เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 183 จะมาไปด้วยกันกับฉันไหม

บทที่183 จะมาไปด้วยกันกับฉันไหม

อัลตราซาวนด์Bแบบง่ายๆไปแล้ว แต่โอวหยางเช่อก็เกรงว่าลี่เฉินซีจะสงสัย หลังจากทำความเข้าใจสถานการณ์จริงแล้ว ก็จัดให้ซูย้าวตามคุณหมอผู้หญิงไปยังห้องข้างๆ

ส่วนตัวเองก็อยู่เป็นเพื่อนคุยกับลี่เฉินซี เพื่อยืดเวลา

“เพื่อนเก่า วันนี้เห็นนายอุ้มสะใภ้มา ท่าทางโจ่งแจ้งขนาดนั้น รอบด้านไม่มีนักข่าวเหรอ!” โอวหยางเช่อพูดจาคมคาย สายตายิ่งเฉียบคม

ลี่เฉินซีตาเป็นประกายขึ้นมาทันที หันไปมองเขา “นายหมายความว่ายังไง ?”

“ก็ ตอนแรกนายกับซูย้าวแต่งงานกันอย่างรีบร้อน ขนาดงานแต่งก็ไม่ทันได้จัด หลายปีมานี้ นายกับเธอดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีแต่แท้จริงกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น แสร้งแสดงละคร ในแวดวงนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร!”

ชาติตระกูลของโอวหยางเช่อไม่ได้ต่ำต้อย เกิดในตระกูลนายแพทย์ เบื้องหลังยังมีธุรกิจขนาดใหญ่ของครอบครัวคอยหนุนหลังอยู่ แล้วเขายังเป็นลูกชายผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของบ้าน น่าเสียดายที่เขารักในการเรียนหมอ แถมยังนิสัยเอาแต่ใจ ไม่ได้สนใจธุรกิจของทางบ้านเท่านั้นเอง

แล้วทั้งสองคนยังเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาหลายปี ปกติเวลาคุยกัน ก็เลยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

เพียงแต่พอพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ไม่ว่าอย่างไรลี่เฉินซีก็ฟังแล้วไม่สบอารมณ์ คิ้วเลยยิ่งขมวดกันแน่นกว่าเดิม แล้วพูดเสียงเรียบว่า “อย่าเอาแต่ฟังข่าวลือซุบซิบจากภายนอก! มีแต่เรื่องไร้สาระ!”

“เหรอ ? ถ้าพูดแบบนี้ แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกับซูย้าว ดีมากเลยงั้นสิ ?” โอวหยางเช่อถามกลับไป

ลี่เฉินซีจ้องมองเขา “ความสัมพันธ์ของฉันกับเธอจะดีหรือร้าย แล้วนายจะถามละเอียดไปทำไม ?”

“จะทำไมอีกล่ะ ? ก็แค่ถามเพราะรู้สึกเบื่อเท่านั้นแหละ !” โอวหยางเช่อยักไหล่ แล้วพิงเก้าอี้ตัวเองด้วยท่าทางสบายๆ ท่วงท่าเผยถึงความเกียจคร้าน

ลี่เฉินซีนั่งอยู่กับที่ แต่ในใจกลับไม่สงบเอาเสียเลย รู้สึกเหมือนว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

แล้วจู่ๆก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เขาเลยถามอีกประโยคว่า “ใช่แล้ว ซูย้าวมารักษาคอกับนายอยู่ตลอด ทำไมถึงไม่เห็นผลเลย? คอของเธอ รักษาได้หรือไม่ได้กันแน่ ?”

“คำถามนี้ถามเสีย!” โอวหยางเช่อยิ้มบางๆ แล้วพูดอีกว่า “อยากจะรักษา มันก็ง่ายไม่ใช่หรือ ?”

จากนั้น เพื่อที่โอวหยางเช่อจะได้ยืดเวลา และเพื่ออธิบายให้ชัดเจน เลยดึงข้อมูลคนไข้ออกมาจากคอมพิวเตอร์ แล้วหมุนหน้าจอ ไปให้ลี่เฉินซีดู “วิธีที่ยากที่สุดและง่ายที่สุด ก็คือผ่าตัด ผ่าตัดเส้นเสียงกับลำคอของเธอออก แล้วใส่เครื่องเสียงเข้าไป ต่อไปในอนาคตยังไงก็ต้องพูดได้ แถมยังสามารถโหลดภาษาเข้าไปได้อีกเป็นร้อย”

หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วโอวหยางเช่อก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ “ต่อไปก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นล่ามได้เลย รับรองว่าได้ทุกภาษา เชี่ยวชาญทุกอย่าง”

“……”

สีหน้าของลี่เฉินซีหมองลง

นี่มันวิธีอะไรกัน เห็นผู้หญิงของเขาเป็นอะไร ? หุ่นยนต์หรือ ? ยังจะใส่เครื่องเสียงเข้าไปอีก

และมองความเปลี่ยนแปลงของสีหน้าลี่เฉินซีออก เขาก็เลยพูดอีกว่า “ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็มีวิธีรักษาแบบอื่นอีก การผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อที่เป็นต้นตอของโรคในลำคอออก รวมถึงเนื้องอกขนาดเล็กที่เป็นส่วนดี จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลา แต่สามารถรักษาเส้นเสียงได้แน่นอน”

“ต้นตอของโรค ? ยังมีเนื้องอกอีก ?” เหมือนว่าลี่เฉินซีเพิ่งจะเคยฟังเรื่องพวกนี้เป็นครั้งแรก

โอวหยางเช่อพูดว่า “ฉันได้ตรวจสอบเธออย่างละเอียดมานานแล้ว ลำคอของเธอไม่สามารถเปล่งเสียง สาเหตุที่ตรงที่สุด คือความเสียหายจากการกัดกร่อนของสารพิษ เป็นเวลาหลายปี ทำให้เกิดโรคเนื้อเยื่อ เนื้องอกเติบโต ไปทับเส้นเสียง”

มีการกัดกร่อนจากสารพิษ ?

หรือก็คือ ตอนที่เธอยังเด็กถูกคนวางยาจนเป็นใบ้!

ลี่เฉินซีมองดูข้อมูลคนไข้ของซูย้าวในหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงสว่างในดวงตาก็หมองลง ในขณะที่ลุกขึ้น ก็พูดอีกประโยคว่า “นายส่งข้อมูลอาการป่วยของเธอมาที่อีเมลของฉันด้วย”

โอวหยางเช่อพยักหน้าตอบรับ

ภายในห้องตรวจสอบที่อยู่ข้างๆ คุณหมอหญิงช่วยซูย้าวทำอัลตราซาวนด์Bแบบครอบคลุม ถึงแม้ขณะนี้จะยังดูไม่ออกว่าลูกในครรภ์มีความผิดปกติ แต่ก็ยังกังวล เลยช่วยล้างกระเพาะให้เธออีกครั้ง เพื่อกำจัดสารของยาที่อยู่ในกระเพาะจนหมด

เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีความเสี่ยงอีก

พอทำทุกอย่างหมดแล้ว กระเพาะของซูย้าวก็ว่างเปล่า การล้างกระเพาะซ้ำๆ ก็ทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบาย แต่พอออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว เธอกลับดูกระปรี้กระเปร่าอย่างน่าประหลาดใจ

อาจจะเป็นเพราะได้รู้ว่าลูกยังปลอดภัยดี หัวใจที่จุกแน่น เลยได้รับการปลดปล่อย

พอกลับถึงบ้านแล้ว ลี่เฉินซีก็ให้แม่บ้านทำโจ๊ก และกับข้าวรสอ่อน รอให้เธอหิวก่อนแล้วค่อยทาน

ดูแลเอาใจใส่อย่างดี ให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นหลายเท่า

ลี่เฉินซียังต้องไปทำงานที่ห้องหนังสือต่อ ซูย้าวพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง แล้ววีแชทหาโม่หว่านหว่านเพื่ออธิบายอย่างละเอียด คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลงไปชั้นล่างเพื่อทำซุปสาคูเองกับมือ

พอทำเสร็จก็ยกซุปสาคูขึ้นไปชั้นบน เคาะประตูห้องหนังสือ แต่ครู่ใหญ่ก็ไม่มีคนตอบรับ แต่ได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากด้านในเบาๆ ซูย้าวก็เลยผลักประตูเข้าไป

หน้าต่างของห้องหนังสือถูกเปิดอยู่ ลมยามค่ำคืนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานยุ่งเหยิง ซูย้าววางซุปสาคูในมือลง แล้วเข้าไปเก็บกวาด เหลือบไปเห็นกำหนดการเดินทางในคอมพิวเตอร์ของเขาโดยบังเอิญ เมื่อมองไปที่คำว่าออสเตรเลียในวันพรุ่งนี้ สายตาก็หยุดค้างไปทันที

เขาจะไปดูงานเหรอ ?

แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก้มหน้าลงเก็บหนังสือสองสามเล่มที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นต่อไป และโดยบังเอิญ ก็พบรูปถ่ายสุดใกล้ชิดที่แทรกอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่ง หลุดร่วงลงมาที่พื้นโดยไม่ตั้งใจ

ภายในรูป หญิงสาวยิ้มอย่างสวยงาม รูปหน้างดงาม สีหน้าสดใส ดูท่าทางคงจะเป็นหานฉ่ายหลิงเมื่อหลายปีก่อน เธอที่หน้าสดในตอนนั้น ช่างดูราวกับชบาบนผืนน้ำจริงๆ สวยหมดจดเลย……

ซูย้าวหลุบตาลงต่ำ จนถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังเก็บรูปถ่ายของเธอไว้ แทรกไว้ในหนังสือที่ใช้อยู่บ่อยๆ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ?

อาลัยอาวรณ์ หรือว่ายังเหลือเยื่อใยอยู่ ?

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ สะกดหัวใจที่ปวดร้าวเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บรูปภาพไว้อย่างเดิม

กำลังเตรียมจะออกไป พอหันหลัง ก็เห็นเขาที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวปกปิดร่างกายอยู่ ดวงตาลุ่มลึกนั่น จับจ้องมาที่ตัวของเธอ……

ซูย้าวใจลอยเล็กน้อย จู่ๆก็เห็นเขาเข้า เลยสะดุ้งตกใจ ก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วก็ชนเข้ากับขอบโต๊ะโดยไม่ระวัง โชคยังดีที่ลี่เฉินซีเดินเข้ามาก้าวหนึ่ง แล้วดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด

ทั้งสองคนผิวกายแนบชิด ตอนนี้เขากำลังเปลือยกายอยู่ เธอจึงรู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและซิกแพคที่เน้นเสน่ห์แบบผู้ชายของเขาได้อย่างชัดเจน ลายเส้นสะอาดหมดจด ปรากฏอยู่ตรงหน้า ซูย้าวอดใจสั่นหวั่นไหวไม่ได้ และใบหน้าก็แดงขึ้นมาในชั่วพริบตา

“เห็นอะไรเข้าเหรอ ? ถึงได้ตื่นเต้นขนาดนั้น ?” เขาพูดขึ้นเรียบๆ ดวงตาที่ลุ่มลึกคู่หนึ่ง เมื่อผ่านไอน้ำแล้ว ยิ่งเย้ายวนมากขึ้น ทั่วทั้งร่างมีกลิ่นหอมเบาบางที่แผ่กระจายออกมาหลังการอาบน้ำ และตอนนี้กำลังจับจ้องเธอไม่วางตา

ซูย้าวอึดอัดเล็กน้อย กลืนน้ำลายลงคอ แล้วหันหน้าไปอีกทาง แต่หัวใจกลับเต้นรัวราวกับลูกกวางน้อย

ลี่เฉินซีกวาดสายตาไปมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองทีหนึ่ง เม้มริมฝีปากล่างของเขาอย่างใจเย็น มองดูเธอที่ใบหน้าแดงระเรื่อ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ฉันจะไปดูงานที่ออสเตรเลีย เดินทางพรุ่งนี้”

เธอพยักหน้า พยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของเขา แต่กลับไม่ได้รับอนุญาต

จากนั้น คางของเธอก็ถูกเขาจับเอาไว้ แววตาเป็นประกายจับจ้องที่ใบหน้าเขา “อยากจะไปด้วยกันกับฉันไหม ?”

ซูย้าวชะงักไปเล็กน้อย สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเขา

นึกถึงทริปฝรั่งเศสครั้งก่อนขึ้นมา ไม่ได้หลงเหลือความทรงจำดีๆอะไรเลย ตรงกันข้ามมันกลับน่ากลัวมากมาย เธอเลยรีบส่ายหน้า

แต่ลี่เฉินซีกลับหัวเราะออกมา

“ไม่อยากไปเหรอ ?” น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ

เธอก้มหน้าลงต่ำ แต่ก็กังวลว่าเขาจะคิดมาก เลยใช้ภาษามืออธิบาย “เจิ้งเอ๋อยังเด็ก ฉันไม่อยากจากลูกไปนาน อีกอย่างคุณไปออสเตรเลียก็เพราะมีงานต้องทำ ฉันไปก็ไม่เหมาะสม”

อธิบายได้ค่อนข้างสมเหตุสมผล ลี่เฉินซีเองก็ไม่ได้ฝืนบังคับเธอต่อ รีบปล่อยมือออกทันที แล้วหยิบซุปสาคูที่เธอวางไว้บนโต๊ะก่อนหน้านี้ขึ้นมา ยกขึ้นมาดื่มคำหนึ่ง “รสชาติไม่เลว”

เธอยิ้มบางๆ แล้วก็เบี่ยงตัวเดินออกมาจากห้องหนังสือ

ลี่เฉินซีไปดูงานที่ออสเตรเลีย จะต้องไปสักสิบวันหรือครึ่งเดือนเป็นแน่ ช่วงนี้ เธอจะได้ดูแลครรภ์ดีๆ รอเขากลับมา ก็คงประมาณสามเดือนพอดี ให้ทารกในครรภ์ก็เริ่มทรงตัวก่อน แล้วค่อยบอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset