บทที่ 190 ยังก่อเรื่องไม่พอใช่ไหม
เวลาตอนนี้สี่ทุ่มกว่า ลี่เฉินซีขับรถเตร่อยู่ตามลำพัง โทรศัพท์โดนหานฉ่ายหลิงตัดสายไปแล้ว แต่น้ำเสียงและเสียงของเธอ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอยู่ลางๆ
ไม่เกิดเรื่องกับเธอก็ดี
ด้วยความบังเอิญ เขาเห็นชิงช้าสวรรค์สูงๆที่อยู่ไกลๆ ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ไม่ถึงกับเจิดจ้า แต่กลับสะดุดตาเป็นพิเศษ
ในทันที ราวกับทำให้เขาเดาได้แล้วว่าหานฉ่ายหลิงอยู่ที่ไหน
หลังจากนั้นยี่สิบกว่านาที ลี่เฉินซีก็มาถึงสวนสนุก เนื่องจากดึกมากแล้ว สวนสนุกจึงปิดไปตั้งนานแล้ว แต่ได้ลองคุยกัน อย่างไรก็ให้เขาได้เข้าไปหาคนก่อน
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน สวนสนุกที่กว้างขวางใหญ่โตผิดปกติ อยากจะตามหาคน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย รปภ.มากมายล้วนแต่กำลังช่วยเหลือ ช่วยตามหา
ในที่สุด เขาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ เห็นถึงเงาดำหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องจำได้ ก็รู้สึกเหมือนเงาคน เดินเข้าไปใกล้ๆแค่มอง ก็เป็นคนที่เขาตามหามาหลายชั่วโมงพอดี
หานฉ่ายหลิงสวมเสื้อผ้าสีเข้ม ยามค่ำคืนที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ไม่ได้สวมเสื้อคลุม เพียงแค่ใส่เสื้อผ้าบางๆเท่านั้น ขดตัวเข้าด้วยกัน กำลังมองทะเลสาบแห่งนั้น กับหิ่งห้อยที่เปล่งแสงระยิบระยับริมทะเลสาบอย่างเงียบๆ แต่ก็ตื่นเต้นสุดๆเลย
เธอรวบรวมจุดสนใจทั้งหมดไปที่ริมทะเลสาบ สนใจอย่างมาก จนไม่รู้ตัวเลยว่า มีคนเดินมาที่ด้านหลัง
ลี่เฉินซีก็ไม่รีบร้อนที่จะรบกวนเธอ แค่ส่งสัญญาณบอกรปภ.พวกนั้นว่าเจอคนแล้ว ให้พวกเขาอย่าเพิ่งรบกวน ส่วนตนเองก็อยู่ข้างๆเป็นเพื่อนเธอเงียบๆ
หานฉ่ายหลิงมองอยู่พักใหญ่ จับจ้องหิ่งห้อยพวกนั้น ภายใต้แสงจันทร์สลัวๆ รอยยิ้มบางๆที่ทำให้เคลิบเคลิ้ม
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน รปภ.ที่รออยู่ไกลๆต่างก็ค่อนข้างรีบร้อนแล้ว ทยอยๆหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลากันไม่หยุด อยากจะเข้าไปเร่ง แต่ก็กังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรอีก
แต่ลี่เฉินซีกลับไม่รีบร้อน ก็อยู่ที่ด้านข้างเป็นเพื่อนเงียบๆ
เวลาผ่านไปทีละนิดๆ หานฉ่ายหลิงรู้สึกได้ถึงเขาแล้ว ค่อยๆหันมา ยื่นมือมาคว้าหิ่งห้อยตัวหนึ่งไว้ในฝ่ามือ แล้วค่อยๆปล่อยออก กำลังมองดูมันบินเข้าไปในฝูง
“ฉันว่าแล้ว คุณต้องหาเจอ” เธอพูดนิ่งๆ น้ำเสียงอ้างว้าง เย็นชาเล็กน้อย บ่นอย่างเศร้าๆ
นี่เองลี่เฉินซีจึงก้าวเข้าไปหา ลู่สายตาลงมองเธอ ถอดเสื้อคลุมของตนเอง แล้วคลุมให้เธอ “ในเมื่อคุณรู้แล้ว คราวหน้าก็เปลี่ยนที่ ผมจะได้หาไม่เจอ”
น้ำเสียงอย่างนี้ เหมือนกับกำลังหลอกล่อเด็กน้อยอย่างนั้น
บางทีเธอในสายตาของเขา ก็เหมือนกับเด็กน้อย ที่เขาสามารถเอ็นดู สามารถตามใจได้ แต่กลับเป็นก้าวเดียวที่สุดท้ายก็ข้ามไปไม่ได้
แล้วก็เป็นก้าวสุดท้าย ที่ทำให้หานฉ่ายหลิงเฝ้ารอคอยอย่างบ้าคลั่ง
หานฉ่ายหลิงที่คลุมด้วยเสื้อของเขา ยังคงนั่งอยู่บนพื้น เงยหน้ามองเขา “เฉินซี พาฉันกลับบ้านได้ไหม?”
เขายิ้มเล็กน้อย ยื่นมือไปดึงเธอขึ้นมา “ได้ เรากลับโรงแรมกัน!”
แค่ไม่กี่คำ ก็แทงเข้ามาจนเจ็บในใจของเธออีกครั้ง
หานฉ่ายหลิงบอกว่า ‘กลับบ้าน’ ไม่ได้หมายถึงโรงแรมชัดๆ
เธอถอนใจอย่างไม่ยินดี ในทันที ก็เบะปากเล็กๆ แล้วหลบออกจากอ้อมอกเขาอย่างรวดเร็ว หมุนตัวกลับไปด้วยความโกรธ “ฉันไม่กลับโรงแรม! เฉินซี ฉันแค่อยากอยู่กับคุณ……”
ยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเขาตัดบท——
“ก่อเรื่องพอหรือยัง?”
หานฉ่ายหลิงชะงักเล็กน้อย ราวกับได้สติกลับมาบ้างแล้ว สติที่ไหลเข้ามา ทำให้ความรู้สึกของเธอแย่ลงจนถึงวินาทีนี้ เธอหันกลับมา “ฉันจะไม่ก่อเรื่องแล้ว แต่คุณต้องรับปากฉันเรื่องหนึ่ง!”
ลี่เฉินซีกำลังมองเธออย่างแฝงไปด้วยความหมาย พูดขึ้น “คุณบอกมาก่อน”
ในใจของเธอถอนใจเล็กน้อย ก็รู้ว่าถ้าตนเองพูดอะไรออกไปตรงๆ เขาต้องไม่ยอมแน่ๆ ไม่งั้น……
“ฉันอยากอยู่เล่นที่สวนสนุกหน่อย แค่ตอนนี้ คุณช่วยฉันทำให้เป็นจริงได้ไหม?” เธอเงยหน้าพูด ดวงตาโตๆที่งดงามเต็มไปด้วยความคาดหวัง ท่าทางใสซื่อว่าง่ายอย่างนั้น ทำให้ปฏิเสธไม่ลงเลย
หานฉ่ายหลิงฉลาดมาก ถ้าตอนนี้พูดอะไรออกไป ไม่เพียงต้องเจอกับคำปฏิเสธ แต่ยังพลาดเป้าหมายของทริปออสเตรเลียครั้งนี้อย่างมากด้วย!
ถอยสักก้าวคงดีกว่า สร้างความทรงจำที่สวยงามกับเขาก่อน ดูสิว่าจะสามารถใช้ความรักเก่าเป็นตัวช่วยได้ไหม หรือว่า……
อย่างที่คิด ลี่เฉินซีมองๆรปภ.พวกนั้นที่รอด้วยความหงุดหงิดอยู่ตั้งนานแล้ว ยังไม่ได้ให้คำตอบเธอ แค่หยิบมือถือออกมา แล้วเดินห่างออกไปคุยโทรศัพท์
คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว ก็เดินกลับมาอีกครั้ง
ยังคงไม่ได้พูดอะไร เพียงจับมือของเธอ รออยู่ที่ด้านนี้สักพัก
รปภ.พวกนั้นทยอยๆกันได้รับโทรศัพท์ บ่นๆกันออกมาเล็กน้อย แล้วก็มีคนวิ่งเหยาะๆเข้ามา ท่าทางนอบน้อม พูดขึ้น “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง เมื่อครู่ผู้จัดการโทรมา บอกว่าตอนนี้สวนสนุกสามารถเปิดเพื่อคุณทั้งสองได้ พวกคุณอยากเล่นอะไร บอกผมได้เลยครับ”
เป็นเช่นนี้ หานฉ่ายหลิงก็ถือว่าพึงพอใจ ปรากฏรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ที่นี่ต่างประเทศ คุณโน้มน้าวคนที่นี่ได้ยังไง ให้เปิดสวนสนุกตอนนี้?” เธอถาม
ลี่เฉินซียิ้มบางๆ อธิบาย “แค่เจอเพื่อนที่ดูแลสวนสนุกนี้โดยบังเอิญ คุยกับเขาเล็กน้อยก็ได้แล้ว”
“บังเอิญจัง” หานฉ่ายหลิงพึมพำ แววตาปรากฏความประหลาดใจและพึงพอใจ
เธอเหมือนกับเด็กน้อย วิ่งไปทั่วสวนสนุกเลย รอยยิ้มที่ร่าเริง ราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน
หานฉ่ายหลิงชี้รถไฟเหาะที่อยู่ไม่ไกล ดึงดันจะลากลี่เฉินซีขึ้นไปให้ได้ เขาเห็นเธอเอาแต่ใจ ก็ไม่อยากขัด
แต่สิบกว่านาทีผ่านไป ร่างกายที่สั่นเทิ้มของหานฉ่ายหลิงแทบจะอ่อนยวบ ต้องให้ลี่เฉินซีประคองกอดเดินลงมา
เธอกลัวความสูง แต่เวลาปกติกลับไม่รู้สึก ก็ชอบกิจกรรมที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้อยู่แล้ว
“ตัวคุณเองกลัวความสูงยังไม่รู้อีกใช่ไหม? จะต้องอวดเก่ง!” เขาเมินเฉยท่าทีของเธอ หยิบน้ำมาจากพนักงานที่ด้านนั้นส่งให้เธอ
หานฉ่ายหลิงดื่มไปหนึ่งอึก สีหน้ายังคงซีดเซียว แต่ปากกลับพูดว่า “เกี่ยวอะไรกันล่ะ? ฉันชอบนี่นา!”
ชั่วพริบตา ราวกับความคิดที่จดจำเอาไว้กลับไปสู่อดีต จำได้ว่าเริ่มแรก ตอนที่ทั้งสองคนนัดกันมาที่สวนสนุกครั้งแรก เธอก็โวยวายจะเล่นรถไฟเหาะให้ได้
หลังจากนั้นเพราะกลัวความสูงจึงตกใจจนร้องออกมาอย่างหวาดกลัว หลบอยู่ในอ้อมกอดของเขาตัวสั่นเทิ้ม
ภาพในอดีตของวันนั้นค่อยๆปรากฏขึ้นจนชัดเจน ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น อยู่ตรงหน้า
ดวงตาเรียวยาวของหานฉ่ายหลิงเป็นประกาย จู่ๆก็ปล่อยเขาออก เดินด้วยขาทั้งคู่ของตนเอง รู้สึกว่าเดินได้แล้ว ก็รีบวิ่งไปที่อื่นๆทันที ยังคงเหมือนเด็กน้อยจริงๆ ไม่สงบเลยสักวินาทีเดียว
แต่เหมือนกับ เขาก็เคย เคยชอบเธอที่พละกำลังเหลือล้นอย่างนี้
เวลาสงบนิ่งราวกับผู้หญิงใสซื่อ เวลาเคลื่อนไหวราวกับกระต่ายวิ่ง
เธอสวมชุดเดรสสีขาว นั่งอยู่บนม้าหมุน รอยยิ้มเปล่งประกายราวกับเด็กน้อยที่บริสุทธิ์จริงใจ ชุดกระโปรงพลิ้วไหวไปตามลม เขากำลังจับจ้องอยู่ ไม่วางตา
ลี่เฉินซีไม่มีแรงที่จะเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเพื่อนเธอขนาดนั้น จึงนั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ด้านข้างตามอำเภอใจ ถือเครื่องดื่มสองขวดเอาไว้ กลิ่นดอกไม้หอมๆลอยอยู่กลางอากาศ ยามค่ำคืนของฤดูใบไม้ร่วง เงียบสงบจนทำให้ยากที่จะลืมเลือน
ม้าหมุนค่อยๆหยุดลงแล้ว ลี่เฉินซีเดินเข้ามาในตอนนี้ ประคองมือของเธอลงมา ทั้งสองคนนั่งลงดื่มน้ำ เห็นเธอเหงื่อท่วม เขากลับยิ้มบางๆ “ยังอยากเล่นอีกไหม?”
หานฉ่ายหลิงเอียงหัวมองเขา “เหนื่อยแล้วเหรอ?”
“ประโยคนี้ผมควรจะถามคุณ ไม่เหนื่อยเหรอ?”
ได้ยินเสียงของเขา รู้สึกเหมือนอ่อนเพลียมากอย่างนั้น หานฉ่ายหลิงจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วเอียงตัวพิงลงไปบนไหล่ของเขา “เหนื่อยสิ เหนื่อยจนเดินไม่ไหวแล้ว!”
เห็นๆอยู่ว่าอยากให้เขาอุ้ม แล้วยังต้องพูดจาอ้อมค้อมเช่นนี้อีก
ลี่เฉินซีอมยิ้ม แขนยาวๆจึงอุ้มเธอขึ้นมา ออกจากสวนสนุก ขึ้นรถ แล้วกลับโรงแรมทันที
ระหว่างทาง เธอเหนื่อยไม่ไหวแล้วจึงพิงเบาะหลับตา เห็นเหมือนเธอหลับแล้ว เขาจึงขับช้ามาก ไม่รีบร้อน กลัวว่าจะรบกวนให้เธอตกใจ
จนกระทั่งถึงโรงแรม เธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จึงให้เธอนอนอยู่บนรถ แล้วเขาลงจากรถไปเอาผ้าห่มก่อน
ลี่เฉินซีเพิ่งเดินลงไป หานฉ่ายหลิงก็ลืมตา หยิบมือถือของเขาที่ลืมเอาไว้ เปิดวีแชทของซูย้าว
จ้องมองข้อความบทสนทนาที่อยู่ด้านหน้า ริมฝีปากที่เย็นชา ยิ้มเจ้าเล่ห์