ชายแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก ยกมือขึ้นเคาะกระจกรถ
ใบหน้าเฉยเมย แต่กลับเต็มไปด้วยความซื่อสัตย์ ดูท่าทางน่าจะมีคนวานให้มาช่วยจัดการธุระ
ลี่เฉินซีลดกระจกลง มองชายที่อยู่ด้านนอก “มีธุระ?”
“คุณคือประธานลี่เฉินซีใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเขา
เห็นคนในรถพยักหน้าน้อยๆ ชายคนนั้นจึงหยิบกล่องหนังสีดำยื่นส่งไปให้ลี่เฉินซี “ประธานเจียงสั่งให้ผมมอบสิ่งนี้ให้คุณ บอกว่าต้องมีประโยชน์ต่อคุณแน่นอน”
ลี่เฉินซีรับมา มองแวบหนึ่ง ด้านในมีธนบัตรดอลลาร์เต็มไปหมด ดูจากปริมาณแล้วน่าจะประมาณ หนึ่งล้านดอลลาร์
“นี่เป็นเงินจำนวนหนึ่งล้านดอลลาร์ เงินทุนหมุนเวียนของสาขานี้สามารถรวบรวมมาได้เท่านี้ นอกจากนี้ ยังมีเอกสารอีกหนึ่งชุด ประธานเจียงสั่งให้ผมมอบให้คุณด้วย” ชายหนุ่มพูดพลางยื่นเอกสารอีกหนึ่งชุดออกไป
เปิดเอกสารในมือดูสักครู่ เป็นข้อมูลโดยคร่าวๆ ของผู้ชายหลายคนที่เคยมีประวัติทางคดีทั้งนั้น ดังนั้นเอกสารที่เกี่ยวกับคดีจึงหาได้ง่าย
ลี่เฉินซีไม่รู้จักผู้ชายที่อยู่ในข้อมูล แต่ทุกคนเป็นคนที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ในเวลานี้ เจียงจี้เซิงไม่มีทางเอาข้อมูลพวกนี้มาให้โดยไม่มีสาเหตุ นอกเสียจากว่าคนพวกนี้เป็น…
“ประธานลี่ ถ้ายังต้องการอะไรอีก คุณสามารถติดต่อผมได้เลย ด้านหลังเอกสารมีนามบัตรของผมอยู่” ชายหนุ่มแสดงความเคารพอีกครั้ง จากนั้นหันหลังเดินออกมาจากรถ
ขณะที่ซูย้าวและอานซินเออร์อยู่ในอพาร์ทเม้นท์ในเขตเมือง ในห้องมีกล้องซ่อนอยู่มากมาย บันทึกเสียงที่เขาส่งมาก่อนหน้านี้ก็มาจากสิ่งนี้เช่นกัน งั้น ที่ทั้งสองคนโดนคนอื่นปล้นไป คิดว่าเจียงจี้เซิงก็น่าจะรู้ในทันที
สุดท้ายแล้วเรื่องทุกอย่างเกี่ยวข้องกับเจียงจี้เซิง เขาช่วยตรวจสอบและช่วยจัดการไปด้วย
ลี่เฉินซีไม่คิดอะไรมาก ปิดกล่องหนังสีดำลง และวางไว้อีกด้านหนึ่ง
มองเอกสารในมืออีกครั้ง ผู้ชายที่อยู่คนแรกดึงดูดความสนใจของเขา เพราะเห็นชื่อที่คุ้นเคยชื่อหนึ่งในเอกสาร
หลินโม่ป่าย
ดูอย่างนี้ ผู้ชายคนนี้ เหมือนจะมียังมีข้อคับข้องใจอย่างอื่นกับหลินโม่ป่าย
เวลาค่อยๆ ผ่านไป สองชั่วโมง จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็ไม่ถือว่าสั้นมาก
ห้องเก่าๆ ที่อยู่ริมชายไว้หนวดนั่งอยู่ในนั้น ทนไม่ไหว ลุกขึ้นและเดินก้าวขาสองสามก้าวมาตรงหน้าชายหนุ่ม “ลูกพี่ จำเป็นต้องรอต่อไปอย่างนี้จริงๆ หรือ? ถ้าอีกฝ่ายแจ้งตำรวจจะทำยังไง?”
“ใช่สิ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาขนาดนี้ หาพวกเราเจอได้ไม่ช้าก็เร็ว!” ชายผอมแห้งที่อยู่อีกด้านพูดเสริม
ชายไว้หนวดพูดอีก “ถ้าใช้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้แล้วได้เงินมาหลายร้อยล้านงั้นก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ?”
“งั้นขายผู้หญิงไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ! ได้เงินสักไม่กี่แสนก็ได้แล้วนิ!”
