บทที่ 319 จำสิ่งที่คุณสัญญากับฉันได้ไหม
เมื่อลี่เฉินซีได้เตือน ซูย้าวและโม่หว่านหว่านก็ได้พบว่าเงาของเด็กทั้งสองคนไม่อยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว
ก่อนหน้านี้ยังนั่งอยู่ที่โซฟาอยู่เลย แล้วเด็กที่กำลังแกะของขวัญอยู่ไปไหนล่ะ?ทำไมหายไปในพริบตาแบบนี้
“เด็กๆล่ะ?” ซูย้าวถามขณะที่กำลังค้นหา
โม่หว่านหว่านจึงกล่าวว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวฉันลองขึ้นไปหาข้างบน!”
เธอขึ้นไปด้านบน ส่วนลี่เฉินซีเองก็ค่อยๆวางของลง ร่างสูงนั่งบนโซฟา มองไปที่เธอ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ซีซีไม่ชอบเจอคนแปลกหน้างั้นเหรอ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูย้าวเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปกปิดอีกต่อไป “ก็นิดหน่อย นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมครอบครัวเราถึงไม่จ้างพี่เลี้ยงเด็กมา”
ซีซีนั้นกลัวคนแปลกหน้าเป็นอย่างมาก เมื่อไหร่ที่เห็น ก็จะแยกออกมา ปิดตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เธอปวดหัว
“ตอนที่อยู่ที่ต่างประเทศ พวกเด็กๆได้เข้าเรียนอนุบาลกันหรือยัง?” เขาถาม
เธอยิ้มพร้อมกับนั่งลง “จะไม่ไปเรียนได้ยังไงกันล่ะ?เพียงแค่อาจจะต้องชักชวนนานซะหน่อย”
“อย่างงี้นี่เอง งั้นตอนนี้คุณกับเด็กๆกลับมากันแล้วแล้วจะส่งไปเรียนโรงเรียนไหนกันล่ะ?”
เมื่อฟังสิ่งที่ลี่เฉินซีพูด ซูย้าวจึงมองไปที่เขา “นายมีสถานที่ดีๆมาแนะนำฉันเหรอ?”
ลี่เฉินซีโค้งริมฝีปากเล็กน้อย การพูดคุยกับผู้หญิงฉลาดเนี่ยมันค่อนข้างจะเป็นเรื่องง่ายเสียจริง
เขาหยิบโบรชัวร์การรับสมัครนักเรียนอนุบาลออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท จากนั้นส่งให้เธอ ซูย้าวเหลือบมองและพบว่าที่นี่เป็นสถานที่เดียวกับที่โม่หว่านหว่านและโม่ป่ายแนะนำมา ที่นี่น่าจะเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองและมีความยอดเยี่ยมในทุกๆด้านสินะ
ที่สำคัญเลยก็คือที่แห่งนี้นั้นใกล้กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
เดาว่าเขาเองก็คงเห็นแก่ตัวเหมือนกัน
เมื่อเห็นการจ้องมองต่ำๆของเธอ ลี่เฉินซีก็พอจะเดาได้ว่าเธอมีอะไรอยู่ในใจ จึงรีบอธิบายออกไป “วางใจได้ ถ้าเธอไม่อนุญาต ฉันจะไม่ไปพบลูกหรอก!”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันไม่ได้กังวลอะไรกับนาย นี่ดีก็ดีเหมือนกัน ฉันจะจัดการให้ซีซีมาเรียนที่นี่” เธอกล่าว
ลี่เฉินซีพยักหน้า “แต่ก่อนนายน้อยเองก็เรียนอนุบาลที่นี่ ตอนนี้ที่นี่ก็ยังมีภาพวาด หนังสือที่นายน้อยเคยทำไว้ ถ้าเธอมีเวลาก็ไปดูได้นะ….”
เมื่อพูดถึงลูกชาย ความเศร้าโศกฉายในดวงตาจิตใต้สำนึกของซูย้าว ถ้านายน้อยยังอยู่ในอาการโคม่าไม่ตื่นมา ตอนนี้เขาก็คงแปดขวบแล้ว ไม่รู้จริงๆว่าชีวิตแบบนี้จะมีไปอีกนานเท่าไหร่กันเชียว
เมื่อเห็นความเศร้าในดวงตาของเธอ ดวงตาของลี่เฉินซีก็มืดมนลงเช่นกัน เขาจะไม่เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไรกัน?
ครู่หนึ่ง ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขาจับมือเธออย่างเป็นธรรมชาติ “เจิ้งเอ๋อจะดีขึ้น”
ทันใดนั้น ร่างกายของซูย้าวก็แข็งทื่อ มองไปที่เขาด้วยสายตาตกตะลึง ขณะเดียวกันก็ปล่อยมือเขาไป
ลี่เฉินซีผงะ เขารู้ดีว่าเขานั้นทำเกินไป จึงรีบพูดไปว่า “ขอโทษที่หยาบคาย”
หลังจากนั้นจึงลุกขึ้น “แม้ว่าซีซีจะไม่ชอบการเจอคนแปลกหน้า ก็อย่าไปฝืน ยังมีเวลา นายก็ยังมีโอกาสมาอีก”
เขาเดินออกไป ส่วนซูย้าวนั้นยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่ดูซับซ้อน
ท้ายสุด ก็อดกลั้นไม่ได้อีก จึงรีบตามออกไป
ที่ทางเดินด้านนอก เธอหยุดเขาไว้ “เดี๋ยว-ก่อน–”
ลี่เฉินซีหยุดและหันไปมองหน้าเธอ “มีอะไรเหรอ?”
“มีบางอย่างที่ฉันอยากจะเข้าใจ”ขณะที่พูด เธอก็เดินเข้าไปหาเขา
“พูดมาเลย!”
ซูย้าวยืนอยู่ด้านหน้าอันใกล้ของเขา เงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่ลึกของชายคนนั้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ก่อนนายสงสัยฉันจริงเหรอว่าเป็นคนวางยาพิษเจิ้งเอ๋อ ทำให้เด็กเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าฉันจะอธิบายยังไงกันไม่เชื่อ เกลียดฉันเข้ากระดูกดำ ทำไมภายในพริบตา ดูเหมือนว่าเรื่องจะไม่ถูกถามขึ้นแล้ว?”
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในสายตาของลี่เฉินซีที่มีต่อเธอนั้น กลับดูไม่มีความเกลียดชัง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้
เขามองเธอด้วยสายตาที่มองลึกลงไป “เธอคิดว่าคำตอบคืออะไรล่ะ?”
“ทำไมนายถึงชอบถามกลับมา?ครั้งนี้ฉันไม่อยากเดาแล้ว ฉันอยากฟังคำตอบจากนายมากกว่า” เธอพูด
ลี่เฉินซีเม้มริมฝีปาก “คำตอบจริงๆก็คือ ฉันไม่เคยหยุดสงสัยในตัวเธอเลย เพียงแค่อาจจะสงสัยน้อยลง!”
“น้อยลง?”ซูย้าวขมวดคิ้ว ความตกใจของใจเธอนั้นไม่ได้ลดน้อยลงเลย
เขายิ้มและพูดน้ำเสียงต่ำ “แม้ว่าฉันจะเกลียด จะสงสัยในตัวเธอ แต่ก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอเป็นหม่ามี๊ของเด็กๆได้ การติดต่อกับเธอก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทางกลับกัน หากเธอไม่รู้สึกละอายใจ เปิดเผยอย่างโปร่งใส มันก็คงจะมีความจริงได้เปิดเผย จะยังกลัวที่มีฉันมาอยู่เคียงข้างอีกไหม?”
ชั่วขณะ เขาเป็นคนฉลาดจริงๆ อยู่เคียงข้างผู้ต้องสงสัยมาเป็นเวลานาน ก็จะค่อยๆเผยความลับออกมาเอง
และไม่ว่าฆาตกรจะเป็นซูย้าวหรือไม่ก็ตาม เขาก็ยังสามารถเข้าหาลูกสาวของเขาได้อย่างตรงไปตรงมาอยู่ดี ปลูกฝังความสัมพันธ์พ่อลูก ท้ายที่สุด เขาจะไม่สูญเสียอะไรไปทั้งนั้น
เมื่อเห็นลี่เฉินซีเช่นนี้ ซูย้าวก็ยิ้มออกมา
“อย่างไรก็ตาม นายก็ยังสงสัยฉันอยู่” การแข่งขันกับผู้ชายคนนี้เขาจะเหนือกว่าเสมอเพียงแค่ว่าซูย้าวนั้นไม่ได้เต็มใจที่จะก้มหัวตามน้ำไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เธอหายใจเข้าลึกๆจากนั้นก็พูดอีกว่า “เอาล่ะ!นายจะสงสัยยังไงก็ตามสบาย แต่ถ้าวันหนึ่งความจริงได้กระจ่างออกมาแล้ว นายต้องขอโทษฉันต่อหน้าทุกคน!”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ซูย้าวก็เริ่มรู้สึกว่าแค่การขอโทษต่อหน้าคนอื่นนั้นดูเหมือนจะยังไม่พอ จากนั้นจึงพูดเสริมไปว่า “จะต้องมีงานแถลง นายจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มขอโทษ คืนความบริสุทธิ์ให้กับฉัน”
ริมฝีปากของลี่เฉินซีนั้นยกขึ้นเบาๆ “ยังจะมามีเงื่อนไขกับฉันอีกเหรอ เอาล่ะ!ฉันสัญญา ถ้าเธอไม่ทำร้ายลูกชายของฉัน เมื่อถึงวันนั้น ฉันจะขอโทษเธอต่อหน้าสาธารณชน และทำตามทุกอย่างที่เธอพูด!”
ซูย้าวพยักหน้าอย่างพอใจ เห็นชายที่อยู่ตรงหน้าเธอกำลังเดินเข้ามา “แต่ว่า เธอยังจำได้ไหมว่าสัญญาอะไรกับฉันไว้”
เขาค่อยๆเดินเข้ามา แขนข้างหนึ่งโอบลำตัวเธอไว้ระหว่างผนัง “เคยพูดไหมล่ะว่าจะให้ฉันนอนคืนหนึ่งน่ะ?”
ซูย้าวผงะ เงยหน้ามองริมฝีปากที่ดูขยับเล็กน้อย ดวงตาที่ดูคลุมเครือ ความหล่อเหล่าที่มีนั้น เธอพยายามปกปิดความตื่นตระหนกในใจและพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันสัญญา แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
“โอ้ ทำไมล่ะ?”ลี่เฉินซีโน้มตัวเข้ามาใกล้มาก น้ำเสียงที่แผ่วเบาค่อยๆกระซิบออกมา กระจายไปทั่วหัวใจของเธอ ความมีเสน่ห์นี้มันช่างมากมายเหลือเกิน
ซูย้าวมองที่เขา เหล่ตาเล็กน้อยเหมือนลูกแมวขี้เกียจ เพราะทั้งสองนั้นอยู่ใกล้กันมาก ผมยาวเป็นลอนของเธอกระจายอยู่ที่คอของเขาและมันทำให้คัน
เธอไม่ได้หลบ ในระยะทางที่ใกล้นี้ เธอสูดลมหายใจริมฝีปากสีแดงขยับช้าๆและพูดเบา ๆ ว่า “เพราะว่าวันนี้ฉันเหนื่อยมากน่ะสิ ต้องพักผ่อนก่อน”
ลี่เฉินซีมองเข้าไปในดวงตาของเธอ ความดำมืดนั้นมีแสงจางๆอยู่ด้านใน จากนั้นก็มีรอยยิ้มออกมา ซึ่งนั่นทำให้เธอประหลาดใจ ทันทีที่เขาปล่อยเธอไปเขาก็ลูบหัวของเธออย่างเป็นธรรมชาติด้วยมือใหญ่และพูดว่า “แค่แกล้งเธอน่า ฉันก็เหนื่อยเหมือนกัน พักผ่อนเถอะ!”
ในที่สุดเธอก็ยอมวางหัวใจที่อัดแน่นนี้ลงได้
“วันนี้ก็ดึกมากแล้ว บอกว่าขอคืนหนึ่ง คงจะเสียเปรียบแน่ๆเลยใช่ไหม?”เขาพูดอีก
แก้มของซูย้าวนั้นแดงระเรื่อ ชายคนนี้นี่นะ…
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอพร้อมกับโบกมือ ริมฝีปาก รอยยิ้มที่เหมาะสมนุ่มนวลและน่ามองนั้น
“หึหึ” ซูย้าวนั้นไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาชื่นชม เธอหัวเราะออกมาสองทีและหันหลังเดินกลับเข้าไป
…..
ในห้องสมุดของคฤหาสน์ในต่างประเทศ แสงอาทิตย์ที่สะท้อนชายที่ดูเย็นชายคนนี้ ร่างกายก็พร่างพราวเพราะแสงสะท้อนจึงทำให้ยากที่จะมองเห็นใบหน้า ด้านหน้าของเขามีเกมหมากรุกตั้งอยู่
“ฉันเคยสอบถามเรื่องนี้แล้วหลังจากที่ลี่เฉินซีกลับมาที่ประเทศจีน นอกจากไปที่บริษัทแล้ว ก็มีไปที่โรงแรมโซฟีเชีย” ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆและรายงาน
ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาหยิบหมากรุกในมือของเขาเล่นอย่างเบา ๆ ร่างที่จมอยู่ในแสงนั้นทำให้เห็นไม่ชัดเจน จากนั้น ก็เอ่ยปากออกมาว่า “แล้วคนที่ชื่อว่าหานฉ่ายหลิง ก็ไร้ประโยชน์เหรอ?”
“เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดครับ เพียงแต่รู้ว่าลี่เฉินซีไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อเธอเลยแม้แต่น้อย!” คนด้านข้างพูดต่อ
“แบบนี้…” ผู้ชายคนนี้คิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็พูดอีกว่า “งั้นก็ลงมือ ช่วยเธอซะ!ถือว่าเป็นการทำเรื่องดีๆก็แล้วกัน”
ชายที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ครับ ผมจะลงมือเลย”