คำว่า “เป็นผู้หญิงของฉัน” ที่ล่องลอยออกมาเบาๆ กลับทำให้ซูย้าวต้องรู้สึกเจ็บในหู
เธอหันหน้ามองลี่เฉินซี ดวงตาลึกของเธอเป็นสีดำอย่างน่าประหลาดใจ มีระลอกคลื่นจางๆ และแม้แต่รอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของเธอก็ยังมีเสน่ห์ไปทั่ว
ลี่เฉินซีมองดูเธอและใช้มือค่อยๆ ช้อนแก้มเธอ ดวงตาของฟีนิกซ์ที่สวยงามหรี่ลง สอดส่องราวกับกำลังทดสอบ “ข้อตกลงนี้ไม่ได้ทำให้เธอเสีย”
“คิดให้ดี ที่เธอพยายามทำกับฉันทุกอย่าง อีกทั้งยังพยายามมีส่วนร่วมกับบริษัทลี่ซื่อ ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะต้องเกลี้ยกล่อมประธานลี่ก่อนซึ่งก็คือฉัน?”
เขาจงใจเน้นย้ำคำว่า “เกลี้ยกล่อม” สองคำนี้
ซูย้าวรู้สึกหนาวถึงในจิตใจ เขาพูดว่า “เกลี้ยกล่อม” แต่เธอกลับได้ยินเป็น “นอนกล่อม”(ในภาษาจีน เกลี้ยกล่อมกับนอนกล่อม การออกเสียงเหมือนกัน)
เธอรีบผลักมือชายคนนั้นออกให้เร็วที่สุด รอยยิ้มของเธอดูไม่จริงใจ มันดูเป็นการปลอมตัวที่ไม่สมจริง “คุณลี่ยังชอบล้อเล่นเหมือนเดิมนะคะ”
“ไม่ได้ล้อเล่น” เขาเปิดเผยและพูดอย่างชัดเจน แม้แต่ดวงตาที่ลึกล้ำก็แสดงถึงความจริงจังและตั้งใจ
แน่นอนว่าซูย้าวรู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น เพียงแต่ต้องการจะหาข้ออ้างหาทางออกให้ตนเองก็เท่านั้น! ไม่สามารถจะปฏิเสธออกไปตรงๆ ได้ว่าไม่เอา เป็นไปไม่ได้หรอก!
เธอมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจและรอยยิ้มที่อับอาย “ถ้าอย่างนั้นคุณลี่ก็เอาความรู้สึกมาล้อเล่นกันเกินไปเหมือนเด็กๆ นะคะ ถึงแม้ว่าฉันจะหน้าตาดูแล้วเหมือนภรรยาเก่าคุณ แต่สุดท้ายก็เป็นคนละคนกัน จะเอามารวมกันไม่ได้ อีกทั้งทำแบบนี้จะกลายเป็นการหลอกลวงไม่เพียงแค่คุณ แต่ลูกๆ ของคุณด้วย เป็นการแสดงออกที่ขาดความรับผิดชอบ”
ซูย้าวพูดอย่างรวดเร็ว ความคิดของเธอสับสนปนเปจนกลายเป็นโจ๊ก เธอคิดเพียงแต่อยากจะถอนตัวออกมาให้เร็วที่สุด จึงรีบลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลนจนไปชนกับเก้าด้านหลังเข้าดัง “ปัง”
เธอไม่กล้ามองเขาอีกจึงได้แต่ยืนอยู่ด้านข้าง สายตาของเธอเหลือบมองไปข้างๆ “คุณเคยคิดบ้างไหม ถ้าหากมีสักวัน ภรรยาของคุณกลับมาหรือปรากฏตัว คุณจะเผชิญหน้ากับเธอ กับลูกๆ ของคุณยังไง?”
พูดถึงตรงนี้เธอก็รู้สึกว่าตนเองนั้นฉลาดเฉลียวจริงๆ เธอต้องชื่นชมตัวเองและยกนิ้วให้ และเธอก็สามารถหาข้อแก้ตัวที่ราบรื่นเช่นนี้ได้!
เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดและคาดเดาไม่ได้ ตามด้วยรอยยิ้มบางๆ “ยังจะเป็นห่วงแทนคนที่ไม่อยู่แล้ว”
ซูย้าวตกใจ และความแตกต่างบางอย่างปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอซึ่งเธอไม่เข้าใจ
จากนั้น ก็ถูกเขาใช้มือจับไว้แน่นและร่างที่ไม่มั่นคงของเธอถูกดึงกลับเข้าไปในอ้อมแขนของเขา แขนยาวกอดเธอแน่น และมือใหญ่ที่ไม่อยู่นิ่งถูกจับไว้ที่ใดที่หนึ่ง “เป็นผู้หญิงของฉันเสียโดยดี นอกนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องคิด”
เขาเคลื่อนมือลงด้านล่างช้าๆ เลี่ยงเอวเรียวของเธอ จับมือเธอ นิ้วประสานกัน ฝ่ามือกว้างของเขาโอบมือเล็กๆ ของเธอแน่น นิ้วเรียวยาวสวยจับเธอไว้ “เธอรู้ดีว่าฉันไม่มีทางปล่อยเธอไป แล้วยังจะมาเจ้าหลักการกับฉัน มีความหมายอะไรเหรอ?”
ลี่เฉินซีไม่เคยทำเรื่องอะไรที่เอาไม่อยู่ และไม่มีทางจะเป็นเพราะมีคนที่หน้าเหมือนซูย้าวปรากฏตัวแล้วจะทำตัวเลอะเทอะ
เขามีวิธีมากมายร้อยพันที่จะพิสูจน์และอธิบาย ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขาตอนนี้ก็คือผู้หญิงที่เขาเฝ้าคิดถึงมาแสนนานและแม่ที่เด็กๆ ตั้งตารอ
ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเธอ เพียงแค่วิธีการอาจจะไม่ค่อยจะเข้าท่า แล้วยังไงล่ะ?
ลี่เฉินซียิ้มอย่างคลุมเครือและลึกซึ้ง ซูย้าวจ้องไปที่มัน และเธอรู้สึกว่าหนังศีรษะชาไปหมด และหัวใจของเธอดูเหมือนจะถูกบุกรุกด้วยความรู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกนี้ไม่ปกติมากๆ
เขากุมมือของเธอและค่อยๆ ยกขึ้นและจูบเบาๆ ที่หลังมือ “อย่าเอาแต่พูดเรื่องเหตุผลไร้สาระกับฉันอยู่เลย ข้อเสนอของฉันไม่ได้มีไว้เพื่อขอความเห็นชอบจากเธอ”
ลี่เฉินซีกระชับเธอ พูดอีกครั้ง เกือบจะโพล่ง “ซูย้าว” ออกไปแต่ก็เปลี่ยน “คุณอาน คุณฉลาดมากที่คิดอยากจะครอบครองลี่ซื่อ รู้ว่าจะต้องมองหาโอกาสรอบด้าน แต่คุณมองข้ามอะไรไปรึเปล่า ผมบริหารบริษัทมาหลายปี จะปล่อยให้คนอื่นมีโอกาสชุบมือเปิบง่ายๆ ได้ยังไงกัน?”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทุกอย่างที่ซูย้าวทำลับหลัง ลี่เฉินซีจะไม่รู้เลยอย่างนั้นเหรอ? !
คำตอบก็น่าจะรู้รู้อยู่
ซูย้าวเองเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็มีสีหน้าตกตะลึงอย่างแท้จริง
ใจของเธอสั่นไหว หรือว่า…
ลี่เฉินซียังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่แพรวพราว เขาปล่อยเธอ มือใหญ่ของเขาปัดบนแก้มของเธอเบาๆ “‘แผนป่วน’ พวกนั้นของเธออยู่ภายใต้สายตาของฉัน! ถ้าหากไม่ได้รับความยินยอมจากฉัน เธอคิดว่าพวกกรรมการลี่ซื่อ จะยอมวิ่งเต้นกับติดสินบนเหรอ?”
หลายปีมานี้ที่ลี่ซื่อสามารถเป็นผู้นำอยู่ในอุตสาหกรรมการเงินมาได้ สาขาย่อยมากมายและแกนหลักของบริษัทมีความภักดีและทุ่มเทให้กับการทำงาน เหตุผลคืออะไร?
นอกจากการจัดการที่เหนือกว่าแล้ว ยังเป็นเรื่องของสวัสดิการและค่าตอบแทนอีกด้วย
เรื่องเหล่านี้มีมากกว่ากลุ่มบริษัทใดๆ ในและต่างประเทศ นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วกรรมการผู้บริหารเหล่านั้นล่ะ?
