ซูย้าวมองไปที่ชายตรงหน้า ดวงตาสีเหลืองอำพันที่สงบของเขา มองมาที่ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเธอ พร้อมรอยยิ้มเรียบๆ “เรามาเดิมพันกัน!”
“เดิมพัน?” เธอพูดด้วยความประหลาดใจ
เจียงจี้เซิงพยักหน้า “ใช่ ผมชอบปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตา และโดยปกติ ผมมักจะโชคดี ไม่รู้ว่าคุณซูจะสนใจรึเปล่า?”
ให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตา?!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าเขาชนะเดิมพันแล้ว งั้นเรื่องที่เธอเคยถูกจับตัวไปและได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่การเดินทางมาไกลขนาดนี้ บัญชีทั้งหมดก็ถูกชดใช้อย่างนั้นเหรอ?
สำหรับเธอมันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!
ซูย้าวยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันเกรงว่ามันจะไม่ดีเท่าของประธานเจียง นอกจากนี้ ฉันไม่เคยชอบการเดิมพัน และไม่ชอบคำว่าโชคชะตาคำนี้มากๆ เลยล่ะค่ะ”
“เหรอครับ? ดูเหมือนว่าคุณซูจะเป็นคนที่ผ่านอะไรมาเยอะนะครับ!” เจียงจี้เซิงยิ้ม ยังคงหยิบสำรับไพ่ออกจากลิ้นชักโต๊ะชา
มือเรียวใหญ่ลูบไพ่ สับไพ่อย่างชำนาญ พร้อมบุหรี่ที่คาบอยู่ที่ริมฝีปากของเขา และก็ค่อยๆ ไหลออกมา
“ในวัยนี้ ในอายุเท่านี้ ใครจะไม่ผ่านอะไรมาเยอะบ้างเหรอคะ?” เธอโต้กลับ
ทุกคนมีเรื่องของตัวเอง แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องสั้นธรรมดา และบางเรื่องก็เป็นเรื่องใหญ่ที่มีทั้งขึ้นและลง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ทุกเรื่องจะเขียนบทเรียนแห่งชีวิตทุกตอน ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหมือนตอนที่เธอยังเด็ก โดยบังเอิญ เธอได้ยินคุณย่าลี่เคยพูดไว้ว่า ‘ชีวิตคือชีวิต ทุกคนจะใช้ชีวิตวุ่นวายในแบบที่ต่างกันไม่มากก็น้อย แต่ด้วยกาลเวลา เมื่อคุณโตขึ้น คุณจะเจอจุดจุดหนึ่งในชีวิต คุณต้องควบคุมชีวิตตัวเอง ไม่ว่าคุณจะมาจากจุดกำเนิดหรือสถานะไหน ไม่ว่าใครจะทำให้คุณล้มเหลว ไม่สามารถเติมเต็มความรับผิดชอบที่พวกเขาต้องการได้ และไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาอยากให้เป็น แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ อย่าหาข้อแก้ตัว!’
ทีแรกเธอไม่เข้าใจ แต่ภายหลังจากที่พ่อของเธอเสีย เธอจึงอาศัยอยู่ในครอบครัวที่เป็นของครอบครัวของเธอเอง เฝ้าดูแม่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ถูกกลั่นแกล้งสารพัดจนเติบโตขึ้นมา และเธอเข้าใจความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้อย่างช้าๆ
โชคชะตาและพรหมลิขิต เป็นเพียงข้อแก้ตัว เธอไม่เชื่อ มีเพียงอย่างเดียวที่เชื่อคือตัวเธอเอง
“เอาเถอะ เสี่ยงโชค ถ้าผมแพ้ ผมจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับผมให้คุณฟัง ตกลงไหม?” เจียงจี้เซิงเสนอเงื่อนไข
ซูย้าวขมวดคิ้ว สงสัยว่าเงื่อนไขนี้คืออะไร
แต่เธอยังคงถามอย่างไม่รู้ตัวว่า “ดูเหมือนฉันจะยังไม่เห็นด้วยที่จะเดิมพันกับประธานเจียงนี่คะ?”
“คุณซู อย่าลืมว่านี่คือพื้นที่ของผม” ความหมายของเขา คือเขาต้องเป็นคนตัดสินใจเอง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูย้าวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ เขาเป็นคนที่โอหังอวดดีจริงๆ
“อันที่จริงการเล่นไพ่ เป็นเรื่องง่ายมาก มันคือโชคชะตา หากคุณเชื่อในโชคชะตาของคุณ มันจะไม่เป็นปัญหา!” เขากล่าว
ซูย้าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองดูชายคนนั้นสับไพ่อยู่ตลอดเวลา นิ้วมือเรียวสวย เกือบจะเทียบได้กับลี่เฉินซี ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนกล่าวว่าลี่เฉินซีของเมือง A และเจียงจี้เซิงของเมือง B ผู้คนเล่ากันว่าทำธุรกิจควรทำใหญ่โตอย่างลี่ซื่อเจียงซื่อ การแต่งงานควรเลือกหนึ่งในสองคนนี้มาแต่งด้วย
เจียงจี้เซิงไม่คำนึงถึงการคัดค้านของเธอ เขาเริ่มพูดพร้อมทั้งแบ่งไพ่ว่า “โชคชะตาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตของทุกคน บางคนมีมากและบางคนมีน้อย ไม่มีใครสามารถได้รับทุกอย่างได้อย่างง่ายดายเพียงเพราะความสามารถ คุณซู เดิมพันแรกของวันนี้ สิ่งที่ผมเดิมพันคือ คุณสามารถออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย”
ซูย้าวขมวดคิ้วอีกครั้ง “คุณหมายความว่าอย่างไร? ถ้าฉันแพ้ ประธานเจียงยังต้องการทำแบบเดิมซ้ำอีกไหมคะ?”
จะลักพาตัวคนอีกแล้วเหรอ?
คิดว่าซูย้าวเป็นคนไม่สู้คนจริงๆ รึไง เจียงจี้เซิงคนนี้……
เขายิ้มและไม่พูดอะไร แต่ก่อนอื่นเหลือบไปที่ไพ่ของเขาแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าวันนี้ฉันโชคดีมาก”
ซูย้าวถูกเขาฉุดดึง และชำเลืองมองที่ไพ่ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไม่มากหรือน้อย จะว่าดีก็ไม่ดี ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าไม่ว่าฉันจะเชื่อในโชคหรือไม่ ฉันก็ตามตามเกมคุณ!”
เจียงจี้เซิงยิ้มโดยไม่พูดอะไร และยังคงแบ่งไพ่ต่อไป
หลังจากเปิดแล้ว เขาคือ K ส่วนของซูย้าวคือ J
เขายิ้ม “ผมพูดแล้วไง ว่าวันนี้ผมโชคดีมาก งั้นเดิมพันครั้งที่สอง ผมจะถอนคดีหลังจากกลับประเทศ”
นี่เป็นหนึ่งในจุดประสงค์หลักของซูย้าวสำหรับการเดินทางมาไกล
เธออดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าฉันต้องเดินตามเกมคุณ!”
ชายคนนั้นยิ้ม และนิ้วที่เรียวยาวของเขายังคงแบ่งไพ่ต่อไป คราวนี้ ฝ่ายของเธอคือ A แต่ของเขาคือ Q ซูย้าวพูดว่า “ดูเหมือนว่า โชคจะเริ่มเข้าข้างฉันแล้ว!”
แต่เจียงจี้เซิงก็พูดทันทีว่า “ไม่ ครั้งนี้ยังเป็นผมอยู่”
สายตาของเธอนิ่งงัน แต่เธอเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของชายผู้นั้น ทำให้เธอนึกถึงปีศาจชั่วร้าย ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟสีน้ำเงิน
เจียงจี้เซิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเฉยเมยว่า “ผมบอกไปแล้วว่าโชคเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ หากใช้อย่างถูกต้องจะนำมาซึ่งกำไรที่คาดไม่ถึง แน่นอนว่าศักยภาพก็เป็นส่วนหนึ่งของมันเช่นกัน นี่คืออาณาเขตของผม ดังนั้น ผมมีเหตุผลที่จะตัดสินใจเอง”
“……”
ซูย้าวเงียบ ถูกเขาลากจมูกไปโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าเธอควรจะฟังคำพูดของลี่เฉินซีตั้งแต่แรก และไม่ควรมาที่นี่เพื่อตามหาเขา
เจียงจี้เซิงมองไปที่เธอและยิ้มเล็กน้อย “ส่วนการเดิมพันครั้งที่สาม ถ้าผมขอให้คุณอยู่ต่อ คุณจะว่าอย่างไร?”
