ซูย้าวถูกเขาบังคับให้ขึ้นรถ รถกำลังมุ่งหน้าลงภูเขา เพื่อลงไปยังเมืองเล็กๆ ที่ใกล้ที่สุด ถ้าหากอยากออกไปจากที่นี่ ต้องขับผ่านเมือง จากนั้นขับเลี้ยวไปยังเมืองหลิน แล้วถึงจะสามารถขึ้นเครื่องบินได้
ระหว่างทาง ซูย้าวเพิกเฉยต่อชายผู้เป็นเหมือนภูเขาเย็นยะเยือกที่อยู่ข้างๆ เธอพยายามไม่ใส่ใจกับบรรยากาศที่กดดันนี้ แต่จิตใจของเธอก็สับสนอย่างมาก เธอซ่อนมานานแสนนาน แต่เธอยังโดนเขาจับได้ และหาจนเจอ
เธอหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้ ในเวลานี้ ลี่เฉินซีเป็นคนที่ไม่ควรปรากฏตัวต่อหน้าเธอ!
เขาต้องไม่รู้แน่ ว่าทำแบบนี้มันอันตรายแค่ไหน ดูเหมือนอานเจียเย้นจะยอมแพ้ไปแล้ว แต่ชายคนนั้นก็ราวกับปีศาจร้าย จะคาดหวังให้เชื่อในน้ำคำเขาได้อย่างไรกัน!?
จิตใจของเธอยุ่งเหยิงไปตลอดทาง ผ่านไปนาน จึงค่อยเหลือบมองเขาด้วยความกลัดกลุ้มใจ ด้วยความบังเอิญ ชายหนุ่มได้มองมาทางเธอพอดี
ทั้งสองเผชิญหน้ากันพอดี ซูย้าวรู้สึกอึดอัดใจและหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก แต่เธอยังคงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยง เพียงแค่พูดว่า “คุณจะทำอะไรกันแน่? ฉันกับคุณจบกันแล้ว เข้าใจไหม?”
ระหว่างคิ้วลึกของเขามองไม่ออกว่าโกรธหรือไม่ เขาเพียงแค่เลื่อนสายตาออกไปอย่างเฉยเมย ริมฝีปากบางเม้มแน่นเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
ซูย้าวหลับตาลงเล็กน้อย ขนตาที่เรียวยาวของเธอสั่นเทา กัดริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนพูดว่า “อย่ามายุ่งกับฉัน ถ้าคุณต้องการอะไร ก็พูดออกมา ฉันจะทำให้ ฉันจะพยายามทำให้!”
ดวงตานกหงส์ที่เรียวยาวของลี่เฉินซีหรี่ลง “ที่ผมต้องการ?”
เขาอยากให้ครอบครัวของเรา5 คนมีความสุข เขาอยากจับมือเธอ อยากอยู่ด้วยกัน อยากรักกันไปนานๆ จนแก่ไปด้วยกัน อยากชดเชยให้เธอทีละเล็กทีละน้อย!
แต่ที่เธอทำคืออะไร?
เมื่อเขาเอาหัวใจทั้งดวงออกมาและถือไว้ข้างหน้าเธออย่างระมัดระวัง เธอกลับหันมาอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะจากไป เธอก็บดขยี้ทั้งหัวใจของเขาให้กลายเป็นผุยผง และแหลกสลายไปพร้อมกับลม!
ซูย้าวฟังเสียงที่เย็นชาของเขา และรอให้เขาพูดต่อ แต่น่าเสียดายที่รถมาถึงใจกลางเมืองเล็กๆ แล้ว และกำลังหยุดลงที่ข้างถนน
“ประธานลี่ครับ เราต้องเปลี่ยนรถ” คนขับรถพูดพลางปลดสายคาดเข็มขัดนิรภัย
ประการแรก รถคันนี้เพิ่งจะชนคนมา มีคราบเลือดเปรอะตามตัวรถไม่มากก็น้อย ถ้าหากขับออกไปอย่างนี้ มันจะนำไปสู่การสืบสวนและสอบสวนของตำรวจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประการที่สอง ถ้าหากอยากออกไปจากที่นี่ ต้องไปสนามบินของเมืองเมืองหลิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ2-3ชั่วโมง ขับรถคันนี้ออกไปไม่ค่อยสะดวก ต้องเปลี่ยนรถ
ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาของลี่เฉินซีไม่ได้พูดอะไร เขากลับปลดเข็มขัดนิรภัยออก และลงจากรถไป
ถึงแม้ซูย้าวจะไม่ค่อยสมัครใจ แต่เธอก็ลงจากรถด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่เธอปิดประตูรถด้วยเสียง ‘ปัง’ ก็หันไปมองเขาด้วยท่าทีไม่พอใจ “ลี่เฉินซี คุณอยากทำอะไรกันแน่? ถ้าเป็นเรื่องเงิน ฉันจะคืนให้คุณ!”
เธอคิดไม่ออกจริงๆ ในบัญชีของเขามีหลายร้อยพันล้าน และทรัพย์สินอื่นๆ อีกมาก ปริมาณของเงินเกินจะจินตนาการได้ เพื่อที่จะได้หลอกคนอื่น เธอจึงขโมยเงินแค่2หมื่นล้าน เขากระทั่งระดมคนเป็นจำนวนมาก เพื่อตามไล่เธอไม่ปล่อยเนี่ยนะ?
นี่เขาถึงขั้นถังแตกแล้วเหรอ?!
เธอหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้ ก็จริง ยิ่งรวยมากก็จะยิ่งขี้งกมาก คาดว่าเงินจำนวนเล็กน้อยนี้ คงมีความสำคัญกับเขามากกว่าชีวิตคนสินะ!
แต่ในทันใด ความคิดของเธอก็สว่างวาบขึ้น ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างได้ เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความตะลึงงัน และมองไปยังชายหนุ่มอีกครั้ง “เรื่องบัญชีที่ถูกระงับของฉัน มันเป็นฝีมือคุณใช่ไหม?”
เห็นได้ชัดว่าลี่เฉินซี ขี้เกียจเกินที่จะสนใจเธอ เขาจึงหันไปอธิบายสิ่งต่างๆ ให้ลูกน้องไปจัดการ
ซูย้าวยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าเป็นเขา ที่เป็นคนสั่งระงับบัญชีของเธอ!
“ในเมื่อบัญชีของฉันก็ถูกระงับไปแล้ว คุณก็ได้เงินไปแล้วนี่ แค่เอาเงินออกไปก็ได้แล้ว นี่คุณยังจะมายุ่งกับฉันทำไมอีก?”
เธออัดอั้นตันใจ ในขณะเดียวกันที่เธอถอนหายใจ ทันใดก็มีรถสีขาวแล่นเข้ามา อาตงเลื่อนกระจกรถลง ก่อนจะพูดว่า “คุณหนู รีบขึ้นรถครับ!”
เมื่อซูย้าวเห็นอาตง หัวใจของเธอก็เปี่ยมไปด้วยความยินดี เธอรีบเปิดประตูขึ้นรถอย่างเร็วอย่างไม่คิดอะไร
อาตงขับรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนูอย่างไม่เห็นฝุ่น
ลี่เฉินซีมองฉากนี้ด้วยความสงบเงียบ ใบหน้าเย็นชาไม่ตอบสนองต่ออะไร
“ประธานลี่ ตามต่อหรือไม่ครับ?” คนข้างๆ ถาม
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองดูอีกฝ่าย ก่อนจะรีบตอบฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่รู้ตัว “โอเค พวกเราตามไปกัน”
เขาเพื่อที่จะหาเธอ ในไม่กี่เดือนมานี้ เขาแทบจะพลิกแผ่นดินหาเธอ โดยไม่เสียดายกำลังคนหรือทรัพยากร แล้วเธอละ เพื่อที่จะซ่อนตัว ปลอมหนังสือเดินทางและชื่อของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่อย่างไรก็หนีไม่พ้นฝ่ามือของเขา
ลูกน้องเตรียมรถคันอื่น เมื่อขับเข้ามา ก็พอดีกับที่หวางอี้ลงมาจากรถแท็กซี่ด้วยอาการเหนื่อยหอบ เขาแบกเซียวหยางที่กำลังบาดเจ็บวนไปรอบ ก่อนจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาล แล้วค่อยรีบกลับมานี่
เมื่อหวางอี้มาอยู่ตรงหน้าลี่เฉินซี “ประธานลี่ครับ ผมกลับมาแล้ว”
หวางอี้พูดพลางเปลี่ยนตำแหน่งกับคนขับรถด้านหน้า ให้ตัวเองมานั่งยังที่นั่งของคนขับ ก่อนจะขับรถออกไป
……
ซูย้าวที่ขึ้นมายังรถของอาตง มองดูรถที่ขับออกมาจากเมืองเล็กๆ เพื่อหลีกเลี่ยงคนของลี่เฉินซีไล่ตาม ดังนั้นจึงรีบไปที่แอนคารี่ เมื่อใกล้ถึงที่หมาย อาตงจึงพูดขึ้นมาว่า “คุณหนูครับ มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นครับ!”
“เรื่องอะไร?” เธอชะงัก เธอคิดฟุ้งซ่านมาตลอดทาง ลืมถามอาตงไปเลย ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเกิดเรื่องขึ้นทางนี้
“เรื่องนายหญิงครับ หมอได้ออกหนังสือแจ้งอาการป่วยหนักแล้ว!” อาตงพูดอย่างร้อนใจ
ซูย้าวตื่นตระหนกอย่างกะทันหัน “ตอนนี้ฟอกไตไม่ได้แล้วเหรอ?”
อาตงพยักหน้า “ดูท่าไม่ค่อยดีครับ หากมองในแง่ไม่ดีละก็ ถ้าหากไม่รีบทำการผ่าตัดปลูกถ่าย นายหญิงคงทนไม่ไหวแน่!”
ซูย้าวขมวดคิ้ว ตอนนี้ ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจี่ยงเวินอี๋ ถ้าอย่างนั้นต่อไปมันคงยากที่จะสะบัดความเกี่ยวเนื่องให้หลุด แม้เธอจะรู้ดีว่าตัวเองกับลี่เฉินซีคงไม่สามารถสานต่ออะไรได้อีก แต่ก็ไม่อยากทำให้เกิดความแค้นกับชีวิตคน
เมื่ออาดงพาเธอมาที่แอนคารี่ ที่สนามบินได้มีเฮลิคอปเตอร์จอดเอาไว้นานแล้ว ทั้งสองขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินไปที่คาน่า แล้วต่อเครื่องไปยังมาร์ติ
หลังจากเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อมาถึง เธอก็ตรงไปที่โรงพยาบาลทันที
ระหว่างทางเธอได้รับโทรศัพท์จากเซียวหยาง ที่นั่นการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่แค่เขาต้องพักฟื้นสักระยะเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัส มาที่นี่ไม่ได้ชั่วคราว ซูย้าวเลยคลายกังวลไปได้
การผ่าตัดของเจี่ยงเวินอี๋ที่นี่ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงเช่นกัน การปลูกถ่ายประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่เพราะเป็นการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ การปฏิเสธอาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ดังนั้นจำเป็นต้องมีการปรับสภาพและการพักฟื้นอย่างระมัดระวัง
และซูย้าวก็ไม่พักค้างคืนที่นี่ ในวันที่สองหลังจากการผ่าตัดของเจี่ยงเวินอี๋ เธอก็เปลี่ยนเครื่องไปลงRankin Inlet Airport
เพราะว่าบัญชีธนาคารของเธอถูกระงับทั้งหมด ดังนั้นถ้าหากต้องอยู่ในสถานที่ที่ต้องใช้จ่ายเงิน มันก็เป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก แม้กระทั่งตั๋วเครื่องบิน อาตงก็ต้องเป็นฝ่ายออกให้ เธอไร้คำจะพูดจริงๆ
หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว อาตงก็ยังช่วยเธอจองโรงแรม แต่เมื่อพิจารณาถึงปัญหาบัญชีธนาคารของเธอ เธอจึงบอกกับอาตงอีกว่า “ถูกจองโรงแรมอีกครั้งชั่วคราว หาโรงแรมที่ถูกกว่าหน่อยเถอะ!”
เพราะว่าต่อไปเวลามันยังอีกยาวนาน เพื่อที่เธอจะต้องสกัดการพัวพันของลี่เฉินซี อาจจะต้องไปยังที่อื่นๆ อีกมาก ดังนั้น ในด้านการเงินแล้ว จะดีกว่าถ้าใช้ไปกับตั๋วเครื่องบินเพื่อไปที่อื่น
อาตงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขากลับพูดว่า “คุณหนู ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมยังมีเงินอยู่ จะไม่ต้องให้คุณลำบากแน่”
เขาอยู่ข้างกายอานเจียเย้นมาโดยตลอด สวัสดิการก็ได้ดีมาก ตัวคนเดียวไม่มีญาติ และก็แทบไม่ใช้เงินเลย แทบจะประหยัดได้หมด
ซูย้าวฉีกยิ้มขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้ อาตงก้าวเข้ามา3ก้าว ก่อนจะยืนมือมาประคองเธอ “ตอนนี้คุณไม่สบายและต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ เรามาพักที่นี่อีกสักสองสามวันกันเถอะครับ!”
ซูย้าวขมวดคิ้ว ตอนที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดเสียงเบรกรถดังบาดหูก็ดังเข้ามา ทันใดนั้น รถทั้งสองคันก็พุ่งเข้ามาใกล้พวกเขาทั้งสอง ทันทีที่รถหยุด ประตูรถก็ถูกเปิดออกทีละคัน ก่อนที่ชายร่างสูงหลายคนจะลงมาจากรถ
ไม่ทันรอให้อาตงได้คิดหรือมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับ พลันได้มีคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้า จับร่างของเขาเอาไว้ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งจับคอเขา จากนั้นได้มีคนหนึ่งหยิบกระบอกฉีดยา และฉีดเข้าที่คอของอาตงอย่างแม่นยำ
เขาดิ้นรนไม่นาน และเมื่อยาถูกฉีดเข้าไป ร่างทั้งร่างก็ค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการขัดขืน และในที่สุดก็ทรุดตัวลงไปกองที่พื้น