บทที่ 39 ไม่ขอโทษใช่ไหม
ช่วงบ่าย ความร้อนจากแสงส่องกระทบพื้น อุณหภูมิสูงมาก
ซูย้าวเพิ่งอาบน้ำให้เจิ้งเอ๋อเสร็จ และเปลี่ยนผ้าอ้อม เจ้าตัวน้อยรู้สึกสบายตัวมาก คลานไปคลานมาบนเตียง อยู่ไม่นิ่ง
เขาใช้พลังงานคลานอยู่บนเตียงอยู่นาน จับเขากลับมา สวมเสื้อยืดซุปเปอแมนและกางเกงขาสั้นให้ใหม่ แล้วอุ้มลงไปชั้นล่าง
หานฉ่ายหลิงมาพอดี เมื่อลี่เจิ้งเจอเธอ ก็ยกมือเล็กขึ้นมาทันที เพื่อแสดงว่าให้อุ้ม
เด็กคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหานฉ่ายหลิงแม้ว่าจะยังเด็กมาก แต่กลับรู้ว่าใครเป็นใครแล้ว
“ว้าว เจิ้งเอ๋อเหมือนซุปเปอแมนน้อยเลย ยอดเยี่ยมมาก!” หานฉ่ายหลิงเข้ามาอุ้มเขา หอมแก้มเด็กอย่างรักใคร่
จากนั้นก็นั่งลงมา เธอพูดว่า “ตอนบ่ายมีงานเลี้ยง ซูย้าวพิจารณาว่าจะไปด้วยกันกับฉันไหม?”
งานเลี้ยง?
ซูย้าวชะงัก ไม่เข้าใจความหมายอย่างเห็นได้ชัด
“ก็เป็นงานเลี้ยงที่มีแต่ผู้หญิงในกลุ่มเราๆ มีแต่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วทั้งนั้น หรือพวกสุภาพสตรี มานั่งพูดคุย และทานอาหารไปด้วยกัน ก็เท่านี้” หานฉ่ายหลิงพูดอธิบาย
เธอเข้าใจแล้ว เมื่อก่อนก็เคยมีงานเลี้ยงแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกครั้ง มีแต่ซูหยวนที่ไปในนามของตระกูลซู
“ไปด้วยกันเถอะ! ในฐานะของตระกูลซู เหมาะสมที่สุดแล้ว” หานฉ่ายหลิงกระตือรือร้นมาก จับมือเธอไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
ซูย้าวอดทนเล็กน้อย เธอไม่ชอบโอกาสแบบนั้น
เนื่องจากตัวเองเป็นใบ้ และก็พูดไม่ได้ หากไปก็มีแต่จะทำให้คนอื่นเยาะเย้ย!
บางทีเมื่อรู้สึกถึงความยากลำบากของเธอ หานฉ่ายหลิงยิ้มเล็กน้อย และพูดอีกครั้งว่า “ไม่เป็นไร มีฉันอยู่ด้วย ไม่มีใครกล้าว่าอะไรเธอได้! ยิ่งไปกว่านั้นซูย้าวยังเป็นถึงคุณผู้หญิงลี่เชียวนะ เป็นที่อิจฉาของผู้หญิงเหล่านั้น!”
เป็นที่น่าอิฉา…
คำเหล่านี้เมื่อมาใช้อยู่บนตัวเธอ ซูย้าวยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หานฉ่ายหลิงมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก จึงเชิญชวนอีกครั้ง ซูย้าวไม่สามารถปฏิเสธได้ สายตากวาดมองลี่เจิ้งที่กำลังเล่นรถของเล่นอยู่บนโซฟา จึงใช้ภาษามือ “ฉันต้องดูแลเจิ้งเอ๋อ ต้องขอโทษจริงๆ คุณหานคุณ…”
ไม่รอให้เธอได้ใช้ภาษามือให้เสร็จ ก็มีเสียงมาขัดจังหวะ—
ฉ่ายหลิงพูดแบบนี้แล้ว เธอก็ไปเถอะ!”
ซูย้าวสะดุ้ง เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็ได้เห็นเจี่ยงเวินอี๋เดินเข้ามาจากโถงทางเดินพอดี
เธอมาเยี่ยมหลานชาย บังเอิญมาได้ยินสิ่งที่หานฉ่ายหลิงพูด
เจี่ยงเวินอี๋เปลี่ยนรองเท้า เข้าก็มาถึงก็ทักทายลี่เจิ้ง “หลานของย่า มา ให้ย่าดูหน่อยสิ…”
เธอโปรดลี่เจิ้งมาก และรักเด็กคนนี้มาก
กอดเจิ้งเอ๋อไว้ในอ้อมกอดเจี่ยงเวินอี๋พูดอีกครั้งว่า “อย่างไรเธอก็เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลลี่โอกาสแบบนี้ จะไม่ไปได้อย่างไรกัน? เจิ้งเอ๋อยังมีฉัน! เธอไปกับฉ่ายหลิงเถอะ!”
ฉ่ายหลิงยิ้ม และพูดว่า “ใช่ มีฉันอยู่ด้วย ซูย้าววางใจได้ ฉันไม่ให้คนอื่นมารังแกเธอได้!”
ซูย้าวอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อแม่สามีพูดเช่นนี้แล้ว เธอจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน?
จึงฝืนตัวเองขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปกับฉ่ายหลิง
สถานที่จัดงานเลี้ยง เป็นฮอลิเดย์วิลล่าในเขตชานเมือง คลับspa
ภายใต้ทรัพย์สินของบริษัทLG และในฐานะทายาทของบริษัทLGลู่ส้าวหลิง และยังเป็นเพื่อนที่ดีของลี่เฉินซี เมื่อได้ยินว่าซูย้าวมาถึง ผู้จัดการของงานเลี้ยงได้ลงมาต้อนรับที่ชั้นล่างด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นหานฉ่ายหลิงก็พูดว่า “คุณหานก็มาด้วย ทำให้งานเลี้ยงของเราดูมีชีวิตชีวาขึ้นจริงๆ!”
คำพูดที่สุภาพต่างๆ นาๆ ไม่มีอะไรนอกจากการเห็นแก่หน้าของบริษัทลี่ซื่อ
ซึ่งทำให้สุภาพสตรีที่มาถึงก่อนจำนวนไม่น้อยต่างพากันอิจฉา และมีสายตาริษยา มองมาทางทั้งสองคน ไม่ต้องสังเกต ก็รู้ได้ว่าสามารถอาฆาตแค้นได้มากเท่าไหร่ก็อาฆาตแค้นได้มากเท่านั้น
เมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัว โดยทั่วไปจะมีสามถึงห้ากลุ่ม ที่แต่งตัวหรูหรา กำลังดื่มไวน์แดง ผู้หญิงที่เหมือนๆ กัน ได้นั่งรวมตัวกันสนทนากัน
การมาถึงของซูย้าว ทำให้ทุกคนแปลกใจ
และในกลุ่มคน เธอก็ได้เห็นร่างของซูหยวน
สองพี่น้องพบเจอกันอีกครั้ง คนหนึ่งหน้าตาดูบอบบาง สง่างามและดูแพง อีกคนหน้าเติมแต่งด้วยเคราองสำอางจัด ดูมีเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิง
ซูหยวนคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอซูย้าวที่นี่ หว่างคิ้วขมวดกันแน่น แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ตรงริมฝีปาก และพูดว่า “วันนี้ลมอะไร ถึงได้พัดน้องสาวมาถึงนี่!”
พูดจบ ซูหยวนก็กวาดสายตาไปทางหานฉ่ายหลิง และยิ้มอย่างเย็นชา “แฟนเก่าและแฟนคนปัจจุบันมาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เขาฮิตแบบนี้กันเหรอ?”
หนึ่งประโยค ทำลายความสัมพันธ์ของหลายคน
ผู้หญิงสิบกว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ สายตามองมาทางเดียวกัน บรรยากาศเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ซูย้าวลดสายตาลง ไม่อยากสนใจเรื่องของซูหยวนซึ่งต่างจากหานฉ่ายหลิง
เธอจ้องมองซูหยวน แววตาฉายแววความเจ้าเล่ห์ “แล้วเธอล่ะ?”
หานฉ่ายหลิงตั้งใจถอนหายใจ ดวงตาแอปริคอทขยับ และพูดต่อ “ได้ยินมาว่าคุณซูหยวนแอบชอบใครสักคน แล้วทำทุกอย่างเพื่ออยากได้ความสนใจ แต่สิ่งที่ได้ คือความเพิกเฉยของอีกฝ่าย แบบนี้ใช่ไหม?”
เธอจงใจให้หน้าซูหยวน จึงไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของลี่เฉินซี
แม้จะไม่เอ่ยถึง ผู้คนก็อยู่ในกลุ่มนี้ จะไม่รู้เรื่องที่ซูหยวนชอบคุณชายลี่ได้อย่างไรกัน?
คำพูดเพียงไม่กี่คำของหานฉ่ายหลิง ไปจี้จุดของซูหยวน ไม่เพียงยั่วยุเธอหยิบแก้วไวน์ลุกขึ้นทันที เดินไปทางของหานฉ่ายหลิงและซูย้าว
ด้วยความรวดเร็ว หานฉ่ายหลิงรู้สึกได้ จึงหลบถอยไป แต่ซูย้าวไม่ได้โชคดี ไวน์แดงในแก้วไวน์ถูกหกลงบนอกไปทั่ว
ผู้คนรอบข้างลุกขึ้นทีละคน เสียงร้องอุทานดังขึ้น
เมื่อซูหยวนเห็นเช่นนี้ กำลังจะสะบัดเดินออกไป กลับถูกหานฉ่ายหลิงเดินไปดึงเอาไว้ “สาดไวน์เสร็จคิดจะหนี? ซูหยวน ไม่ควรขอโทษหน่อยเหรอ?”
“ขอโทษ? กับใคร?” ซูหยวนกำลังถูกครอบงำ ทัศนคติค่อนข้างแย่
เธอเหล่ไปทางซูย้าว พอดีที่วันนี้ซูย้าวได้สวมชุดกระโปรงสีขาว ไวน์แดงหกลงบนตัว แดงราวกับเลือด ดูลำบากใจเล็กน้อย
หานฉ่ายหลิงเลิกคิ้ว “เธออารมณ์ไหน? แน่นอนว่าต้องเป็นซูย้าวอยู่แล้ว!”
“งั้นเหรอ?” ซูหยวนหัวเราะอย่างเยือกเย็น ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เดินไปใกล้ตรงหน้าของซูย้าว คว้าข้อมือบางๆ ของเธอทันที เล็บอันแหลมคมจิกเข้าไปในเนื้อ ซูย้าวขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
“ฉันจำเป็นต้องขอโทษเธอไหม? น้องสาว?” ซูหยวนตั้งใจปรับเสียงให้ดังขึ้น ดูเหมือนพึงพอใจ แต่ในความเป็นจริงเป็นการข่มขู่เต็มๆ
ซูหยวนแรงเยอะมาก จนทำให้ข้อมือของซูย้าวเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาเผชิญกับสายตาที่ยั่วยุของเธอ ความโกรธในใจของซูย้าวก็เพิ่มขึ้น
วินาทีต่อมา ซูย้าวใช้แรงทั้งหมด สะบัดซูหยวนออก
แม้ว่าเธอจะพูดไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นลูกพลับที่อ่อนแอ ที่จะถูกรังแกได้ตามที่ต้องการ!
ซูหยวนคิดไม่ถึงว่าเธอจะต่อต้าน จึงโกรธมากกว่าเดิม “เธอ…”
แต่เมื่อกำลังจะพูด ก็ถูกหานฉ่ายหลิงขัดจังหวะ “ทำผิดก็ต้องขอโทษ หรือตระกูลซูกฎระเบียบแค่นี้ก็ไม่มีแล้วเหรอ?”
ซูหยวนถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย จึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดอยู่พักหนึ่ง
รู้สึกยอมแพ้ไม่ได้
ด้วยนิสัยของเธอ จะมาพูดขอโทษได้อย่างไรกัน
ผู้คนรอบข้างจำนวนไม่น้อยมาห้ามศึก อธิบายต่างๆ นาๆ ให้ซูหยวน
ความโกรธของหานฉ่ายหลิงค่อยๆ ลดลงไม่น้อย เวลานี้ทำได้เพียงปล่อยเลยผ่านไป เธอพาซูย้าวไปห้องน้ำเพื่อไปจัดการรอยบนเสื้อผ้า
บังเอิญ มีสองสาวที่กำลังอยู่ในห้องน้ำ เนื้อหาการสนทนา เข้ามาในหูของหานฉ่ายหลิงโดยไม่ได้ตั้งใจ—
“ซูหยวนฝีมือสูง! ครั้งก่อนให้เราแสดง บอกว่าหานฉ่ายหลิงมี ‘โรคเซ็ก ‘แกล้งให้ซูย้าวได้ยิน สุดท้าย พวกเขาก็ติดกับ! ยิงนกตัวเดียวได้นกสองตัว!”
“ใช่ พี่หยวนน่าทึ่งมาก!”