“ฉัน?” ซูย้าวผงะไปชั่วครู่ และหลังจากแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด ใบหน้าของเธอก็ค่อยๆ อึมครึมขึ้น
เจียงจี้เซิงนั่งอยู่ที่นั่นพร้อมกับไขว่ห้าง และเคาะขี้บุหรี่ออก “ผมน่ะ ไม่ชอบบังคับผู้หญิง และไม่เคยบังคับผู้หญิง แต่สำหรับคุณ ผมถือเป็นข้อยกเว้น”
“……”
ซูย้าวขมวดคิ้ว เธอได้ยินไม่ผิดใช่ไหม!
ก่อนหน้านี้ลี่เฉินซีพูดว่าผู้หญิงอย่างเธอนั้นฉลาด ผู้ชายต่างไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ทำไมสองครั้งติดๆ กันนี้ ถึงมีผู้ชายโผล่มา และต้องการเธอล่ะ?
เธอมีอะไรดีกัน? บอกหน่อยสิ เธอจะได้พิจารณาเปลี่ยนมัน
และมักจะถูกคนแก่นแย่งแบบนี้ตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ลำบากใจมาก
“ประธานเจียง หยุดพูดเล่นเถอะค่ะ มาคุยกันจริงจังดีกว่า!” ซูย้าววางไพ่ลง และมองไปยังชายตรงหน้าอย่างจริงจัง
เจียงจี้เซิงอดหัวเราะไม่ได้ “ผมไม่ได้ล้อเล่น! ผมสนใจคุณจริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง? เป็นผู้หญิงของผมเถอะ! ผมจะให้สถานะ ชื่อเสียง ที่ดิน และสิ่งที่คุณต้องการทั้งหมด……”
“ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ นะคะ บนร่างของฉัน คุณรู้สึกถึงเงาของใครบางคนใช่ไหม?” ซูย้าวกล่าว และคำพูดนั้นก็แทงทะลุหัวใจของอีกฝ่าย
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเจียงจี้เซิง ชะงักไปในทันที มองดูสายตาของเธออย่างช้าๆ สายตาเย่อหยิ่งและอวดดี เต็มไปด้วยความโกรธอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ซูย้าวยังสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา และยิ่งแน่ใจว่าเธอพูดถูก จึงพูดต่อว่า “ว่ากันว่าประธานเจียงเคยมีคนรัก บางทีข่าวลือก็ไม่ใช่ความจริง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าตอนนี้คนคนนั้นอยู่ที่ไหน เท่าที่ฉันรู้ คนคนนั้นคงจะ……”
“อยู่บนสวรรค์!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มืดหม่นของชายคนนั้น ซูย้าวก็จบประโยคเบาๆ
การแสดงออกของเจียงจี้เซิงถึงขีดจำกัด แต่เขายังคงระงับไว้ด้วยความยับยั้งชั่งใจ เขารีบแจกไพ่ใบสุดท้ายในมือของเขาและโยนมันต่อหน้าซูย้าว “เล่นเกมนี้ก่อนเถอะ! นี่คือใบสุดท้าย ความปรารถนาทั้งหมดของคุณซูและคุณจะออกไปอย่างปลอดภัยได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับโชคของคุณในครั้งนี้!”
เธอค่อยๆ หยิบไพ่ที่เขาโยนลงขึ้นมา มันคือ A แต่เขาคือ Joker
ต่อไป ก็ต้องดูไพ่ที่ยังไม่เปิด
และในระหว่างนั้น เธอก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เจียงจี้เซิงมองไปที่เธอ “ดูเหมือนว่าคุณจะแพ้แล้ว!”
“ฉันยังไม่เห็นไพ่ที่ยังไม่ได้เปิดเลย จะรู้ได้ยังไงว่าชนะหรือแพ้?” เธอแสร้งทำเป็นโต้กลับอย่างแรง
เขายักไหล่ “ได้สิ! งั้นไปดูกันเลย!”
เมื่อพูดจบ หัวใจของซูย้าวก็บีบแน่นขึ้นทันที
แต่ในขณะนั้น ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดจากด้านนอกทันที จากนั้นร่างสูงของลี่เฉินซีก็ก้าวเข้ามาด้วยความเร็วที่รวดเร็ว เขามาถึงด้านหน้าภายในสองถึงสามก้าว ยืนอยู่ที่นั่นอย่างวางท่า จ้องมองอย่างเย็นชาไปที่เจียงจี้เซิง
“ประธานเจียง ไร้ยางอายจังนะครับ! พึ่งมาถึง ก็มาแย่งคนของผมเลยนะครับ?”