เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 46 เดิมทีควรเป็นของเธอ

เมื่อพูดถึงตระกูลหลิน ไป๋ยิ่งอันกลับยิ่งร้องไห้ด้วยความโมโห “แม่รู้รึเปล่า จริงๆแล้วแม่ของอันหนานคือลูกสาวแท้ๆของคุณหญิงหนานกง นังตัวดีก็กลับกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของหนูกับอันหนาน ที่น่าโมโหที่สุดคือคุณหญิงหลินที่ทำเหมือนตระกูลหนานกงเป็นเทพเจ้า ทั้งยังจะลากหนูและอันหนานไปขอโทษนังตัวดีให้ได้ และที่หน้าโมโหยิ่งไปกว่าคือนังตัวดีที่ใช้ความอ่อนแอของคุณหญิงหลิน เรียกร้องให้เขาไล่หนูออกจากบ้านตระกูลหลิน ชั่วชีวิตนี้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับอันหนานได้อีก”
“อะไรนะ?” ซูวยาหยงกระโดดขึ้นจากโซฟา
ไป๋ยิ่งอันเอามือเช็ดน้ำตา “แม่ ตอนนี้หนูสูญเสียคุณผู้หญิงและอกหักแล้ว ทำให้นังสารเลวคนนั้นสาสมใจแล้ว”
“งั้น……คุณหญิงหลินว่ายังไง?”
“หนูฟังจากที่อันหนานบอก เธอกำลังโน้มน้าวใจให้อันหนานยกเลิกการหมั้นกับหนู” ไป๋ยิ่งอันจับข้อมือของซูวยาหยง น้ำตาไหลราวกับสายฝน “แม่ ทำยังไงดี สูญเสียหนานกงเฉินก็โชคร้ายมากแล้ว ถ้าหากต้องสูญเสียอันหนานอีก หนู……”
“ไม่หรอก ลูกวางใจเถอะ” ซูวยาหยงตบมือเธออย่างปลอบโยน “ลูกลืมแล้วเหรอ แม่เคยพูดว่ายังไง ลูกคือคุณหนูตระกูลไป๋ ที่ไป๋มู่ชิงนังเด็กคนนั้นมีทั้งหมดเป็นของลูก แม่มีวิธีที่จะทำให้ลูกได้ทุกอยากคืนกลับมา”
“จริงเหรอคะ?”
ซูวยาหยงพยักหน้า “เขากล้าที่จะแยกลูกกับอันหนาน งั้นแม่ก็จะให้เขาคืนหนานกงเฉินให้กับลูก คอยดูให้ดีเถอะ”
แม้ว่าซูวยาหยงจะพูดอย่างมั่นใจ แต่ว่าไป๋ยิ่งอันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
ซูวยาหยงมองน้ำตาของเธอที่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโมโห “ลูกก็ด้วย ตอนแรกทุกอย่างมันก็ปกติดีอยู่แล้ว ลูกก็เอาแต่ยั่วยุเขาเล่น ทำให้เขามีโอกาสตอบโต้กลับแบบนี้
“ใครจะไปคิดว่าคุณหญิงหลินจะเป็นคนตระกูลหนานกงล่ะ” ไปยิ่งอันไม่สำนึกผิด
“พอแล้ว ตอนนี้ลูกก็อย่าเพิ่งไปยั่วยุเขา ใช้ความคิดสักหน่อย โน้มน้าวใจคุณหญิงหลินให้กำหนดเรื่องการแต่งงานให้แน่นนอนเสียก่อนค่อยว่ากัน”
ไป๋ยิ่งอันพยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก จากนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธ “ไป๋มู่ชิง! เธออย่าเพิ่งลำพองใจเร็วเกินไป ฉันจะต้องให้เธอชดใช้”
ตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยพ่ายแพ้ต่อหน้าเขาขนาดนี้ ครั้งนี้ก็แพ้ไม่ได้เช่นกัน!
ในกลางคืน ไป๋มู่ชิงก็ฝันเช่นนั้นอีก ใบหน้าที่ซีดขาวของหญิงสาวกำลังกวักมือเรียกเธอ ขอร้องให้เธอนำแหวนไปคืน
เธอพยายามดึงแหวนออก แต่ก็ถอดไม่ออก
หญิงสาวชุดขาวสีหน้าน่ากลัว กระโจนเข้ามาอย่างรุนแรงมือหนึ่งจับข้อมือขอเธอ มือหนึ่งพยายามดึงแหวนออกจากนิ้วนางของเธออย่างเต็มที
“ช่วยด้วย – -!” เธอกรีดร้อง แล้วลืมตาขึ้นทันที
หลังจากนั้น เธอก็มองเห็นเซิ่งซินในชุดกระโปรงสีขางกำลังนั่งอยู่บนขอบเตียงของเธอ มือนึงก็ยังจับที่ข้อมือของเธอ
เหงื่อไหลพลักมาจากหน้าผากของเธอ แท้จริงแล้วเป็น เซิ่งซิน!
เซิ่งทำให้เธอตกใจเล็กน้อย แต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มอ่อนในทันที “พี่สะใภ้ ตื่นแล้วหรอ?”
“เธอ……” ไป๋มู่ชิงก้มมองไปที่มือเล็ก ๆ ของเธอที่จับข้อมือของเธอ เซิ่งซินปล่อยเธอ แล้วพูดว่า “ท่านยายให้ฉันมาเรียกพี่ลงไปทานอาหารเช้า พี่เป็นอะไรเหรอ? ฝันร้ายหรอ?”
ไป๋มู่ชิงพยักหน้า ใช่สิ ฉันฝันร้ายอีกแล้ว ฝันเห็นมือของตัวเองเต็มไปด้วยเลือด อาจเป็นเพราะเมื่อวานตอนเช้าเห็นเลือดในห้องโถงของบรรพบุรุษ เธอก็รู้ว่าเมื่อเธอกลับมาก็คงจะฝันร้ายอีกครั้ง
เธอสังเกตเซิ่งซินอีกครั้ง ค่อยๆกลืนน้ำลาย “ขอบคุณมาก ฉันจะไปทันที”
“ได้ งั้นฉันลงไปก่อน” เซิ่งซินลุกขึ้นจากของเตียงของเธอ แล้วก็ออกไปจากห้องนอน

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset