บทที่978อย่าดูถูกฉัน
จะดื่มเบียร์อีกแล้ว?
ยัยบ๊องคนนี้วันนั้นยังดื่มไม่พอ ดังนั้นก็เลยจะดื่มต่อหรอ?
หรือว่า เธออารมณ์ไม่ดีอีกแล้ว?
คิดถึงตรงนี้ เซียวซู่เงยหน้ามองเสี่ยวเหยียนทีนึงด้วยจิตใต้สำนึก เห็นใบหน้าเธอไม่มีความเศร้าโศกเลยสักนิด กลับกันยังประดับด้วยรอยยิ้มที่หวานชื่น ภายใต้แสงไฟสาดส่อง ยิ่งทำให้ดวงตาทั้งคู่แวววาวมากเป็นพิเศษ
“แค่ดื่มนิดหน่อยเอง เบียร์ไม่ใช่เหล้าอย่างอื่นสักหน่อย ไม่เมาง่ายขนาดนั้นหรอก นายวางใจได้ วันนี้ฉันไม่เมาจนสร้างปัญหาให้นายหรอก!”
เซียวซู่เม้มปากไว้ ไม่ได้ตอบ
เขาไม่ได้กลัวปัญหา แค่ไม่อยากเห็นหลังจากเธอเมา แล้วเรียกชื่อของผู้ชายอีกคนต่อหน้าเขาเฉยๆ
“ได้รึเปล่า?” เสี่ยวเหยียนเห็นเขาไม่ตอบ เอียงศีรษะถามเขาอีกคำ หน้าตาซุกซนน่ารักมาก
เซียวซู่เห็นเธอที่เป็นแบบนี้ ได้พยักหน้าอย่างจับพลัดจับผลูด้วยจิตใต้สำนึก จากนั้นลำคอก็ได้เคลื่อนไหวตามครู่นึง
“ขอบใจนะ!”
เสี่ยวเหยียนเห็นเขารับปากแล้ว ก็ได้เดินไปที่ทิศทางที่ชี้เมื่อกี๊ เซียวซู่มองดูร่างเงาที่ดีอกดีใจของเธอแล้ว หรี่ตาขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อกี๊……เธอกำลังออดอ้อนตัวเองอยู่หรอ?
เสี่ยวเหยียนนี่มากินจริงๆ เธอสั่งปิ้งย่างมาเยอะมาก แถมยังสั่งเบียร์ไปตั้งหลายขวด เทให้ตัวเองและเซียวซู่แก้วนึง จากนั้นก็ยกแก้วขึ้นมาชนแก้วกับเซียวซู่
“มา พวกเราก็มาชนแก้วกันหน่อย!”
เซียวซู่: “? ? ?”
“ถึงแม้พวกเขาไปรวมตัวสังสรรค์กันทั้งครอบครัวแล้ว แต่ยังไงซะพวกเราก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดาย นายดูสิอยู่ต่างเมืองต่างถิ่น พวกเรายังมีเพื่อนนั่งกินปิ้งย่างและดื่มเบียร์ด้วยกัน มีความสุขกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ถูกมั้ย?”
เซียวซู่รู้สึกเธอพูดถูก ได้แต่พยักหน้า
เสี่ยวเหยียนเงยหน้ากรอกเบียร์ไปแก้วนึง วิธีดื่มของเธอห้าวหาญมาก ดื่มเสร็จก็รีบเทให้ตัวเองและเทให้เซียวซู่จนเต็มแก้ว
“มา พวกเรามาดื่มต่อ คืนนี้ไม่เมาไม่เลิก!”
“อย่าดื่มเยอะ คุณลืมไปแล้วหรอว่าก่อนเข้ามาในร้านคุณพูดไว้ยังไง?”
“ฮึ่มๆ……ก่อนหน้านั้นฉันพูดอะไรไป ฉันลืมไปแล้ว ดื่มแค่ไม่กี่แก้วเองไม่เมาหรอก พวกเราเดินมา อย่างมากก็แค่เดี๋ยวพอเมาแล้ว ฉันประคองนายกลับไปเอง”
เซียวซู่ไปต่อไม่ถูกในชั่วขณะ ให้เธอประคองตัวเอง? เขาดูรูปร่างที่ผอมเพรียวของเธอแล้วหัวเราะเสียงต่ำ: “อย่างคุณเนี่ยนะจะประคองผมไหว? เดี๋ยวล้มลงไปทับคุณได้รับบาดเจ็บยังทำยังไง?”
“เป็นไปได้ยังไง?” ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนแก้ตัวอย่างไม่พอใจ: “นายอย่าดูถูกฉันสิ ฉันแรงเยอะมากเลยนะ ถึงนายเมาเหมือนคนตายฉันก็ยังสามารถประคองนายกลับไปได้เลย! อีกอย่างถึงจะไม่ระวังล้มลงไปจริงๆ ก็ไม่ทับฉันพังหรอก”
ทับ….……
คำนี้ทำให้เซียวซู่คิดถึงการออกกำลังกายอย่างนึงอย่างแปลกประหลาด พริบตาเดียวในหัวมีภาพๆนึงปรากฏขึ้นมา แต่ไม่นานก็ถูกเขาขับไล่ออกจากสมอง ไม่นานใบหูก็แดงก่ำขึ้นมา
“เอ๊ะ ทำไมนายยังไม่ได้เริ่มดื่มเบียร์เลย หน้าก็แดงอย่างนี้แล้ว?”
แต่แล้วเสี่ยวเหยียนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเมื่อกี๊ในหัวของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ยังนึกว่าเขาดื่มเหล้าจนหน้าแดง ก็เลยเริ่มหัวเราะเยาะเขา: “นายนี่มันคออ่อนเกินไปแล้วมั้ง?”
เซียวซู่มองเธออย่างเรียบเฉย “คุณไม่เข้าใจหรอก”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง: “ไม่ ฉันเข้าใจ! แต่นายวางใจเถอะ เรื่องที่นายคออ่อนฉันไม่พูดออกไปหรอก พวกนายต่างก็เอาหน้าทั้งนั้น ก็เหมือนตอนเที่ยง ฉันไม่ระวังลืมนาย พูดผิดไปคำนึง นายก็เจ้าคิดเจ้าแค้นจนถึงตอนนี้เลย”
เสี่ยวเหยียนพูดจบก็ได้เริ่มเทเหล้าให้ตัวเองอีก ตอนแรกยังมีท่าทีดื่มกับเซียวซู่ไปหลายแก้ว และชนแก้วอะไรด้วย แต่ชนแก้วครั้งนึงเซียวซู่ก็เกลี้ยกล่อมเธอครั้งนึง
สุดท้ายเสี่ยวเหยียนก็เลยไม่สนใจเขาซะเลย และดื่มเองโดยตรงเลย ขี้เกียจไปสนใจเซียวซู่
ก็ไม่รู้ดื่มไปนานเท่าไหร่ เสี่ยวเหยียนรู้สึกแก้มของตัวเองเริ่มร้อนผ่าว ศีรษะเริ่มวิงเวียน เธอมือเท้าคางมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาพร่ามัว
“หืม? หน้าของนาย……เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งแดงแล้วแฮะ”
ถึงแม้เซียวซู่หน้าแดงก่ำมาก แต่ภายนอกกลับยังนั่งอยู่ที่นั่นด้วยความสงบ ถือตะเกียบไว้กินอาหารทีละนิดๆ เดิมทีหน้าก็แดงอยู่แล้ว ภายใต้การจ้องมองของเสี่ยวเหยียน อุณหภูมิบนใบหน้าเขายิ่งเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
หลังจากผ่านไปสักพัก เซียวซู่เงยหน้าสบตากับเสี่ยวเหยียน
“คุณมองผมทำไม? ปิ้งย่างทานพอแล้วหรอ?”
มองดูเซียวซู่ที่อยู่ตรงหน้า เสี่ยวเหยียนใช้แรงส่ายหัว จู่ๆกลับพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าได้กลายเป็นสองคน และมีเงาสองเงาแล้ว
“เอ๊ะ เซียวซู่สองคน?”
พอพูดจบ เสี่ยวเหยียนได้หัวเราะขึ้นมาเหมือนคนโง่
เซียวซู่เห็นเธอที่เป็นแบบนี้ ได้วางตะเกียบลง และคิดอย่างจนปัญญา
ยังว่าตัวเองดื่มเหล้าไม่เป็นอีก ทำเป็นคอแข็ง ปรากฏดื่มไปแค่แป๊บเดียวก็กลายเป็นแบบนี้อีกแล้ว
“ดูท่าน่าจะกินพอแล้ว”
เซียวซู่พูดจบ ได้ไปจ่ายเงินโดยตรง เตรียมตัวพาเสี่ยวเหยียนกลับบ้าน ปรากฏเขาเพิ่งจ่ายเงินเสร็จ ตอนที่กลับมาก็เห็นเสี่ยวเหยียนเดินออกไปข้างนอกอย่างโซเซแล้ว
เซียวซู่สีหหน้าเปลี่ยน รีบเดินตามไปข้างหน้า
เสี่ยวเหยียนที่เดินอยู่กำลังสะดุด อีกนิดเดียวก็ล้มหัวฟาดพื้น เซียวซู่ยกมือก็โอบเธอมาไว้ในอ้อมอก
ปัง!
