มือทของซูย้าวที่ถือตะเกียบอยู่ จู่ๆ ก็แน่นขึ้น ใบหน้าที่บอบบางก็สั่นขึ้นตาม
แต่ช่วงเวลาแห่งความตกตะลึงนี้ คงอยู่เพียงแค่ไม่ถึงห้าวินาที เธอก็ให้การก้มหน้ากินอาหาร ปกปิดไว้อย่างรวดเร็ว
ลี่เฉินซีมองดูท่าทางกินที่เกือบจะมูมมามของเธอ เลิกคิ้วขึ้น นี่หิวขนาดไหนกัน ไม่ห่วงภาพลักษณ์การกินแล้ว……
ซูย้าวใช้เวลาเพียงสั้นๆ ก็กินบะหมี่ที่เหลืออยู่ในชามจนหมด ท้ายที่สุด ก็ซดน้ำซุปหมดไปด้วย จากนั้นก็วางชามเปล่าและตะเกียบกลับไปที่ถาด แล้วยังไม่ลืมที่จะพูดกับชายหนุ่มด้านข้างหนึ่งประโยค “บะหมี่ที่นายทำอร่อยมาก ขอบคุณนะคุณลี่!”
ขณะที่พูด เธอก็จัดแจงข้าวของบนโต๊ะ แล้วเริ่มทำการเคลื่อนไหวยุ่งๆ ต่อ
ชายหนุ่มลดสายตามองไปที่เธอ มองดูลายปักในมือเธอค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง กระต่ายน้อยน่ารักหนึ่งตัว ราวกับมีชีวิตโดยสมบูรณ์ อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก “ไม่พักผ่อน?”
เธอสะดุ้งทันที ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรโดยไม่รู้ตัว การเคลื่อนไหวบนมือไม่หยุด เพียงแค่พูด “ฉัน…..ทำใกล้เสร็จแล้ว! ปักเย็บอันนี้เสร็จก็จะไปนอน…..”
“โอเค!” ลี่เฉินซีถอนหายใจเบาๆ เดินผ่านตัวเธอไป มองชุดกระโปรงชุดนั้นบนตัวหุ่นลองเสื้อ ฝีมือพิถีพิถัน สีอ่อน ไม่เหมือนชุดเจ้าหญิงแต่ก่อน มีความแปลกใหม่ แต่ก็สวยงามมาก แน่นอน ของพวกนี้ จำเป็นต้องให้คุณแม่ลงมือด้วยตัวเอง……
ในสมองเขาสามารถจินตนาการได้ว่าเมื่อซีซีเห็นแล้ว จะมีความสุขแค่ไหน อดไม่ได้ที่จะยิ้มอีกครั้ง เดินไปนั่งลงบนโซฟาด้านหนึ่ง
ซูย้าวแอบเหลือบมองชายหนุ่มที่อยู่ไกลๆ เป็นครั้งคราว เห็นเขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งมาสุ่มเปิด แล้วก็กังวลว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงสายตาของตน จึงรีบละสายตาไปโดยไม่รู้ตัว
แต่เธอจะบอกว่าอีกไม่นานก็ทำเสร็จ แต่ก็ยังยุ่งอยู่ตลอด
กระต่ายน้อยหนึ่งตัวปักเสร็จแล้ว ก็ปักเย็บอย่างอื่นต่อ ทำต่างๆ นานา ไม่ยอมให้ตัวเองหยุด
ลี่เฉินซีอ่านหนังสือในมือด้วยความตั้งใจอยู่นาน ทันใดนั้นก็ส่งเสียงออกมา ภายในห้องที่ว่างเปล่า ดูกะทันหันเล็กน้อย
“ความเรื่อยเปื่อยนี้ของเธอ จะเรื่อยเปื่อยไปได้นานแค่ไหน?”
ซูย้าวผงะ ไม่ได้ระวังเข็มด้ายในมือ ทิ่มเข้านิ้วอีกครั้ง เธอขมวดคิ้วด้วยความเจ็บ ใช้ปากดูดนิ้วที่มีเลือดไหลโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ ผละสายตาออกมาจากหนังสือไปที่ใบหน้าเธอ ล้ำลึกเรียบนิ่ง ส่องแสงราวกับดวงดาว เปล่งประกาย “หนึ่งวัน สองวัน? หรือว่าหนึ่งปีสองปี?”
ลี่เฉินซีวางขาที่ทับซ้อนกันลงอย่างสง่างาม ปิดหนังสือในมือ โน้มตัวไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะกาแฟ จุดไฟแช็ก จากนั้นควันจางๆ ก็ลอยล่อง น้ำเสียงต่ำลึกของเขาดังขึ้นอีกครั้ง “จะเรื่อยเปื่อย ผัดวันประกันพรุ่งยังไง ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องนอนบนเตียงฉันอย่างเชื่อฟัง ไม่ใช่เหรอ?”
