บทที่ 31 รอดูเรื่องสนุก
เป็นสภาพอากาศในเดือนมิถุนายน ที่อบอุ่นแท้ๆ ภายในห้องนอนที่กว้างขวาง แต่กลับเย็นไปถึงกระดูก
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ นัยน์ตาเยือกเย็นราวกับน้ำ
ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาดึงเนกไทออก จากนั้นก็โยนมันลงบนโซฟา และก้าวเท้าเดินไปทางซูย้าวอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ด้วยสายตาเย็นยะเยือก
เมื่อนึกถึงความโกรธของเขาในครั้งที่แล้วที่เจอกัน ใจของซูย้าวก็สั่นระรัวเพิ่มเป็นทวีคูณ……
และทันใดนั้น เขาพยายามระงับความโกรธและความเศร้าไว้ และเม้มริมฝีปากแน่น สายตาของเขาดูเคร่งขรึมจนน่ากลัวแปลกๆ
“หลับแล้วเหรอเจิ้งเอ๋อ?”
จู่ๆ เขาก็เอ่ยปากพูด น้ำเสียงแหบและเย็นชา
ซูย้าวชะงักอยู่ครู่ แต่ก็พยักหน้ารับ
ลี่เฉินซีมองลงไปที่เธอ ด้วยสายตาที่มืดมนและเย็นชา
ซูย้าวรู้สึกไม่ค่อยดี เธอหลับตาลงอย่างรวดเร็ว ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย เขาเป็นอะไรอีกเหนี่ย?
“ระยะนี้ฉ่ายหลิงได้มาบ้างมั้ย?” ลี่เฉินซีเอ่ยปากพูดต่อ เสียงเข้มยิ่งเย็นชาขึ้น
ซูย้าวขมวดคิ้ว และก้มหน้าลงตามสัญชาตญาณ
ที่จริงแล้วเคยมาอยู่หลายครั้ง
“เธอไม่ค่อยชอบให้หล่อนมาเหรอ?” เขาถามขึ้นอีก
ซูย้าวดูชะงักไป ขนตางอนสั่นเล็กน้อย
ลี่เฉินซีสังเกตเธอ สายตามืดมนเต็มไปด้วยน้ำแข็ง อีกแป๊บบีบคางของเธอ “ตอบ!”
เธอมองไปทางเขา สายตานิ่งๆ ไม่มีคลื่นใดๆ
“พูดไม่ได้ ยังจะพิมพ์ไม่ได้อีกเหรอ?” ลี่เฉินซีเหลือบไปเห็นโทรศัพท์บนโซฟา เขาคว้ามันแล้วโยนไปให้เธอ
ซูย้าวสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ตัวเธอไม่ยอมรับหานฉ่ายหลิงอยู่บ้างก็จริง แต่ก็ฟังมาจากที่คนพวกนั้นนินทา ถ้าเกิดคำพูดพวกนั้นไม่จริงขึ้นมา งั้นเจิ้งเอ๋อ……
เห็นเธอไม่พูดไม่จา ลี่เฉินซีจู่ๆ ก็ขมวดคิ้ว หันหลังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไป!”
ซูย้าวถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็เดินออกจากห้องนอนไป ฝีเท้าหนักแน่น ดูเหมือนว่าแม้หัวใจก็หนักอึ้งเช่นกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ลี่เฉินซีเปลี่ยนเสื้อผ้า ติดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตไปพลางเดินออกไปข้างนอก ขณะที่เดินผ่านห้องหนังสือ เขาก็จ้องมองไปที่ประตูที่เปิดแง้มไว้ ทันใดนั้นฝีเท้าก็หยุดลง
บนโต๊ะทำงานด้านใน ซูย้าวกำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะอย่างเน็ดเหนื่อย อีกด้านหนึ่งคอมพิวเตอร์ก็ยังเปิดอยู่
จากที่ดูแล้ว เหมือนกับว่าอยู่ที่นี่ทั้งคืน
ลี่เฉินซีก้าวเท้าเดินเข้าไป ขณะที่เปิดหาเอกสาร จึงทำให้ซูย้าวสะดุ้งตื่น
เธอขยี้ตาอย่างลุกลี้ลุกลน แล้วมองดูเวลา เธอรีบลุกขึ้นเพื่อจะไปดูแลลูก แต่ก็ถูกลี่เฉินซีดึงมือไว้ก่อน
เขาเหลือบมองไปเห็นหน้าจอคอมที่เปิดหน้าเว็บไว้ เขาหรี่ตา “เธอหาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไร?”
ซูย้าวมอง ก็ชะงักอยู่ครู่
หน้าเว็บค้างอยู่ที่คำอธิบายกับวิธีรักษาเรื่อง ‘เซ็กส์ โรค’ และยังมีหน้าต่างโฆษณาเล็กๆ เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นเด้งออกมาไม่หยุด
“ทำไมต้องหาเรื่องพวกนี้?”
สายตาของลี่เฉินซีนั้นเย็นชา เขาแข็งแรง และสบายดี ผู้หญิงคนนี้ว่างๆ หาข้อมูลพวกนี้ทำอะไร!
เหมือนสัมผัสข้อห้ามที่ใหญ่ที่สุดของผู้ชาย ปฏิกิริยาของเขารุนแรงเกินไปเล็กน้อย ซูย้าวอายจนหลับตาปี๋ คิดอยู่ครู่ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ แต่พิมพ์ไปได้ไม่กี่ตัว ก็พิมพ์ๆ ลบๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน
พูดตามจริง ก็เหมือนว่าเธอจะวิจารณ์หานฉ่ายหลิงลับหลัง นี่เป็นสิ่งที่ซูย้าวไม่อยากทำที่สุด
แต่ถ้าไม่พูดความจริง ลี่เฉินซีก็ต้องสงสัยแน่ๆ และยิ่งเป็นเรื่องเซ็กส์กับโรค ยิ่งทำให้คนอื่นเข้าใจผิด!
ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ ซูย้าวก็ยิ่งย้อนแย้งเข้าไปอีก
แต่ลี่เฉินซีก็หมดความอดทนแล้ว เข้างอมือขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็พูดเร่ง “รีบพูดมา!”
ขณะเดียวกัน ก็ได้แย่งโทรศัพท์จากเธอมา
ซูย้าวตกใจ เขามองเห็นตัวอักษรสามตัวบนหน้าจอแล้ว ‘หานฉ่ายหลิง’
ลี่เฉินซีกะพริบตา “ฉ่ายหลิงทำไม? เกี่ยวกับเธอเหรอ?”
เธอเม้มปากอย่างประหม่า เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คงทำได้แค่สารภาพ
ซูย้าวหยิบโทรศัพท์มา แล้วพิมพ์อธิบาย—– ฉันเห็นคุณหานอยู่ที่แผนกอายุรกรรมในโรงพยาบาล ที่แขนของเธอมีผื่นแดงเต็มไปหมด……
ลี่เฉินซีมองไปที่ตัวอักษรบนหน้าจอ ความมืดมนในตาเขานั้นมืดลึกจนไม่เห็นที่สิ้นสุด เขาเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็พูดออกมาแค่คำเดียว “อืม” แล้วก็หันหลังเดินไป
มองไปที่แผ่นหลังที่เย็นชาของเขา ซูย้าวก็รู้สึกไม่สบายใจ มีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังพูดเรื่องไม่ดีลับหลังคนอื่นอยู่…….
ขณะที่กำลังคิด เสียงของแม่นมก็ดังขึ้นมาจากข้างล่าง “คุณผู้หญิง คุณหานมาแล้วค่ะ!”
พูดปุ๊บมาปั๊บเลยจริงๆ
หานฉ่ายหลิงเอาขนมที่ลงมืออบด้วยตัวเองมา ให้ซูย้าวลองชิมดู เจิ้งเอ๋อนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเธอ มือเล็กๆ ที่ซุกซนเอาแต่เล่นผมยาวๆ ของเธอ
ซูย้าวรีบอุ้มลูกมา แล้วส่ายหน้าใส่เขา ลี่เจิ้งก็ยิ้มอย่างเด็กซนๆ
“ไม่เป็นไรหรอก เล็กผู้ชายจะซนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา!” หานฉ่ายหลิงยื่นมือมาลูบแก้มนิ่มๆ ของเจิ้งเอ๋อ
ทันใดนั้น ซูย้าวก็ได้สังเกตเห็นผื่นแดงที่แขนของเธอ เหมือนกับว่า อาการจะหนักกว่าเดิมอีก!
อาจเป็นเพราะเห็นซูย้าวมองอยู่ หานฉ่ายหลิงจึงรีบหุบแขนทันที แล้วอธิบาย “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระยะนี้เป็นอะไร เหมือนว่าจะแพ้อะไรสักอย่าง!”
เธอก้มหน้า ในหัวก็คิดถึงเรื่องที่ได้ยินมาจากในห้องน้ำของงานปาร์ตี้ ในใจก็สงสัย หรือว่า……จะเป็นโรคนั้นจริงๆ ?!
ทางอีกฝั่งของเมือง ในห้องสปาสุดหรู ซูหยวนนอนลงบนเตียง แล้วเพลิดเพลินไปกับการนวดแผนไทยดัดหลัง
ผู้หญิงวัยรุ่นสองคนที่นอนอยู่ข้างเธอ ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของซูหยวน
“พี่หยวน เป็นเพราะแผนของเธอ ในครั้งนี้เลยจริงๆ มันสุดยอดมากๆ !ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!” หญิงสาวคนนึงพูดขึ้น
ซูหยวนเอียงคอ ปากเธอมีสีแดงก่ำ “มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!ใครจะคิดล่ะว่าฉันเป็นคนวางแผนบงการ ให้หานฉ่ายหลิงกับซูย้าวเข้าไปเอี่ยวด้วย!”
หากไม่มีผู้หญิงสองคนนี้เข้ามาขวางทาง พี่เฉินซีก็คงเป็นของเธอซูหยวนเพียงคนเดียว ดูสิใครจะกล้าเข้ามาขวางทางอีก!
ทันใดนั้นก็นึกอะไรออก ซูหยวนหัวเราะมุมปากเบาๆ “คอยดูเถอะ!เรื่องสนุกๆ ยังมีต่อท้าย ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครลงมือ พี่เฉินซีคงจะไม่เอานังใบ้นั่นแล้ว! “
“น่าติดตามขาดนั้นจริงๆ เหรอ? ” มีคนถามขึ้น
ซูหยวนแสยะยิ้ม นัยน์ตา นัยนาแน่นอนสิ!น่าติดตามสุดๆ ไม่ใช่นัยน์ตา นัยนาแค่นังใบ้นั่น ยังมีหานฉ่ายหลิงอีกคน พวกหล่อนเสร็จแน่! “
แผนการในครั้งนี้ ซูหยวนมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ
เป็นแผนการที่วางไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี
“เหอะ งั้นพวกเราก็นั่งรอดูเรื่องสนุกๆ ได้แล้ว! “
ในห้องที่เต็มไปด้วยการวางแผน เดือดดาลเมื่อเห็นผู้หญิงหลายคนได้มาพบกัน
ฝั่งบ้านตระกูลลี่ หลังจากที่ซูย้าวตั้งท้อง ทุกๆ เดือนก็ต้องได้รับการตรวจครรภ์ เป็นเจี่ยงเวินอี๋ที่ออกคำสั่งด้วยตัวเอง
เพื่อเป็นการดูแลลูกให้ดียิ่งขึ้น ซูย้าวก็ไม่ปฏิเสธ
ตอนบ่ายคุณหมอก็ได้มาตรวจร่างกายเธอ หลังจากออกไป ซูย้าวก็ได้อุ้มเจิ้งเอ๋อออกไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้
ที่บริษัท ลี่เฉินซีเพิ่งจะประชุมบอร์ดผู้บริหารเสร็จ ขณะที่กลับมาถึงห้องทำงาน หวางอี้ก็เข้ามาพูด “ประธานลี่ คุณหมอหลินบอกว่ารายงานผลตรวจสุขภาพของคุณนายได้ส่งมาทางอีเมลให้ท่านแล้ว ให้ท่านตรวจดูครับ”
“อืม! “
เสียงเย็นชาคำเดียว ทำเอาหวางอี้รู้งานแล้วหันหลังเดินออกไป
หลังจากที่ลี่เฉินซีนั่งลง เขาก็เปิดคอมพิวเตอร์
แล้วกดดูรายงานผลตรวจสุขภาพที่เพิ่งจะส่งเข้ามา แค่มองแว๊บเดียว นัยน์ตาของเขาก็ขุ่นมัว
จากนั้น ก็ยกมือขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ แล้วกดโทร “หวางอี้ นายติดต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลเซ็นเดอร์ ให้เขาส่งผลตรวจของหานฉ่ายหลิงที่ไปรักษาในช่วงสองวันนี้ มาให้ฉัน!ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี!”
หลังจากวางสาย ชายผู้นั้นยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้หนัง นัยน์ตาเย็นชาลึกล้ำราวกับทะเล ยากที่จะคาดเดา