บทที่ 28 ต้อนรับคุณเป็นอย่างดี
‘ลี่เฉินซีประธานบริหารของบริษัทลี่ซื่อ ยืมภรรยาพิการเพื่อเป็นกลไกให้ได้รับความสนใจ เบื้องหลังของความเสน่หา เป็นการโกหกครั้งใหญ่!”
พาดหัวของข่าวนั้นสะดุดตามาก ตัวอักษรที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ดวงตาของซูย้าวปวดแปลบ
บทนำด้านล่างก็ยิ่งทำให้เธอประหลาดใจมากขึ้น—–
ประธานลี่ทำให้เป็นเรื่องซับซ้อน ยืมเอาวันเกิดและวันครบรอบแต่งงานของภรรยามาเป็นข้ออ้าง ในการเหมาโรงแรมโรงแรมซุสเพื่อการเฉลิมฉลอง ให้โลกทั้งใบมีเพียงสองเรา เบื้องหลังงานเลี้ยงราตรี คือการหลอกลวงครั้งใหญ่
ตามรายงาน วันเกิดของคุณซูคือวันที่ 22 กรกฎาคม วันครบรอบแต่งงานของทั้งสองคนคือวันที่7ของปีใหม่ ล้วนแต่ไม่ใช่วันเดียวกัน ซับซ้อนวุ่นวายแบบนี้ ประธานลี่ต้องการจะยืมใช้ความพิการ……
เนื้อหาท่อนหลังยิ่งไม่น่าดูเลย
เขียนมั่ว! เขียนมั่วทั้งนั้น!
มือของซูย้าวที่ถือหนังสือพิมพ์อยู่มีอาการสั่นเล็กน้อย ในขณะนั้น กลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่แน่ชัด
เงยหน้าขึ้น ก็บังเอิญไปเผชิญกับดวงตาที่เย็นชาของชายคนนั้น ซูย้าวก็รู้สึกตื่นตระหนก ในวินาทีถัดมา เขาบีบคางของเธอไว้ ให้มองมายังตนเอง “ในเมื่อไม่ยอมร่วมมือกับผม งั้นในตอนนั้นก็ปฏิเสธสิ!”
“ตอนนั้นไม่ปฏิเสธ แต่จากนั้นก็ติดต่อกับสื่อเพื่อจะเปิดเผย ทำแบบนี้ สนุกเหรอไง”
ซูย้าวตกใจ เธอไปติดต่อกับสื่อให้มาเปิดเผยเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อเห็นเธอส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ดวงตาของลี่เฉินซี ก็ฉายแววถึงการดูถูกเหยียดหยาม ดวงตาที่เย็นชาค่อยๆหรี่แคบลง ไม่สนใจกับคำถามนี้อีกต่อไป โน้มตัวลงและประกบริมฝีปากของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็รู้สึกได้ถึงความแข็งทื่อของร่างกายซูย้าว เขาจึงยอมปล่อยริมฝีปากที่แดงอวบอิ่ม โน้มตัวลงไปแนบใบหูของเธอ น้ำเสียงที่มีเสน่ห์ น้ำหนักเสียงแผ่วเบา แต่ลมหายใจที่อบอุ่นกลับทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ “ผมเคยบอกไปรึยัง ว่าผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกเกลียดเป็นยังไง”
ซูย้าวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หลอกล่องั้นเหรอ!
เพียงเพราะเปิดโปงเรื่องงานเลี้ยงอาหารค่ำของเขาครั้งก่อน ไม่ต้องไปถามถึง ข้อหาทั้งหมดล้วแต่โยนมาให้เธอใช่ไหม
มีคนหลายคน รู้วันเกิดของเธอ
เช่นซูหยวน ซัวฉ่ายลี่ เป็นต้น
สำหรับวันจดทะเบียนสมรสของทั้งสองคน ก็สามารถค้นหาได้จากไฟล์ของสำนักกิจการพลเรือน ยังจำเป็นที่เธอจะต้องไปให้ข้อมูลกับสื่ออีกเหรอ
ดวงตาที่ซับซ้อนของเธอ สบกับดวงตาของลี่เฉินซี ที่ดูซีดเซียวและอ่อนแรง ราวกับเป็นการจนมุมของความเจ้าเล่ห์
“ยังคิดว่าตัวเองยังไร้เดียงสาอยู่อีกเหรอ” เขาเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “หวางอี้ได้รับบันทึกการโทรของคุณจากนักข่าวมาด้วยตัวเอง เรื่องนี้จะอธิบายยังไง”
เวลาในการใช้ติดต่อนักข่าว เป็นเวลาตรงกันกับการเปิดโปงเรื่องนี้
ซูย้าวสะดุ้ง บันทึกการโทรงั้นเหรอ!
ไม่กี่วันที่ผ่านมา นอกจากการติดต่อกับโม่หว่านหว่าน ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรอีกเลย…….
ก่อนหน้านี้มีสายหนึ่งที่โทรมาจากบ้านพักคนชราโดยไม่ได้บอกชื่อ ได้ส่งข้อความหาเธอ หรือว่า นั่นจะเป็นสิ่งที่กล่าวว่าเป็นโทรศัพท์จากนักข่าว
คงจะต้องปล่อยเรื่องนั้นไป อย่าไปยุ่งมันอีกเลย!
ลี่เฉินซีจับข้อมืออันบางของเธออย่างรุนแรง ออกแรงอย่างมาก แทบจะหักแขนของเธอ ซูย้าวมองเขา ดวงตาที่สวยงามนั้นหดแน่น
ไม่ว่าเธอจะพูดได้หรือไม่ได้ก็ตาม และไม่ว่าจะมีบันทึกการโทรใดๆ ลี่เฉินซีก็คิดอุปทานไปแล้ว ว่าเธออยู่เบื้องหลัง
ครู่หนึ่ง ซูย้าวก็ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน สะบัดมือของเขาออก เธอมีวิธีที่จะพิสูจน์เป็นร้อยวิธี แต่ชั่วพริบตาเดียว จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าไม่สามารถหาคำมาอธิบายได้!
“อย่างนี้ต้องใช้ทุกวิถีทาง เพื่อพิสูจน์ให้โลกภายนอกได้รู้ เพียงเพื่อพาฉันกลับบ้านเหรอ”
พูดจบ ลี่เฉินซีก็ยื่นมือออกมาอีกครั้ง พาตัวเธอเข้ามาใกล้ๆ หมุนเอวของเธออย่างหยาบคาย ลงมายังไหล่ของเขา
โยนเธอลงไปบนเตียงอย่างรุนแรง ไม่ทันรอให้ซูย้าวหลีกหนี ลี่เฉินซีก็ล้มตัวลงไปทันที!
ทันใดนั้น เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้
ทุกครั้งที่เขามองกลับมา ก็มักจะบ้าคลั่งและมีพลัง แม้ว่าจะชอบเขาจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับการถูกเขารังแกได้!
เธอขัดขืน ดิ้นรน แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์
จำไม่ได้ว่าเป็นจำนวนกี่ครั้งที่ในใจรู้สึกหมดเรี่ยวแรง จนกระทั่งเธอหมดแรงลง ในที่สุดเขาจึงปล่อยเธอ
เมื่อทุกอย่างจบลง ลี่เฉินซีก็ลุกจากเตียงทันที ดึงผ้าห่มมาห่อตัวไว้ และเดินเข้าห้องน้ำไป
ซูย้าวที่เหลือเพียงแค่ครึ่งชีวิต นอนขดตัวอยู่ที่มุมเตียงอย่างโรยแรง เจ็บปวดจนแทบจะหมดลมหายใจ
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงดัง ‘ปัง’ดังขึ้น ซูย้าวถึงกับตกใจขึ้นอีกครั้ง ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย มองเห็นลี่เฉินซีเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
เขาเปลี่ยนชุดสูท ผมที่สั้นของเขายังไม่แห้ง ห้อยอยู่ตรงระหว่างคิ้ว โดดเด่นเห็นได้ชัด
ในขณะที่เขาเดินอยู่ ยืดแขนเสื้อของเขาให้เรียบร้อย ผู้ชายที่สง่างาม เมื่อเดินผ่านเตียงใหญ่ สายตาอันเย็นชาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงมุมเตียง
เมื่อตอนที่เริ่มทำ เธอขัดขืนดิ้นรนอย่างแรง และมีเหงื่อไหลออกมามากมาย เหงื่อที่ติดอยู่บนผมยาวได้ไหลมาอยู่ที่แก้ม ผิวขาวราวกับหิมะที่สัมผัสกับอากาศ ถูกปกคลุมไปด้วยรอยฟกช้ำที่ตื้นบ้างลึกบ้าง
มีบางส่วน เขาเพิ่งจะลงมือหนักเกินไป จนถึงกับเปลี่ยนเป็นสีเขียวช้ำ
เมื่อเห็นว่าเธอรู้สึกอายที่ถูกตนเองกระทำรุนแรงแบบนี้ ใบหน้าเฉยเมยของผู้ชายคนนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จ้องมองกลับไปอย่างเย็นชา และเดินออกจากประตูไป
เดินไปไม่กี่ก้าว ร่างสูงใหญ่ก็หยุดชะงัก
เดินถอยหลังมาสองสามก้าว หยุดลงข้างเตียง เอนตัวลง บีบคางของเธอโดยตรง บังคับเธอให้มองตนเองอีกครั้ง และยิ้มอย่างเย็นชา
สายตาของเขากลับคมขึ้นในทันที ลมหายใจที่หนาวเหน็บ รุกเข้ามาใกล้ ซูย้าว แต่น้ำเสียงของลี่เฉินซียังคงนิ่งสงบ พูดเพียงว่า “คุณยังเล่นลูกไม้ต่อไปได้ แต่ดีที่สุดอย่าให้ผมจับได้!”
“ไม่อย่างนั้น คราวหน้าจะไม่เรียบง่ายเหมือนเมื่อกี้แล้ว ผมมีวิธีการและลูกเล่นบางอย่าง หากคุณคิดอยากจะลองละก็ ก็มาลองดูสิ!”
ในขณะที่เข้าดึงเธอกลับอย่างกะทันหัน และโยนเธอทิ้งในเวลาเดียวกัน ชายคนนั้นก็หันกลับมาอย่างไม่แยแส และกระแทกประตูออกไป