“คุณนี่เอง! คุณที่ทำให้สามีของฉันบาดเจ็บขนาดนั้น! คุณทำให้แม่สามีของฉันนอนอยู่ในห้องไอซียูจนถึงตอนนี้!”
ผู้หญิงวัยกลางคนมองซูย้าวด้วยสายตาที่แดงก่ำ จับแขนของเธออย่างแน่น ราวกับว่าอยากจะหักแขนเธอให้ขาด
ซูย้าวถูกผู้หญิงสองสามคนล้อมรอบ และยังมีคนใช้นิ้วชี้หน้าเธอตะโกนว่า “คุณส่งคนมารื้อบ้านของเรา คุณเป็นคนทำทั้งนั้น!”
“ไม่มีศีลธรรมจริงๆ!ให้คำอธิบายกับเราเดี๋ยว!”
ผู้หญิงพากันร้องไห้โห คนในครอบครัวที่อยู่ข้างๆก็เอาแต่บ่น ด่านั้นด่านี้ มีทุกอย่าง
ซูย้าวยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ มองออกไปข้างนอก มองดูคนในครอบครัวของผู้เสียหาย ในใจเธอก็มีความรู้สึกซับซ้อน
นักข่าวยังคงถ่ายภาพไม่หยุด แสงแฟลชวนอยู่รอบตัวของซูย้าว ทำให้เธอจำเป็นต้องหรี่ตา
“ก่อนอื่น เกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจได้เข้าไปแทรกแซงแล้ว ฉันจะไม่ให้คำตอบใดๆจนกว่าจะตรวจสอบชัดเจน แต่มีเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นความผิดของDouble Aceกรุ๊ป ฉันไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน ค่าชดเชยและค่าตอบแทนที่ควรให้ก็ไม่มีทางน้อยแม้แต่สลึงเดียว”
ซูย้าวมองดูทุกคนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหมดหนทาง จากนั้นก็พูดอีกว่า “แต่ถ้าไม่ใช่ความผิดชอบเรา เราก็จะไม่ปล่อยปละละเลย ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่าใส่ร้ายป้ายสีกันใช่ไหม?”
คำพูดธรรมดาๆที่มองไม่เห็น ทำให้ผู้คนและนักข่าวที่เดิมทียังพูดถึงเรื่องนี้เงียบไปทันที
โดยเฉพาะนักข่าวแกนนำสองสามคนนั้น พวกเขาถึงกับก้มหน้าลงอย่างไม่รู้ตัว
แต่ก็ยังมีคนที่ไม่เกรงกลัว พวกเขายังพูดอีกว่า “คุณคือซูย้าวใช่ไหม?เรื่องของการพัฒนาและฟื้นฟูเขตเมืองถนนกู่อานครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับบริษัทลี่ซื่อหรือไม่?”
“คุณกับประธานลี่จงใจร่วมมือกันใช่ไหม?แล้วอุบัติเหตุครั้งนี้ ฝ่ายประธานลี่ต้องรับผิดชอบด้วยไหมคะ?”
ซูย้าวขมวดคิ้วอย่างอ่อนแรง เธอกระแอมและพูดว่า “สำหรับเรื่องของการพัฒนาและฟื้นฟูเขตเมืองถนนกู่อาน เมื่อก่อนบริษัทLGเป็นคนรับผิดชอบ แต่เพราะว่าสาเหตุหลายประการ บริษัทLGจึงโอนโปรเจกต์นี้มาให้Double Aceกรุ๊ปเรารับผิดชอบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทลี่ซื่อ ทุกคนโปรดอย่าคาดเดาและเชื่อมโยงต่างๆนานา”
คำอธิบายแบบนี้ เมื่ออยู่ต่อนักข่าวที่ยอมเชื่อข่าวลือพวกนี้ แน่นอนว่ามันเป็นแค่คำอธิบายที่ไร้ประโยชน์ที่สุด ไม่มีใครยอมเชื่อเธอ แต่มันกลับทำให้มีหัวข้อเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะถามหรือพูดอะไร ซูย้าวก็ยังคงยิ้มอย่างเป็นมิตร แม้แต่คนในครอบครัวของผู้เสียหายที่มาพัวพันอย่างไม่มีเหตุผลข้างๆ เธอก็พยายามไม่สนใจ
เพราะเป็นแบบนี้ พวกนักข่าวจึงจับจุดอ่อนของเธอไม่ได้ นอกจากการคาดเดาตัวตนของเธอก็ไม่มีอะไรอย่างอื่น
ซูย้าวก็ถือโอกาสก้มดูคนในครอบครัวของผู้เสียหายที่กำลังโกรธเคืองและพูดเบาๆ “ทุกท่าน เมื่อตรวจเจอสาเหตุของการอุบัติเหตุแล้ว ค่าชดเชยและเงินช่วยเหลือที่ควรให้พวกคุณ พวกเราจะไม่ให้ขาดแม่แต่สลึงเดียวอย่างแน่นอน หากทุกท่านมีเวลา โปรดขึ้นไปดูแลพวกเขาชั้นบนหน่อยนะคะ!”
