“ฉันมาช่วยคุณแบล็กเมล์เจียงจี้เซิง แล้วก็สามารถช่วยให้คุณได้รับเงินมามากมายเหมือนกัน!” อานซินเออร์ที่อยู่อีกข้างหนึ่งอดทนไม่ไหว อยู่ๆ ก็พูดขึ้น
ผู้ชายถลึงตาใส่เธออย่างแรงอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ อานซินเออร์ไม่ได้หุบปากไปอย่างเชื่อฟังอีกแล้ว แต่กลับพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ยังมีบริษัทของฉันอีก ฉันล้วนสามารถช่วยคุณแบล็กเมล์ได้ทั้งนั้น ฉันไม่ต้องการสิบเปอร์เซ็นต์ แบ่งให้ฉันแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว!”
“……”
“คุณหุบปากให้ผมเดี๋ยวนี้นะ!” ผู้ชายตะคอกไปทางอานซินเออร์ประโยคหนึ่ง
เขาหมุนตัวไปมองซูย้าว “คุณสามารถเอาเงินมาจากที่สามีเก่าของคุณนั่นได้เท่าไหร่?”
“คุณต้องการเท่าไหร่?” ซูย้าวถามขึ้น สังเกตดูปฏิกิริยาที่ละเอียดอ่อนของชายหนุ่ม ในใจของเธอสามารถมั่นใจได้ ไม่ว่าคนที่ว่าจ้างผู้ชายมาจะเป็นใคร ค่าจ้างที่จ่ายให้น่าจะไม่เกินหนึ่งล้าน
ไม่รอให้ผู้ชายเปิดปากพูด เธอก็พูดตรงๆ เลยว่า “หนึ่งพันล้านมั้ง? คุณคิดว่าใช้หนึ่งพันล้าน ปล่อยฉันไป แล้วก็ให้ฉันสิบล้าน แบบนี้เหมาะสมไหม?”
“หนึ่งพันล้าน?” ผู้ชายพร่ำบ่นขึ้นเสียงเบา แล้วก็คำนวณเงินก้อนนี้และการเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยง รวมทั้งความจริงเท็จในคำพูดของซูย้าว
และแล้ว อานซินเออร์ที่อยู่อีกข้างหนึ่งอยู่ๆ ก็พูดขึ้น “ฉันสามารถช่วยทำให้คุณได้เงินมาสองพันล้าน!”
“……”
ซูย้าวโดนยัยเด็กนี่ทำให้พ่ายแพ้ไปแล้ว หมดคำพูดจริงๆ
อานซินเออร์จ้องมองผู้ชายอย่างใบหน้าใสซื่อ ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ผู้ชายไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่แค่หมุนตัวเดินออกไปจากห้อง
พอเห็นประตูห้องปิดสนิทแล้ว อานซินเออร์ก็รีบขยับเข้ามาใกล้แล้วพูดเสียงเบาขึ้นว่า “คุณจะแบล็กเมล์ลี่เฉินซีจริงๆ เหรอ? เขาไม่ได้ให้ค่าเลี้ยงดูจริงๆ เหรอ?”
ซูย้าวหลับตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง “คุณหุบปากให้ฉันเถอะ! ทูนหัวน้อย!”
ที่ข้างนอก พอผู้ชายเพิ่งเดินออกมา ก็โดนพวกลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลังไว้หมดแล้ว
คนพวกนี้ก็ได้ยินการสนทนาที่ข้างในของพวกเขาแล้ว และโดนจำนวนเงินหนึ่งพันล้าน กับสองพันล้านนั่นทำให้ตกตะลึงขึ้นแล้ว พอเห็นเงินก็ตาโต แล้วก็จิตใจหวั่นไหวขึ้นทันที
พวกหลายคนพูดคุยกันอย่างลับๆ พักหนึ่ง ก็ได้รับข่าวว่า ผู้ซื้อมาถึงแล้ว
เจ้าหนวดเคราถามขึ้นว่า “พี่ใหญ่ ตกลงยัยสองคนนั้น จะขายหรือไม่ขาย?”
ผู้ชายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในเมื่อได้ติดต่อกับผู้ซื้อไว้แล้ว ถ้าไม่ส่งของออกไปให้ละก็ งั้นก็จะทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือไป และอีกอย่าง ก็จะอธิบายกับทางผู้ซื้อได้ยากด้วย
หลังจากที่เขาชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว สุดท้ายก็พูดขึ้นว่า “งั้นก็เอาคนที่เป็นส่วนเกินนั่นขายไปละกัน!”
“แต่ว่าสองพันล้านละ……” เจ้าหนวดเครารู้สึกเสียดาย……
ผู้ชายยกมือขึ้นมาก็ตีป๊าบทีหนึ่งลงบนหัวของเจ้าหนวดเคราเลย “สองพันล้านเทียบกับชีวิต อันไหนสำคัญกว่ากัน? คนที่เป็นส่วนเกินนั้น ตั้งแต่แรกก็คือเกินออกมาแล้ว เธอพูดว่าสองพันล้าน แกก็เชื่อเหรอ”
เจ้าหนวดเคราคิดไปครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าถูก
และแล้ว ก็สั่งให้ลูกน้องไปทำตาม
ไม่ถึงเวลาวินาที ก็ได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดรวดร้าวของอานซินเออร์ดังขึ้น แล้วก็โดนผู้ชายคนหนึ่งแบกออกมา แล้วส่งไปทางท่าเรือโน้น
ซูย้าวเองก็เป็นห่วงอานซินเออร์ อยู่ แต่จากตอนนี้วินาทีนี้ สภาพที่เธอเป็นอยู่ก็ลำบากมากเหมือนกัน ถึงแม้ว่าอยากจะช่วยคน แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง!
ยังไงก็รักษาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า ต่อไปค่อยมาคิดเรื่องช่วยคน หวังว่าอานซินเออร์จะไม่โดนพาตัวไปไกลมากนักถึงจะดี……
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน อาจจะเป็นเพราะว่าพูดคุยกับผู้ซื้อได้ไม่เลวมั้ง ตอนที่ผู้ชายกลับมาอีกครั้งนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าดื่มเหล้ามาบ้าง แต่กลับไม่มีอาการเมา พอผลักประตูห้องเข้ามา ก็จ้องมองซูย้าวที่นั่งอยู่ที่นี่ แล้วไม่พูดอะไร เพียงแต่โยนโทรศัพท์มาให้เครื่องหนึ่ง
“โทรศัพท์หาสามีเก่าของคุณคนนั้น บอกกับเขา ภายในสองชั่วโมง ให้เขาเอาเงินหนึ่งพันล้านดอลลาร์มา!” ผู้ชายพูดขึ้น
ซูย้าวอึ้งไปครู่หนึ่ง “สองชั่วโมง? และยังเป็นดอลลาร์อีกเหรอ?”
“ทำไม? สามีเก่าคนนั้นของคุณทำไม่ได้เหรอ?” ผู้ชายยิ้มเย็น ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมายันอยู่ตรงกำแพงข้างๆ เธอ “ถ้าหากว่าคุณกล้าหลอกผม ผมก็จะติดต่อผู้ซื้อเดี๋ยวนี้ และสามารถเอาคุณขายทำเงินได้ตลอดเวลา!”
“ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแต่ว่าจำนวนเงินดอลลาร์มันค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นเงินหยวนละก็ฉันกล้ารับประกันได้ และอีกอย่างเวลาสองชั่วโมงมันน้อยเกินไป นี่คุณมันไม่ใช่ตั้งใจทำให้คนลำบากเหรอ?” เธอโต้กลับ
ผู้ชายกลับหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย แล้วตอนที่กำลังจะพูดอะไรนั้น ซูย้าวกลับให้คำตอบที่ดียิ่งกว่าอันหนึ่งกับเขา “หรือไม่ก็ฉันจะติดต่อเขาไปก่อน เวลาไม่ต้องเปลี่ยน เพียงแต่ว่าจำนวนเงินนี้นั้น ฉันจะให้เขาสามารถเตรียมดอลลาร์ได้เท่าไหร่ก็เตรียมเท่านั้น จากความสามารถของเขาฉันคาดว่า หลายร้อยล้าน น่าจะไม่เป็นปัญหาหรอก!”
หลายร้อยล้านดอลลาร์……
ก็เป็นจำนวนเงินก้อนหนึ่งที่ไม่น้อยแล้ว
เพียงพอที่จะให้คนพวกนี้มีชีวิตปั้นปลายที่สุขสบายได้แล้ว
ผู้ชายคิดไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยอมตอบตกลง
แต่ว่า เขาเอามีดออกมาเล่มหนึ่ง แล้วโบกสะบัดไปเล็กน้อย ก็มาจ่อไว้ตรงแก้มของซูย้าว “ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นผู้หญิงของหลินโม่ป่าย หรือว่าเป็นผู้หญิงของลี่อะไรนั่น แต่จำไว้ ถ้าคุณกล้าหลอกผม ใบหน้าของคุณ ก็จะต้องเสียโฉมไปทั้งหมดแน่!”
แววตาของผู้ชายดูโหดเหี้ยมไปทั้งดวง มองไม่เห็นความสงสารและอ่อนข้อใดๆ ซูย้าวเชื่อแน่นอนว่า ถ้าโทรศัพท์โทรไม่ติด หรือว่ามีอะไรผิดพลาดไปแม้แต่น้อย เขาก็จะพร้อมเฉือนแน่นอน!
ตัวเองเสียโฉมไปก็ไม่เป็นไร แต่ว่าเธอยังไม่อยากจะตาย ที่บ้านยังมีเด็กๆ รอเธออยู่ และยังมีลูกชายคนหนึ่งที่ยังหาตัวไม่เจอ เจิ้งเอ๋อก็ยังไม่ฟื้น เพื่อเด็กๆ พวกนี้แล้ว เธอจะตายไม่ได้แน่ๆ!
เมื่อคิดไปแบบนี้ ซูย้าวก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แล้วก็ขยับร่างกายเล็กน้อย เพื่อส่งสัญญาณให้เขาแก้มัดตัวเองก่อน
ผู้ชายฉลาดมาก เพียงแต่แค่แก้มัดที่มือเธอออก แล้วก็ใช้กุญแจมือมาใส่มือแทน แบบนี้ สามารถฝืนโทรศัพท์ออกไปได้ แต่กลับไม่มีทางหนีไปได้ หรือว่าทำการกระทำอย่างอื่นได้
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในสมองของเธอก็มีเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคยโผล่ขึ้นมาเป็นพรวน
แต่ว่า ลี่เฉินซีมีโทรศัพท์สองเครื่อง เครื่องหนึ่งเอาไว้ใช้ทำงาน อีกเครื่องหนึ่งเป็นโทรศัพท์ส่วนตัว
เธอไม่ค่อยแน่ใจว่าในเวลาแบบนี้ ตกลงเขาจะใช้โทรศัพท์อันไหนอยู่ จึงได้แต่ลองเสี่ยงดวงดู……
โทรศัพท์ดังขึ้นหลายที ถึงจะโทรติด
ทางด้านโน้นมีเสียงที่ขรึมต่ำของชายหนุ่มดังขึ้น มันคุ้นเคยจนทำให้เธอหัวใจเกือบหยุดเต้น
“ฮัลโล……”
“ลี่เฉินซี นี่ฉันเอง” น้ำเสียงของซูย้าวแหบแห้งเล็กน้อย แต่ว่ากลับได้ยินเหมือนสมจริง
ไม่รู้ว่าเขาที่อยู่ทางโน้นจะคิดยังไง แต่ว่า พอผ่านไปสักพักหนึ่งแล้วเสียงของชายหนุ่มก็ลอยมา “ซูย้าว คุณเป็นอะไรเหรอ?”
“ทางฉันเกิดเรื่องขึ้นมานิดหน่อย แล้วต้องการใช้เงินก้อนใหญ่เลย ลี่เฉินซี ภายในสองชั่วโมง คุณสามารถเตรียมดอลลาร์ได้เท่าไหร่?” เธอรีบร้อนถามขึ้น
มีดที่อยู่ในมือผู้ชาย ปลายมีดที่แหลมคม แนบอยู่กับหน้าของเธออย่างแนบชิด แค่ใช้แรงนิดหน่อย รอยบาดของมีดอันหนึ่งก็เกิดขึ้นมา
ลี่เฉินซีเงียบขรึมไปสองวินาที ถึงพูดขึ้นว่า “ก็น่าจะหลายล้านได้อยู่มั้ง! คุณต้องการใช้เหรอ?”
“ใช่ งั้นภายในสองชั่วโมง คุณพยายามหามาให้ได้มากที่สุดนะ อย่างน้อยต้องได้ไม่ต่ำกว่า……”
ซูย้าวลากเสียงให้ยาวขึ้น แล้วเงยหน้าไปมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ จากนั้นถึงได้พูดขึ้นว่า “อย่างน้อยที่สุดต้องไม่ต่ำกว่าสามล้านดอลลาร์ ยิ่งเยอะได้ก็ยิ่งดี อย่าลืมนะ ภายในสองชั่วโมง! ส่วนชื่อบัญชี เดี๋ยวจะส่งไปให้คุณ!”
“อ๋อ”
ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน น้ำเสียงที่ขรึมต่ำ เรียบเฉยราวกับไม่ได้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเลย
ซูย้าวขมวดคิ้วขึ้นอย่างเบื่อหน่าย แล้วในตอนวินาทีที่จะวางสายไปนั้น ก็พูดเสริมขึ้นอีกคำว่า “ลี่เฉินซี นี่ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ คุณช่วยจริงจังหน่อย!”
ทางด้านโน้นไม่ได้ตอบกลับ แต่โทรศัพท์กลับโดนกดวางสายไปเลย
“……”
ซูย้าวจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กลับมาหน้าบันทึกการโทรอีกครั้ง สีหน้าที่ไร้คำพูดดูเคอะเขินเล็กน้อย
เขาไม่ใช่ยังสนอกสนใจเธออยู่เหรอ? ไม่ใช่ยังคงมีความรู้สึกลึกซึ้งอย่างเก่าอยู่เหรอ? หรือว่าสิ่งที่เห็นมาทั้งหมดนั้นล้วนเป็นภาพปลอมเหรอ? หรือว่าพอพูดถึงเงิน ก็เปลี่ยนไปทันทีเลยเหรอ?
เจ้าลี่เฉินซีคนนี้ ถ้าภายในสองชั่วโมงเขายังไม่โอนเงินมา งั้นเธอก็คงจะต้องตายแน่แล้ว!
รอให้เธอหนีรอดไปจากเรื่องพวกนี้ให้ได้ก่อนเถอะ ดูซิว่าจะจัดการกับเขายังไง!
ผู้ชายที่อยู่ข้างกายวางมีดลง แล้วก็เก็บให้เรียบร้อยใหม่ และเก็บโทรศัพท์กลับไป “ดูท่า สามีเก่าของคุณคนนี้ เหมือนกับว่าคุณจะไม่ค่อยสำคัญกับเขาเท่าไหร่นะ!”
“ถ้าหากสำคัญละก็ เขาก็คงจะไม่กลายเป็นสามีเก่าหรอก!” ซูย้าวตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ผู้ชายหัวเราะหึๆ ทีหนึ่ง “แต่ก็ไม่เป็นไร เวลาสองชั่วโมง ผมก็รอได้นะ ถ้าเกิดว่าเงินไม่เข้าบัญชี พวกเราค่อยมาว่ากันใหม่!”
พูดแล้ว ผู้ชายก็เอาโทรศัพท์แล้วออกไปเลย แล้วก็ส่งข้อความเลขที่บัญชีของต่างประเทศอันหนึ่งออกไปที่เบอร์ที่ซูย้าวเพิ่งจะโทรศัพท์ออกไปเมื่อกี้
เวลาต่อจากนี้ เขาก็จะมารอว่าเลขที่บัญชีนี้จะมีโอนเข้ามาหรือไม่ แต่สิ่งที่ซูย้าวรอคอยอยู่ คืออนาคตที่ไม่มีทางคาดคิดได้เลย
เพียงแต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ เมื่อหลายนาทีก่อนหน้านี้ ลี่เฉินซีก็รับโทรศัพท์อยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างถนนที่ห่างจากท่าเรือไม่ไกลมากนัก
จ้องมองดูแสงไฟที่สว่างอยู่ของบ้านร้างที่อยู่ทางโน้น ดวงตาก็มืดขรึมลง
พอวางโทรศัพท์แล้ว เขาก็รีบติดต่อผู้ช่วย แล้วสั่งอย่างรวดเร็วขึ้นว่า “ติดต่อบริษัทลูกในท้องที่ทั้งหมด แล้วใช้ความเร็วที่เร็วสุดถอนเงินที่เคลื่อนไหวอยู่ในบัญชีออกมาให้หมด มีเท่าไหร่เอาเท่านั้น! พยายามรวบรวมให้ถึงห้าล้านดอลลาร์ให้ได้”
ถึงแม้พวกโจรจะเสนอมาสามล้าน แต่ว่า ซูย้าวได้พูดไว้แล้วไม่ใช่เหรอ? ว่ายิ่งเยอะยิ่งดี!
ทางด้านผู้ช่วยเองก็เหมือนกับว่าจะเดาสถานการณ์อะไรออกแล้ว จึงรีบพูดขึ้นว่า “แต่ว่าประธานลี่ครับ ในระยะเวลาแค่นี้ เงินในบัญชีของบริษัททางนี้ กลัวว่าคงจะรวบรวมไม่ครบตามจำนวนนี้นะครับ!”
“ถ้าไม่พอละก็ เดี๋ยวฉันมาคิดหาวิธีเอง!”
คำพูดของเขาเพิ่งพูดจบไป ทางนี้ก็มีคนมาเคาะกระจกรถแล้ว
ลี่เฉินซีอึ้งไปเล็กน้อย แล้วสายตาก็หันไปมองเงาดำที่อยู่นอกหน้าต่างรถ