ระหว่างที่ซูย้าวอาบน้ำ ลี่เฉินซีกำลังรอเธออยู่จริงๆ
หวางอี้นำของบางอย่างมาส่ง เขาวางไว้ในห้องนอน เมื่อมีโทรศัพท์เข้ามา เขาก็เดินออกไปข้างนอก
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ ก็จัดการกับงานบางส่วน ในตอนนี้จัดการทุกอย่างไปพอประมาณแล้ว ลี่เฉินซีมองดูเวลา ได้ผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว
ยังคงมีเสียงน้ำออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ผู้หญิงอาบน้ำล้วนยุ่งยากขนาดนี้หมดไหม? นี่มันนานเท่าไหร่แล้ว……
เขารออย่างอดทน แต่เมื่อเขารอเกือบสองชั่วโมง ก็ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
ลี่เฉินซีลุกขึ้นจากโซฟา ไปที่ห้องนอน ผลักประตู ถึงพบว่าประตูถูกล็อก!
คิ้วที่หล่อเหลาของเขาขมวดแน่น และยกมือขึ้นเคาะประตู เขารู้สึกผิดปกติเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก และร้องเรียก “ซูย้าว?”
สาเหตุที่รู้สึกผิดปกติ คือเสียงน้ำข้างในหยุดลงเป็นช่วงๆ แทนด้วยเสียงดนตรี
เพลงผ่อนคลาย ไม่สูงหรือต่ำ และไม่ดังจนเกินไป เมื่ออยู่ในห้องที่เงียบสงบนี้ มันดูโดดเด่นเล็กน้อย
ชายคนนั้นขมวดคิ้วอีกครั้ง “ซูย้าว? คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”
เขาถามอยู่หลายครั้ง ผ่านไปเป็นเวลานาน เสียงของผู้หญิงถึงจะดังขึ้นจากข้างใน “ใกล้แล้วค่ะ ฉันขอเป่าผม……”
เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับ เขาก็วางใจ และจู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีก เขาจึงเดินไปรับข้างๆ
สิ่งที่เขาไม่รู้คือความเจ็บปวดที่ซูย้าวได้รับในห้องนอนในเวลานั้น
เธอกำลังอาบน้ำอยู่ แต่ก็ไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้น
เมื่อเธอกำลังจะอาบ ทันใดนั้น ความรู้สึกที่เธอไม่เคยมีมาก่อน เหมือนกับน้ำท่วมอย่างบ้าคลั่ง เปิดประตูในใจเธอพัดกระแสน้ำเข้ามา เกินจินตนาการและความอดกลั้นของเธอ
เธอคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ความเจ็บปวดรุนแรงแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เหมือนเนื้อตัวถูกลอกออก กระดูกทุกอันถูกคนหัก และจากนั้นก็ประสานกัน จัดโครงสร้างใหม่ แล้วก็ลอกและหักมันอีกครั้ง……
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นก็ค่อยๆ หายไปภายใต้การควบคุมของเธอ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นคัน คันทั่วทั้งร่างกาย จนแทบจะทนไม่ได้
ราวกับว่ามดจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วร่างกายของเธอ แทะทุกส่วนของเนื้อและเลือดของเธอ ทุกกระดูกและเลือด ทุกเส้นประสาทอย่างตะกละตะกลาม
เธอแทบจะทนไม่ไหว ใบหน้าซีดขาว เธอเดินโซเซออกจากห้องน้ำด้วยอาการหายใจลำบาก จัดการอะไรไม่ได้ ในตอนนั้น ความคิดแรกของเธอไม่ใช่การวิ่งไปหาเขา แต่โทรออก
ต้องเป็นซุปของกัวหลินแน่ๆ มันต้องมียาบางอย่างใส่ลงไป!
แต่ในขณะที่เธอเอื้อมไปข้างเตียง คลำหาโทรศัพท์มือถือ ก็มีสายที่ไม่รู้จักโทรเข้ามาก่อน
ซูย้าวตกตะลึง และหยิบมันขึ้นมาโดยไม่ได้คิดอะไร
“คุณซู ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” ทางโทรศัพท์ เสียงราบเรียบของกัวหลินเอ่ยขึ้นในทันที
ซูย้าวก็รู้สึกเจ็บตาขึ้นมาทันที “ที่แท้ก็เป็นคุณทำ คุณให้ฉันกินอะไรกันแน่?”
กัวหลินฟังคำถามที่เต็มไปด้วยความโมโห เหนื่อยและแหบแห้ง “อย่าโมโหไปเลย คุณซู ซุปชามนั้น คุณเต็มใจกินเข้าไป ไม่ใช่เพื่อลูกหรอกหรือ? ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็อย่ากล่าวโทษฉันสิ!”
“คุณ……”
หน้าอกของซูย้าวขึ้นๆ ลงๆ ฝืนทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงและความรู้สึกคันทั่วร่างกายของเธอที่แทบจะทนไม่ได้ เธอร้องไห้จนร่างกายสั่นเทา ในตอนแรกยังพอควบคุมได้ พอผ่านมาสักพักก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
กัวหลินรอโทรศัพท์อยู่ ดูเหมือนเธอจะพูดอะไรไม่ได้ แล้วเธอก็พูดว่า “คุณซู ฉันไม่ใช่คนที่ไร้ความปรานีขนาดนั้น ดูกระเป๋าของคุณสิ ว่ามีกล่องยาอยู่รึเปล่า”
ซูย้าวตะลึงงัน ฝืนร่างกายและดึงกระเป๋าจากบนโซฟา ขณะที่กระเป๋าหล่นลงมา เนื่องจากไม่ได้รูดซิป หลายสิ่งหลายอย่างก็เทลงมา
กล่องยาสีขาวเล็กๆ ที่ไม่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ
ไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่ใช่ของของเธอ!
นี้คือ……
ความคิดของเธอผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเธอจำได้เลือนรางว่าเมื่อเธอออกมาจากสถานที่ควบคุมตัว มีคนบังเอิญชนเข้ากับเธอ เป็นไปได้ไหมที่ถูกใส่มาในตอนนั้น?
กัวหลินพูดว่า “กินสักเม็ดเถอะ เพื่อให้ความรู้สึกแบบนั้นของคุณหายไป และคุณจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง”
สีน่าประหลาดใจผสมกับความเจ็บปวดของซูย้าว แต่จิตสำนึกยังคงมีอยู่ “นี่ นี่คือยาอะไร?”
“ยาอะไร?” กัวหลินทวนถามเบาๆ ราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องตลก ก่อนที่เธอจะพูดว่า “ฉันไม่คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าคุณซูไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร คุณไม่ได้โง่ แม้ว่าฉันจะไม่พูด คุณก็เดาได้คร่าวๆ ว่ามันคืออะไร ใช่ไหมคะ?”
หลังจากหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดอีกว่า “เป็นยาชนิดหนึ่งที่ควบคุมระบบประสาทส่วนกลางของร่างกายมนุษย์ เป็นยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพมาก……ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ข้อเสียอย่างเดียวคือมันเสพติดง่าย!”
ด้วยเหตุนี้ กัวหลินจึงจงใจใส่ยานี้ลงในซุป
ถึงจะไม่มาก แต่แค่ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวสั้นๆ กินเข้าไปแล้ว และอยากจะเลิก ก็เป็นเรื่องยาก!
นี่เป็นงานสุดท้ายที่หานฉ่ายหลิงมอบให้เธอ แม้ว่าเธอจะถูกจำคุก แต่เธอก็จะไม่ให้ซูย้าวใช้ชีวิตอย่างดีแน่นอน!
ซูย้าวหายใจถี่เร็ว นิ้วมือก็ค่อยๆ กำหมัดแน่น
กัวหลินสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของเธอผ่านลำโพงแล้ว และเธอพูดว่า “อย่าพยายามไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณซู ยานี้ผิดกฎหมายในประเทศจีน เมื่อพบแล้ว ตำรวจจะทำการสอบสวนอย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้นคุณจะอธิบายยังไงคะ?”