ไม่มีใครที่จะไม่มีวันทรยศ แค่ว่าจะมีเบี้ยมากน้อยแค่นั้น
การใช้แรงจูงใจทางบวกและทางลบ เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องใช้อย่างยืดหยุ่น
ซูย้าวพูดไม่ออกเลยจริงๆ ใบหน้าที่มึนงงของเธอค่อนข้างนิ่ง และไม่น่าดูเล็กน้อย
เธอทำงานหนักมาเกือบเดือนโดยที่คิดว่าตนเองเตรียมตัวทั้งหมดมาอย่างดีแล้วก่อนกลับเมือง A เดิมทีคิดว่าด้วยใบหน้าของเธอที่ดูเหมือนซูย้าว จะสามารถใช้สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของลี่เฉินซีได้ บวกกับให้อาตงกับอาเจว๋เข้าทางพวกกรรมการ เมื่อเรื่องสำเร็จเธอก็จะได้ลี่ซื่อมาครอง
แต่ตอนนี้ดูแล้ว เหมือนว่าทุกสิ่งที่เองทำจะเป็นเพียงเรื่องยกยอปอปั้นเท่านั้นเอง
คิดจะใช้วิธีนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งบริษัทลี่ซื่อ มันเป็นไปไม่ได้เลย
ลี่เฉินซีลุกขึ้นแล้วช้อนตาลงมองหญิงสาวที่ยังนั่งหน้าไร้อารมณ์อยู่บนเก้าอีก ขมวดคิ้วแล้วยื่นมือไปหาเธอ “ขอเพียงเธอยอมอยู่ข้างๆ ฉันแต่โดยดี ผ่านไปสักพัก เธออยากได้อะไร ฉันจะให้เธอทุกอย่าง”
ซูย้าวตกตะลึงและเงยหน้าขึ้น ดวงตาใสจ้องมองเขา มีทั้งความสับสนและไม่แน่ใจ
ลี่เฉินซียิ้มมือที่ยื่นออกไปยังคงรอคอย “ไม่เชื่อฉันเหรอ?”
เธอจะเชื่อเขาได้เหรอ? !
ซูย้าวขมวดคิ้วแน่น “คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ให้ฉันต้องขาดทุนซ้ำซ้อน?”
เขาสำลักและหัวเราะ ใบหน้าที่หล่อเหลายิ้มสดใสและยิ่งดูสว่างไสว มือที่ยื่นออกมาไม่รอเธอแล้วแต่กลับจับแขนเธอโดยตรงแล้วดึงเธอลุกขึ้นแล้วบีบแก้มหยอกล้อเธอ “เธอนี่เป็นเด็กฉลาดจริงๆ กลัวว่าฉันจะรวบตึงทุกอย่างแล้วเธอจะไม่ได้อะไรเลยงั้นสิ?”
ซูย้าวอดถอนหายใจไม่ได้ ก็ประมาณนั้นแหละ!
ตอนนี้เธอเข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่า จะต่อรองกับเขา เธอยังอ่อนไป และยังคิดน้อยเกินไป
ลี่เฉินซียกแก้มของเธอ ดวงตาของเขาลึกและลึกขึ้น “กังวลไว้บ้างก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากไม่ลองดู เธอก็คงจะไม่ได้อะไรเลย!”
ซูย้าวหลับตาอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้เธอยังจะพูดอะไรได้อีก? นอกเสียจากยอมรับข้อเสนอของเขา ไม่มีทางเลือกอื่นอีก
แต่ว่า เธอยังคงจับตาดูอย่างระมัดระวัง นั่นคือ เธอจะไม่เอ่ยถึง ตอบ หรือยอมรับ
เป็นแบบนี้ไปอีกสามวันเธอก็จะไปจากเมือง A แล้ว เมื่อเธอไปเขาก็ทำอะไรไม่ได้อีก ส่วนเรื่องที่จะเล่นงานลี่ซื่อยังไง หลังจากไปแล้ว ค่อยมาคิดกันดูอีกที!
เมื่อคิดแบบนี้ ซูยาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แทนที่จะพูดถึงหัวข้อนี้ เธอเอาแขนของเขาอย่างแข็งขัน ทั้งสองคนออกจากร้านอาหาร และโรลส์ รอยซ์สีดำก็หายไปข้างถนน ในทางกลับกันอาตงก็มาถึงที่นี่พร้อมกับรถคาเยนน์
อาตงเปิดประตูรถก่อนและเห็นลี่เฉินซีกับซูย้าวยืนอยู่ข้างถนน ทั้งสองคนดูใกล้ชิดกันมากจนทำให้เขารู้สึกสลด ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถาม ทำได้เพียงทำความเคารพ เอนตัวและพยักหน้าให้ “คุณหนู”
ซูย้าวมองลี่เฉินซีที่ด้านข้าง กะพริบตาและกระซิบ “รอฉันตรงนี้ก่อน”
จากนั้น จากที่กำลังจะจากเขาไป กลับถูกลี่เฉินซีใช้หลังมือห้ามไว้