แก้มที่นุ่มนวลได้ชนเข้าอ้อมอกของเซียวซู่อย่างจัง เซียวซู่ก้มหน้ามองเสี่ยวเหยียนที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เขาเอ่ยปากพูดอย่างจนปัญญา: “ผมบอกให้คุณรอผมที่โต๊ะไม่ใช่เหรอ? เมาขนาดนี้ คุณจะเดินกลับไปยังไง? ยืนดีๆ”
เสี่ยวเหยียนพึมพำไปหลายคำ ก็ไม่รู้ว่าได้ยินคำพูดเขาหรือเปล่า แต่เธอกลับผลักเซียวซู่ทิ้งแล้วเดินไปข้างหน้า เดินไปด้วยพร้อมพูดไปด้วย: “ไม่ อย่าเดินตามฉัน ฉัน ฉันยังดื่มได้อีก! ดื่มเหล้าๆ! !”
เซียวซู่เดินตามไป จับข้อมือเรียวเล็กของเธอไว้แน่น และตำหนิ: “เลิกโวยวายได้แล้ว กลับไปค่อยว่ากัน”
“ฉันไม่กลับ ฮือๆ ที่ห้องเย็นเฉียบมาก……ฉันไม่อยากกลับไป”
เสี่ยวเหยียนพูดจบก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้ามองเซียวซู่ไว้ ดวงตาทั้งคู่แวววาว ดูแล้วน่าสงสารมาก
“ฉันอยากไปตากลมหน่อย โอเคมั้ย?”
เซียวซู่: “….…”
ตากลม?
ในอากาศที่หนาวแทบตายแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้กลับบอกกับเขาว่าอยากไปตากลม?
นี่กำลังล้อเล่นกับเขาหรือเปล่า?
แต่ว่า เซียวซู่พูดคำพูดปฏิเสธไม่ออก ได้แต่พยุงเธอไว้เบาๆ: “จะตากลมน่ะได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้…….ตอนนี้ดึกมากแล้ว เราต้องกลับไปแล้ว”
เสี่ยวเหยียนยังยืนหยัดอยู่ แต่สุดท้ายต่อต้านแรงของเซียวซู่ไม่ไหว บวกกับเธอเองก็เมาแล้ว ดังนั้นไม่นานก็ถูกเซียวซู่พากลับไปแล้ว
หลังจากกลับไป เซียวซู่วางเสี่ยวเหยียนลงดีๆ
ครั้งนี้เสี่ยวเหยียนไม่ได้อาละวาดรุนแรงเหมือนครั้งก่อน ครั้งก่อนพอเมาแล้วยังร้องไห้และโวยวายตลอด
วันนี้หลังจากโวยวายที่บนถนนเสร็จ กลับมาก็เงียบสงบแล้ว
ตอนที่เซียวซู่พาเธอกลับที่ห้อง
เสี่ยวเหยียนก็ถอดเสื้อคลุมออกทันที แล้วพุ่งไปที่เตียงของตัวเองแล้ว จากนั้นก็นอนกอดผ้าห่ม
เซียวซู่ช่วยเธอปรับอุณหภูมิของห้องให้สบายๆ จากนั้นก็ช่วยเธอห่มผ้าให้เรียบร้อย สำรวจไปครู่นึงเห็นเธอไม่ได้ขยับไปมั่ว ก็ได้ออกมาจากห้องนอนของเธอ
หลังจากเซียวซู่ไปอาบน้ำที่ห้องน้ำรอบนึง ตอนเขาออกมาเย่โม่เซินกับหานมู่จื่อและพวกยังไม่กลับมาเลย
เขาเดินไปยืนอยู่ที่หน้าห้องของเสี่ยวเหยียนไปพักนึง ได้ยินข้างในเงียบสงบ ก็ได้ไปยืนเหม่อลอยที่ระเบียง
ส่วนอีกฝั่งนึง
คนรับใช้ของตระกูลยู่ฉือเพิ่งเสิร์ฟอาหารครบ หยูโปยืนอยู่ที่ข้างๆ มองดูคนที่ล้อมเต็มโต๊ะอาหารแล้วถอนหายใจ
รู้สึกว่าตระกูลยู่ฉือไม่เคยคึกคักแบบนี้มาก่อนเลย