ผู้หญิงสองสามคนพากันตกใจ ราวกับถูกคำพูดของเธอตักเตือน ลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปแล้ว!
พวกเขาล้วนแต่ถูกคนจงใจยุยง ถูกคำว่าเงินค่าชดเชยบังตา แต่ตอนนี้พวกเขาได้สติขึ้นมาแล้ว ผู้หญิงสองสามคนหันหน้ามามองหน้ากัน เบียดตัวออกไปจากฝูงชนโดยไม่ได้นัดหมาย แล้ววิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล
ซูย้าวถอนหายใจเบาๆ เมื่อเธออยากจะออกไปจากนักข่าวพวกนี้ ท่ามกลางความวุ่นวาย เธอบังเอิญไปสะดุดเท้าใครสักคนเข้า ล้มลงไปกับพื้นอย่างควบคุมไม่อยู่
ตอนที่เธอล้มลง เธอยังบังเอิญไปโดดนักข่าวผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือกล้องอยู่ข้างๆ
นักข่าวคนนั้นถูกกล้องกระแทกใส่เต็มๆ เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ซูย้าวก็รีบจัดการตัวเองในเวลาอันสั้น และเมื่อเธอกำลังจะลุกขึ้น เธอก็ถูกผู้คนที่อยู่ข้างๆขวางเอาไว้ ลุกไม่ขึ้นตั้งหลายครั้ง
แบบนี้ นักข่าวรีบถ่ายวิดีโอเอาไว้ แล้วยังมีคนถือไมโครโฟนถ่ายทอดสด “ท่านผู้ชมทุกท่าน ผู้ดูแลDouble Aceกรุ๊ปปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาล สงสัยว่าอยากจะปัดความรับผิดชอบและแก้ปัญหาเป็นการส่วนตัวกับผู้บาดเจ็บ ถูกนักข่าวสัมภาษณ์โดยบังเอิญ อารมณ์ไม่คงที่ และทะเลาะวิวาทกับนักข่าวในที่เกิดเหตุ……”
มองจากมุมมองที่ชาญฉลาดของนักข่าว ดูเหมือนว่าซูย้าวกับนักข่าวผู้หญิงคนนั้นกำลังนอนอยู่บนพื้นจริงๆ ทั้งสองคนอยากจะลุกขึ้นมา ท่าทางของพวกเธอล้วนแต่ดูไม่งาม
และในขณะเดียวกัน ในห้องทำงานของท่านประธานบริษัทลี่ซื่อ หวางอี้เปิดทีวี ดูรายการข่าวที่กำลังถ่ายทอดสด
ลี่เฉินซีค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างอ่อนโยน สายตาที่แผ่วเบาเหลือบมองไปที่หน้าจอทีวี
คำบรรยายต่างๆนานาของนักข่าว ดูเหมือนจะน่ายกย่อง แต่จริงๆแล้วพวกเขากำลังดูถูกซูย้าวให้ถึงที่สุด และสถานการณ์ในที่เกิดเหตุนั้นวุ่นวายจริงๆ พูดได้ว่าแย่มาก
เขาก็ขมวดคิ้วที่สวยงาม ความคลุมเครือในสายตาหายไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ทำให้ตัวเองสงบสติลง จากนั้นเขาก็จุดบุหรี่และเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
หวางอี้ยืนกำมืออยู่ขางๆ ถามเขาเบาๆว่า “ประธานลี่ คุณอานเกิดเรื่องแล้ว เราจะช่วยเธอไหมครับ?”
“ช่วย?” ลี่เฉินซีพึมพำคำนี้เบาๆ เขายิ้มมุมปากด้วยความเยาะเย้ย รอยยิ้มที่สดใสเผยให้เห็นความชั่วร้าย “เราไม่ได้ทำให้เกิดเรื่อง นักข่าวเราก็ไม่ได้เป็นคนติดต่อ ทุกอย่างไม่เกี่ยวอะไรกับเรา แล้วทำไมเราต้องไปช่วย?”
หวางอี้ตกใจ เขามองไปที่เจ้านายของตัวเองด้วยสายตาแปลกๆ
เขาแค่ไม่อยากพูดออกมาตรงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเรียกว่า’คุณอาน’ แต่จริงๆแล้วเธอคือซูย้าว เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ลี่เฉินซีก็ไม่สนใจ? !