คนที่อยู่ด้านข้างตัวพูดไปเรื่อยไม่หยุด คิดวิเคราะห์ดูแล้วก็มีเหตุผล
เงิน ใครๆ ก็ชอบสิ่งนี้ ไม่มีใครสามารถแยกจากมันได้ แต่เมื่อเทียบกับชีวิต เงินก็ไม่คุ้มค่าแล้ว!
ชายหนุ่มคาบบุหรี่ไว้ในปาก เงียบอยู่นาน จนกระทั่งลุกขึ้นก็ไม่พูดอะไร
ชายไว้หนวดร้อนใจนิดหน่อย “ลูกพี่ คุณเป็นอะไรไป? พูดอะไรหน่อยสิ!”
“เหล่าเอ้อ แกอยู่ต่อ เหล่าซาน ตอนนี้แกไปขับเรือพาพี่น้องคนอื่นๆ หนีไปก่อน!” ชายหนุ่มออกคำสั่ง
ชายไว้หนวดร้อนรีบพูด “ฉันอยู่ต่อได้ แต่พี่ใหญ่ให้พี่น้องคนอื่นหนีไปก่อน? นี้…”
“ไม่ต้องพูดมากแล้ว ฟังฉัน! ยังไงเวลาก็ไกลเข้ามาแล้ว หลังจากนี้ฉันจะพาเหล่าเอ้อและผู้หญิงคนนี้ไปหาทุกคน!”
ชายหนุ่มตัดบทในทันที
พูดตามตรง เขารู้สึกเหมือนเมื่อกี้ตัวเองโดนซูย้าวผู้หญิงคนนั้นหลอกล่อไปเล็กน้อย จู่ๆ เปลี่ยนจากการขายเป็นการลักพาตัวและแบล็กเมลล์
ถึงแม้จะเป็นการค้าขายไม่แตกต่างกัน แต่อย่างแรกเป็นอันตรายน้อยกว่า อย่างหลังแตกต่างไปแล้ว
ซูย้าวจงใจพูดถึงเงินมากๆ จำนวนหนึ่ง ทำให้คนเหล่านั้นตกใจ และโดนหลอกล่อด้วยเงินมากขึ้น แต่เวลาสองชั่วโมง สั้นมาก จำนวนเงินเยอะมากๆ
เกรงว่า…
“ลูกพี่ รู้สึกอะไรใช่ไหม? หรือว่า พวกเราแยกย้ายไปด้วยกันเถอะ!” ชายผอมแห้งสั่งให้คนอื่นไปขับเรือ พลางเดินตามหลังติดด้านหลังชายหนุ่มถามคำถาม
ชายหนุ่มกลับตอบว่า “เรื่องแบล็คเมลพวกนี้ ฉันทำมาเยอะแล้ว แค่ไม่เคยมีเงินเดิมพันมากขนาดนี้มาก่อน”
“ก็เลย กลัวว่าคนนามสกุลลี่คนนั้น จะไม่มีเงินขนาดนี้ใช่ไหม?”
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่ เมื่อกี้ฉันลงหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดูแล้ว คนนามสกุลลี่คนนั้น เป็นเถ้าแก่ใหญ่ สถานะสูงส่งจากทั่วไป เงินจำนวนนี้สำหรับเขาแล้ว ก็แค่ตัวเลขน้อยนิดเท่านั้น”
“งั้นพี่กังวลอะไร?”
“เวลาที่พวกเราทำอาชีพนี้ จะเจอเรื่องอะไรบ่อยๆ?” ชายหนุ่มถาม
ชายไว้หนวดที่อยู่อีกด้านพูด “ไม่จ่ายเงินไง! แล้วยังแจ้งตำรวจอีก ลูกเล่นมากมาย!”
“ใช่สิ ไม่ว่าจะพ่อแม่ สามี ภรรยาก็เสียดายเงินกันหมด ไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ แต่คนในใจและเงินต่างก็สูญเสียทั้งนั้น ตัวเลขจำนวนมากขนาดนี้ คนนามสกุลลี่คนนั้น ก็แค่อดีตสามี เขาจะยอมจ่ายไหม?”
ที่ชายหนุ่มกังวลที่สุดไม่ใช่ ลี่เฉินซีจะไม่ยอมจ่ายจริง ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาสามารถพาซูย้าวไป และเปลี่ยนที่ขาย อย่างนี้ก็ยังได้เงิน และไม่เสียอะไร
แต่ ถ้าคนนามสกุลลี่คนนั้นเล่นตุกติกหล่ะ ทางฝั่งเขา ก็จะกลายเป็นโดนบีบมาก!
“ไม่ว่ายัง พวกคุณไปก่อน หลังจากนี้ค่อยคุยกันหลังจากที่พวกเราตามไปทันแล้ว ไม่งั้น พวกแกแยกย้ายกันไปก่อน อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น และอย่าเพิ่งทำอะไรเสี่ยงๆ” ชายหนุ่มสั่ง
คนอื่นๆ พยักหน้า และทำตามที่ชายหนุ่มสั่ง
เหลือแค่ตัวเขาเองกับชายไว้หนวด ชายหนุ่มมองเวลาแวบหนึ่ง เวลาที่ให้ไว้สองชั่วโมง ตอนนี้ยังเหลืออีกแค่10นาทีเท่านั้น
ชายหนุ่มให้ชายไว้หนวดเฝ้าอยู่ด้านนอกคนเดียว ตัวเองผลักประตูเข้าไป
ซูย้าวเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เดินเข้ามา คิดคำนวณเวลาในใจ น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้ว…
ตามที่คาดไว้ ชายหนุ่มลากเก้าอี้ติดมือมา ยกขาข้างหนึ่งเหยียบลงไปบนเก้าอี้ มองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ยังเหลืออีกไม่กี่นาที ถ้าเงินยังไม่เข้าบัญชี ซูย้าว คุณคงไม่มีชีวิตต่อแล้ว!”
เฮมองชายหนุ่มด้วยสายตาสงบนิ่ง ก้มหน้าอย่างอ่อนโยน “อืม”
แค่ “อืม” ?!
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ก่อนหน้านี้คุณมั่นใจมากไม่ใช่หรือไง? ไม่ใช่ยืนยันหนักแน่นว่าอดีตสามีคนนี้ของคุณ ยอมจ่ายค่าไถ่นี้แน่นอนหรือไง?”
“คุณได้ยินผิดไปหรือเปล่า? ฉันบอกคุณไปตั้งแต่แรกแล้ว เขาก็แค่อดีตสามีของฉัน ตอนนี้ความสัมพันธ์เดียวที่ฉันกับเขามีก็เพราะยังมีลูก ทำไมถึงต้องการให้คุณเรียกค่าไถ่ อย่างแรกเพราะเขามีเงิน อย่างที่สองเพราะเขารู้สึกผิด อย่างที่สามเพราะยังติดค่าเลี้ยงดูลูก!”
ซูย้าวนั่งยองๆ และพูดอีกว่า “ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่เคยบอกว่า เขาจะยอมจ่ายแน่นอน”
“อ่อ อย่างนี้นี่เอง!” ชายหนุ่มกลับรู้สึกแปลกใจขึ้นมา ยื่นมือไปจับคางเล็กๆ ของซูย้าวไว้ ยิ้มเย็นชา “ถ้าเขาไม่จ่ายเงินล่ะ คุณจะทำยังไง?”
“ฉัน?” ซูย้าวยิ้มเย็นชา “ปัญหานี้ ฉันตัดสินใจได้ไหม?”
ตอนนี้เธอเป็นเพียงเครื่องมือในมือคนอื่น จะโดนทำลายทิ้งหรือโดนจ่ายเรียกค่าไถ่ อำนาจการตัดสินใจก็เป็นของผู้ชายคนนั้นทั้งหมด
เขาหัวเราะ “คุณเป็นผู้หญิงฉลาด และยังสงบมาก…”
ชายหนุ่มแค่แปลกใจ ทำไมเธอถึงได้สงบขนาดนี้ หรือเพราะรู้ว่าตัวเองจะปลอดภัย? หรือว่าคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว หรือว่าจงใจเสแสร้งแกล้งทำ?
เขาแปลกใจ และยิ่งอยากรู้คำตอบ
แต่กลับลืมไป ความอยากรู้ทำให้ตายใจ
“เขาเป็นแค่อดีตสามีคนหนึ่งของฉัน ต้องเอาจำนวนมากขนาดนี้ออกมาไถ่ตัวอดีตภรรยา ถ้าเป็นคุณ ไม่รู้สึกว่าเสียเปรียบมากหรือไง?”
เธอถามกลับ
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว บีบคางเธอแน่นขึ้น “ในเมื่อคุณรู้อยู่แล้ว ยังกล้าบอกให้ฉันทำแบบนี้? อยากตายหรือไง?”
“ไม่ใช่ฉันอยากตาย ฉันก็แค่อยากจะลองใจดูหน่อยเท่านั้นเอง! ถ้าเขายอมจ่ายเงิน งั้นคุณเองก็ได้เงินก้อนโตไม่ใช่หรือไง? ถ้าไม่ยอมจ่าย คุณจะขายฉันหลังจากนี้ ก็ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือไง?”
น้ำเสียงซูย้าวสงบนิ่งราบเรียบ ราวกับว่ากำลังพูดถึงเรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองอยู่
นี้เป็นความรู้สึกเบาๆ กำลังดีอย่างหนึ่ง ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจมากยิ่งขึ้น จ้องมองด้วยความสนอกสนใจ และปล่อยมือออก “ไม่ต้องรีบ ยังมีหลายนาที งั้นฉันจะพนันเป็นเพื่อนคุณสักครั้ง! ดูหน่อยสิว่าอดีตสามีคนนี้ของคุณ จะรักเงินหรือสนใจอดีตภรรยา อย่างคุณกันแน่!”