บทที่ 61 ใครให้คุณตามรังควานภรรยาผม
งานเลี้ยงของกลางคืน อยู่ที่โรงแรมฉวนจี้ สถานการณ์ในงานเลี้ยงที่ชั้นบนสุด หรูหราไฮโซ ผสานกับวิวกลางคืนที่ชวนหลงไหล วิวกลางคืนไกลๆเข้าตา แสงสีไฟที่สว่างไสว ทำให้คนหน้ามืดตาลาย
ซูย้าวตามคำร้องขอ มาถึงโรงแรมตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ จากนั้นก็ถูกซูหยวนลากมาที่ห้องชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“จำไว้นะ คุณแค่บรรเลงดนตรี เรื่องอื่นๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณทั้งสิ้น อืม?” ซูหยวนย้ำแล้วย้ำอีก
กังวลว่าซูย้าวจะคิดมาก เธอยังพูดคำเดิมๆ “ร้ายดียังไงเราก็ยังเป็นพี่น้องที่รักกัน ได้ยินคนอื่นพูดว่าคุณเป็นใบ้ ฉันไม่อยากฟังเลยสักนิด คุณตั้งใจบรรเลงดนตรีของคุณเถอะ ไม่ว่าพูดอะไรหรือทำอะไร ล้วนไม่เกี่ยวกับคุณทั้งสิ้น”
ซูย้าวพยักหน้า อยู่ตอนท้ายสุด ใช้ภาษามือยืนยันอีกครั้ง “หลังจากวันนี้ไป พรุ่งนี้คุณก็จะพาฉันไปพบแม่ฉันใช่รึเปล่า? “
“ใช้แล้ว นี่เป็นความลับระหว่างเรา ห้ามเปิดเผยออกไป” ซูหยวนพูดแบบลับลมคมใน
เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ หันหลังและเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ส่วนสถานการณ์ในงานเลี้ยงสังสรรค์ ชุดราตรีสีแดงของซูย้าวทั้งชุด แสดงบุคลิกภาพของผู้หญิงที่อ่อนโยนและสวยงาม ความอ่อนช้อยทำให้ความสวยงามของผู้หญิงแสดงออกมาอย่างเต็มที่
จากมือพนักงานหยิบแชมเปญมานึงแก้ว ส่ายเอวที่ผอมเพรียว มาถึงตรงหน้าประธานจางโดยตรง
เอ่ยปากออกมานึงคำ‘อาจางคะ’ด้วยเสียงที่ออดอ้อนออเซาะ เสียงเหมือนกับอมลูกอมเอาไว้ ฟังจนกระดูกของประธานจางชาไปหมดทั้งตัว อดที่จะหลีกเลี่ยงลูกค้าที่ต้อนรับไม่ได้ หันหลังมองไปที่ซูหยวนอย่างยิ้มแย้ม
“โธ่เอ๊ย นี่ไม่ใช่หยวนหยวนหรือ?” ขณะที่ประธานจางพูดจา มือที่ใหญ่โตโอบกอดเอวที่ผอมเพรียวของซูหยวนโดยตรง และแอบแต๊ะอั๋งอีกด้วย
ซูหยวนก็ไม่ได้หลีกเลี่ยง ถึงขั้นเข้าไปใกล้ชิดอ้อมกอดของเขา หน้าอกที่ใหญ่โตของรูปร่าง ยิ่งทำให้คนอยากพ่นไฟเหลือเกิน
“เรื่องที่คุยกับอาครั้งก่อน อาจางทบทวนไปถึงไหนแล้วคะ?” ซูหยวนเปลี่ยนเรื่อง มิเช่นนั้นจะให้ไอ้แก่เหี้ยคนนี้เอาเปรียบได้ไง
นัยน์ตาที่แต๊ะอั๋งของประธานจางเคลื่อนไหว ก็คือว่า หนูหมายถึงเรื่องซูย้าวอ่ะค่ะ”
“ใช่แล้วค่ะ อาดูสิคะ ครั้งก่อนหนูเพิ่งพูดกับอาจางจบ ผ่านไปไม่กี่วันเธอกับประธานลี่ก็ทะเลาะกันเรื่องหย่าร้างกันแล้ว บ้านตระกูลลี่ไม่ยอมรับผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะคะ อาพูดสิคะวันหลังเหลือแค่น้องสาวหนูคนเดียว น่าสงสารแค่ไหนค่ะ”
ขณะที่ซูหยวนพูดจาจงใจทำเสียงออดอ้อนออเซาะและควงแขนประธานจางไว้ การกระทำที่ออดอ้อนออเซาะ ยิ่งทำให้หัวใจคนคันเหลือเกิน
ถึงแม้ประธานจางเป็นวัยกลางคนแล้วก็ตาม แต่ก็ควบคุมความต้องการในใจไม่ได้ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาตั้งหลายเท่า จ้องมองผู้หญิงที่อยู่ไกลๆ สายตาข้างในมีความซับซ้อน “ถ้างั้นหนูพูดมาสิ ต้องการให้อาทำอะไร?”
