บทที่ 104 ซูย้าวคุณโหดมาก
ประโยคเดียว ‘หย่ากับเขา แล้วมาแต่งงานกับผม’สะเทือนจนแก้วหูของซูย้าวเจ็บแล้วจริง ๆ
เพ้ยส้าวอีพูดได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งรอยยิ้มที่เหมือนเป็นป้ายเอกลักษณ์ที่ริมฝีปากก็ยังไม่เคยจางหายไปเลย ท่าทางเหมือนเมฆลมเบาบาง ราวกับว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักยังไงอย่างงั้น
แต่ว่าซูย้าวนั้นชัดเจนดี ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่
สมแล้วที่เป็นเพ้ยส้าวอี ในฐานะที่เป็นศัตรูของลี่เฉินซีมานานหลายปี เขาเข้าใจลึกซึ้งดีว่าบริษัทลี่ซื่อนั้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีรากลึก ไม่สามารถที่จะต่อกรได้ง่าย ๆ แต่ว่าถ้าหากว่าชักจูงซูย้าวเข้ามาร่วมด้วยแล้วจริง ๆ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไปเอง
ซูย้าวสามารถคิดและสร้างโครงการCCUออกมาได้โครงการหนึ่ง คาดว่าต่อไปก็คงจะสามารถสร้างโครงการอื่น ๆ ขึ้นมาให้กับกรุ๊ปเพ้ยซื่อได้
เธอเป็นคนที่หาตัวได้ยากมากในโลกการเงิน และก็เป็นนักซื้อขายทางการเงินที่มีพรสวรรค์สูง เธอสามารถทำให้กิจการหนึ่งที่ใกล้จะล้มละลายสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้ และก็สามารถทำให้เครือบริษัทใหญ่โตบริษัทหนึ่งสามารถละลายหายไปในพริบตาได้
ซูย้าวคนนี้ที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่มีคุณสมบัติพิเศษครบถ้วนอย่างที่หญิงสาวแห่งเมืองสายน้ำเจียงหนานเขามีกัน และไม่ได้เป็นคนที่ง่ายดายเหมือนอย่างที่ดูจากภายนอก
เธอผ่านทั้งเรื่องโศกเศร้าและเรื่องดีมาแล้ว ได้เห็นกับตาว่าบิดาของตัวเองต้องโดนยาพิษจนตาย ตัวเองโดนยาพิษจนเป็นใบ้ และมารดาต้องโดนกักขัง
ต้องอดทนกับการทรมานอย่างเจ็บปวดมาเป็นเวลาสิบกว่าปี และต้องกล้ำกลืนฝืนทนเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ใกล้ ๆ กับศัตรู
เธอมีหัวสมองที่ชาญฉลาดอย่างที่คนทั่วไปยากที่จะเข้าใจได้ และยังมีความกล้าเผชิญหน้าและความกล้าหาญเกินกว่าคนทั่วไป ความคิดก็ลึกซึ้งและซับซ้อน
ทั้งหมดของทั้งหมดนี้ เพ้ยส้าวอีรับรู้และแยกแยะได้อย่างชัดเจนดีจากอีกข้างหนึ่ง เพราะฉะนั้น ผู้หญิงคนนี้ เขาจะไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปแน่!
แต่ว่าพอมองดูเขา ซูย้าวก็แค่หัวเราะเยาะขึ้นจาง ๆ แล้วก็วาดภาษามือขึ้นอีกครั้ง “ประธานเพ้ยมองฉันสูงเกินไปแล้ว ยังไม่พูดว่าฉันยังไม่ได้หย่า และถึงแม้ว่าฉันจะหย่าแล้วจริง ๆ ก็เป็นแม่หม้ายสาวคนหนึ่ง แล้วจากเงื่อนไขของประธานเพ้ย ไม่มีความจำเป็นจะต้องลดเกียรติลดศักดิ์ศรีลงมาหรอก”
ดวงตาที่ลึกซึ้งของเพ้ยส้าวอีหรี่ตาขึ้นเล็กน้อย และเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วจ้องมองเธอจากที่สูงลงต่ำ อยู่ในระยะที่ใกล้กันจนสามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายของซึ่งกันและกันเกี่ยวพันกันอยู่
บางเบา อ่อนโยนและสวยงาม
แต่กลับไม่มีความรู้สึกครุมเครือใด ๆ กระเพื่อมขึ้นเลย
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่หวั่นไหวกับเธอ แต่ว่าสิ่งที่หวั่นไหวมันกลับไม่ใช่ความรู้สึก
“สามารถได้แต่งงานกับคุณ สำหรับผมแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการลดเกียรติลดศักดิ์ศรีเลย แต่กลับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง!”
น้ำเสียงตัวอักษรของเขานั้นเบาบาง แต่กลับเอ่ยตัวอักษรออกมาอย่างหนักแน่น
สามารถมองออกได้ว่า เพ้ยส้าวอีนั้นจริงจังมาก
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดประโยคนี้ หรือว่าอยากจะแข่งขันกับบริษัทลี่ซื่อ
ซูย้าวกลับถอยหลังไปเล็กน้อย และแยกระยะห่างออกจากเขาสักหน่อย แล้วใช้ภาษามือพูดขึ้นว่า “ที่คุณอยากจะแต่งงานกับฉัน ก็แค่อยากจะให้ฉันมาสร้างผลประโยชน์และทำมูลค่าเพิ่มให้กับกรุ๊ปเพ้ยซื่อ แต่ว่าประธานเพ้ย สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลดีกับคุณทั้งนั้น แล้วกับฉันล่ะ?”
พูดไปแล้ว ว่าเธอนั้นฉลาดมาก
ปกติ ก็แค่ไม่ต้องการที่จะใช้ความคิดกับลี่เฉินซีเท่านั้น ในเมื่อนั่นเป็นการเผชิญหน้ากับคนที่รักที่สุด สิ่งเดียวที่เธออยากจะทำก็คือ ทุ่มเทแรงกายแรงใจไปดูแลและปกป้องเท่านั้น
แต่ว่าไม่ใช่มาคิดใช้แผนการจนหมดสมอง
เพ้ยส้าวอีคลี่ริมฝีปากยิ้มเย็นขึ้น “ผลดีของคุณ ก็คือผมสามารถช่วยคุณล้มล้างบริษัทลี่ซื่อได้ไง และให้คุณได้เห็นบริษัทลี่ซื่อล้มละลายกับตาตัวเอง มองดูเขาจบสิ้น เพื่อช่วยให้คุณได้ระบายอารมณ์ แบบนี้เป็นไงล่ะ?”
ซูย้าวก็ยิ้มขึ้นแล้ว ยิ้มอ่อน ๆ อย่างมีมารยาท แล้วก็นั่งลงบนโซฟา ขาทั้งสองข้างไขว้กันไว้อย่างสวยงาม แล้วใช้ภาษามือพูดขึ้นว่า “ถ้าหากว่าฉันอยากจะทำให้บริษัทหนึ่งพังพินาศ ไม่จำเป็นต้องให้คนมาช่วยฉันหรอก ตัวฉันเองคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ว่าบริษัทนั้นจะเป็นของใคร……”
เธอตั้งใจหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง สายตาที่ใช้มองชายหนุ่มค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น ในชั่ววินาทีหนึ่งที่มีแสงเยือกเย็นสาดผ่าน ภาษามือก็เริ่มต่อขึ้นมาอีกครั้ง “จะเป็นบริษัทลี่ซื่อก็ดี หรือว่ากรุ๊ปเพ้ยซื่อก็ช่าง”
สามารถพูดคำพูดนี้ออกมาได้นั้น คาดว่าในใจของซูย้าว คงจะมีความเชื่อมั่นที่แน่วแน่มานานแล้ว
เพ้ยส้าวอีอยากจะควบคุมเธอ ให้มาเป็นหมากตัวหนึ่งในมือ อยากจะใช้เธอให้มาเป็นมีดคมเล่มหนึ่งที่ไปทิ่มแทงใจลี่เฉินซี แล้วนี่มันจะเป็นไปได้ยังไง!
คิดว่าซูย้าวจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเหรอ? อย่าฝันไปเลย!
“งั้นคุณรู้สึกว่า ที่ของผมนี้มีอะไรที่คุณต้องการบ้างไหม?” เพ้ยส้าวอีเปลี่ยนมาเป็นอีกวิธีหนึ่ง
ซูย้าวขมวดคิ้วขึ้นทีหนึ่ง ท่าทางเหมือนกับว่าตั้งใจครุ่นคิดไปไม่กี่วินาที ถึงได้ใช้ภาษามือวาดท่าทางขึ้นว่า “ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่มีอะไรที่อยากจะได้จากที่ของประธานเพ้ยเลย”
เพ้ยส้าวอีถอนหายใจขึ้นทีหนึ่ง การสื่อสารกับผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงความพ่ายแพ้ขึ้นเล็กน้อย
เขาหมุนตัวไป และก้าวเดินไปที่ตู้เก็บเหล้า แล้วรินวิสกี้ให้ตัวเองแก้วหนึ่ง พอดื่มไปคำหนึ่งแล้วถึงพูดขึ้นว่า “งั้นผมช่วยคุณซูปกปิดความลับไว้ เป็นไง?”
นี่ก็คือเงื่อนไขเหรอ?!
รอยยิ้มที่บางเบาของซูย้าว แฝงไว้ด้วยความดูถูกเล็กน้อย แล้วก็ใช้ภาษามือพูดขึ้นว่า “เรื่องที่ประธานเพ้ยค้นพบ แล้วคิดว่าเขาจะไม่มีทางค้นพบเหรอ?”
กลัวว่าคงจะเป็นแค่ปัญหาของเวลาล่ะมั้ง!
หรือว่า เป็นแค่ปัญหาของจุดสนใจเท่านั้น
ลี่เฉินซีก็หลักแหลมมาก หัวสมองที่ชาญฉลาดทำให้เขาได้ขึ้นไปอยู่ถึงอันดับหนึ่งในศึกธุรกิจครั้งแล้วครั้งเล่า เข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีทางพ่ายแพ้ จนทำให้บริษัทลี่ซื่อสามารถกลายเป็นแกนกลางของโลกธุรกิจไปได้ และตำแหน่งก็มั่นคงไม่มีอะไรมาล้มล้างได้
คนที่สามารถทำทุกอย่างแบบนี้ขึ้นมาได้ จะเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีความทะเยอทะยานได้เหรอ?
ซูย้าวยังคงใช้ภาษามือพูดต่อไปว่า “ถึงแม้ว่าประธานเพ้ยจะเปิดเผยความลับที่ฉันคือคุณ Sแล้ว ก็ไม่เป็นไร นี่ไม่ใช่ข่าวเสียหายอะไร ก็แค่จะมีสื่อซุบซิบมากขึ้นมาอีกหน่อยหนึ่งเท่านั้น ”
เพ้ยส้าวอีนิ่งอึ้งไป สายตาที่อ่อนไหวและแหลมคมตรึงอยู่ที่ใบหน้าของเธอ ไม่เคยโดนผู้หญิงทำให้ตกที่นั่งลำบากมาก่อน นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกของชีวิตเลย
แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเล็กน้อย
เพียงแต่ว่าสายตาที่ลึกซึ้งจ้องมองเธอเขม็งอยู่ สายตามองไปมองมา วนไปซ้ำ ๆ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่อยากจะคิดเลยจริง ๆ
“ซูย้าว คุณอยากจะได้อะไร? บริษัทซูซื่อ? หรือว่าบริษัทลี่ซื่อ? หรือว่า……”
เพ้ยส้าวอีเงียบขรึมลง หลังจากที่ความคิดขัดแย้งกันไปครู่หนึ่ง สายตาก็มองมาที่เธออีกครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นขรึมขึ้นว่า“อย่าบอกผมนะว่า สิ่งที่คุณทำมาทั้งหมด ก็เพื่อคนคนนั้นคนเดียว!”
เพื่อให้ได้คนคนหนึ่งมา ถึงขนาดต้องขุดเอาความคิดออกมาจนหมด และต้องใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อมาวางแผนระยะยาว
ซูย้าวจะเป็นแบบนี้ไหมนะ?
เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินเขาพูดจนหมดแล้ว เธอก็ยิ้มเย็นขึ้นอย่างควบคุมไว้ไม่อยู่ และส่ายหน้า แล้วใช้ภาษามือพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น คุณเข้าใจผิดแล้ว”
“งั้นคุณต้องการอะไร?” เพ้ยส้าวอีลองคาดเดาความในใจของเธอ แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนกับพุ่งเข้าสู่หุบเหวที่ลึกมาก ไม่ว่าจะลองคาดเดายังไง ก็เข้าใจได้ยาก
ซูย้าวมองลูกชายที่เล่นของเล่นอยู่ข้างกาย รอยยิ้มราบเรียบ แล้วใช้ภาษามือพูดขึ้นอีกว่า “ไม่ว่าฉันจะต้องการอะไร คุณก็ให้ฉันไม่ได้หรอก ประธานเพ้ย หยุดแค่ตรงนี้เถอะ!”
“…….”
เขาจำได้ว่าเคยมีคนพูดไว้ว่า คนที่ไม่กลัวอะไรเลย ถึงจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด เพราะฉะนั้นตัวเขาขอแค่ในใจมีเป้าหมายหนึ่งอย่าง แล้วเพื่อที่จะทำให้มันเป็นจริง เขาสามารถไม่สนใจวิธีการ สามารถสละได้ทุกอย่าง ถึงแม้ว่าจะเป็นญาติสนิท ก็สามารถละทิ้งได้อย่างไม่ลังเลสักนิด!
แต่ว่าพอมาถึงวันนี้ เขาได้พบเจอกับผู้หญิงที่แปลกประหลาดคนหนึ่ง คนที่แววตาใสสะอาด จิตใจบริสุทธิ์ แต่ในอกกลับเต็มไปด้วยแผนการ เป็นผู้หญิงที่คาดการณ์ได้ยากมากคนหนึ่ง
เขาจ้องมองซูย้าว ความมีเหตุมีผลที่แข็งแกร่งแบบนั้น พอมาอยู่ภายใต้การควบคุมของความสงสัย และคอยโจมตีไม่หยุด จนในที่สุดก็พังทลายลงมาทั้งหมด
ซูย้าวกลับไม่อยากให้โอกาสเขาหาเหตุผลใด ๆ เพียงแต่แค่อุ้มเจิ้งเอ๋อขึ้นมา และจับแก้มที่อ่อนนุ่มของเขาเล็กน้อย แล้วเอาของเล่นปืนออกมาจากมือของเขา และส่ายหน้ากับเขา จากนั้นก็เอาเก็บใส่เข้าไปในกระเป๋า
อุ้มลูกชายขึ้นมา แล้วซูย้าวก็ยิ้มอ่อน ๆ ให้กับเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองจะต้องบอกลาแล้ว
แต่ว่าก่อนที่จะจากไปนั้น เธอยังอยากจะกำชับอะไรสักหน่อย เพราะฉะนั้นจึงใช้ภาษามือพูดขึ้นอีกประโยคหนางว่า “ประธานเพ้ย อยู่บนโลกธุรกิจ คุณสู้เขาไม่ไหว แล้วแผนการและความกล้าหาญคุณก็สู้ฉันไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าในใจคุณจะคิดการณ์อะไรไว้ ก็ยกเลิกให้หมดเถอะ! จุดจบได้กำหนดไว้แล้ว ไม่มีความหมายอะไรแล้ว”
“……”
เพ้ยส้าวอีนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้ววินาทีต่อไปก็ยิ้มเย็นติดต่อกันขึ้นมา
จ้องมองร่างกายที่มุ่งจะออกไปข้างนอกของซูย้าว แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาประโยคหนึ่ง “นี่สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของลี่เฉินซีจริง ๆ ซูย้าว คุณโหดมาก!”
“แต่ว่า ไม่ว่าคนที่โหดมากแค่ไหนก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ดี และคุณอาจจะไม่ได้สังเกต จุดอ่อนของคุณมีเยอะมากซะด้วย อย่างเช่น……แม่ของคุณ!”
พอคำพูดสองสามประโยคจบลง เท้าของซูย้าวก็หยุดลงทันที