หวางอี้ยังคงรู้สึกว่ามันไม่ปกติ เขาจึงพูดอีกว่า “แต่เรื่องของคุณอาน…… เรื่องนี้มันอาจจะกระทบกับบริษัทลี่ซื่อของเรา แล้วอีกอย่าง นายน้อยก็ชอบดูข่าว ถ้านายน้อยรู้เข้า เกรงว่า……”
“ไม่เข้าใจที่ผมพูด?” คำพูดของลี่เฉินซีตรงไปตรงมา ความเร็วในการพูดก็เร็วจนแทบจะกดทับเสียงสุดท้ายของหวางอี้
หวางอี้ตกใจไปพักหนึ่ง ลังเลแล้วพูดว่า “แต่ว่า……”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วที่แหลมคมอีกครั้ง เหลือบมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและทรงพลัง “ไม่มีอะไร แต่ว่าอย่าพึ่งสนใจเธอ!”
เธอชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
งั้นก็ให้เธอได้รับรู้ความรู้สึกนั้นซะบ้าง อะไรที่เรียกว่าตัวคนเดียว อะไรที่เรียกว่าได้ทีขี่แพะไล่!
ต้องให้เธอเจอกับความยากลำบาก เธอถึงจะรู้ว่า ใครกันแน่ที่ช่วยเธอได้
หวางอี้เดาความคิดของเจ้านายไม่ออก แล้วเขาก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งมากนัก เขาจึงทำได้แค่พยักหน้า “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
เห็นเลขาที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอก จู่ๆลี่เฉินซีก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “เดี๋ยวก่อน”
หวางอี้รีบหยุดเดินและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว “มีอะไรครับ”
“จัดการบริษัทเพ้ยซื่อกรุ๊ป หาข้ออ้างให้เพ้ยส้าวหลี่ออกไป” สายตาชองลี่เฉินซีเย็นชาและมืดมน ควันของบุหรี่ที่นิ้วก็ลอยขึ้นมา
หวางอี้พยักหน้าตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็เหมือนกับว่าตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง มองไปที่เจ้านายด้วยความยากลำบาก “สองปีที่ผ่านมานี้ เราแทบจะไม่ได้ร่วมมือกับบริษัทเพ้ยซื่อกรุ๊ป เช่นนั้นข้ออ้าง……”
ลี่เฉินซีหรี่ตาลงเล็กน้อย ขยับริมฝีปากอันบอบบาง “เรื่องของเด็กคนนั้นก่อนหน้านี้ล่ะ?”
ดูเหมือนว่าหวางอี้จะนึกขึ้นมาได้ เขาเข้าใจขึ้นมาทันที “เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”
เมื่อหวางอี้เดินออกไป ห้องทำงานก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ใบหน้าอันหล่อเหล่าของเขาตึงเครียด มองไปที่หน้าต่างไกลๆด้วยสายตาที่เย็นชา ถือบุหรี่อยู่ในมือที่เรียวยาวราวกับหยก ค่อยๆดับบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่……
เงียบสงบ มันเงียบสงบเกินไป ลมหายใจที่เล็ดลอดออกมารอบๆ เผยให้เห็นความเงียบเหงาที่แปลกๆ
ผ่านไปสักพัก รอยยิ้มที่เยาะเย้ยก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆหลับตาลง ยกมือขึ้นเกาคิ้วของตัวเอง
และที่โรงพยาบาล ความโกลาหลยังคงไม่สงบลง ข้างๆซูย้าวก็ยังมีนักข่าวอยู่สองสามคน ทุกคนต่าง’ไม่หวังดี’กันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเธออยากจะปกปิดอารมณ์ของตัวเองและพยายามยิ้ม แต่มันก็ยังถูกพวกเขาเล่นงาน
เธอลุกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน ยังไม่ทันได้ทำอะไร เธอก็ถูกนักข่าวหญิงที่ล้มลงไปกับเธอพูดตัดหน้าขึ้นมาก่อน “ถึงแม้ว่าคำถามที่ฉันถามคุณจะไม่ชอบฟัง แต่คุณก็ไม่ควรลงไม้ลงมือ!”
ซูย้าวตกใจ ลงไม้ลงมือ? เธอลงไม้ลงมือเมื่อไหร่!
นักข่าวหญิงคนนั้นพูดพร้อมกับร้องไห้ ท่าทางร้องไห้ทำให้คนสงสาร
ซูย้าวกำลังจะอ้าปากพูด แต่ทันใดนั้นเธอก็ถูกแรงที่อยู่ข้างๆดึงแขนของเธอเอาไว้ เธอตกใจ และเมื่อลืมตาขึ้นดู ไม่รู้ว่ามีผู้ชายร่างใหญ่ยืนอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่