เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 35 พิธีหมั้น 4

“เหตุผลส่วนตัว? เพราะเรื่องสุขภาพหรอ? เหอหลิงที่ยืนอยู่ข้างไป๋ยิ่งอันปั้นหน้าสงสัยถามขึ้น: “ฉันได้ยินมาว่าคุณชายหนานกงป่วยจนแทบไม่สามารถลงจากเตียงได้ เป็นความจริงหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ใช่แน่นอน เขาแข็งแรงดี”คิ้วของไป๋มู่ชิงขมวดนิดๆ ตอบพร้อมจ้องหน้าเธอ
“และเป็นเพราะอะไร? หรือเป็นเพราะหน้าตาขี้เหร่ไม่กล้าปรากฏตัว? จริงๆก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าคุณชายหนานกงสุขภาพไม่ดี หน้าตาก็ไม่ได้ดีมากนักเช่นกัน นี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ไม่ต้องปิดบังหรอก”
“หลิง” ไป๋ยิ่งอันเหล่มองไป๋มู่ชิงที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก ใช้มือดึงกระโปรงของเหอหลิงพร้อมกล่าวอย่างตำหนิว่า: “พี่เขยไม่อยากพบหน้าผู้คนเป็นเรื่องปกตินะ ยังไงเขาก็เป็นคนที่มีศักดิ์ศรีอยู่”
“จริงๆแล้วหน้าตาขี้เหร่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย มีฐานะดีก็พอแล้ว ทุกคนเห็นด้วยไหมคะ?”เหอหลิงพูดกับทุกคนในงาน และไม่รอคำตอบ รีบพูดต่อว่า: “จริงสิ พี่คะ ตระกูลหนานกง ร่ำรวยขนาดนี้ ต้องให้ของขวัญพิธีหมั้นชิ้นใหญ่กับพี่แน่ เป็นอะไรหรอคะ เอามาอวดหน่อย จะได้คลายความอยากรู้ของทุกคนด้วย”
ไป๋มู่ชิงค่อยๆกำมือแน่นขึ้น ตอนเข้างานเมื่อครู่นี้ ไป๋ยิ่งอันบอกว่าไม่มีของขวัญก็ไม่เป็นไร เธอยังคิดว่าเรื่องนี้จะผ่านไปด้วยดี ไม่คิดเลยว่า……
ทำยังไงดี ถ้าคุณผู้หญิงรู้ว่าเธอไม่ได้นำของขวัญมาให้ แถมยังทำให้ตระกูลหนานกงขายหน้าต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ คงโกรธจนบีบคอเธอตายแน่ๆ
ไป๋ยิ่งอันยังคงรับบทแสดงเป็นหญิงสาวที่ฉลาดอ่อนโยน ยิ้มอย่างอบอุ่น: “ยังไงก็พี่น้องกันค่ะ ถ้ามาให้ของขวัญกันกลับรู้สึกห่างเหิน ดังนั้น……มีของขวัญหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สำคัญที่พี่สาวได้มาร่วมงานพิธีหมั้นของดิฉัน ทุกท่านว่าจริงไหม?”
ในบรรดาผู้ร่วมงานมีคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่จริงใช่ไหม? งั้นแปลว่าไม่ได้ให้ของขวัญอะไรเลยหรอคะ?” เหอหลิงร้องเสียงหลงพลางถามต่อ
ไป๋มู่ชิงสูดลมหายใจเข้าเบาๆ ค่อยๆดับความโกรธในใจลง ฝืนยิ้มบนใบหน้า ทั้งที่ยังโกรธ แล้วพูดกับไป๋ยิ่งอันและหลินอันหนานว่า: “ทุกท่านในงานยังรอให้พวกเธอเปิดฟลอร์อยู่นะคะ”
ไป๋ยิ่งอันพยักหน้า รู้สึกเสียดายนิดๆพร้อมพูดกับทุกคนว่า: “ตอนแรกดิฉันตั้งใจให้พี่สาวและคุณชายหนานกงนำเปิดฟลอร์ เสียดายคุณชายหนานกงหน้าบางไม่กล้าปรากฏตัว ดิฉันกับอันหนานขอนำเปิดฟลอร์แทนแล้วกันค่ะ”
เสียงดนตรีอันแสนไพเราะดุจสายน้ำค่อยๆดังขึ้น ไป๋มู่ชิงเริ่มสบายใจขึ้น ใกล้จะจบสักที
ผู้คนในงานต่างมองด้วยสายตาแปลกๆ เธอรู้สึกว่าขาของตัวเองหนักอึ้งจนไม่สามารถยกได้ เสียงกดต่ำของไป๋ยิ่งอันดังข้างหู: “เป็นยังไง? ถูกมองด้วยสายตาดูถูกไม่เลวใช่ไหม?”
ไป๋มู่ชิงบีบกำมือเล็กน้อย ในขณะที่กำลังจะเบียดตัวออกจากกลุ่มคน เสียงเรียบๆที่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง: “ใครบอกว่าผมไม่กล้าปรากฏตัว?”
เสียงนั้นไม่ดังมากและไม่เบาไป แต่ดังพอที่ทุกคนได้ยินชัด
สายตาทุกคู่มองไปยังทางเข้างานอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้านนอกกลุ่มคน หนานกงเฉินอยู่ในชุดสูทดูหล่อแพงมีระดับ รอยยิ้มบางๆ
ไป๋ยิ่งอันและหลินอันหนานมองตากันครู่นึง เหอหลิงที่อยู่ข้างๆ ดีใจและพึมพำว่า: “เป็นเขา? เขามาได้ยังไง?”
แต่เมื่อไป๋มู่ชิงเห็นเขา สิ่งแรกที่อยากทำคือโขกกำแพง เธอรู้ว่าเขาอยากตอบแทนบุญคุณ แต่ก่อนจะตอบแทนบุญคุณ ควรจะวิเคราะห์สถานการณ์กับเรื่องราวที่ผ่านมาก่อนหรือเปล่า?
เขาคงไม่คิดว่าจะอ้างตัวเป็นหนานกงเฉินเพื่อช่วยเธอใช่ไหม? ความเห็นใจนี้ดีนะ แต่เขาลืมไปแล้วหรือ? ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาเพิ่งอ้างตัวเป็นชู้รักของเธอ?
“คุณมาได้ยังไง?” ไป๋ยิ่งอันพิจารณาเขาพร้อมทั้งขมวดคิ้วคู่งาม แม้จะรู้สึกดีกับเขาไม่น้อย แต่เขาเป็นคนของไป๋มู่ชิง ดังนั้นตอนนี้เธอและเขาเป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset