บทที่ 957 ชายหญิงแตกต่างกัน
“หลับไปแล้ว?”
หลังจากได้ยินดังนั้น เซียวซู่ประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อกี้เขาคุยกับเย่โม่เซินเรื่องว่าจะทำยังไงไม่ให้เสี่ยวหมี่โต้วจับได้
สุดท้ายเสี่ยวหมี่โต้วไม่ออกมาเพราะหลับไปแล้ว
เซียวซู่หันไปหาเย่โม่เซิน แล้วใช้สายตามองเป็นเชิงสอบถาม
เย่โม่เซินพยักหน้า เซียวซู่หันไปหาคนใช้แล้วพูดว่า “โอเค งั้นดูแลเขาให้ดีๆ นะ พรุ่งนี้เราค่อยกลับมารับเขากลับบ้าน”
“ค่ะ”
รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ เย่โม่เซินหยิบมือถือขึ้นมาโทรหามู่จื่อ
เขาต้องโทรบอกเธอว่าไม่ได้รับเสี่ยวหมี่โต้ว
มู่จือมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม นี่ก็ดึกมากแล้ว เย่โม่เซินยังไม่รับเสี่ยวหมี่โต้วกลับมาเลย อีกทั้งยังไม่โทรหาเธอด้วย ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง
เธอหยิบมือถือขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย ตอนที่เธอกำลังจะส่งข้อความไปหาเย่โม่เซิน เขาก็โทรมาพอดี
มู่จื่อรีบกดรับแล้วเอามือถือไปไว้ข้างหู
“ฮัลโหล”
น้ำเสียงกังวลใจของมู่จื่อดังออกมาทางปลายสาย เย่โม่เซินพอจะจินตนาการสีหน้าและท่าทางของเธอได้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำออกมาจากลำคอ
“กังวลขนาดนั้นเลยเหรอ”
มู่จื่อได้ยินเย่โม่เซินใช้น้ำเสียงขี้เล่นคุยกับเธอ เธอประหลาดใจเล็กน้อย แถมเสียงของเขาแหบพร่า เหมือนเจ็บคอ หรือว่าเขาจะไม่สบายแล้วพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ
หลังจากที่ได้ยินน้ำเสียงขี้เล่นของเขา มู่จื่อรู้สึกว่าเขาอาจจะจงใจเสแสร้งออกมา
ผู้ชายไม่เอาไหน!
มู่จื่อแอบตำหนิเขาในใจ แล้วพูดออกไปว่า “เสี่ยวหมี่โต้วเป็นยังไงบ้าง คุณรับลูกกลับมาหรือยัง”
เมื่อถามจบ มู่จื่อรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าท่า จึงพูดต่อ “ไม่งั้นคุณก็รับลูกกลับไปที่โรงแรม แล้วก็แวะมารับฉัน เราจะได้อยู่ด้วยกัน”
“อยากอยู่กับผมขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ผมว่าวันนี้น่าจะไม่ได้แล้วล่ะ”
“ห้ะ?”
“เสี่ยวหมี่โต้วนอนอยู่ที่บ้านคุณตา ผมไม่ได้ไปรับเขา”
“.….” มู่จื่อ
นอนหลับไปแล้ว? คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวหมี่โต้ว…
ตอนแรกมู่จื่อรู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่นานเธอก็คลายความสงสัยไปได้ เด็กน้อยกำลังสร้างความประทับใจแทนเธออยู่หรือเปล่านะ สร้างความประทับใจจนได้นอนอยู่ที่นั่น
ถ้าเป็นคนอื่นมู่จื่ออาจจะไม่วางใจ แต่อีกฝ่ายคือคุณตาของเย่โม่เซิน และเป็นทวดของเสี่ยวหมี่โต้ว เธอมองแววตาและสีหน้าที่เขามองเสี่ยวหมี่โต้วออก การปรากฏตัวของเหลนคนนี้ทำให้อีกฝ่ายมีความสุขมาก
เพราะฉะนั้น เหตุผลที่เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ที่นั่น ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือยู่ฉือจินบอกให้เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ต่อ
“ฉันเข้าใจแล้ว งั้นคุณ…”
“หรือว่า…” สายตาของเย่โม่เซินหันไปมองคนที่กำลังขับรถอยู่อย่างเซียวซู่ เซียวซู่รู้สึกเย็นข้างหูอย่างแปลกประหลาด วินาทีต่อมาเขาได้ยินคำพูดติดตลกของเย่โม่เซิน “ผมทิ้งเซียวซู่ให้อยู่ที่โรงแรมคนเดียว แล้วขับรถกลับไปนอนกับคุณ”
“.…..” เซียวซู่
“.….” มู่จื่อ
เธอคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เย่โม่เซินจะพูดแบบนี้ออกมา แถมยังพูดออกมาโต้งๆ
ไม่รอให้เธอตอบ เย่โม่เซินก็พูดอีก “อีกอย่างสองวันนี้ก็หาโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสองยากมาก”
สองต่อสอง…
กลับมานอนกับเธอ…
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เธอก็นึกถึงเรื่องคืนนั้นในห้องครัว ห้องนั้นในห้องครัว ตอนนั้นคงจะเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก เขาจึงรีบจูบเธอ
ถ้าเขากลับมาจริงๆ เขาจะทำอะไรเกินเลยหรือเปล่า
ตอนนี้เธอกำลังท้อง ถ้าเธอไม่ทันระวัง…
เมื่อคิดได้ดังนั้น มู่จื่อจึงรีบปฏิเสธข้อเสนอของเขา
“ไม่ได้ ไม่ได้”
“หื้ม?”
ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินยังคงมีรอยยิ้ม ใบหน้าของเขาภายใต้แสงไฟยิ่งซีดลงเรื่อยๆ เซียวซู่เห็นเช่นนั้นจึงรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา เขาขยับปากจะพูด เย่โม่เซินยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณให้เขาเงียบ
เซียวซู่ทำได้เพียงกลืนคำพูดลงไปในคอ
“ทำไมไม่ได้ล่ะ?”
“คุณออกไปกับเขา คุณพาเซียวซู่ออกไปนอนที่โรงแรมฉันยังไม่ว่าอะไรเลย ถ้าคุณทิ้งเขาแล้วกลับมา มันจะดูไม่จริงใจนะ เพราะฉะนั้นคุณก็นอนที่โรงแรมไปก่อนเถอะ ”
ความตลกฉายออกมาทางแววตาของเย่โม่เซิน
เป็นไปตามคาด เมื่อเขาพยายามจะเข้าใกล้เธอ เธอก็เริ่มถอยหนีจากเขา
ที่แท้นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับใช้รับมือกับเธอ
ตราบใดที่คุณเดินหน้า กระต่ายตัวนั้นก็จะถอยหนีเหมือนโดนคุณเหยียบหางของมันอย่างไรอย่างนั้น
“ไม่ให้ผมกลับไปจริงเหรอ”
“อื้ม คุณดูแลตัวเองด้วย พรุ่งนี้อย่าลืมกลับมาทานข้าว”
พูดจบมู่จื่อก็รีบวางสายทันที เหมือนเธอกลัวว่าถ้าเขาพูดอีก แล้วเขาจะกลับมาอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อวางสายมู่จื่อมองมือถือแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แต่เธอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้วางสายเร็วจนลืมบอกให้เย่โม่เซินไปรับเสี่ยวหมี่โต้วแต่เช้า
จะให้เธอโทรกลับไปตอนนี้ก็ไม่ได้ เธอจึงปล่อยไปค่อยโทรหาเขาพรุ่งนี้
อีกด้านหนึ่ง
เย่โม่เซินที่เพิ่งวางสายไป ความตลกบนใบหน้าและแววตาหายไปในทันที เขาหลับตาลงอย่างอ่อนล้า เซียวซู่เห็นภาพนั้นก็ถอนหายใจอยู่ในใจ
เมื่อครู่เขาคิดว่าคุณชายเย่ได้ยินเสียงของคุณนายน้อยแล้วจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมา เขาแกล้งทำมันเหรอ
คุณชายเย่กำลังฝืนตัวเองอยู่ เพราะรู้ว่าคุณนายน้อยจะเป็นห่วง เมื่อพูดในทางกลับกัน คุณนายน้อยต้องรีบบอกให้เขานอนที่โรงแรม ไม่พูดก็ไม่ได้ว่าวิธีนี้สุดยอดมาก
แต่ทว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยทีเดียว
เซียวซู่มองสีหน้าที่ดูไม่ดีของเย่โม่เซิน เขาจึงรีบเพิ่มระดับความเร็วของรถขึ้น
คืนนี้ มู่จื่อนอนไม่หลับ ตอนกลางวันเธอนอนเยอะมาก กลางคืนเลยนอนไม่หลับ บวกกับเธอเป็นห่วงอาการของเสี่ยวเหยียนที่นอนอยู่ในห้องคนเดียว เธอจึงนอนแบบหลับๆ ตื่นๆ เธอลุกขึ้นไปดูเสี่ยวเหยียน
เธอไปๆ มาๆ สองรอบ ทุกครั้งที่เข้าไปก็เห็นเสี่ยวเหยียนหลับสนิท หายใจสม่ำเสมอ การเต้นของหัวใจก็เป็นปกติ
มู่จือคิดในใจว่านี่เป็นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่าที่ทำให้เสี่ยวเหยียนหลับสนิท
ต่อมาเธอจึงไปดูเสี่ยวเหยียนอีกครั้ง ครั้งนี้เธอตัดสินใจว่าถ้าเสี่ยวเหยียนหลับสนิท เธอก็จะกลับไปนอนเหมือนกัน
คิดไม่ถึงว่าตอนที่จะเดินกลับไปก็เจอกับหานชิงที่ยืนอยู่หน้าประตู
“กลับไปนอนเถอะ ที่นี่เดี๋ยวฉันเฝ้าเอง”
น่าจะเพราะว่าเธอยังโกรธหานชิง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ มู่จื่อจึงพูดตัดพ้อ“ไม่ดีมั้ง ชายหญิงต่างกัน ให้พี่เฝ้าเธอดูจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร”
ทั้งสองไม่ใช่แฟนกัน อีกทั้งยังไม่ใช่ญาติหรือคนสนิทกันอีกด้วย
ได้ยินดังนั้น หานชิงจึงขมวดคิ้ว “เมื่ออยู่ในบริบทใดบริบทหนึ่งถึงจะพูดว่าชายหญิงต่างกันได้ แต่นี่เสี่ยวเหยียนกำลังป่วย อีกอย่างเธอก็ท้องอยู่ด้วย ในบ้านก็มีแค่ฉันคนเดียว ไม่ให้ฉันเฝ้าจะให้คนท้องอย่างเธอวิ่งไปวิ่งมาทั้งคืนเหรอ”