“ที่บอกว่าฉันเป็นคนทำ? เดี๋ยวนะคะ คนตัวเล็กๆ อย่างฉัน ถึงแม้คุณจะทำอะไร แล้วมีประโยชน์อะไรกับคุณเหรอ? หรือ คุณจะบอกว่าประธานหานเป็นคนทำ? อย่าล้อเล่นเลยค่ะ คุณมีหลักฐานเหรอ? ถ้าไม่มี การกล่าวหาผู้อื่นก็เป็นความผิดนะคะ”
เสียงหัวเราะของกัวหลินนั้นดังก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหูของซูย้าว เหมือนเสียงคำรามจากนรก “ที่ฉันแนะนำคุณมีแต่ความหวังดี ประธานหานแค่หวังว่าจะเห็นคุณเจ็บปวด คุณอย่าเอาเรื่องนี้ มาจุดไฟคลอกตัวเองเลย ไม่ง่ายที่คุณจะได้ลูกและครอบครัวกลับมารวมกัน จะเอาตัวเองเข้าคุกอีก มันไม่คุ้มนะคะ คุณว่าไหม?”
“เอาเถอะ ยาในกล่องนั้นเพียงพอแล้วสำหรับคุณกินเป็นเวลาหนึ่งเดือน ถ้าหลังจากนี้ยังต้องการมันอีก ฉันก็ไม่สามารถแล้ว แต่ลืมไปว่าคุณมีประธานลี่ค่อยช่วยเหลืออยู่ ถ้าต้องการยานั้น ก็ได้ไม่ยาก!”
กัวหลินกำลังจะวางสาย สีหน้าของซูย้าวนั้นไม่มีเลือดเลย เธอกัดฟันอย่างดุดัน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไร้เรี่ยวแรง
“และอีกอย่าง ฉันมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ให้คุณทีหลังด้วย ถือว่าเป็นของขวัญละกันค่ะ! ยังไงซะฉันก็ขอโทษที่ทำแบบนี้กับคุณ”
กัวหลินพูดขึ้น และวางสายโทรศัพท์ไป
แขนที่อ่อนแรงของซูย้าวเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่สามารถต้านทานแรงได้ และล้มลงด้านข้าง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอจ้องไปที่กล่องยาสีขาวขนาดเล็กอย่างว่างเปล่า และกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวด
ตามเหตุผลทำให้เธอปฏิเสธ
เธอรู้ผลที่ตามมาจากการกินยานี้อีกครั้ง
แต่ถ้าไม่กิน ความเจ็บปวดในร่างกายจะไม่มีที่สิ้นสุด และชาร์ลียังรออยู่ ยังมีซีซีและเจิ้งเอ๋อ……
เธอไม่สนใจชีวิตความเป็นความตายของตัวเอง แต่แล้วลูกๆ ล่ะ?
แม้ว่าเด็กๆ จะถูกส่งให้กับลี่เฉินซี ก็ต้องรอให้เธอจัดการกับทุกอย่างชัดเจนแล้วและค่อยว่ากัน!
ความเจ็บปวดรุนแรงราวกับคลื่นยักษ์เมื่อน้ำขึ้น เมื่อกำลังจะทำลายล้างเธออีกครั้ง เธอยื่นมือออกมาโดยไม่ลังเล เทยาหนึ่งเม็ด และกลืนลงไปอย่างไม่เลือกหน้า
เธอรู้สึกกระสับกระส่ายและวิตกกังวลกับการเคลื่อนไหวนี้
เพราะการกระทำของเธอในครั้งนี้ ทำให้เธอรู้สึกเสียใจไปอีกนานแสนนานในอนาคต แต่เธอกลับไร้อำนาจ
อย่างที่กัวหลินพูด ไม่นานหลังจากที่กินยานี้ ความเจ็บปวดและอาการคันบนร่างกายของเธอก็ค่อยๆ หายไป เปลี่ยนเป็นความรู้สึกสบายใจที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอนั่งลงบนพื้นและพิงกับเตียงข้างหลัง เงยหน้าขึ้นและหลับตา
ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในร่างกายของเธอค่อยๆ แผ่ขยายออกเรื่อยๆ ความรู้สึกที่คาดไม่ถึงนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นจนบรรยายไม่ถูก……
ใช่ มันคือความสุข
พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง มองไปรอบๆ ตัวรู้สึกราวกับคนเมา ราวกับทุกสิ่งกลายเป็นสิ่งไม่จริง แต่เป็นเพราะความรู้สึกหลอนที่ทำให้ใจรู้สึกสบาย สมจริงมากขึ้น และสำคัญมากขึ้น