ซูย้าวตัวแข็งทื่อโดยสมบูรณ์ เลื่อนดวงตาที่สวยงามขึ้นช้าๆ สายตาที่เฉยชาเผยความซับซ้อนมองไปที่เขา หรี่ตาลงอย่างไม่อดทน จากนั้นก็ปล่อยสิ่งที่อยู่ในมือ “ดูเหมือนที่นายพูดมาก็ถูก”
เธอกำลังเลื่อนเวลาออกไปจริงๆ จงใจใช้วิธีนี้ ผลัดเขาเท่านั้น
ถึงอย่างไรก็ดึกมากแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว ยืนหยัดต่ออีกหน่อย ต่อให้เขาไม่นอน แต่ประมาณหกโมงเช้า เด็กทั้งสามคนก็ตื่นแล้ว เขาจะทำอะไรเธอได้?”
เก็บความเคราะห์ดีนี้อยู่ในใจ ซูย้าวอยากที่จะต่อต้านมาตลอด แต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาที่สุด เปิดโปงมัน!
เธอสูดหายใจเข้าลึกด้วยความขายหน้าเล็กน้อย ลุกขึ้นกะทันหัน รู้สึกแขนขาอ่อนแรง เหนื่อยล้ามากจริงๆ “แต่ว่าคุณลี่ นายต้องการอะไรกันแน่?”
สายตาของลี่เฉินซีรัดกุม ไม่ได้ให้คำตอบ เพียงแค่มองเธออยู่แบบนี้
ซูย้าวเดินผ่านโต๊ะหนังสือ ร่างเล็กๆ ที่ผอมเพรียวยืนพิงขอบโต๊ะด้านหลัง “ที่นายต้องการ คือตัวฉัน หรือว่า…..ใจของฉัน”
“ถ้าอยากได้ตัวฉัน งั้นก็มีหลายครั้ง ที่นายสามารถได้มันไป ถ้านายบังคับ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”
เธอยักไหล่อย่างไร้เรี่ยวแรง กางแขนเรียวทั้งสองข้างออก ทำท่าทางผ่อนคลาย แต่กลับดูขี้เล่นและน่ารัก “แต่ถ้าสิ่งที่นายอยากได้คือใจของฉัน นั่น……”
ซูย้าวจงใจลากเสียงยาว นิ้วมือชี้ไปที่ตำแหน่งของหัวใจตัวเอง มองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “โทษทีนะ ฉันไม่รักนาย และไม่อยากนอนกับนาย แล้วไม่อยากให้นายแตะต้องฉัน”
คำที่เธอพูดออกไป ตรงไปตรงมามาก ชัดเจนมาก และทำร้ายจิตใจมาก
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ สายตาเยือกเย็นหนาวเข้ากระดูก ริมฝีปากบางขยับเบาๆ “เธอไม่อยาก?”
เธอพยักหน้า “อืม ไม่อยากมากๆ “
“OK!” จู่ๆ ลี่เฉินซีก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ถือโอกาสดับบุหรี่ในมือ เอนตัวลุกขึ้นทันที เดินตรงไปด้านนอก
ซูย้าวยืนตะลึงอยู่ที่เดิม เอ่อ ง่ายอย่างงี้เลย?!
ลี่เฉินซีเดินเร็วมาก ก่อนที่จะออกจากห้องทำงาน ยังไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องให้เธอด้วย
เธอยืนอย่างมั่นคงอยู่ที่เดิม มองดูบานประตูที่ปิดแน่นอีกครั้ง ความคิดช่วงหนึ่งรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกทรุด นี่เขา…..จะใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก?!
ซูย้าวไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะปล่อยเธอไปแบบนี้จริงๆ เพียงแต่ เดาไม่ออกเลยจริงๆ ว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ต่อจากนี้จะทำอะไรอีก
แม้ว่าเขาจะใช้วิธีนี้ เพื่อให้เธออยู่ข้างกาย แต่ก็ไม่เข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของเขาเลยสักนิด……
ซูย้าวพยายามเค้นสมองก็คิดไม่ออก จึงเก็บมันไว้ชั่วคราว ถึงยังไงก็เหนื่อยมากจริงๆ เดิมทีอยากจะกลับไปพักผ่อนที่ห้อง แต่เพราะฉากเมื่อกี้ ทำให้ใจซับซ้อนไม่มากก็น้อย จึงทำงานต่อ
ชุดกระโปรงเล็กๆ ชุดหนึ่ง ทำขึ้นด้วยมือ ต้องใช้พลังงานและเวลามากขนาดนี้ แต่ดีที่ทำเสร็จไปเกินครึ่งแล้ว เหลือเพียงแค่งานตกแต่งบางส่วน
ทำไปทำมา จู่ๆ เธอก็นึกถึงสิ่งที่ซีซีพูดก่อนหน้านี้ นอกจากชุดออกงานชุดนี้แล้ว ยังต้องทำชุดครอบครัวด้วย เพื่อเป็นการเตรียมการสำหรับเกมเล็กๆ น้อยในงานเทศกาลศิลปะ
แต่เมื่อเทียบกับชุดออกงานชุดนี้แล้ว ชุดครอบครัวก็สามารถซื้อแบบสำเร็จรูปได้ เพียงแค่ต้องเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และสไตล์ของตนเองเข้าไป พูดอีกอย่างคือ ต้องแก้ไขนิดหน่อย บนชุดสำเร็จรูป
ซูย้าวมองดูชุดครอบครัวหลากหลายแบบบนคอมพิวเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กดคลิกเข้าไปในรูปภาพรูปหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ สายตาเธอมองค้าง ความคิดแวบขึ้นมา เธอมีความคิดดีๆ แล้ว
เธอยุ่งจนเกือบจะถึงตีสี่ ท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆ สว่างขึ้นแสงบางส่วนส่องผ่านหน้าต่าง เข้ามาในห้อง
ซูย้าวเองก็เหนือยแล้วจริงๆ อ่อนล้าจนฟุบลงบนโต๊ะ หลับตาลง
เดิมทีอยากจะพักผ่อนสักครู่ ไม่คิดเลยว่าพอหลับตาลง ในตอนที่ลืมตาขึ้นอีกที ก็เป็นเวลากลางวันแล้ว
อีกอย่าง เธอขยับร่างกาย ตอนที่ลุกขึ้นนั่งอย่างกะทันหัน ถึงพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงด้วยความประหลาดใจ เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอฟุบอยู่บนโต๊ะ……
มองดูรอบๆ ห้องยังแปลกตาโดยสมบูรณ์ ถอนหายใจอย่างอ่อนแรง เดาว่าเป็นลี่เฉินซีอุ้มเธอขึ้นเตียง?!
เธอตรวจร่างกายท่อนล่างด้วยจิตใต้สำนึกทันที หลังจากแน่ใจว่าปกติดี ถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดี ที่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ฉวยโอกาส…..
ในครึ่งวันถัดมา ซีซียังคงไม่ไปโรงเรียน แม้ว่าซูย้าวจะแสดงความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก แต่กลับพาซีซีไปชอปปิ้ง
เป็นเพียงแค่การชอปปิ้งในความที่เรียบง่าย แต่เพื่อชุดชุดครอบครัวที่ว่านั่น ในตอนเย็น เมื่อทั้งสองข้าวของเต็มมือ เดินเข้ามาในบ้าน ก็มองเห็นจากไกลๆ ว่ามีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อยู่ตรงทางเข้า พร้อมกับหนุ่มหล่อเล็กใหญ่สองคนอยู่ข้างกายเขา
พ่อลูกสามคนอยู่ในกรอบเดียวกัน แล้วยังมองเกือบจะพร้อมเพรียงอย่างรู้กันไปทางซูย้าวและซีซี เฉียบคมและหนาวเหน็บ ราวกับมีอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ สายตาที่ดุดันและครอบงำแบบนั้น ช่างเหมือนกันอย่างน่าประหลาด!
ถูกสายตาแบบนี้จ้องมอง ซูย้าวรู้สึกเพียงความไม่สบายใจระเบิดขึ้นในใจ ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ ฝีเท้าแอบช้าลงไปมาก แต่ไม่ได้สังเกตซีซีน้อยที่อยู่ด้านข้าง วิ่งเข้าไปหาทั้งสามคนทันที
“ปะป๊า พี่ใหญ่พี่รอง วันนี้หนูไปชอปปิ้งกับคุณแม่มาล่ะ!” ซีซีพูดขึ้นอย่างดีใจ ด้วยน้ำเสียงขี้โม้ “คุณแม่ซื้อไอศกรีมให้หนูด้วย! ยังมีอีกนะ กระโปรงที่คุณแม่ทำสวยมาก ดีกว่าอันที่คุณพ่อทำร้อยเท่าเลย!”
ซีซีพูดเองเออเอง โครงร่างเล็กๆ ที่ภาคภูมิใจ เต็มไปด้วยความดีใจและมีความสุข แต่พี่ชายตรงหน้าทั้งสองคน กลับใช้สายตากลืนกิน มองไปที่เธออย่างดุร้าย