“อาจางชอบน้องสาวของหนูไม่ใช่หรอคะ? เอางี้ไหมคะ……..ท่านดูแลเธอดีๆหน่อย! แบบนี้ บั้นปลายชีวิตของน้องสาวหนูหลังมีท่านแล้ว หนูซึ่งเป็นพี่ ก็ถือว่าวางใจแล้ว ไม่ใช่หรือคะ?”
จุดประสงค์ของซูหยวนเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน รอยยิ้มอ่อนๆที่ใต้ตา มีแผนการที่เจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมกระจายไปทั่วอากาศ
ประธานจางเหมือนขมวดคิ้ว วินาทีนี้ทั้งแรงกายและแรงใจของเขาล้วนอยู่ที่ตัวซูหยวน ถึงแม้ความสวยของผู้หญิงคนนี้เทียบซูย้าวไม่ได้ก็ตาม แต่ว่าจริตจะก้านที่แสดงออกมา ก็มีรสชาติไปอีกแบบ
แต่ว่าทั้งคู่ได้พูดถึงขนาดนี้แล้ว ข้างหูมีเสียงดนตรีของซูย้าวดังขึ้นมา เสียงเปียโนที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมได้ผ่านฝีมือที่ชำนาญของซูย้าว วินาทีนี้ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ล้วนเคลิ้มตามไปด้วย
ประธานจางก็ถูกเสียงดนตรีที่มหัศจรรย์ดึงดูด เพลงดนตรีเปียโนที่คุ้นเคยเหมือนทำให้ผู้ชายถูกเวทมนตร์สะกดจิต เดินไปทางเวทีแบบทีละก้าวทีละก้าว สายตาจ้องมองผู้หญิงบนเวทีอย่างหลงไหล
ซูย้าวในคืนนี้ กระโปรงยาวสีน้ำเงินทั้งชุด การออกแบบที่เผยแผ่นหลัง ทำให้ทรวดทรงองเอวดูเด่นชัดขึ้นมาในขณะเดียวกันแขนขาวดั่งหยก ผิวพรรณขาวผ่อง ผมที่ยาวสลวยปล่อยไว้ที่ท้ายทอย เส้นผมตกลงมาที่ข้างหูเส้นนึง ผ่านไปที่แก้มช้าๆ ทำให้หลังต้นคอที่เรียวยาวและขาวผ่องว่างเปล่า ผู้หญิงแบบนี้ สวยจนทำให้คนไม่อาจเคลื่อนย้ายสายตาได้เลย
เพลงดนตรีเปียโนที่ปราบเปลี่ยนของโมสาร์ท ถูกซูย้าวบรรเลงเพราะจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ตกใจจนทำให้สถานการณ์ที่เสียงดังในตอนแรก เงียบสงบลงไปในชั่วขณะ บรรยากาศแข็งตัว และเงียบสงบสุดๆ
ประธานจางจ้องมองเธออย่างตั้งอกตั้งใจ สายตาข้างใน มีความซับซ้อน
กลับละเลยที่อยู่ข้างๆ และรอยยิ้มเย็นชาที่ริมฝีปาก
เพราะว่าได้เตรียมการพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า และได้สืบเนื้อหาของประธานจางอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ภรรยาของเขาเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน อายุน้อยกว่าเขาตั้งสิบปีเต็มๆ ภรรยาที่เสียชีวิตคนนี้ ก็คือคุณครูเปียโน ซึ่งชำนาญที่สุด ก็คือเพลงดนตรีของโมสาร์ท
ส่วนการรู้จักของทั้งคู่ ก็มาจากงานเลี้ยงสังสรรค์
บรรยากาศและสถานการณ์เช่นนี้ มาในเพลงของโมสาร์ทอีกเพลง กระตุ้นประธานจางคิดถึงอดีต มีความคิดถึงเช่นนี้อยู่ ความรู้สึกที่มีต่อซูย้าว…………
ไม่รู้สึกตัว เพลงจบไปนึงเพลง ซูย้าวนั่งอยู่ตรงนั้น บรรเลงทั้งสามเพลงติดต่อกัน ล้วนเป็นเพลงของโมสาร์ท และล้วนเป็นความต้องการของซูหยวน
บรรเลงจนจบหมดแล้ว เธอลุกขึ้นมาก้มตัวลงทักทายและจากไป
ประธานจางถูกร่างเงานั้นดึงดูดโดยสิ้นเชิง ไม่ยอมรับไม่ได้ มองดูผู้หญิงคนนี้ และฟังเธอบรรเลงเพลงไปด้วย เป็นอย่างนึงที่มีความสุขสุดๆ
“หยวนหยวน คนนี้ก็คือน้องสาวหนูซูย้าวสินะ?” สายตาของประธานจางไล่ตามร่างเงาของซูย้าวอยู่ตลอดเวลา จนกว่าหายไปแล้วก็ยังคำนึงถึง ยากที่จะลืมนัก
ซูหยวนยิ้มแย้มอ่อนๆ และพยักหน้า “ถูกต้องค่ะ เธอก็คือน้องสาวหนูเอง ถ้าหากอาจางยอมรับแล้วก็ อาดูสิคะเรื่องที่หนูพูดก่อนหน้านี้………..”
” ไม่มีปัญหา! ซูย้าวผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ อย่าว่าแต่ดูแลเลย เธอมีความต้องการใดๆลุงก็จะทำให้เธอพอใจทุกอย่าง!” ท่าทางประธานจางเปลี่ยนไปทันที แทบจะรับปากเงื่อนไขใดๆที่ฝ่ายตรงข้ามเสนอออกมาทุกอย่าง
ซูหยวนพูดอีกว่า ” ถ้างั้นก็รบกวนอาจางแล้วนะคะ!”
“ไม่มีปัญหา ตอนนี้ผมไปเจอเธอที่หลังเวทีได้รึเปล่า? “ประธานจางใจร้อนจนรอไม่ไหว หน้าตาที่ใจร้อนแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน
“คำโบราณว่าไว้ว่าใจร้อนจะเสียการนะคะ อาจางคะจะใจร้อนไปทำไมหล่ะคะ? ใจเย็นๆเถอะค่ะ มีโอกาสอยู่แล้วค่ะ!”
รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของซูหยวนไม่ลดลง สายตาสำรวจเวทีที่อยู่ไกลๆ นี่เป็นแผนการที่เธอตั้งใจจัดขึ้นมา ไม่ว่าลี่เฉินซีจะหย่าร้างกันจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นลี่เฉินซีหรือว่าบ้านตระกูลลี่ ก็ไม่ยอมรับซูย้าวอีกต่อไปแล้วอย่างแน่นอน!
