อานเจียเย้นนั่งมองเธอเงียบ ๆ ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงหรี่ตาลง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ก็จริง คุณชนะเดิมพัน”
ด้วยวิธีการพวกนี้ หากสำเร็จไปได้ด้วยดี ก็ถือว่าเธอเสียสละตัวเองเพียงคนเดียว ทั้งสามารถดึงปีศาจร้ายออกจากอานเจียเย้นได้ ทั้งยังแลกเอาความสงบสุขมาให้ลี่เฉินซีกับเด็ก ๆ ได้อีก จากนี้ไปทุกคนก็จะได้อยู่กันอย่างมีความสุข ถือว่าคุ้ม
แต่หากไม่สำเร็จ เธอก็แค่จบชีวิตลงเพื่อจบเรื่องราวทุกอย่าง และวิธีนี้ยังสามารถค้นพบความจริงในใจของอานเจียเย้นที่มีต่อเธอได้อีกด้วย ไม่มีอะไรเสียหายเลย
มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น
ทว่าคนที่ใช้วิธีแบบนี้ อย่างการเอาชีวิตตัวเองออกมาเล่นอย่างไม่เสียดาย ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะทำได้
อานเจียเย้นจ้องหน้าหญิงสาว “ในเมื่อเธอชนะแล้ว อยากได้อะไร? บอกมาสิ”
ซูย้าวเอนตัวลงบนเตียง ก่อนจะพลิกตะแคงข้างเพื่อมองหน้าเขา “เป็นคุณรึเปล่าที่อยากจะได้อะไรน่ะ!”
สิ่งที่เธอต้องการ เธอบอกเขาไปหลายครั้งตั้งนานแล้ว เธอไม่สนหรอกว่าตัวเองจะดูเป็นอย่างไร ต่อให้จะดูเป็นคนเลวทรามที่ต้องตกนรกหมกไหม้ชั่วกัปชั่วกัลป์ หรือถ้าเธอได้อยู่ร่วมกับเขา สมรู้ร่วมคิดทำความชั่ว บั้นปลายชีวิตไร้ซึ่งความสงบสุขจนตกตายในที่สุด เธอก็ไม่สนใจ เธอขอแค่ให้อานเจียเย้นเก็บมือตัวเองกลับมา ไม่เข้าไประรานเมือง A และไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของลี่เฉินซีและเด็ก ๆ อีกก็เท่านั้น
แต่หากมันแสดงให้เห็นว่า ความรู้สึกในใจของเธอตอนนี้ สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นด้วย
ถ้าอย่างนั้น ทางเดียวที่เธอพอจะทำได้ ก็คงมีแค่การเอาชีวิตเข้าเดิมพัน
อานเจียเย้นสูดลมหายใจเข้าเบา ๆ เขาหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “สิ่งที่ผมต้องการ ก็คือคุณ “
“ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว” ซูย้าวตอบกลับเสียงเรียบ “สิ่งที่คุณต้องการคุณก็ได้รับแล้ว ไม่ต้องเสียแรงทำอะไรทั้งนั้น”
เขาหลับตาลงอย่างหมดหนทาง จากนั้นก็ยกมือดันแว่นที่สันจมูกเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปที่ตู้ข้างเตียง “ผมไม่ใช่ลี่เฉินซี และผมก็ไม่สามารถรู้สึกได้ว่าการได้ตัวคุณมา จะหมายความว่าผมมีคุณแล้ว”
แค่พึงพอใจในกายเนื้อนั่นมันสำหรับคนทั่ว ๆ ไปเท่านั้น
อย่างน้อย สิ่งที่อานเจียเย้นตามหา ก็ไม่ใช่แค่ของแบบนี้
ถ้าหากเป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป มีเพียงรูปลักษณ์ที่ดูดี มีบุคลิกที่พิเศษ วิธีการต่าง ๆ ไม่เหมือนคนอื่น สามารถทำให้เขาประทับใจได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรก ถ้าอย่างนั้น เขาคงใช้ทุกวิถีทางให้ได้เธอมา ไม่ว่าจะต้องหว่านล้อมด้วยวิธีใดก็ตาม
เรื่องแบบนี้ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำมาก่อน
เพียงแค่ผู้หญิงแบบนี้ แรก ๆ ก็อาจจะแปลกใหม่ แถมยังทนทาน พร้อมจะทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นพอสมควร แต่ยิ่งนานไป ผู้หญิงเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะโอนอ่อนแล้วก็ยอมรับชะตากรรมตัวเอง บางส่วนก็แค่ตั้งใจรอเวลาเพื่อทำลายเขากลับเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหน เขาก็ผ่านมาหมดแล้ว แถมเขายังเบื่อแล้วด้วย
บางที ความรู้สึกเหล่านั้นมันอาจจะไม่เด่นชัดเหมือนกับที่ซูย้าวมอบให้เขา เพราะงั้นเขาถึงได้จมอยู่ตรงนี้ โดยที่ไม่สามารถดึงตัวเองขึ้นมาได้สักที
เขาโน้มตัวลงไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ประคองแก้มเธอขึ้น “ที่ผมต้องการ นอกจากตัวของคุณ ผมยังต้องการหัวใจของคุณด้วย เข้าใจไหม?”
เขายังเอาแต่พูดล้อเล่นไม่จริงจังไปเรื่อย จนซูย้าวรู้สึกเลี่ยนไปหมดแล้ว
เธอผลักเขาออกอย่างเหลืออด จากนั้นก็พลิกตัวหันหลัง ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวไว้ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ว่า “งั้นฉันก็อาจจะทำให้คุณผิดหวังแล้วล่ะ เพราะหัวใจของฉันตอนนี้ จริง ๆ แล้วอยู่ที่ไหน ฉันยังไม่รู้เลย”
“เหอะ” เขาหัวเราะเสียงต่ำ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงเธอกลับมา จากนั้นก็ขยับเธอให้นอนลงบนตักเขา “งั้นผมจะให้โอกาสคุณอีกสักครั้ง นี่จะถือว่าเป็นการเดิมพันของเรา”
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างสนใจ “อะไรเหรอ?”
“ผมจะให้เวลาคุณสักพัก และในช่วงเวลานั้นผมจะไม่แสดงตัวและไม่ทำอะไรทั้งนั้น และยิ่งจะไม่ลงมือกับคนที่คุณเป็นห่วงหรือตัวคุณเองด้วย เพื่อให้คุณมีช่องว่างและอิสระเป็นของตัวเอง ถ้าหากคุณอยากจะรักใครชอบใคร คุณก็ไปรักไปชอบได้ตามที่คุณต้องการเลย”
ดวงตาคู่งามของซูย้าวกะพริบเบา ๆ ด้วยความประหลาดใจ “หืม?”
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อานเจียเย้นจะคิดและลงมือทำอะไรแบบนี้?!
ทว่า พอลองคิดดูดี ๆ จริง ๆ แล้วเธอชอบใคร? ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอรักใคร….
ภาพที่กระจัดกระจายในความฝันก่อนหน้านี้ เป็นเหมือนเงาอันดำมืด ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในหัวใจของเธอมานานแสนนาน จนมันกลายเป็นเรื่องยากที่เธอจะปล่อยไปเฉย ๆ
หญิงสาวคิดไปคิดมา ก่อนจะถามขึ้นว่า “คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
อานเจียเย้นหลุบตาลงมองเธอ “ครั้งนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร ผมแค่อยากเห็นคุณยอมตกลงปลงใจกับใครสักคน แต่วางใจเถอะ ผมจะไม่ลงมือทำอะไรอีกแล้วจริง ๆ”
“ไม่ใช่ว่าคุณปล่อยลี่เฉินซีไปไม่ได้สักทีเหรอ? ต่อให้จะเสียความทรงจำไป คุณก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างกับเขาอยู่ดี”
ไม่รู้ว่าตอนที่ชายหนุ่มสั่งให้คนล้างความทรงจำเธออีกฝ่ายไม่ได้ล้างให้ถึงที่สุดรึเปล่า หรืออาจจะยังมีเหตุผลอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งอานเจียเย้นสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า หัวใจของซูย้าว ยังมีแต่ลี่เฉินซีมาโดยตลอด
เขากุมมือเธอไว้ “งั้นคุณก็ไปรักกับเขาเถอะ สักสองปี ถ้าในระยะเวลาสองปีนี้พวกคุณสามารถปรับความเข้าใจกัน คืนดีกันได้เหมือนอย่างตอนแรก ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะวางมือจากเรื่องทั้งหมดเอง”
อานเจียเย้นยกมือขึ้นประคองแก้มเธอ “พอถึงตอนนั้น ผมก็จะกลับมาเป็นพี่ชายของคุณต่อไป ไม่ว่าเมื่อไรที่คุณต้องการความช่วยเหลือ คุณจะมีผมอยู่เสมอ”
จากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป พร้อมกับพูดต่อว่า “แต่ถ้าในระยะเวลาสองปีนั้น พวกคุณไม่สามารถคืนดี และไม่สามารถที่จะกลับไปรักกันได้อีก ถ้าอย่างนั้น คนที่เอาแต่ทำร้ายคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ จะให้เก็บเอาไว้ทำไม?”
ชายหนุ่มค่อย ๆ พูดออกมาทีละคำ น้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่ทำไมพอฟังโดยรวมแล้ว ทำให้ซูย้าว ถึงกับต้องหยุดชะงักไปครู่ใหญ่ ว่าทั้งหมดหมายความว่าอย่างไร?
