พูดไปพูดมา ลี่เฉินซีก็พอจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว
เขาใช้สายตาสำรวจหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างละเอียดลึกซึ้ง อย่างที่คาด เธอแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง ใบหน้ามนขาวใสมองไปแล้วยังคงดูไม่เดียงสาเหมือนเดิม ทว่าหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความระแวดระวัง ฉลาดหลักแหลมราวกับจิ้งจอกน้อยก็ไม่ปาน
“คุณอยากถามผมว่า ถ้าผมขอคุณแต่งงาน มันจะมีข้อดีอะไรสำหรับคุณใช่ไหม?” เขาแปลสิ่งที่เธอพูดออกมา ก่อนจะถามออกไปตรง ๆ
ซูย้าวเองก็ไม่คิดจะอ้อมค้อม เธอพยักหน้ารับ “คุณลี่เองก็ไม่ใช่จะแต่งงานครั้งแรก จริง ๆ แล้วเรื่องแบบนี้ ควรให้ทั้งสองฝ่ายมานั่งจับเข่าคุยกันยาว ๆ แต่ด้วย…เหตุผลหลาย ๆ อย่าง เพราะงั้นฉันก็ไม่อยากจะเปลืองน้ำลาย เรื่องสินสอด คุณเตรียมจะให้เท่าไร?”
ริมฝีปากของลี่เฉินซีเผยรอยยิ้มออกมาเบา ๆ ใบหน้าอันหล่อเหลายิ้มออกมาอย่างละมุนละไมจากใจจริง ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ดูดีสุด ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะซูย้าวรู้จักชายหนุ่มมามากเกินพอแล้ว เธอคงจะหลงใหลไปกับใบหน้านี้อย่างหยุดไม่อยู่
โชคดี ที่เธอยังพอมีสติอยู่บ้าง
“สินสอดใช่ไหม?” เขาย้ำคำพูดเธอออกมานิ่ง ๆ อย่างล้อเลียน
ซูย้าวไม่ค่อยเข้าใจความหมายของรอยยิ้มเขาสักเท่าไร เธอขมวดคิ้วมองชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง “ใช่ ชาวจีนแต่งงานกัน ไม่ใช่ว่าฝ่ายชายต้องมอบสินสอดให้ฝ่ายหญิงเหรอ?”
นัยน์ตาของชายหนุ่มเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย เขาเอื้อมมือออกไปเชยคางเธอขึ้น เพื่อให้สบตาเขา “งั้นคุณลองเดาดูสิ ว่าตอนแรกที่ผมขอคุณแต่งงาน ผมให้สินสอดเท่าไร?”
“เอ่อ…..” ซูย้าวคิดไม่ถึงว่าเขาจะวกเข้ามาถามประเด็นนี้ได้ แต่จะว่าไปก็สนุกดีเหมือนกัน เดาดูหน่อยก็ไม่เสียหาย หญิงสาวจึงคิดคำนวณด้วยท่าทีมั่นใจ ก่อนจะตอบไปว่า “หนึ่งร้อยล้าน?”
ตัวเลขนี้เป็นเพียงตัวเลขที่เธอพูดออกไปส่ง ๆ เท่านั้น
เพราะถึงยังไง บริษัทลี่ซื่อก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายชื่อบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอยู่แล้ว ส่วนลี่เฉินซีก็เป็นถึงประธานบริษัท มูลค่าทรัพย์สินส่วนตัวนับไม่ถ้วน แค่หนึ่งร้อยล้าน ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอก
ทว่าชายหนุ่มกลับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะตอบคำถามออกมาอย่างชัดเจนว่า “สักหยวนก็ไม่ได้เสีย”
ซูย้าว “…..”
“ไม่ใช่แค่นั้น ขนาดงานแต่งงานยังจัดขึ้นแบบลวก ๆ แล้วก็เรียบง่ายสุด ๆ” เขาเสริม
แต่สิ่งที่ชายหนุ่มพูดมาทั้งหมดล้วนเป็นความจริง ในตอนที่เขาจะแต่งงานกับซูย้าว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นการรับคำสั่งมาจากทางตระกูลซู ส่วนเจี่ยงเวินอี๋นั้นรู้สึกว่าซูย้าวเป็นคนซื่อบื้อ ไม่มีปากไม่มีเสียง ถือเป็นเรื่องน่าอับอายหากจะป่าวประกาศออกไป ดังนั้น แม้กระทั่งงานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นความลับ ซึ่งมันเรียบง่ายจนเกินคำว่าเรียบง่ายไปเสียอีก
แม้แต่การเลี้ยงฉลองในงานแต่งงาน ก็มีเพียงแค่โต๊ะของคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็ญาติสนิทอีกเพียงหยิบมือที่มาร่วมงานเท่านั้น
เป็นการจัดที่เงียบเชียบจนเกินกว่าจะจินตนาการได้ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ควรใช้คำว่า “ง่าย ๆ” มาเปรียบเทียบตั้งแต่แรก มันควรจะเป็นกระจอก โหดร้ายทารุณ แล้วก็เป็นการทำชุ่ย ๆ แบบขอไปทีเสียมากกว่า
ดวงตาของซูย้าวเบิกกว้าง ก่อนจะอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว “พระเจ้า งั้นเธอก็ยังยอมแต่งงานกับคุณเหรอ?”
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอด้วยสายตาลึกล้ำ “ไม่ใช่เธอ แต่เป็นคุณ”
แค่เธอรื้อฟื้นความทรงจำกลับมาไม่ได้ก็มากพอแล้ว
นี่เธอยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่ออีก “ถ้านั่นเป็นฉัน งั้นสมองฉันคงกลวงไปหมดแล้วแน่ ๆ! อีกอย่างฉันอาจจะเป็นบ้าแบบกู่ไม่กลับอีกด้วย!”
เขาจ้องไปที่เธอ มุมปากยกยิ้มขึ้น ก่อนจะบีบแก้มของเธอเบา ๆ “เพราะงั้นตอนนั้นถึงได้ทำคุณเสียใจไปแล้วไง!”
“งั้นตอนนี้จะชดใช้เพิ่มไหม?” เธอถามกลับด้วยความกระตือรือร้น นัยน์ตามองเขาอย่างแวววาว “จะชดใช้ยังไง?”
ลี่เฉินซีเริ่มรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเมื่อใดที่เธอเป็นอานหว่านชิง เธอจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม เวลาที่เอ่ยถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นัยน์ตาเธอจะเปล่งประกายแวววับขึ้นมาทันที ทั้งยังมีรอยยิ้มราวกับสุนัขจิ้งจอกน้อยแสนฉลาดและมีพรสวรรค์อีกด้วย
เธอรอไปสักพัก เห็นชายหนุ่มไม่พูดอะไร จึงมีท่าทีผิดหวังเล็กน้อย “คงไม่ใช่ว่าตอนนี้คุณก็ไม่อยากเสียสักหยวนหรอกใช่ไหม? งั้นฉันไม่แต่งนะ ยังไงก็ไม่แต่ง!”
ลี่เฉินซีเลยถามกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อให้ไม่เสียสักหยวน การแต่งงานกับผมจะทำให้คุณเสียเปรียบงั้นเหรอ?”
ถึงแม้ตอนแรกที่เขาขอซูย้าวแต่งงานจะไม่เสียอะไรเลย ทว่าก่อนที่ตระกูลซูจะล้มละลายเพียงไม่กี่ปี บริษัทลี่ซื่อ
ก็สูญเสียทุนไปไม่น้อยเช่นกัน พอคำนวณดูทั้งหมดแล้ว ก็เป็นจำนวนเงินที่หลาย ๆ คนคาดไม่ถึงอยู่
ซูย้าวอ้าปากค้างอย่างหมดหนทาง เธอก้มหน้าลงดูเหมือนไม่ค่อยมีความสุขนิดหน่อย “เสียเปรียบรึไม่เสียเปรียบมันจะไปนับอะไรได้ แค่รู้สึกน้อยใจตัวเองนิดหน่อย แค่นี้ก็จะไปแต่งกับคนอื่นแล้ว….”
แต่เขาก็แค่หยอกเธอเล่นเท่านั้น ตอนนั้นเขาทำเธอรู้สึกแย่ไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาจะกลับไปทำแบบเดิมอีกได้ยังไง?
ลี่เฉินซีพยายามกลั้นยิ้ม ก่อนจะยกมือขึ้นบีบแก้มน้อย ๆ ของเธออีกครั้ง ซึ่งมันแลดูผอมบาง ไม่มีเนื้อ แทบจะสัมผัสอะไรไม่ได้เลย เขาจึงยอมปล่อยออกด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณอยากได้เท่าไร? บอกตัวเลขมาได้เลย”
ซูย้าวชะงักไปชั่วครู่ เธอเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว นัยน์ตากลมโตของเธอวาววับราวกับน้ำในลำธารใส แพรขนตางอนกะพริบกระเพื่อมเบา ๆ “คุณอยากแต่งงานกับฉันจริง ๆ รึเปล่าเนี่ย? ยังต้องให้ฉันบอกตัวเลขอีก…..”
ชายหนุ่มอดยิ้มออกมาไม่ได้ “งั้นสักหมื่นล้าน? น้อยไปไหม?”
ขณะที่ชายหนุ่มพูด เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ก่อนจะกดอะไรบางอย่างลงไปอย่างรวดเร็ว ด้านซูย้าวที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว อยู่ ๆ โทรศัพท์ข้าง ๆ เธอก็สั่นเบา ๆ พอหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่ามีเงินเข้าบัญชีหนึ่งหมื่นล้าน
เธอมองเขาอย่างตกตะลึง “คุณ….”
ทว่าลี่เฉินซีกลับเก็บโทรศัพท์ลงไป จากนั้นก็ประคองแก้มเธอขึ้น “บอกแล้วไง แต่งงานกับผมคุณไม่เสียเปรียบแน่ เดี๋ยวก่อนงานแต่ง ผมค่อยโอนให้คุณเพิ่มอีกสักหน่อย ถือว่าเป็นค่าขนม!”
พูดจบ เขาก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก “อ๋อใช่ งั้นหลังแต่งงานคุณก็เป็นคนจัดการเรื่องเงินสิ พอถึงตอนนั้นเดี๋ยวผมให้ที่ปรึกษาทางการเงินของผมติดต่อคุณ นอกเหนือจากเรื่องเงินแล้ว ยังมีอสังหาริมทรัพย์แล้วก็ทรัพย์สินอื่น ๆ อีกมากมายภายใต้ชื่อตระกูลลี่อีก”
ถ้าเอามูลค่าของทรัพย์สินที่เป็นทั้งอสังหาริมทรัพย์และที่ไม่เป็นมารวมกันคงเกินกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการได้ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของวงการเศรษฐกิจมาตลอดหลายปี ตำแหน่งบริษัทที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ใช่จะได้มาอย่างง่ายดาย แต่มันแลกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทีละเล็กทีละน้อยของเขาทั้งนั้น
“ผมยังมีแบรนด์เครื่องประดับสาขาย่อยในเครือที่ต่างประเทศอยู่อีกสองแบรนด์ ถ้าคุณชอบพวกเครื่องประดับ ถึงตอนนั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปเลือกเอง” เขาพูดออกมาอย่างนิ่งเรียบ น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นแผ่วเบา พร้อมกับร่างหนาค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น
นัยน์ตาของซูย้าวเต็มไปด้วยความตกตะลึง เธอคิดอะไรไม่ออกครู่ใหญ่ ก่อนที่ริมฝีปากบางของชายหนุ่มจะประกบแนบชิดกับริมฝีปากเธอ จากนั้นเขาก็กดเธอลงบนโซฟา ท่าทีบ้าบิ่นและเอาแต่ใจนั้น ไม่ต่างกับฉากในห้องนอนที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ซึ่งตอนนี้มันกำลังฉายซ้ำอีกรอบแล้ว
ไม่ง่ายเลยกว่าหญิงสาวจะหลุดจากการเกาะกุมของเขา แต่ก็ยังไม่มีทางให้หลบหนีอยู่ดี เธอจึงทำได้เพียงแค่ยกมือบางดันแผงอกชายหนุ่มเอาไว้ “อย่ามาวุ่นวายนะ!”
เขาจ้องเธอด้วยสายตาเคร่งขรึม นัยน์ตาลึกล้ำเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “จะแต่งงานกับผมอยู่แล้ว คุณจะกลัวอะไร? อีกสักรอบนะ เด็กดี….”