เธอจะรอวันนั้น มองดูซูย้าวถูกขับไล่ออกจากบ้านโดยสิ้นเชิง คิดถึงหน้าตาที่ซมซานนั้น รอยยิ้มที่หน้าของซูหยวนยิ่งอยู่ยิ่งสดใส
แต่ว่ากลับละเลยประธานจางที่อยู่ข้างๆ หัวใจของผู้ชาย ก็ยังใจร้อนอยู่ดี
ซูย้าวเปลี่ยนชุดออกมา มัดผมที่ยาวสลวยเป็นหางม้าซึ่งอยู่หลังท้ายทอย ชุดลำรองธรรมดาแตกต่างจากบนเวทีเมื่อสักครู่ที่สวยสง่าอย่างกับคนละคน
ทางนี้จบสิ้นแล้ว เธอถือกระเป๋าเล็กๆเตรียมตัวจะลงไปที่ชั้นล่าง ทำไงได้ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออกมา ประธานจางก้าวเท้าออกจากข้างใน สายตาจ้องมองซูย้าวอย่างไม่ให้คลาดเคลื่อน และขวางการกระทำของเธอที่ต้องการจะขึ้นลิฟท์ไป
“คุณซู………..”
ประธานจางจับแขนที่เรียวยาวของเธอไว้ แรงที่ใช้ไม่เบาและไม่แรงจนเกินไป สายตาที่ข่มขู่เต็มไปด้วยความจินตนาการที่มีสีสัน “ยังจำผมได้ไหม? ผมเป็นประธานจางของบริษัทโฆษณาเทียนหยู่ อยู่ที่บ้านตระกูลซูครั้งก่อน เราเคยเจอกันแล้ว!”
สีหน้าที่ตื่นตกใจกลัวของซูย้าวเปลี่ยนไปเล็กน้อย นึกย้อนเรื่องราวที่เกี่ยวกับประธานจางอย่างเก้อเขิน ทำไงได้หล่ะฝ่ายตรงข้ามแรงเยอะเกินไป การต่อต้านของเธอจึงไร้ประโยชน์
คุณซู ผมอยากเลี้ยงคุณสักมื้อได้ไหมครับ? ตอนนี้เลยครับ สะดวกรึเปล่าครับ? “เขาถามอีกครั้ง
ซูย้าวยิ่งเก้อเขินมากขึ้น ส่ายหน้าติดต่อกัน ท่าทางที่ต่อต้านก็สะดุดเล็กน้อย
” ปล่อยเธอซะ!”
ทำไงได้ในเวลาที่ขับขัน เสียงที่หนักแน่นดังขึ้นมาจากข้างหลัง ลมหายใจที่เยือกเย็น ทำให้หัวใจคนเย็นเฉียบอย่างเกรงกลัว
ระดับเสียงที่คุ้นเคย ความรู้สึกที่ข่มขู่แบบรุนแรง และความเยือกเย็นที่ตามมาด้วย ซูย้าวไม่จำเป็นต้องหันหน้าก็สามารถเดาออกแล้วว่าเป็นใคร
หน้าตาที่หล่อเหลาและเย็นชาของลี่เฉินซี ก้าวเดินจากข้างหลังเข้ามาแบบก้าวใหญ่ๆ ประธานจางอึ้งแข็งอยู่ที่นั่น มือใหญ่โตยังคงจับแขนที่เรียวยาวของซูย้าวเอาไว้
ซูย้าวถอยหลังออกมานึงก้าว กะจะให้ประธานจางปล่อยมือ ส่วนลี่เฉินซีกลับก้าวเดินเข้ามาโดยตรงแบบก้าวใหญ่ๆ ในขณะเดียวกัน แขนที่ยาวเหยียดคว้าไว้ปุ๊บ โอบกอดร่างกายที่ผอมบางของซูย้าวเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเองโดยตรง น้ำเสียงที่เย็นชาเริ่มต้นขึ้นมา “ประธานจาง ใช่มั้ย? ใครให้ท้ายกับมึง กล้ามาตามรังควานภรรยาฉัน?”