นัยน์ตาของอานเจียเย้นหม่นแสงลง ชายหนุ่มค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ริมฝีปากหญิงสาวเบา ๆ “ถ้าเทียบกับตัวของคุณแล้ว ที่ผมอยากได้คือหัวใจของคุณมากกว่า ถ้าคุณกับเขาปรับความเข้าใจกันไม่ได้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้น สำหรับผม คุณก็ไม่ต่างอะไรกับของเล่นที่มีแค่เปลือกนอกเท่านั้น”
และของที่เขามีไม่เคยขาดมือเลย ก็คือของเล่นพวกนี้
บนโลกนี้มีคนนับหมื่นนับพัน แต่คนที่ทำให้เขาตกหลุมรักได้จริง ๆ จัง ๆ นั้น มีอยู่แค่ไม่กี่คน เรียกว่าน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย แต่ก็ยังพอเลือกคนที่เขาพอใจมากที่สุดได้สักคนหรือสองคน ซึ่งในจุดนี้ ซูย้าวก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
สิ่งที่พิเศษจริง ๆ นอกจากความฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบ บุคลิกร่าเริงสดใสแล้ว คือเธอเป็นลูกสาวของอานโล๋ ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของอานเจียเย้น ดังนั้น ทั้งคู่จึงถือว่ามีความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องกัน
ซูย้าวจ้องไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่เธอสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่เริ่มแผ่ออกมา หญิงสาวก็ต้องพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไว้ ก่อนจะค่อย ๆ คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกที “ถ้าทำแบบนั้นแล้ว มันจะมีประโยชน์อะไรกับคุณ?”
ว่ากันว่ายากที่เสือจะหันหลังกลับ แม้แต่สุนัขก็เปลี่ยนสันดานตัวเองไม่ได้ ซึ่งนิสัยของอานเจียเย้นก็คือชอบควบคุมผู้อื่น เหมือนดั่งมารร้ายที่มีของเล่นอยู่ในกำมือ แต่ว่าทำไมเขาถึงจะปล่อยไปง่าย ๆ แบบนี้ล่ะ?!
นี่คงจะเป็นกับดักอีกแล้วสินะ
ซูย้าวค่อย ๆ ดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ถ้าในระยะเวลาสองปีนั้น ฉันพบรัก แต่งงานจนได้ดีกับลี่เฉินซีหรือคนอื่น แล้วคุณ……”
อานเจียเย้นยิ้มออกมาเล็กน้อย “ผมบอกแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมก็จะกลับไปเป็นพี่ชายของคุณเหมือนเดิม”
หากเรื่องทั้งหมดเป็นไปอย่างที่ชายหนุ่มพูดจริง ๆ งั้นสำหรับเขาแล้วก็ถือว่าไม่ได้เสียหายอะไรมาก
แต่อีกฝ่ายก็เปลี่ยนน้ำเสียง ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ว่า ถ้าดูจากขั้นแรกแล้ว ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ก็ถือว่าต่ำมาก”
ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะเปิดหน้าข่าวหน้าหนึ่งขึ้น พร้อมกับส่งให้เธอดู “คุณดูสิ”
ซูย้าวรับมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อข่าวบนจอโทรศัพท์เข้ามาสู่สายตาเธอ หญิงสาวก็ต้องหยุดชะงัก
เธอมาอยู่ตรงนี้ สละชีวิตตัวเองเพื่อให้ลี่เฉินซีกับเด็ก ๆ มีชีวิตรอดอย่างไม่เสียดาย แต่ผู้ชายคนนั้น กลับพา “อู๋หยาน” ขึ้นเขาลงห้วยออกเที่ยวไปทั่ว
ได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำระดับสูงในงานการกุศล แถมยังเอื้อเฟื้อผู้ยากไร้โดยการบริจาคเงินและของเก่ามากมาย…
ทั้งจังหวะและวิธีการแสดงความรักเหล่านี้ ทำให้เธอรู้สึก…ยากที่จะเชื่อ แต่จะไม่เชื่อก็ไม่ได้
ทันใดนั้นซูย้าวค่อย ๆ หลับตาลง ภาพฝันที่เพิ่งเกิดขึ้นค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาในหัวเธออีกครั้ง ดังนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเพียงเธอคนเดียวสินะที่หลงรักผู้ชายคนนี้อย่างโง่งม แต่เขากลับเห็นเธอเป็นเพียงของเล่นชั่วครั้งชั่วคราว พอความรู้สึกแปลกใหม่หายไปเขาก็เขี่ยเธอทิ้ง
“เขาไม่ได้สนใจคุณ และตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่แท้จริงให้คุณเลยสักครั้ง” อานเจียเย้นพูดออกมาสั้น ๆ “งั้นนอกจากผู้ชายคนนี้แล้ว คุณจะเลือกส้าวหลี่ไหมล่ะ?”
พอพูดถึงตรงนี้ อานเจียเย้นก็เผยรอยยิ้มออกมา “คุณเองก็รู้ตั้งนานแล้วเรื่องที่ผมกับเขามีการทำธุรกิจร่วมกันเป็นการส่วนตัว แค่นี้ผมก็สามารถหักหลังผู้ชายของคุณได้อย่างง่ายดาย ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีอะไรคุ้มเลยที่คุณจะให้ความจริงใจกับเขา”
ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เอนตัวเข้ามาอีกครั้งอย่างนึกสนุก เขาประคองแก้มเธอขึ้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพูดเสริมว่า “ดังนั้น ในการเดิมพันครั้งนี้ ผมถึงมีความมั่นใจมากว่าผมจะชนะ แล้วคุณล่ะ?”