“ไม่เอา!” ขณะที่พูด มือบางก็พยายามดันชายหนุ่มที่ขยับเข้ามาใกล้ออกไปด้วย เธอพยายามขัดขืน พร้อมกับกระซิบเสียงต่ำว่า “ยังเจ็บอยู่เลย อย่ามาแตะต้องฉันนะ…”
ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนเรื่องนี้เลย ซึ่งมันก็ดูไร้ความปรานีเกินไปจริง ๆ ใบหน้าของชายหนุ่มกระตุกเบา ๆ อย่างอดไม่ได้ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เอนตัวไปข้างหน้า มือหนาเคลื่อนต่ำลงมาที่เอว “ยังเจ็บอยู่? งั้นผมนวดให้ไหม?…..”
นวด?!
ซูย้าวชะงักไปชั่วขณะ นวดตรงไหน?! ผู้ชายคนนี้นี่…..
ระหว่างที่เธอกำลังตื่นตระหนก มือหนาของชายหนุ่มก็เคลื่อนต่ำลงไปอีก เธอจึงรีบปรามเขาไว้อย่างร้อนรน “ไม่นะ ไม่ได้ ไม่ต้องนวดเลย!”
ซูย้าวทั้งเขินอายทั้งกระวนกระวายใจ เธอรีบขัดขืนอย่างร้อนรน ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ ทั้งคู่ยื้อยุดกันไปมา ทั้งรุกทั้งหลบกันอยู่นาน
สุดท้าย เธอก็ถูกเขากลืนกินจนหมดเรี่ยวแรงอยู่ดี ร่างบางหอบหายใจอยู่ที่มุมโซฟา สองมือยังพยายามปกปิดร่างกายตัวเองไว้ ก่อนจะท้วงขึ้นเบา ๆ ว่า “ไม่นะ ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ใช่บอกว่าจะแต่งงานแล้วเหรอ? จะทำแบบนี้ก่อนแต่งไม่ได้นะ!”
ลี่เฉินซีเลิกคิ้วนิดหน่อย “ทำไมล่ะ?”
“ก็มันไม่เป็นมงคลไง ต่างประเทศเขามีข้อบังคับก่อนแต่งงานด้วย ว่าเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวห้ามเจอหน้ากัน!” เธอจงใจยกประเด็นนี้ขึ้นมา
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ใบหน้าอันชั่วร้ายค่อย ๆ มีเงาดำคืบคลานเข้ามา “แบบนี้นี่เอง งั้นถ้าคุณจะยึดธรรมเนียมของต่างประเทศ ก่อนแต่งงานคุณก็ต้องใส่แพนตี้ตัวเดียวด้วยรึเปล่า?”
ได้ยินดังนั้นซูย้าวก็พยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “อืมอืม แน่นอน….”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ อยู่ ๆ แรงที่ชายหนุ่มบีบคางเธอก็เพิ่มมากขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด เขาค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามาใกล้ น้ำเสียงลอดไรฟันออกมามีความน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย “ถ้าคุณกล้าก็ลองดู!”
“ลี่เฉินซี พวกชอบใช้ความรุนแรงอย่างคุณ ปล่อยฉันนะ ปล่อย…..”
เธอดิ้นรนเหมือนปลาตัวน้อยเกยตื้นและกำลังจะตาย ทว่ามันก็เปล่าประโยชน์ วินาทีนั้น เธอถูกเขาดึงเข้าสู่อ้อมแขนแกร่งอีกครั้ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะกอดเธอไว้ “บอกตามตรง ผมเบาแรงลงแล้ว ถ้ายังไม่เชื่อฟังอีก….”
ลี่เฉินซีไม่พูดอะไรต่อ แต่จงใจลากเสียงยาวออกไป ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องนอน จากนั้นก็ทิ้งตัวหญิงสาวลงบนเตียงอ่อนนุ่ม ร่างบางเด้งตัวขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่ร่างหนาดั่งภูเขาของชายหนุ่มจะค่อย ๆ โน้มลงไปหาเธอ ราวกับว่าเขากำลังจะผลักเธอลงไปยังนรกใต้ดินอีกครั้ง….