่ๆเธอก็กลายเป็นคนว่านอนสอนง่าย ทำตามคำสั่งราวกับเป็นหุ่นเชิด นี่ไม่ได้ทำให้ความหงุดหงิดในใจของเย่โม่เซินลดลง แถมยังทำให้หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมอีก
เขาจะให้เธอเรียกตัวเองว่าอะไรดี?
เย่โม่เชินยิ้ม “ปกติเธอก็เอาแต่เรียกชื่อฉันอย่างเดียวอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ตอนนี้มาทำเป็นคนหัวอ่อนเพื่ออะไร?”
เสิ่นเฉียวหลุบตาลง “คราวหลังดิฉันจะระวังค่ะ”
“มานี่!” เย่โม่เซินกำลังจะเป็นบ้าเพราะเธอ
เสิ่นเฉียวไม่ขยับ แต่ในที่สุดก็ก้าวเท้าไปหาเขา
“ถามว่าฉันจะสั่งอะไรใช่ไหม? เข็นฉันกลับ!”
“ค่ะ” เสิ่นเฉียวเดินไปอยู่ด้านหลังของเขา แล้วเข็นรถเข็นไปด้านหน้า
เย่โม่เซินโกรธจนหน้าเขียว ราวกับว่ามีคนเป็นหนี้เขาอยู่ทั้งโลก บรรยากาศของคนทั้งคู่ คนนึงโมโหอึดอัด อีกคนโศกเศร้าโดดเดี่ยว เมื่อเดินผ่านโถงรับแขก บรรยากาศเหล่านั้นเลยทำให้คนที่อยู่บริเวณเดียวกันสั่นกลัว
เมื่อรู้ว่าคนทั้งคู่อารมณ์ไม่ดี พวกคนรับใช้ก็รีบหลบออกไปจากบริเวณ
เสิ่นเฉียวเข็นเย่โม่เซินมาถึงห้องโดยสวัสดิภาพ “ถึงแล้วค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวไปเก็บของ”
พูดจบ เธอก็เดินไปฝั่งตู้เสื้อผ้าของเธอ ปรากฏว่าภายในตู้เต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่เขาซื้อมาใส่ไว้ให้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย ใช้หลังมือผลักประตูปิดกลับไปดังเดิม
แต่ยังไม่ทันจะปิด มือของเธอก็โดนเขาดึงไว้
เสิ่นเฉียวหันกลับไป พบว่าเขาเข้ามาแล้ว
เขาขวางไม่ให้เธอปิดประตูตู้เสื้อผ้า มองเธอด้วยสายตาเย็นชา
“เธอรังเกียจเสื้อผ้าที่ฉันซื้อให้มากงั้นสิ? แค่ใส่ก็ไม่ยอมใส่”
เสิ่นเฉียวก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง พูดเสียงต่ำ “คุณชายเย่กำลังเล่นมุขหรอคะ? พวกเราก็แค่คนที่มีพันธสัญญาต่อกัน ของพวกนี้ดิฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็หมุนตัวจากไป ตอนที่เธอกำลังเดินผ่านเย่โม่เซิน เขาก็กำข้อมือเธอเอาไว้
“ถ้าฉันสั่งให้เธอใส่ล่ะ?”
คิ้วเรียวของเสิ่นเฉียวขมวดปม ก้มมองข้อมือตัวเองที่โดนเขาจับไว้
วินาทีถัดไป เธอก็พยักหน้า “ได้ค่ะ”
พอเย่โม่เซินปล่อยมือ เธอก็เดินไปหยิบมาชุดนึงแล้วเข้าห้องน้ำไป
เย่โม่เซินใช้มือข้างหนึ่งทุบประตูตู้
ให้ตายเถอะ!
เขาอยากให้เธอสวมเสื้อผ้าที่เขาซื้อให้ วันนี้เธอสวมมันแล้ว เขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี!!!!
หลังจากที่เสิ่นเฉียวเข้าห้องน้ำไปครูหนึ่งก็มีเสียงอาบน้ำดังขึ้น ในขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ว่าเสียงอาบน้ำดังกว่าเธอจริงไม่ได้ยิน เย่โม่เซินถึงจะได้ยินแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
แต่โทรศัพท์ของเสิ่นเฉียวก็ไม่หยุดดังเสียที เย่โม่เซินยิ้มเซ็ง สุดท้ายเขาก็เลยต้องยอมไถรถเข็นไปดู
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นว่าเป็นเบอร์แปลกที่ไม่ได้บันทึกไว้ในโทรศัพท์ เลยตัดสินใจรับโทรศัพท์
เย่โม่เซินไม่ทันจะได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน “เฉียวเฉียว ในที่สุดเธอก็ยอมรับโทรศัพท์ฉันแล้ว”
เฉียวเฉียว? เย่โม่เซินหรี่ตามองอย่าเอาเรื่อง เรียกซะสนิทสนมเชียว!
แต่ว่าฝ่ายนั้นไม่ได้รู้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานอยู่แม้แต่น้อย ทั้งยังจะพูดต่ออย่างอ่อนโยนว่า “เฉียวเฉียว เธอให้อภัยฉันแล้วใช่ไหม? ตอนกลางวันฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ คำพูดพวกนั้นมันคือคำพูดไร้ความคิด เธออย่าโกรธฉันเลยนะ
“เฉียวเฉียว ฉันคิดถึงเธอ คิดถึงวันเก่าๆของเรา เธอ….ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งได้ไหม….?”
“เฉียวเฉียว ทำไมถึงเงียบล่ะ?”
เย่โม่เซินยิ้มเย็น ที่แท้ก็สามีเก่าของเธอที่โทรมาเล่าความทรงจำเมื่อววันวานให้ฟังนี่เอง เย่โม่เซินเอาโทรศัพท์ออกจากหูแล้วดูเบอร์โทรศัพท์บนหน้าจออีกครั้ง ค่อยยกหูขึ้นพูดใหม่ “อยากได้โอกาสในการลองตายสักครั้งไหมล่ะ?”
อีกฝ่ายเงียบ วินาทีถัดมาสายก็โดนตัด
ชัดเจนว่าอีกฝ่าย โดนเขาขู่ จนตกใจตัดสายทิ้ง อยากคืนดีแต่กลัวจนหัวหด
เหอะ! ไอ้ผู้ชายแบบนี้ มีอะไรถึงทำให้ยัยผู้หญิงโง่คนนั้นยอมตกลงปลงใจด้วย?
หย่าจนแต่งงานใหม่แล้ว ยังจะเก็บเด็กเอาไว้อีก ไม่มีสมองหรือไง?
เด็ก……
นึกขึ้นได้ว่าในท้องของเธอยังมีลูกของไอ้สามีเก่าอยู่ แววตาของเย่โม่เซินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ที่เธอพยายามปกป้องเด็กคนนั้น คงเป็นเพราะเธอยังมีใจให้สามีเก่าอยู่แน่ๆ
ถ้าสามีเก่าเธอมาขอคืนดี ก็ไม่แน่ว่าเธออาจจะยอม??
เมื่อคิดว่าเธออาจจะยอมกลับไปอยู่กับไอ้ผู้ชายเลวคนนั้น เย่โม่เซินก็สัมผัสได้ว่าตัวเขาเหมือนกำลังจะระเบิดอย่างไรอย่างนั้น
เขารีบโทรศัพท์หาเซียวซู่
“183XXXXXXX ไปหามาว่าที่อยู่ของคนที่ใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้อยู่ที่ไหน นี่คือเบอร์สามีเก่าของเสิ่นเฉียว. เอาประวัติทั้งหมดของเขามาให้ฉัน”
เซียวซู่เพิ่งจะจากเย่โม่เซินมาเมื่อกี้ พอตอนนี้เขาก็โทรศัพท์มาหาตัวเองอีก แถมยังขอประวัติสามีเก่าของเสิ่นเฉียวอีก นี่ค่อนข้างทำให้เขาประหลาดใจ “คุณชายเย่ หาประวัติสามีเก่าของผู้ช่วยเสิ่นไปทำไมครับ? ผู้ชายคนนั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับเราเสียหน่อย?”
“สั่งให้หาก็หาเถอะ จะพูดมากทำไม?”
เย่โม่เซินวางสายกับเซียวซู่ ถึงเซียวซู่จะมีคำถามมากมาย แต่ก็ทำได้แค่กลืนกลับลงไปในท้องตามเดิม
เสิ่นเฉียวอาบน้ำค่อนข้างเร็ว แต่ตอนที่ออกมา ข้างนอกก็กลับมาเงียบสงบตามเดิมแล้ว แต่เย่โม่เซินกลับอยู่ข้างๆเตียงนอนของเธอ เธอแปลกใจเลยเดินเข้าไปดู
สายตาของเย่โม่เซินมองมาที่เธอ
เธอกำลังสวมชุดที่ทำมาจากผ้าไหมสีชมพูอ่อน แขนปาดไหล่ เผยให้เห็นถึงกระดูกไหปลาร้าที่สวยงามของเธอ ผิวหลังจากอาบน้ำของเธอนั่นขาวผ่อง ใจเขาเต้นตึกตัก แค่แวบเดียว แววตาของเย่โม่เซินก็เปลี่ยนเป็นลุ่มลึก
ในที่สุดก็ได้เห็นเธอสวมเสื้อผ้าที่เขาซื้อให้ เย่โม่เซินไม่รู้ว่าควรใช้คำพูดไหนมาอธิบายความรู้สึกของเขาตอนนี้
“คุณมาทำอะไรตรงนี้?” เสิ่นเฉียวเดินไป พบว่าโทรศัพท์ที่เคยวงไว้บนที่นอนมันหายไป
มองอีกครั้ง ก็พบว่าโทรศัพท์เธอถูกเย่โม่เซินถือไว้ในมือ
“คุณเอาโทรศัพท์ฉันไปทำอะไรคะ? คืนฉันมาเถอะค่ะ” เสิ่นเฉียวตกใจแทบสิ้นสติ ขยับไปข้างหน้าอีกสองก้าวเพื่อแย่งโทรศัพท์คืน เธอขยับตัวรวดเร็วจนมองไม่ทัน
เสิ่นเฉียวดูร้อนรนขนาดนี้ ทำให้เย่โม่เซินหรี่ตามองเธออย่างไม่ไว้ใจ เขาอาศัยจังหวะ เอาโทรศัพท์ของเธอซุกเอาไว้ในเสื้อ
“ทำไมเธอดูร้อนรนจัง ในโทรศัพท์มีความลับที่ฉันห้ามรู้งั้นหรอ?”
ฟังจบ เสิ่นเฉียวตัวแข็งที่ ตระหนักถึงบางอย่าง เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น “คุณชายเย่ คุณคงไม่คิดจะยึดโทรศัพท์ของฉันด้วยหรอก ใช่ไหมคะ?”
ในนั้นมีแชทที่เธอคุยกับหานเส่โยวอยู่ ถ้าเกิดเขาได้คุยกับเส่โยวแล้วละก็ เรื่องลูกของเธอก็ไม่ใช่ว่าโดนเปิดเผยแล้วหรอ? คิดถึงตรงนี้ หน้าของเสิ่นเฉียวก็ซีดขึ้นมาทันที
“ยึดแล้วทำไม?” เย่โม่เซินแววตาเย็นชา “ตอนนี้เธอมีป้ายชื่อเย่โม่เซินแปะอยู่ เพราะฉะนั้น เธอก็คือผู้หญิงของเย่โม่เซิน ของๆเธอก็คือของๆฉัน ฉันอยากจะยึดโทรศัพท์ของเธอเอาไว้ แล้วจะทำไม?”
“คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ คืนโทรศัพท์ฉันมาเดี๋ยวนี้”
“คืนเธอ?” เย่โม่เซินยิ้มมุมปาก “ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”
“แลกกับอะไร?” เสิ่นเฉียวมองหน้าเขา ก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน “แค่คุณคืนโทรศัพท์ฉันมา ไม่ว่าอะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้น”
เธอไม่สามารถยอมให้มีบุคคลที่สามรู้ว่าเธอท้องกับผู้ชายแปลกหน้าแน่ๆ
“ยอมทุกอย่างใช่ไหม? ดี ถ้าเธอยอมจูบฉัน ฉันจะคืนโทรศัพท์ให้”