บทที่ 946 ฉันชอบคุณนานยิ่งกว่า
เผชิญคำถามของเสี่ยวเหยียนแล้ว ก็เหมือนตอนนั้น ตอนที่เธออยู่ห้องครัวแล้วถามตัวเองว่าเหมือนที่ชอบเธอใช่มั้ย
หูของเซียวซู่แดงขึ้นในทันที หลังจากนั้นเขาก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร
เวลาแบบนี้จะให้เสี่ยวเหยียนสั่งอาหารคงเป็นไปไม่ได้แน่ เพราะฉะนั้น เซียวซู่ไม่ได้ถามเธอแม้แต่คำ ก็ตัดสินใจช่วยเธอสั่งอาหารที่อุ่นร่างกายให้อบอุ่นแก่เธอ หลังจากนั้นก็ยื่นเมนูคืนให้กับพนักงานไป
หลังจากพนักงานเดินจากไป เซียวซู่กลับสังเกตเห็นว่าเสี่ยวเหยียนยังจ้องมองเขาอยู่ ดวงตาคู่นั้นจ้องเขาไม่ขยับ
และเป็นเพราะเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาตาคู่นั้นดูบวมแดง ยิ่งดูน่าสงสารมาก
“นายยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ”
เธอพูดอย่างดื้อรั้น
เซียวซู่:“……”
เงียบไปสักพัก เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ:“ต่างก็เป็นคนรู้จักกัน ถ้าวันนึง เธอเห็นคนที่รู้จักเดินร้องไห้อยู่บนถนน เธอจะเพิกเฉยได้ลงคอหรอ?”
ฟังเขาอธิบายแบบนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าก็มีเหตุผล แล้วพยักหน้าเห็นตาม จากนั้นก็พูด:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองหรอ งั้นก็ดี ……ฉันยังนึกว่า……นายชอบฉันแน่ะ”
ท่าทางมือของเซียวซู่ได้หยุดลง สายตามองไปที่เธอ
เสี่ยวเหยียนไม่ได้มองหน้าของเขาอีก แต่หลุบตามองที่โต้ะ
“ถ้านายพูดว่าชอบฉันแล้วล่ะก็ ฉันคงต้องปฏิเสธนายไปแน่นอน”
หัวใจของเซียวซู่รัดแน่นขึ้น ดวงตาที่แดงได้จางหายไป
แต่เสียดายที่เสี่ยวเหยียนไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางและอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของเขา เอาแต่พูดของตัวเองเหมือนเคย:“ถ้าหากนายชอบฉันเข้าจริง แล้วฉันปฏิเสธนายไป นายก็คงจะต้องเสียใจมากๆ ก็เหมือนฉันในตอนนี้ ที่ทั้งเสียใจทั้งน่าอนาถ”
เซียวซู่จับใจความสำคัญจากคำพูดของเธอ เขาหรี่ตาลง
“ตอนนี้เธอ?”
“ใช่แล้ว ฉันเพิ่งถูกปฏิเสธมานี่เอง”เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้นมา แกล้งหันไปยิ้มกว้างๆให้กับเซียวซู่ทีนึง:“หน้าตอนนี้ของฉันดูแย่มากเลยใช่มั้ย?เมื่อกี๊นายเองก็เห็นแล้วหนิ ความรู้สึกที่ถูกคนอื่นปฏิเสธนั้นมันทรมานจริงๆ โดยเฉพาะตอนนายยังชอบฝั่งตรงข้ามอยู่มากๆซะด้วย”
ทันใดนั้น เซียวซู่ก็บอกไม่ถูก ว่าตอนนี้ตัวเองมีความรู้สึกยังไง
เขาไม่รู้ว่าเธอผ่านเรื่องอะไรมา เพียงแค่อยากรีบเดินเข้าไปปลอบใจเธอ แต่เขาเป็นคนซื่อบื้อแข็งทื่อ สุดท้ายแล้ว หลังเดินเข้าไปก็พูดคำปลอบใจไม่ออกเลยสักคำ
ตอนนี้……
กลับจู่ๆมารู้ว่าเธอถูกปฏิเสธมา ใคร???
“เพราะฉะนั้น โชคยังดี ที่นายคิดกับฉันแค่เพื่อน ถ้าขืนนายชอบฉันแล้วล่ะก็ นายก็จะมีสภาพแย่เหมือนฉันในตอนนี้……”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนยังหัวเราะฮิฮิขึ้นมา
ความรู้สึกตอนนี้ของเซียวซู่ยากจะบรรยาย มือที่เดิมทีวางอยู่บนโต๊ะได้ค่อยๆแอบย้ายลงมาอยู่ใต้โต้ะ วางอยู่บนตักของตัวเอง แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้สึกตระหนักถึง และมือก็ได้ค่อยๆกำเป็นหมัดจนแน่น
มองหน้าเธอแล้ว เหมือนไม่ใช่แค่เพิ่งจะหลงรัก แต่คือรักจนหัวปักหัวปำไปแล้ว
“นานเท่าไหร่แล้ว?”
เซียวซู่ได้ยินเสียงตัวเองกำลังถามเธอ
“อ้า?”เสี่ยวเหยียนเหมือนไม่เข้าใจว่าเขากำลังถามอะไรเธอ
เซียวซู่ยิ้มขึ้นบางๆ“เธอรักเขาคนนั้น นานเท่าไหร่แล้ว?”
เสี่ยวเหยียนราวกับเมาเหล้าอย่างไรอย่างงั้น ก้มหน้าเริ่มนับนิ้วมือตัวเองขึ้นมา หน้าตาของเธอดูจิ้มลิ้ม ทำให้คนอดไม่ได้อยากจะกอดเธอมาไว้ในอ้อมกอด
เธอนับอยู่นาน ถึงเงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างเศร้าใจ:“จะสี่ปีแล้ว”
ได้ยินแบบนี้แล้ว เซียวซู่ได้ยกมุมปากยกขึ้น
“สี่ปีหรอ?”
เขานับเวลาอย่างละเอียด ตัวเองแอบชอบเสี่ยวเหยียนมาก็หกปีแล้ว
ที่แท้ เวลามันผ่านไปเร็วจังเลย
เวลาได้หายไปในทุกวัน ถ้าไม่ตั้งใจไปนับ ยังคงรู้สึกเรื่องมันราวกับเพิ่งเกิดในเมื่อวัน แต่ทั้งนี้ก็เหมือนกับห่างไกลมาก ความคิดของเซียวซู่ดูจะเลือนราง
“ใช่ สี่ปี!”เสี่ยวเหยียนใช้แรงพยักหน้า:“นานมากใช่มั้ยล่ะ?ตอนแรก ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะรักเขาได้นานขนาดนี้ สี่ปีเชียวนะ……”
เธอแบมือนับนิ้วแล้วพูดไปด้วย:“นี่มันเป็นวัยใส่ของฉันหลายปีเลยนะ เวลาสี่ปีเชียวนะ!”
เซียวซู่คิดอยู่ในใจ
ที่ผมแอบชอบคุณยิ่งนานกว่า
ถึงแม้ว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงชอบเสี่ยวเหยียน ความรู้สึกนี้มันมาอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ตอนนั้น เขารู้สึกมีใจให้เธอแล้วจริงๆ
ตั้งแต่หลังจากที่เซียวซู่ติดตามคุณชายเย่มา ก็ได้ทุ่มเทเวลาให้แต่งานไปหมด รอจนเขามีเวลา เขาก็เหนื่อยจนไม่อยากหาคู่แล้ว ถึงที่บ้านจะเร่งเขาเรื่องงานแต่ง แต่เขาเองก็เต็มใจที่จะเลือกแบบนี้
เพราะสำหรับเขาแล้ว เย่โม่เซินคือคนที่เขาสามารถเสียสละชีวิตตัวเองได้
ตอนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเย่โม่เซินยื่นมือช่วย ตอนนี้ เขาคงยังตกระกำลำบาก หรือบางทีเขาอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็เป็นได้ แม้กระทั่งบ้านแตกสาแหรก
เพราะฉะนั้น ตอนนั้นหลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีใจให้กับเสี่ยวเหยียน เซียวซู่รู้สึกเศร้าใจในชั่วขณะ ไม่นานเขาก็เก็บความรู้สึกนี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
พอเก็บก็เป็นหลายปีเลย
รอจนเธอมายืนต่อหน้าตัวเองตัวเป็นๆอีกครั้ง ความรักที่ถูกเก็บไว้ส่วนลึกในใจก็ได้งอกออกมาอีกครั้ง
หลังจากนั้น เมื่อจำนวนครั้งที่พบหน้ากันมากขึ้น และคิดถึงเรื่องราวอดีตบ่อยๆ ต้นกล้าที่งอกเงยได้ค่อยๆเติบโตขึ้นมา
พอนึกถึงนี่ เซียวซู่เงยหน้าขึ้นมา สายตาหยุดอยู่ที่ร่างของเสี่ยวเหยียนอีกครั้ง
ถ้าในเวลานี้ เขาบอกว่าชอบเธอ เธอจะยอมรับตัวเองหรือเปล่าน๊า?
แต่ถ้าเป็นแบบนี้จริง นั้นเขาก็กลายเป็นคนฉวยโอกาสสินะ?
หมัดที่วางอยู่บนตักยิ่งอยู่ก็ยิ่งแน่นขึ้นทุกที สุดท้ายก็ยอมปล่อยมือ
ช่างเหอะ บอกรักในตอนนี้ มันไม่ยุติธรรมกับพวกเขาทั้งสองฝ่าย
ในเมื่อเธอถูกปฏิเสธมา นั้นก็รอให้เธอจัดการอารมณ์จิตใจตัวเองให้ดีก่อนค่อยว่ากัน รอเธอตายใจกับคนที่เธอรักคนนี้ก่อน ตอนที่เธอใจว่างแล้ว เขาค่อยหาวิธีให้ตัวเองเดินเข้าไปในใจของเธอ
แต่เสียดาย ใบหน้าของเขาในตอนนี้……
ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวเหยียนเธอจะชอบหรือเปล่า แต่ถ้าไม่รองดู ใครก็ไม่รู้ว่าผลสุดท้ายมันจะเป็นยังไง
หลังจากที่พนักงานมาเสิร์ฟ เสี่ยวเหยียนกลับจู่ๆเปิดปากของเหล้ากับพนักงานขึ้นมา
พนักงานอึ้งไปครู่นึงแล้วหันไปมองเซียวซู่
เซียวซู่เลยรีบห้ามเธอไว้
“เธอตากลมหนาวอยู่นาน ดื่มเหล้ามันไม่ดีต่อกระเพาะของเธอ ดื่มอะไรร้อนๆก่อน แล้วค่อยทานอะไรหน่อย”
“ไม่เอาอ่ะ”
เสี่ยวเหยียนใส่หัว:“ฉันอยากดื่มเหล้าตอนนี้”
พูดจบ สายตาของเธอก็จ้องเซียวซู่อย่างไม่ขยับ:“นายไม่รู้หรอก……หัวใจของฉันในตอนนี้ทรมานแค่ไหน”
เซียวซู่:“……หลังจากดื่มเหล้า กระเพาะจะยิ่งทรมาน พอถึงตอนนั้น เธอจะยิ่งทรมานรู้มั้ย”
“ไม่เป็นไร ฉันอยากดื่ม เซียวซู่ นายเป็นเพื่อนของฉันใช่มั้ย?งั้นก็ฟังฉันครั้งนึงได้มั้ย?”
เพื่อน……
เซียวซู่ได้แต่ฝืนยิ้มอยู่ในใจโดยทำอะไรไม่ถูก นี่เขาขุดหลุมให้ตัวเองหรอเนี่ย?รู้แต่แรกก็ไม่บอกว่าเป็นเพื่อนแล้วไม่อย่างนั้น ตอนนี้เธออ้าปากพูดทีไรก็เอาคำว่าเพื่อนมากดขี่ตัวเองอยู่แบบนี้
ระหว่างที่เซียวซู่กำลังจะต่อว่าเธออีกครั้งนั้น เสี่ยวเหยียนก็ได้ทำท่าทีขอร้องเขา:“ขอร้องนายล่ะ ฉันดื่มครั้งนี้ครั้งเดียว!”
แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว?
ครั้งเดียวยังไม่พอหรอ?
“อีกอย่าง ฉันหนาวขนาดนี้ ดื่มเหล้าก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้ นายไม่รู้หรอ?”
คำนี้พูดจนเซียวซู่โต้กลับอะไรไม่ได้ เขาได้แต่พยักหน้า:“นั้น……ดื่มแค่นิดเดียวนะ อีกอย่าง ต้องทานอะไรรองท้องก่อนถึงดื่มได้”
เสี่ยวเหยียนรับปากทันที
ไม่นาน เหล้าก็ถูกเสิร์ฟมา สุดท้ายเซียวซู่ก็ห้ามเธอเอาไว้ไม่อยู่
เธอเชื่อฟังเขา ทานอะไรรองท้องไปหน่อย แต่เหล้ากลับดื่มไปไม่น้อยเลย ดื่มจนสุดท้าย หน้าของเธอแดงไปทั้งหน้าและเมาจนเริ่มพูดจาเลอะเทอะ!
เซียวซู่ก็เริ่มเสียใจที่รับปากให้เธอดื่มเหล้า