บทที่ 215 ห้ามทำร้ายเธอ
สุดถนนที่เงียบสงบ มีคฤหาสน์หรูหราสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ตรงนั้น ที่นี่คือบ้านใหญ่ตระกูลเพ้ยอยู่ติดกับภูเขาชิงหลิงซาน มีภูเขามีแม่น้ำ ฮวงจุ้ยดีเป็นอย่างมาก ที่นี่มีชื่อเรียกว่า
วิลล่าซานสุ่ย
เพราะตั้งอยู่อยู่ติดภูเขาข้างแม่น้ำ วิวทิวทัศน์จึงสวยราวกับภาพวาด
ช่วงเที่ยงของวันต่อมา แดดกำลังเปรี้ยงปร้าง หานฉ่ายหลิงกลับยอมขับรถมาถึงที่นี่
ไม่บ่อยนักที่เพ้ยส้าวหลี่จะอยู่บ้าน และไม่ได้รีบร้อนไปที่บริษัท เขานั่งพักผ่อนอยู่ที่สวนหลังบ้าน กินลมชมวิว และดื่มชาไปด้วย ในมือถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง เขาพลิกอ่านแต่ละหน้าอย่างตั้งใจด้วยท่วงท่าสง่างามเหมือนคุณชายผู้อบอุ่น
จนทำให้นึกถึงประโยคที่ว่า รูปงามดั่งหยก ทั่วพิภพไร้เทียมทาน
เพียงแต่ว่าถ้าเพ้ยส้าวหลี่ลดความเจ้าเล่ห์ลงมาบ้าง ก็คงจะสมศักดิ์ศรีคุณชายอยู่หรอก
หานฉ่ายหลิงเดินถือกระเป๋าตามแม่บ้านมายังสวนหลังบ้าน
เพ้ยส้าวหลี่นั่งรอเธออยู่ตรงนั้นนานพอสมควร เมื่อได้ยินเสียงเดินถึงได้เงยหน้าขึ้นไปมองร่างกายของเธอที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ริมฝีปากจึงกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเข้าใจยาก
“มาแล้วเหรอ น้าจาง เสิร์ฟชาด้วย”
เพ้ยส้าวหลี่ทักทายอย่างเรียบง่าย แม่บ้านเตรียมชาเอาไว้ก่อนแล้ว ไม่นานจึงนำมาเสิร์ฟ
หานฉ่ายหลิงนั่งลงตรงข้ามเขา แล้ววางกระเป๋าไว้ข้างๆ สองขาเรียวยาวไขว่ห้างด้วยท่วงท่าสบายๆ ไม่ว่าจะท่าทางหรือการควบคุมสีหน้า ล้วนแล้วแต่เป็นไปอย่างสวยงาม
“ที่คุณนัดผม คงเพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะพูดใช่ไหม?” เพ้ยส้าวหลี่เข้าเรื่อง ราวกับว่าไม่อยากเสียเวลากับผู้หญิงตรงหน้าไปมากกว่านี้
หานฉ่ายหลิงเองก็เช่นเดียวกัน เธอนั่งอยู่อีกฝั่งด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ จากนั้นก็พูดออกมาว่า “ฉันอยากกำจัดซูย้าวไปให้พ้น ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
“กำจัด?” เมื่อได้ยินคำนี้เขาก็รู้สึกระคายหู จึงเอ่ยย้ำออกมาเสียงเบา ขณะเดียวกันระหว่างคิ้วคมเข้มก็ค่อยๆขมวดเข้าหากัน แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณคิดจะกำจัดยังไง? แล้วอยากให้เร็วแค่ไหน?”
“ ทำให้นังใบ้นั่นหายไปจากโลกนี้ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
หายไปหมายถึงอะไร เพ้ยส้าวหลี่รู้อยู่แก่ใจ
ใบหน้าหล่อเหลาไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆ ขนาดดวงตาเฉยชาหมางเมินคู่นั้นยังเรียบนิ่ง แม้แต่ความวูบไหวเล็กๆน้อยๆก็หาไม่เจอ “คุณเกลียดเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“มันไม่เกี่ยวกับเกลียดหรือไม่เกลียด เพ้ยส้าวหลี่ คุณควรรู้เอาไว้ ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้กำลังปรึกษาคุณ แต่กำลังถ่ายทอดเจตนารมณ์ให้คุณรู้” หานฉ่ายหลิงเริ่มหยิบยกเรื่องฆ่าแกงมาพูด อีกอย่างเมื่อคำนึงถึงเรื่องที่ตัวเองท้อง เธอก็ไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ กำจัดซูย้าวทิ้ง แบบนี้ระหว่างเธอกับลี่เฉินซีค่อยมีความหวังขึ้นมาหน่อย
เธอจะไม่ยอมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว จะไม่ยอมให้ลูกเกิดมาแล้วไม่มีพ่อ!
และลี่เฉินซี ก็คือคนที่เหมาะสมที่สุด
แต่ความคิดแบบนี้ของเธอ กลับทำให้เพ้ยส้าวหลี่ไม่ชอบใจ เขามองโครงหน้าด้านข้างของหญิงสาว จากนั้นก็หรี่ตาลง “คุณก็น่าจะรู้ สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือการข่มขู่ หานฉ่ายหลิง อย่าให้มากไปหน่อยเลย!”
เสียงทุ้มต่ำอาจจะดูเหมือนข่มขู่แค่ผิวเผิน ในความเป็นจริงความรุนแรงกำลังจะเริ่มต้นต่างหาก
และถ้าเพ้ยส้าวหลี่โกรธจริงๆ หานฉ่ายหลิงจะเจอกับอะไรบ้าง เธอเองก็รู้ดี
วินาทีต่อมา ใบหน้าสะสวยจึงคลี่ยิ้มออกมาจางๆ แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า พร้อมกับพูดว่า “ฉันไม่คิดจะทำอย่างนั้นหรอก ฉันก็ว่าจะหาวิธีใหม่ที่เหมาะสมกว่านี้ ให้พวกเขาหย่ากันเร็วๆ หลังจากนั้นพอเราได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เราก็จะได้ผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ว่าซูย้าวเกะกะเกินไปหน่อย!”
“เกะกะ?” เมื่อเพ้ยส้าวหลี่ได้ยินคำพูดระคายหูอีกครั้ง สีหน้าก็อึมครึม “เธอเกะกะ หรือคุณไม่ได้เรื่องกันแน่? โง่เอง ก็อย่าไปโทษคนอื่นสิ!”
“คุณ……..”
หานฉ่ายหลิงกัดฟันกรอด โกรธจนกำหมัดแน่น “วิธีที่ใช้ได้ ฉันลองมาหมดแล้ว! แต่ลี่เฉินซีไม่ใช่คนแบบนั้น!”
ไม่ว่าเธอจะอ่อยแค่ไหน วางยาหรือมอมเหล้าเท่าไหร่ ไม่ว่าเขาจะมีสติหรือไม่มีสติ เขาก็ยังนิ่งเป็นรูปปั้น ไม่หือไม่อือกับเธอเลยแม้แต่น้อย
ราวกับคำว่า “ซูย้าว” ฝังลึกอยู่ในใจของเขาไปแล้ว จนไม่ยอมให้ใครอยู่เหนือกว่า!
ผู้ชายแบบนี้ เธอยังจะทำอะไรได้อีก?
ข่าวลือเกี่ยวกับหานฉ่ายหลิงและลี่เฉินซี เริ่มถูกส่งต่อไปทั่วบ้านทั่วเมืองตั้งแต่ปีที่แล้ว
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร แถมยังฉลองวันเกิดกับซูย้าวต่อหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถึงจะปฏิบัติกับเธอเหมือนอย่างเคย แต่กลับไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
หานฉ่ายหลิงทำใจรับความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ!
เรื่องลูกในท้อง เธอก็รับไม่ได้เหมือนกัน และก็รอต่อไปไม่ไหวแล้ว!
“ไม่ได้ผลสักวิธี งั้นก็รอหน่อยแล้วกัน มันต้องมีวิธีน่า” ดวงตาของเพ้ยส้าวหลี่ดำวาว ไม่มีร่องรอยของความกระตือรือร้นเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับเรียบนิ่งจนไม่อาจคาดเดาได้
หานฉ่ายหลิงหลับตาลงอย่างทำอะไรไม่ได้ สูดลมหายใจเข้าแล้วพูดว่า “ฉันไม่มีเวลามารอแล้ว!เพ้ยส้าวหลี่ ถ้าจะช่วยก็ช่วย แต่ถ้าไม่ ก็ถือซะว่าฉันไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้ก็แล้วกัน”
เธอลุกขึ้นอย่างโกรธๆ แล้วถือกระเป๋าเดินออกไป
ชายหนุ่มมองแผ่นหลังของเธอ นัยน์ตาอ่านยากปรากฏแววคลุ้มคลั่งเหมือนในคืนนั้น ผู้หญิงคนนี้ ถูกเขากดไว้ใต้ร่าง ถึงแม้เธอจะเมาหนัก ถึงขนาดจำคนผิด แต่ความรู้สึกไม่ผิดแน่นอน
บางทีอาจเป็นเพราะนึกถึงคืนนั้น หรือบางทีอาจเป็นเพราะคำนึงถึงมูลค่าของการร่วมมือในครั้งนี้ เอาเป็นว่า สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะอ้าปากเรียกเธอเอาไว้
“ผมก็ยังไม่บอกว่าจะไม่ช่วยนี่ ทำไมรีบกลับขนาดนั้น?”
หานฉ่ายหลิงหยุดเดิน เธอหันกลับมา วินาทีที่สบสายตากัน ลมหายใจก็สะดุดกึก
เธอเห็นแววตาเจ้าแผนการของเขา และสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าเธอรู้ว่าต่อให้เธอจะขอหรือไม่ขอให้เขาช่วย ยังไงก็ถูกเอาเปรียบอยู่ดี!
ช่างเถอะ ถือซะว่าเห็นแก่ผลประโยชน์ตรงหน้า ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรมากก็แล้วกัน
เธอกลับมานั่งอีกครั้ง แล้วพูดว่า “คุณอยากช่วยฉันจริงๆเหรอ?”
“คุณอยากให้ผมช่วยยังไงล่ะ?” เพ้ยส้าวหลิงย้อนถาม
หานฉ่ายหลิงคิดแผนเอาไว้แล้ว จึงบอกแผนที่คิดไว้ให้เขาฟัง
หลังจากฟังจบ ใบหน้าเรียบนิ่งของเพ้ยส้าวหลี่ก็ไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ พิจารณาไตร่ตรองอยู่นาน ถึงได้พูดว่า “แบบนี้ ถ้าเกิดพลาดขึ้นมา มันอันตรายมากเลยนะ”
“แล้วยังไง? ก็ลูกน้องของคุณทั้งนั้น แล้วก็เป็นคนที่คุณหามาเองด้วย จะทำพลาดได้ยังไง!” หานฉ่ายหลิงไม่สนใจเลยสักนิด ต่อให้ซูย้าวตายจริงๆ ก็ยิ่งดีน่ะสิ!
“นี่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณ คุณแค่อยากได้ชีวิตของซูย้าว!” พูดจบ เพ้ยส้าวหลี่ก็สังเกตเธออย่างแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง จากนั้นนัยน์ตาก็พลันอึมครึม คำพูดเฉียบขาดหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย
“แต่ว่าผมมีข้อแม้ ห้ามทำร้ายซูย้าวแม้แต่ปลายนิ้ว!หานฉ่ายหลิง เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม?”
เสียงทุ้มต่ำ เอ่ยออกมาทีละคำ
รอยยิ้มมั่นใจบนหน้าของหานฉ่ายหลิงชะงักกึก สายตาพลันตกตะลึง “นี่คุณปกป้องนังใบ้นั่นเหรอ?”
เธอไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นแววตาของเพ้ยส้าวหลิง จู่ๆเธอก็อดคาดเดาขึ้นมาไม่ได้
หรือว่าผู้ชายคนนี้……ตกหลุมรักนังใบ้นั่นเหมือนกัน?
แล้วทำไมต้องมีคำว่า “เหมือนกัน” ด้วยล่ะ?
เธอไม่ได้อยากจะใส่ใจมากมายขนาดนั้น เพียงแต่ว่า เธอรับไม่ได้ก็เท่านั้น “คุณก็แค่อยากใช้ประโยชน์จากซูย้าว เพื่อขยายอำนาจบริษัทเพ้ยซื่อกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ? ถ้าเธอตาย ฉันจะชดใช้ความเสียหายให้น่า จำเป็นต้องขนาดนี้เลยเหรอ……”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ลำคอเรียวขาวของเธอก็ถูกเพ้ยส้าวหลี่กอบกุม ฝ่ามือใหญ่ออกแรงจิกคอหอยของเธอ ราวกับจะบีบให้ตายในทันที นัยน์ตาเย็นชาแดงเถือกจ้องมองมาที่เธอ “ผมแค่ถาม ว่าเข้าใจที่ผมพูดไหม?”
หานฉ่ายหลิงเริ่มหายใจติดขัด ความตกใจและความหวาดกลัว ทำให้เธอเริ่มดิ้น
เขาเพิ่มแรงบีบไม่ต้องเสียเวลาสงสัย เขากล้าบีบคอเธอตายจริงๆแน่ หานฉ่ายหลิงเริ่มดิ้นทุรนทุรายพร้อมกับพยักหน้า “อืม…..เข้า เข้าใจแล้ว!”
เพ้ยส้าวหลี่ผ่อนแรงลง จากนั้นร่างกายของเธอก็ถูกโยนไปอีกด้าน เสียงเย็นๆของเขาดังขึ้นมาข้างหูว่า “ไหนทวนให้ผมฟังซิ!”
“……ฉัน ฉันจะไม่ทำร้ายซูย้าว แม้แต่ปลายขน……” หานฉ่ายหลิงเอ่ยทวนอย่างกระอักกระอ่วน ความโกรธที่ต้องซ่อนเอาไว้ทำให้เธอกัดฟันกรอด นิ้วมือกำเข้าหากันอย่างรุนแรง