บทที่ 9 ดูว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง
เมื่อลี่เฉินซีกลับถึงบริษัท ประตูที่ปิดดีแล้วกลับปิดไม่สนิท หรี่ตาลง
ยื่นมือผลักประตูออก ได้ยินผู้หญิงนั่งอยู่บนโซฟาพูดคุยกัน รีบหันศีรษะมองไปทางประตู เมื่อเห็น ลี่เฉินซี นัยน์ตาสีดำของเธอพลันสว่างขึ้น
“เฉินซี เมื่อคืนคุณดื่มเยอะเกินหรือเปล่า?”
หานฉ่ายหลิง ลุกขึ้นมา ใบหน้าที่แต่งหน้าสวยงาม ผมยาวราวกับน้ำตกที่กระจายแบบสบาย ๆ Givenchyรุ่นใหม่ทั้งตัว เผยให้เห็นถึงรูปร่างที่โค้งเว้า
ในความเซ็กซี่และร้อนแรง แต่รูปโฉมนั้นงดงามสง่ามาก
“ยังดี” ลี่เฉินซีเสียงต่ำ เดินผ่านเธอไปตรงไปที่โต๊ะทำงานและวางเอกสารที่อยู่ในมือลง
หานฉ่ายหลิงมองเขา “ต่อไปนี้ดื่มน้อยหน่อย ไม่งั้นจะไม่ดีต่อร่างกาย!”
เขามองเธอ ในสายตาที่เยือกเย็นไม่มีอะไรเปลี่ยน ทันใดนั้นก็เปิดปากพูด “ครั้งนี้คุณตั้งใจจะอยู่นานแค่ไหน?”
หานฉ่ายหลิงคิดๆแล้ว “ไม่รู้นะ น่าจะไม่ไปแล้วหล่ะ!”
ลี่เฉินซีหันมอง มองด้วยสายตาที่เยือกเย็น
หานฉ่ายหลิงเห็นเอกสารในมือเขา นัยน์ตาดำหันมามอง แล้วพูดอีกว่า “ช่วงนี้ยุ่งมากใช่ไหม? ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ บริษัทลี่ซื่อก็จะวางตลาดแล้ว!”
“อืม!”
เสียงต่ำหนึ่งต่ำ เด็ดขาดเยือกเย็น ยากที่จะคาดเดาได้
หานฉ่ายหลิงยิ้มเล็กน้อย ในแววตาแฝงไปด้วยความสงบ
“งั้นไม่ควรคุณแล้ว ฉันกลับก่อนหล่ะ ไว้ค่อยติดต่อ!”
พูดแล้วก็หันตัวออกไป
เดินไปไม่กี่ก้าว ร่างกาย หานฉ่ายหลิงก็เซลง แทบจะล้มลงไป
หานฉ่ายหลิง ยังคงเดินต่อไปโดยไม่หยุด แต่ก้าวของเขาก็อ่อนแรงเล็กน้อย หลังจากที่เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ถูกผู้ชายที่อยู่ข้างหลังดึงแขนไว้ และตกลงไปในอ้อมแขนของเขา
ทันทีที่เขาสัมผัสผิวของเธออุณหภูมิที่ร้อนระอุทำให้ฝ่ามือของเขาร้อน!
ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นมาวางที่หน้าผากเธอ “คุณเป็นไข้?”
“อืม ไม่เป็นไร เป็นหวัดนิดหน่อย! คุณไปยุ่งเถอะ ฉันกลับไปกินยาหน่อยก็ดีขึ้น!” หานฉ่ายหลิงพูดแต่ร่างกายที่อ่อนแรงกลับสั่นเล็กน้อย
แม้แต่ยืนยังยืนไม่มั่นคง โชคดีที่ ลี่เฉินซีประคองไว้ ไม่งั้นคงล้มลงไป
“ฉันไม่เป็นอะไร!” ยังปากแข็ง ขณะเดียวกันก็ผลักมือเขาออก “ฉันกลับก่อนหล่ะ….”
แม้ปากจะพูดอย่างนั้น แต่ร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถหนีออกจากอ้อมกอดเขาได้ “เฉินซี ฉัน…”
“ผมพาคุณไปโรงพยาบาล!”
ลี่เฉินซีช้อนเอวขึ้นมา อุ้มท่าเจ้าหญิง แล้วรีบลงตึกไป
นอกห้องประตูฉุกเฉินของโรงพยาบาล ลี่เฉินซีบอกกับแพทย์เป็นที่เข้ารับการรักษาโดยเฉพาะว่า “ ร่างกายเธอแพ้ แพ้พวกยาฆ่าเชื้อหวัดทั่วไป!”
“รับทราบ ประธานลี่”
จ้องมองประตูห้องฉุกเฉินที่ปิดสนิทแล้ว ลี่เฉินซี ยืนพิงผนังทางเดินอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นไม่สามารถคาดเดาได้
พิงกำลังแพงอยู่อย่างนั้น เหมือนรูปปั้นที่แกะสลักอย่างสวยงามมาก
ที่มุมบันไดไม่ไกลนัก ซูย้าว ยืนอยู่ที่นี่ จ้องมองเขาด้วยดวงตาที่สวยงาม
เดิมเธอกำลังเดินเล่นที่ระเบียง แต่เธอไม่เคยเจอฉากนี้เลย ดูเขาอุ้ม หานฉ่ายหลิง เข้าโรงพยาบาล ด้วยท่าทางที่ร้อนใจกระวนกระวายชัดเจนมาก
ในขณะนั้นหัวใจของ ซูย้าว ดูเหมือนถูกอะไรมาปิดกั้นไว้ ค่อยๆเจ็บปวดขึ้นมา
หลังจากรักษา หานฉ่ายหลิงเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ถูกย้ายไปที่ห้องผู้ป่วย VIP เพื่อให้สายน้ำเกลือ เนื่องจากมีไข้สูงเธอจึงต้องพักอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาสองวัน
ลี่เฉินซีอยู่เป็นเพื่อนข้างๆเตียง เธอพิงอยู่บนหมอน แก้มขาวๆแววตาที่งดงาม “โชคดีที่มีคุณ แต่ว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว!”
ตอนที่ซูย้าวขึ้นตึก บังเอิญผ่านห้องพักผู้ป่วยของ หานฉ่ายหลิง
ประตูห้องที่เปิดออกเพียงครึ่งเดียว ทำให้มองเห็นฉากในห้อง เมื่อมองจากมุมมองของเธอ เธอก็เห็นโครงร่างที่แข็งแรงของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อยแฝงอยู่อย่างนุ่มนวล แม้แต่ดวงตาที่ลึกล้ำก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ซูย้าวลดสายตาลง ขนตาที่เรียวยาวคลุมปิดความคิดในสิ่งที่เห็น
ไม่กล้ามองไปมากกว่านี้ รีบก้าวเท้าเดิม รีบกลับเข้าไปห้องผู้ป่วย
เพราะเธอเดินเร็วเกินไป ทำให้ไม่ได้ยินเสียงที่คุยในห้องพักผู้ป่วย ในตอนที่ลี่เฉินซีพูดประโยคนั้นว่า “พักผ่อนดีๆ ผมกลับบริษัทแล้ว!”
หัวใจของเธอดิ่งลง แต่เธอยังพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่แข็งแกร่ง มองดูชายคนนั้นจากไป ดวงตาของเธอลดลงด้วยความสับสน
ข้างๆห้องพักผู้ป่วย ซูย้าวยืนรับลมอยู่คนเดียวที่นอกระเบียง ลูบที่ท้องน้อย ด้วยสายตาที่เย็นชา
เธอก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร คิดจนเคลิ้มจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร่างสูงใหญ่ข้างหลังเดินตรงมาหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จนจู่ๆเขาก็พูดขึ้นทำให้เธอตกใจ
“ทำไมไม่กินข้าว?” ลี่เฉินซีมองไปบนโต๊ะที่ไม่ถูกปาก คิ้วที่ห่างกันเท่าภูเขาก็ขมวดขึ้นมาติดกัน
ซูย้าวออกมาจากระเบียง มองเขานัยน์ตาที่สวยงามมองต่ำลงมา
“ไม่ชอบกิน?”
ลี่เฉินซีถาม ขณะเดียวกันแขนยาวๆคว้าดึงเธอเข้ามาใกล้ จับมือเล็กๆที่เย็นเฉียบเธอไว้ อุณหภูมิเย็นทำให้เขาตกใจ
ต่อมา ถอดเสื้อสูทของตัวเองออก คลุมไปบนตัวเอง ลมหายใจที่อาจหาญ กลิ่นกายประจำตัวของเขา โชยเต็มลมหายใจของซูย้าว
“รออยู่โรงพยาบาลดีๆ ถ้าลูกผมเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น ซูย้าว คอยดูผมจะจัดการคุณยังไง!”
มือที่ทั้งใหญ่และกว้างขยี้ที่หน้าผากเธอ ไม่ถือว่าใช้แรงเยอะ
ซูย้าว ตกตะลึงและสมองของเธอก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ
ลี่เฉินซีพลิกตัว พอดีกับที่พี่เลี้ยงเข้ามา เขาพูดว่า “เอากับข้าวที่เย็นแล้วยกออกไป เปลี่ยนรสชาติที่ถูกปากมาให้ คุณนายใหม่ด้วย!”
“ค่ะ คุณชาย!”
ซูย้าวอยู่ภายใต้การคำแนะนำและเฝ้าดูของพี่เลี้ยง ฝืนกินข้าวชามใหญ่ น่าจะเป็นเพราะถึงช่วงไตรมาสระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ความอยากอาหารเลยลดลง แทบจะไม่มีความอยากอาหารเลย
กินอิ่มแล้ว พี่เลี้ยงเด็กเก็บกวาดฝั่งนั้น ให้เธอออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายหน่อยดีต่อเด็กในท้อง
ซูย้าว ก็ทำแบบเดียวกัน เมื่อเขาออกจากประตูไป หานฉ่ายหลิง ก็บังเอิญออกมาจากห้องพักผู้ป่วยเช่นกัน มองและยิ้มเล็กน้อยให้กับ ซูย้าว และพูดว่า “คุณเป็นภรรยาของ เฉินซี คุณซูย้าว ใช่ไหม?”
ซูย้าวตาค้าง หันไปมองตามเสียง ปะทะสายตาเข้ากับ หานฉ่ายหลิง
“ดีใจที่ได้เจอเธอนะ!”
หานฉ่ายหลิงมองเธอ แล้วหันมาพูดว่า “ออกไปเดินเล่นไหม? ไม่งั้นพวกเราไปด้วยกัน?”ซูย้าวประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ไม่รอปฏิกิริยา ฝ่ายตรงข้ามก็พูดขึ้น “ไม่ต้องเข้าใจผิดแล้ว ฉันกับ เฉินซีเป็นแค่เพื่อนทั่วไป ไม่ใช่อย่างที่ คุณซูคิด!”