เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 191 จัดการเอาออกเถอะ

บทที่ 191 จัดการเอาออกเถอะ

“คุณมีเรื่องปิดบังผมอยู่ใช่ไหม?”

เมือง A ในประเทศ เวลาสี่โมงกว่าๆ ซูย้าวกำลังอุ้มเจิ้งเอ๋อยืนรับลมเย็นๆอยู่ที่สนามหญ้าด้านหลัง เด็กน้อยกินแตงโมอยู่เต็มปาก แล้วยังทำแตงโมร่วงกระจายเต็มพื้นอีก จนพี่เลี้ยงต้องทำความสะอาดไม่ได้หยุด

ซูย้าวประคองหัวเล็กๆของเขา ส่ายหัวใส่เขา สื่อให้เขาอย่าทำอย่างนี้ ให้กินดีๆ แต่เด็กน้อยเพิ่งจะกี่ขวบ แล้วก็เป็นวัยที่กำลังซุกซน จะเชื่อฟังผู้ใหญ่ได้อย่างไรล่ะ?

เจิ้งเอ๋อหัวเราะคิกคัก แล้วก็ปีนลงมาจากอ้อมกอดของเธอ วิ่งไปอีกด้าน พี่เลี้ยงจึงต้องวิ่งตามหลังไปด้วย เพราะกลัวว่าจะหกล้ม

ส่วนซูย้าวจริงๆคิดจะตามลูกชายไปด้วย แต่จู่ๆมือถือก็สั่นขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู จึงเห็นข้อความวีแชทนี้

ลี่เฉินซีส่งมา

เขาที่อยู่ไกลถึงออสเตรเลีย คงใกล้กลับมาแล้วสินะ อยู่ๆก็ถามขึ้นมา ทำให้ซูย้าวค่อนข้างคิดไม่ถึง

เธอคิดๆแล้ว ตนเองปิดบังอะไรเขา คาดว่านอกจากเรื่องที่ท้องอีกครั้ง ก็เหมือนจะไม่มีเรื่องอื่นแล้ว

อาจจะเพราะรอให้ตอบกลับตั้งนานแล้ว ด้านนั้นจึงส่งมาอีกข้อความหนึ่ง “โอวหยางบอกผมหมดแล้ว จริงหรือเปล่า?”

ซูย้าวกำลังถือมือถือ นั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้หวาย

แต่เดิมคิดเอาไว้ว่าหลังจากเขากลับมา ค่อยบอกเขาว่าท้อง แต่ในเมื่อเขารู้แล้ว งั้นก็บอกทางมือถือนี่แหละ!

“อื้ม ฉันท้อง คงสองเดือนกว่าๆแล้ว” เธอรีบตอบกลับไป

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากตอบข้อความไป ใจของซูย้าวยิ่งเต้นตึกตักๆอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา เหมือนกับจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น

ชั่วครู่ ก็ได้รับข้อความกลับมา

“เอาออกเถอะ!”

แค่ข้อความที่เย็นชา ไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด ตรงไปตรงมาขนาดนั้น กระแทกเข้ามาที่หน้าอกของซูย้าวอย่างไม่ทันตั้งตัว

“คุณจัดการเอาออกไปก่อน รอผมกลับไปจะหย่ากับคุณ แล้ววันหลังจะชดเชยให้คุณอย่างเต็มที่แน่นอน”

อีกข้อความที่ปะทะเข้ามาที่ม่านตาของเธอ มือของซูย้าวที่กำลังจับมือถือ ชะงักค้างไปในทันที

ปฏิกิริยาเหมือนกับตอนแรกที่เธอท้องเจิ้งเอ๋อไม่มีผิด

กาลเวลาเปลี่ยนไป แต่ดูแล้ว เขายังคงไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

ถึงกับทำเกินไปกว่าครั้งที่แล้วด้วย ให้เธอ ‘จัดการเอาออก’ เด็กคนนี้ด้วยตัวเอง รอเขากลับมาก็จะรีบหย่าทันที……

นี่เธอทำอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขารอไม่ไหวที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดเช่นนี้

ถ้าบอกว่ารักเขาถือเป็นคำพูดที่ผิด งั้นซูย้าวคงจะผิดจนแก้ไขไม่ได้แล้วจริงๆ

นี่ความรัก ก็สามารถทำร้ายกันได้เช่นนี้จริงๆเหรอ?

เธอแค่รักเขาเท่านั้น จึงกลายเป็นเหตุผลและข้ออ้างที่เขาทำตามอำเภอใจโดยไม่หวั่นเกรง คิดๆให้ดีแล้ว น่าขำอะไรขนาดนั้น!

ซูย้าวไม่คิดอะไรแล้ว แค่ไม่ตอบกลับไปด้วยความโมโห ปิดมือถือ แล้วลุกขึ้นไปหาลูกชาย

ออสเตรเลียด้านนั้น หานฉ่ายหลิงส่งไปหลายข้อความแล้ว แต่ก็กังวลว่าซูย้าวจะไม่เชื่อ เพื่อรับรองว่าจะไม่ผิดพลาด เธอยังคิดจะส่งอีกข้อความ!

“คุณจะไปหาหมอเอง? หรือให้ผมติดต่อให้?”

ส่งข้อความออกไป ไม่นึกว่าจะปรากฏเครื่องหมายตกใจสีแดงขนาดใหญ่!

หานฉ่ายหลิงตกใจจนพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ไม่คิดว่า……

จะลบ ‘ลี่เฉินซี’ ออกไปแล้ว ? !

เหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ไม่ไกล เธอกังวลว่าจะโดนพบเข้า จึงรีบลบข้อความวีแชททั้งหมด แล้วโยนมือถือไปที่มุม ตนเองหลับตาลงอีกครั้ง

ลี่เฉินซีกำลังถือผ้าห่มเข้ามา ขึ้นรถ ยังไม่ทันได้ห่มผ้าให้เธอ ก็เห็นขนตาของเธอสั่นระริก สูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองเธอเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เอ่ยปากขึ้นทันที “ยังจะแกล้งหลับต่อไปใช่ไหม?”

ได้ยินแล้ว หานฉ่ายหลิงจึงลืมตาขึ้น ยิ้มสู้ “ฉันก็เพิ่งตื่น เห็นว่าข้างๆไม่มีใคร จึงคิดว่าคุณทิ้งฉันไปแล้ว!”

“จะเป็นไปได้ยังไง?” ลี่เฉินซีวางผ้าห่มในมือ “ในเมื่อคุณตื่นแล้ว งั้นขึ้นไปนอนข้างบนเถอะ!”

แต่เธอกลับเข้าไปใกล้ๆข้างกายเขาทันที เอนตัวพิงเข้าไปที่อกของเขา แนบชิด ไม่อยากจะแยกออกมาเลย “คุณนอนเป็นเพื่อนฉันสิ?”

ในคำพูดมาพร้อมกับนิสัยที่หยอกเย้า ลี่เฉินซียิ้มนิ่งๆ แค่ตบลงบนหลังมือของเธอเบาๆ แล้วดันเธอออก “พอแล้ว ดึกแล้วนะ รีบขึ้นไปนอนเถอะ!”

เห็นเขาออกตัวห่างเหินขนาดนี้ เธอจึงทำได้เพียงลากเสียงยาวอย่างจำใจ แค่ ‘อืม’ แล้วลงจากรถด้วยความอืดอาดตามเขาไป

ตั้งแต่มาที่ออสเตรเลียวันนั้น ด้วยคำขอร้องของหานฉ่ายหลิงหลายต่อหลายครั้ง ทั้งสองคนจึงนอนในห้องชุดเดียวกัน แต่แยกห้องนอน

ปัญหานี้ ลี่เฉินซียังคงแบ่งแยกอย่างชัดเจน

เขาเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ไม่ควรทำเรื่องเกินเลยใดๆทั้งสิ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ควรเกิดขึ้น

หานฉ่ายหลิงนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง นอนด้วยความหงุดหงิดใจ

ส่วนห้องข้างๆ ลี่เฉินซีก็รู้สึกแปลกใจ ที่ในวีแชทของตนเอง ไม่มีซูย้าวแล้ว

เขามาทำงานแค่สิบกว่าวัน ผู้หญิงคนนี้ ก็ลบตนเองออกไปแล้วงั้นเหรอ ? !

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ซูย้าว ‘เอาแต่ใจ’ อย่างนี้? แล้วการกระทำที่จู่ๆก็ลบเขาออก ไม่เหมือนว่าเธอจะเป็นคนทำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้น?

จะโทรศัพท์ เธอก็พูดไม่ได้อีก

จะส่งข้อความถาม……ลี่เฉินซีก็รู้สึกตื่นตูมไปหน่อย งั้นรอให้กลับไปก่อนแล้วค่อยถามแล้วกัน!

วันรุ่งขึ้น หวางอี้เตรียมเครื่องบินส่วนตัวเอาไว้แต่เช้าแล้ว หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ก็จะออกเดินทางกลับประเทศ

แต่หานฉ่ายหลิงกลับอืดอาดไม่ออกมาจากในห้องสักที ลี่เฉินซีเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำเสร็จแล้ว ติดกระดุมเสื้อทีละเม็ดๆ ตอนที่จัดการแขนเสื้อก็เดินออกมาข้างนอก ถามขึ้น “เธอล่ะ?”

“คุณหานยังไม่ตื่นครับ ในห้องก็เหมือนไม่มีเสียงเคลื่อนไหวอะไรเลย” หวางอี้พูด

ลี่เฉินซีตกใจเล็กน้อย เหลือบตาบอกหวางอี้ให้ออกไปก่อน แล้วตนเองก็เดินไปเคาะประตู

“ฉ่ายหลิง?”

ไม่มีเสียงตอบกลับมา

เงียบจนน่าแปลกใจ

กลับทำให้เขารู้สึกสงสัย

“ฉ่ายหลิง? คุณโอเคไหม?”

ลี่เฉินซีตะโกนเรียก แล้วเปิดประตูห้อง

ในห้องเงียบสงัด ผ้าม่านหนาๆตัดขาดแสงแดดจ้าจากภายนอก บนเตียงใหญ่ ร่างเล็กๆบอบบางอ่อนล้าของหานฉ่ายหลิงขดตัวอยู่ในผ้านวมผืนใหญ่ ซ่อนไว้มิดชิดจนแทบจะหาไม่เจอ

จนกระทั่งลี่เฉินซีเดินไปถึงข้างเตียง จึงพบเธอที่อยู่ในผ้านวมผืนใหญ่ มือใหญ่ๆจึงยกมุมผ้านวมขึ้น เห็นหัวของเธอแล้ว จึงขยี้เบาๆ “เป็นอะไรไป?”

เสียงที่อ่อนโยน มีกลิ่นของความเอาใจใส่

สักครู่หานฉ่ายหลิงถึงค่อยๆลุกออกมาจากในผ้าห่มได้ ใบหน้าเล็กๆซีดเซียวอ่อนแอ กับความร่าเริงกระตือรือร้นเมื่อคืน แตกต่างกันอย่างชัดเจน ป่วยจนไม่มีชีวิตชีวาสักนิดเลย

“เฉินซี เหมือนฉันจะเป็นหวัดแล้ว……” เสียงที่แหบพร่า ฝืนส่งเสียงออกมาแผ่วเบา

ลี่เฉินซียื่นมือไปทาบหน้าผากเธอ ตัวร้อน แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นไข้

“อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืน ลุกขึ้น ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล!” เขารีบเปิดผ้านวมออก เร่งให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

แต่หานฉ่ายหลิงโน้มตัวอยู่ตรงนั้นอย่างอ่อนแรง ขยับตัวๆ แต่กลับไม่มีแรงจะพยุงตัวขึ้น จึงนอนลงไปอีกครั้ง “ฉันไม่มีแรง!”

เขาคิดๆแล้ว จึงเดินเข้าไป หาเสื้อคลุมมาคลุมให้เธอ แล้วอุ้มเธอเดินไปข้างนอก

“เฉินซี วันนี้ต้องกลับประเทศไม่ใช่เหรอ? คุณพาฉันกลับประเทศก่อนเถอะ! จะได้ไม่ต้องถ่วงเวลางานของคุณ……”

ตอนที่ลงมาข้างล่าง หานฉ่ายหลิงพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา กำลังเตือนขึ้นเบาๆ

สีหน้าของลี่เฉินซีอึมครึมมาก ก้าวยาวๆพาเธอไปที่รถ แล้วกำชับหวางอี้ “พักการกลับประเทศไว้ก่อนชั่วคราว ยกเลิกแผนการที่ด้านนั้นด้วย!”

แล้วก็ขับรถพาหานฉ่ายหลิงไปโรงพยาบาล

ขึ้นรถแล้ว ก็ได้ฟังเธอพูดอีก “อย่าทำให้ตารางงานที่วางแผนเอาไว้ล่าช้าเพราะฉันเลย ให้ฉันกินยาลดไข้ก็พอแล้ว! ฉันไม่เป็นไร……”

“ผมบอกว่ายังไม่กลับประเทศ เรื่องอื่น คุณไม่ต้องยุ่ง!” เสียงของลี่เฉินซีเด็ดขาดแน่วแน่ น้ำเสียงที่สั่งออกมา ไม่ยินยอมให้ใครขัดขืนทั้งนั้น

หานฉ่ายหลิงขมวดคิ้ว เอียงหัวพิงไปอีกด้าน หลับตาลงด้วยความไม่สบายใจ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset