หานฉ่ายหลิงได้ยินเขาสั่งให้เลขาไปซื้อแล้วหยุดร้องทันที มองเขาทั้งทีเต็มไปด้วยน้ำตาแล้วสูดจมูกเข้าทีหนึ่ง
“เฉินซีคะ……”
เขากลับยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วเอื้อมมือไปดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอด“เด็กโง่ ก็แค่แหวนวงเดียว จะร้องไห้ไปทำมั้ยครับ?ไม่จำเป็นเลย”
“แต่ว่า นั่นมันแหวนหมั้นที่คุณให้ฉันนะคะ!”เธอซบที่อกของเขา ตาของเธอแดงก่ำ เหมือนกระต่ายน้อยที่บาดเจ็บน่ารักจนทำให้คนใจละลาย
รวมถึงลี่เฉินซีก็ด้วย ก้มหน้าจูบที่หน้าผากของเธอทีหนึ่งอย่างเป็นธรรมชาติ“ไม่เป็นไรนะ แหวนหมั้นแล้วไง?ถึงเป็นแหวนแต่งงาน หายไปแล้วก็หายไป มันไม่ได้แทนความหมายอะไรเลย ขอแค่คนยังอยู่ ทั้งหมดนั่นก็ไม่สำคัญ!”
ลูกสาวมีลี่เฉินซีคอยปลอบโยนอยู่ข้างๆ พ่อหานก็วางใจแล้ว แล้วจูงมือน้อยๆของชาร์ลี พาหลานชายกลับไปอาบน้ำที่ห้องแล้วพาเขาเข้านอน
ลี่เฉินซีก็พาเธอลงไปชั้นล่าง ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่โซฟาและยังคงกอดกันไว้แน่น เธอซกอยู่ที่ไหล่ของเขา“เฉินซี ของทุกอย่างที่คุณให้ฉัน ฉันอยากจะเก็บมันไว้ทั้งหมด”
ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา เธออยากเก็บรักษามันไว้หมด
แม้ว่าเขาจะมีเจตนาเพื่อคนอื่นก็ตาม ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเขา เธอก็ไม่อยากพลาดมันไป
“เด็กโง่ อย่าลืมสิครับ ว่าคุณยังมีผมอยู่นะ!”เขายิ้ม ความเอ็งดูและความรักสามารถมองเห็นได้จากแววตาของเขา
หานฉ่ายหลิงถูกเขาประคบประหงม ดื่มด่ำกับความรู้สึกแบบนี้ เธอกลับมีอารมณ์ไม่พอใจขึ้นแล้วพูด“แต่ว่าเฉินซีคะ……คุณไม่เคยใส่แหวนหมั้นของเราเลยนะคะ……”
“รู้มั้ยว่าทำไมผมถึงไม่ใส่?”เขาถาม
เธอส่ายหัว“ไม่รู้ซิคะ!”
“นั่นเป็นเพราะว่าผมอยากใส่แหวนแต่งงานของเราไง”เขายื่นมือออกมา ข้อมือที่เรียวยาว ดูขาวเรียว
มือของเขาสวยมาก
มือของผู้ชายที่สวยได้ขนาดนี้ หน้าตาก็คงไม่แย่แน่
หานฉ่ายหลิงกุมมือเขาไว้ “เฉินซี คุณดีจังเลยค่ะ”
คำพูดของผู้ชายเหมือนเตาถ่านที่ให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว อบอุ่นหัวใจของเธอ รู้สึกว่าชีวิตนี้มีเขาคอยอยู่ข้างกาย ไม่ว่าชีวิตที่เหลือจะยาวไกลอีกแค่ไหน เธอก็ยอม!
“เออ ใช่สิ บัญชีฝั่งหลิงเตี่ยน ยังตรวจไม่พบปัญหาอะไรเลยหรอครับ?”เขาถามอย่างเป็นห่วง
หานฉ่ายหลิงส่ายหัว ตามด้วยสูดหายใจลึกๆทีหนึ่ง“คงเป็นเพราะฉันคิดมากไปเองมั่งคะ เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็แค่รู้สึกว่าบางรายการค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่มาคิดดูดีๆแล้ว ยังไงซะ มันเป็นร้านอาหาร ต้องมีการสั่งของเข้าร้านในทุกวันค่าใช้จ่ายสูงหน่อย ก็เป็นเรื่องปกติ”
ลี่เฉินซีมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มเรียบง่าย“คงเป็นเพราะคุณเพิ่งมาทำธุรกิจร้านอาหารครั้งแรกเลยไม่ค่อยถนัด แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ถ้าคุณยังรู้สึกมีปัญหาอีกละก็ เดี๋ยวผมให้หวางอี้หาคนไปช่วยแล้วกัน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ทางบริษัทHSสิคะ จะมีงานนิทรรศการการออกแบบแฟชั่นงานหนึ่ง จากขึ้นที่ปารีสในวันมะรืน ฉันได้รับการ์ดเชิญมาด้วยค่ะ”หานฉ่ายหลิงมองหน้าเขาโดยที่แววตาดูเฝ้าหวัง
ลี่เฉินซีก็พูดขึ้นโดยตรง“คุณอยากให้ผมไปกับคุณ?”
“คำขอนี้มากไปใช่มั้ยคะ?จู่ๆมาพูด คุณคงจะลำบากใจใช่มั้ยคะ?”
เขาหัวเราะ“ลำบากน่ะไม่ลำบากหรอกครับ แต่ว่าคุณก็น่าจะรู้ ก่อนหน้านี้ ที่ผมร่วมงานกับกรุ๊ปK มีเรื่องผิดใจกันอยู่?”
จะพูดว่าผิดใจก็คงไม่ได้ เป็นเพราะลี่เฉินซีที่อยู่ในสมรภูมิธุรกิจ ทำกำไรมาโดยตลอดไม่เคยขาดทุน แต่ก่อนหน้านี้ที่ร่วมงานกับกรุ๊ปK กลับขาดทุนยับเยิน
นั่นมันเป็นโครงการที่แย่งมาจากซูย้าว คงเป็นเพราะ ตอนนั้นเขาไม่ควรเอาแต่ใจ คิดอยากจะเอาชนะเลยไปแย่งโครงการเครื่องประดับอัญมณีมาตั้งแต่แรก เพราะโครงการนี้มันไม่ใช่งานถนัดของบริษัทลี่ซื่อเลย
“เพราะฉะนั้น เวลานี้ ถ้าผมไปปารีสอีก ความสัมพันธ์กับฝั่งกรุ๊ปKคงต้องแย่งลงอีกแน่ เพราะฉะนั้น……คุณน่าจะเข้าใจ!”เขายิ้มบางๆ รอยยิ้มดูใสหล่อ
หานฉ่ายหลิงเข้าใจทันที“อ๋อ ฉันเกือบลืมไปเลยค่ะ!ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวฉันเองก็หาข้ออ้างปฏิเสธไปแล้วกันค่ะ!”
“อยู่ดีๆ คุณทำไมต้องปฏิเสธล่ะครับ?”ลี่เฉินซีห้ามเธอเอาไว้“ฉ่ายหลิง ผมรู้ว่าสั่งที่คุณถนัดมากที่สุดก็คือด้านการออกแบบ โดยเฉพาะการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ครั้งนี้ คุณเป็นคนออกแบบกว่า80%เลยไม่ใช่หรอ?”
เขารู้ว่าความฝันของหานฉ่ายหลิงตอนเรียนมหาวิทยาลัย ที่จริงก็คือฝันอยากจะเป็นนักออกแบบชื่อดัง
เธอชื่นชมดีไซเนอร์ชื่อดังในต่างประเทศอยู่หลายคน ฝันว่าวันหนึ่ง เธอจะสามารถนำผลงานออกแบบของตัวเองไปสู่สากล ไปสู่เวทีโลกได้
หานฉ่ายหลิงซึ้งใจแล้วก้มหน้าลงอย่างเขิน“ไม่นึกเลยว่าคุณยังจำได้……”
“เรื่องที่เกี่ยวกับคุณ ผมไม่เคยลืมแม้แต่เรื่องเดียว ไปเถอะนะ!ครั้งนี้เป็นโอกาสดี”เขาสนับสนุนเต็มที่
แต่เธอกลับรู้สึกลังเล แล้วเงยหน้ามองเขา“แต่ว่า……ถ้าฉันไป อาจจะสิบกว่าวันเลยนะคะ ที่กลับมาไม่ได้……”
“คุณไปทำงานของคุณเถอะนะ ผมก็จะหาเวลาไปยุโรปรอบหนึ่งพอดี บริษัทฝั่งโน้น ช่วงนี้มีปัญหาหน่อย ผมต้องไปจัดการพอดี”เขาพูด
หานฉ่ายหลิงตกใจ ตัวเองจากไป เขาก็จะไปยุโรปด้วย?
ถึงแม้จะตัดความสงสัยในใจเธอออกได้ แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่ตัวเองคิดไว้
ผู้ชายเอื้อมแขนยาวออกมากอดเธออีกครั้ง กอดไว้แน่นแล้วจูบที่แก้มของเธอ“ถือซะว่าจากการครั้งนี้ จะช่วยสร้างความคิดถึงความผูกพันให้เราสองคนแล้วกันนะ!ฉ่ายหลิง ถึงเราจะคบกัน แต่ก็ไม่อยากให้ความรักมาทำให้เราเสียการงานหรอกนะ พวกเราจะเอาทั้งความรักและต้องมีความฝันด้วยถูกมั้ย?”
“คุณพูดถูกค่ะ”มองผู้ชายที่อยู่ข้างกาย เห็นตัวเองที่เป็นผู้หญิงตัวน้อยๆในดวงตาของเขา หัวใจของหานฉ่ายหลิงว้าวุ่นไปหมด ความคาดเดาต่างๆนานาในหัวหายไปเป็นปลิดทิ้ง
ลี่เฉินซีพูดต่อ“ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว นั้นคุณเตรียมจะไปเมื่อไหร่?”
“แล้วคุณจะไปยุโรปเมื่อไหร่คะ?”
เขาหัวเราะ“เอาอย่างนี้!ผมส่งคุณไปที่ปารีสก่อนแล้วค่อยไปยุโรป เป็นไงครับ?”
“คะ?อย่างนี้มันไม่ยุ่งยากไปหรอคะ?”เธอก็รู้สึกเป็นห่วงเขาอีก
ลี่เฉินซีจับมือเธอไว้ คำพูดที่พูดออกมายิ่งหนักแน่นขึ้น“เพื่อคุณแล้ว ทั้งหมดนี้มันก็คุ้มครับ!”
เพื่อเป็นการตอบแทน หานฉ่ายหลิงเข้าไปโชคฝีมือทำซุปเป็ดในครัว เพื่อเป็นอาหารเมื่อดึก ทั้งสองคนทานเสร็จแล้วนั่งคุยกันอยู่นาน จนเที่ยงคืนกว่า ลี่เฉินซีถึงออกจากบ้านตระกูลหาน
หานฉ่ายหลิงยังคงยืนมองเงาของผู้ชายข้างกระจกบานใหญ่ ไม่ยอมไปไหน
จนกระทั่งเสียงพ่อหานดังมาจากข้างหลัง“ฉ่ายหลิง นี่ก็ดึกมากแล้ว รีบกลับห้อง ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว!”
เธอถึงฝืนใจเก็บความคิดทั้งหมดแล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเดินขึ้นไปที่ห้องอย่างเร็ว
พ่อหานเห็นลูกสาวในตอนนี้ เหมือนสาวน้อยที่ตกอยู่ในหลุมความรัก แล้วรู้สึกดีใจแทนลูกสาว
วันต่อมา ชั้นล่างของโรงแรม
โม่หว่านหว่านพาเด็กสองคนลงไปส่งซูย้าว
“แน่ใจหรอว่าเธอจะไป?ไกลขนาดนั้น ถ้าหาไม่เจอล่ะ?”โม่หว่านหว่านรู้สึกเป็นห่วง
ซูย้าวกลับมั่งใจมาก“วางใจเถอะนะ!ผู้ชายอย่างเจียงจี้เซิง ถึงจะพยายามทำตัวติดดินเท่าไหร่ ก็จะเป็นจุดสนใจได้ง่ายอยู่ดี ถึงหาเขาไม่เจอ ก็สามารถสืบข่าวคราวได้บ้าง!”
“……ก็หวังเป็นอย่างที่เธอพูดแล้วกัน!แต่ว่าเธอก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย แล้วรีบมาล่ะ!”โม่หว่านหว่านเตือนเธอ
เธอพยักหน้า“ฉันรู้แล้ว!วางใจเถอะ!”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอออกไปทำงานที่ต่างประเทศ ถึงงานครั้งนี้จะไม่เหมือนกัน แต่สำหรับซูย้าวที่วิ่งไปทั่วทุกที่แล้ว นี่แค่เรื่องจิ๊บจ๊อย
พอดีเลย เวลานี้ หลินโม่ป่ายก็มาพอดี
โม่หว่านหว่านเลยพูด“โม่ป่าย นายมาได้เวลาเลย ช่วยส่งซูย้าวไปสนามบินหน่อยนะ!”
ผู้ชายช่วยเปิดประตูข้างคนขับให้เธอ ซูย้าวบอกลากับเด็กๆแล้วขึ้นรถไป
“ต้องขอโทษนะ ที่ครั้งนี้ผมไปกับคุณไม่ได้……”หลินโม่ป่ายรู้สึกเสียดาย ฝั่งกรุ๊ปหลินยุ่งวุ่นวายกันใหญ่ พ่อที่อายุมาก ป่วยหนักโดยที่ไม่มีทางรักษาตั้งนานแล้ว อาจจากไปได้ทุกเมื่อ เขาที่เป็นลูกชายคนเดียว ไม่สามารถไปไหนได้จริงๆ
ซูย้าวมองเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ“สถานการณ์ของคุณตอนนี้ ฉันเข้าใจดี ฉันไม่โทษคุณหรอกนะ รอฉันกลับมา เราหาเวลาพาเด็กไปเที่ยวกันนะ!”
“อืม แต่ว่าซูย้าว ครั้งนี้ที่เธอไปฝั่งโน้น มันไกลจากที่นี่มากเลยนะ คุณต้องรู้ไว้นะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ผมอยู่ฝั่งนี้ช่วยอะไรคุณไม่ได้เลยนะ!”จู่ๆ หลินโม่ป่ายก็พูด
การเดินทางในครั้งนี้ อันตรายแค่ไหน ซูย้าวรู้ดี แต่ว่า เธอเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ชอบก่อเรื่องสร้างปัญหา อะไรที่พยายามหลบเลี่ยงได้เธอก็จะทำ เอาความปลอดภัยตัวเองเป็นหลัก
“วางใจเถอะค่ะ!โม่ป่าย ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองเกิดเรื่องได้หรอก”เธอรับปากอย่างมั่งใจ