ซูย้าวนับธนบัตรในมืออย่างละเอียด มีทั้งหมดห้าใบ รวมทั้งสิ้นเป็นเงินสองร้อยห้าสิบพอดี
เลขนี้ช่างเป็นมงคลจริงๆ
เนื่องจากเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เธอจึงรู้สึกว่าจำนวนเงินน่าจะเพียงพอไม่มากก็น้อย ก่อนจะมองไปยังพนักงานสาวที่แผนกต้อนรับอย่างมีความหวัง หวังว่าหล่อนจะให้บัตรห้องพักแก่เธอ แต่สุดท้ายเรื่องราวก็ยังไม่คาดฝัน
“ถ้าไม่มีบัตรประชาชนก็ไม่สามารถเข้าพักได้นะคะ ถึงแม้จะมีเงินก็ตามค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ” พนักงานสาวที่แผนกต้อนรับกล่าวอย่างเคร่งขรึม หล่อนยึดมั่นในหลักของการปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดซึ่งไม่หละหลวมให้เลย
ดวงตาของซูย้าวมืดลงอย่างช่วยไม่ได้ เธอฝืนยิ้มขึ้นมาว่า “เอาละค่ะ บัตรประชาชนของฉันน่าจะมีปัญหาบางอย่าง ฉันจะไปจัดการกับมันพรุ่งนี้นะคะ บางทีอาจมีบางอย่างผิดพลาดไป แต่มันไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณช่วย……”
เงินน้อยไม่อาจทำให้ฮีโร่พ่ายแพ้ได้ ในยุคของสังคมที่ทุกคนมีข้อมูลประจำตัวของใครของมัน แต่ซูย้าวกลับถูกปัญหาขั้นพื้นฐานนี้ทำให้หมดหนทาง
พนักงานสาวแผนกต้อนรับมองมาที่เธอ ตาของหล่อนเหม่อลอย แล้วจู่ๆก็ดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างได้ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ดิฉันรู้สึกว่าคุณผู้หญิงหน้าตาคุ้นมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงรู้จักคุณลี่ไหมคะ?”
“คุณลี่?” ซูย้าวตกใจและสงสัย หรือจะเป็นลี่เฉินซีกัน?
“เขาเป็นนักลงทุนในโรงแรมของเรา นับว่าเป็นผู้ถือหุ้นเช่นกัน ชื่อว่าคุณลี่เฉินซีค่ะ” พนักงานสาวแผนกต้อนรับให้คำตอบที่ชัดเจน
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูย้าวแข็งทื่อขึ้นทันที ตอนนี้แม้แต่ต้องการหาที่พักสักสองสามวันยังต้องอาศัยหน้าตาของลี่เฉินซีด้วยเหรอ?
โลกนี้ช่างอยู่ยากจริงๆ……
เธอรู้สึกสับสนว่าจะพยักหน้าตอบรับเรื่องรู้จักเขาดีหรือไม่ แต่พนักงานต้อนรับก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “รู้สึกเหมือนว่าจะรู้จักกันใช่ไหมคะ? อย่างนั้นฉันก็พอจะอนุโลมให้ได้บ้างค่ะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการพักห้องราคาประมาณเท่าไรคะ? มีเตียงใหญ่……”
หลังจากแนะนำห้องพักแล้ว ท้ายที่สุดก็มาถึงประเภทห้องอันสำคัญ “ห้องเดี่ยวห้องละห้าพันแปด ห้องชั้นสูงแปดพันแปดและเก้าพันแปด ส่วนห้องชุดราคาแปดหมื่นแปด……”
อีกฝ่ายพูดอะไรต่อจากนั้นซูย้าวก็ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป ราคาต่ำสุดคือห้าพันแปดเหรอ? ราคานี้ใครเป็นคนตั้งกันนะ!
ช่างเหมาะสมที่เป็นโรงแรมของลี่ซื่อลงทุนจริงๆ ราคานี้มันยากเกินจินตนาการ!
คงต้องโทษเธอเอง มีตั้งหลายโรงแรมให้เลือกไม่เลือก แต่กลับมาเลือกโรงแรมหรูแบบนี้ตอนที่กำลังลำบาก……
เธอเคยชินกับการใช้ชีวิตอย่างตายใจตัวเอง การที่สะดุดล้มลงอย่างกะทันหันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
พนักงานสาวแผนกต้อนรับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซูย้าวไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ขอโทษนะคะ ขอบคุณมาก”
เธอหันหลังเดินออกไป หญิงสาวที่แผนกต้อนรับตกตะลึงและกล่าวเสริมว่า “คุณต้องการข้อกำหนดใดเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ? หรือหากมีปัญหาใดสามารถบอกฉันได้เลยค่ะ ฉันจะช่วยคุณแก้ปัญหาเอง……”
ซูย้าวอยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่า เธอรู้สึกละอายใจกับเงินในกระเป๋าเงินของเธอเหลือเกิน ต่อให้แลกเงินทั้งหมดในกระเป๋าออกมารวมกันก็ยังไม่พอ!
แต่เธอจะพูดออกไปแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
ประธานกิตติมศักดิ์แห่งDouble Aceกรุ๊ป ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำให้ตลาดหุ้นต้องตกตะลึง ถูกว่าจ้างด้วยเงินเดือนประจำปีที่สูงลิ่วและสวัสดิการมากมาย ได้รับความชื่นชมจากjoke ตอนนี้เธอกลับตกไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
เป็นความจริงที่ว่าคนดีจะไม่เอ่ยถึงเรื่องราวความดีในอดีต ตอนนี้เธอนับได้ว่ากำลังเดินย้อนกลับไปสู่หนทางเดิม ที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
“ไม่จำเป็นจริงๆค่ะ พอดีฉันยังมีธุระที่เพิ่งนึกได้ ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณเสียเวลา” ซูย้าวหันกลับมาและอธิบายอย่างนุ่มนวลด้วยรอยยิ้ม ก่อนรีบเดินออกจากโรงแรมหรูไป
ตอนนี้ดึกมากแล้ว การหาโรงแรมอื่นก็ไม่สะดวกนัก
เธอยืนอยู่ข้างถนนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็รีบขึ้นแท็กซี่กลับไปที่คฤหาสน์เก่าตระกูลซู
หลังจากที่เซียวควน ซัวฉ่ายลี่และคนอื่นๆ ถูกขังเข้าคุกไปแล้ว ซูหยวนก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก มรดกบางส่วนที่เหลืออยู่ของตระกูลซูจึงกลายมาเป็นของนาง เป็นเวลานานมากแล้วที่บ้านหลังเก่าหลังนี้ถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ครั้งนี้ถือว่า เจ้าของได้กลับมาเยือนแล้ว ในที่สุดก็สมบูรณ์สักที
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือที่นี่ไม่ต้องใช้บัตรประชาชนหรือเงินสด เพราะพ่อบ้านแก่ที่อยู่ที่นี่มานานรู้จักเธอดี
แม้ว่าจะเป็นเวลากลางดึก แต่การปรากฏตัวของซูย้าวก็ทำให้พ่อบ้านแก่ตกใจมาก หล่อนทักทายเธอด้วยความกระตือรือร้น
“คุณหนูรอง คุณกลับมาแล้ว!” เมื่อพ่อบ้านแก่เห็นเธอ ก็รีบเข้ามาจูงมือน้ำตาคลอเบ้า “ก่อนหน้านี้ที่ท่านกลับมาก็ไม่ยอมพักที่นี่ ดิฉันนั้นอยากจะเดินทางไปรับด้วยตนเอง แต่ว่าเรี่ยวแรงร่างกายย่ำแย่ลงทุกที……”
พ่อบ้านแก่คุยกับเธอในอีกหลายด้านทาง หลังจากคุยกันสักพักเพราะค่อนข้างดึกมากแล้ว พ่อบ้านแก่จึงรีบทำความสะอาดและจัดห้องนอนให้เธอ อีกทั้งปรุงซุปโสมให้เธอก่อนจะจากไป
ซูย้าวกลับเข้าไปในห้อง เธอเดินไปมาแล้วมองดูทุกสิ่งที่ไม่คุ้นเคยรอบตัวเธอ แม้ว่าความทรงจำมากมายของเธอยังไม่คืนมาในตอนนี้ แต่สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่นี่ก็เหมือนกับในฝันของเธอทุกประการ
เธอนอนลงบนโซฟาแล้วมองขึ้นไปที่โคมระย้าคริสตัลบนเพดาน ทันใดนั้นก็เอื้อมมือไปจับกระเป๋าแล้วดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เธอรีบหยิบเงินสดที่เหลือเพียง250ออกมาแล้วลงไปชั้นล่าง
พ่อบ้านแก่ยังไม่ได้พักผ่อนเพราะการกลับมาอย่างกะทันหันของเธอได้รบกวนความฝันกลางดึกของหญิงชรา ขณะนี้พ่อบ้านแก่กำลังสวมแว่นสายตายาวนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเธอ
ซูย้าวเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา พ่อบ้านแก่รีบลุกขึ้นพูดว่า “ทำไมถึงเดินลงมาเองละคะ? มีอะไรให้รับใช้เพียงแค่บอกฉันมาก็พอ”
“การที่ฉันกลับมาอย่างกะทันหันแบบนี้ ฉันอาจจะต้องอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง เนื่องจากสถานะทางตัวตนส่วนตัวของฉันมีปัญหาเล็กน้อย เงินในบัญชีของฉันไม่สามารถโยกย้ายได้ชั่วคราว นี่คือเงินสดที่มี โปรดเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำวันของคุณเถอะนะคะ!” เธอส่งเงินสดในมือของเธอไปให้
แม้ว่าเงินอาจไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายช่วงนี้ แต่ก็สามารถอยู่ได้สักสองวันซึ่งถือว่าดีแล้ว
พ่อบ้านแก่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หล่อนมองไปที่ธนบัตรดอลลาร์ในมือแล้วส่งคืนให้เธอทันที “คุณหนูรอง อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คุณกลับมาที่นี่อีกครั้งเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว เพราะที่นี่คือบ้านของคุณ!”
“เรื่องเงินไม่ต้องเป็นห่วงไป ทุกปีคุณลี่จะส่งเช็คมาให้ดิฉัน เงินมากมายจนใช้ไม่หมด! เงินมีไม่น้อย คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
ซูย้าวตกใจ “คุณลี่? เขาส่งเช็คให้คุณเหรอคะ?”
พ่อบ้านแก่พยักหน้า และเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ใบหน้าของหล่อนก็เขินอายเล็กน้อยอย่างทำตัวไม่ถูก “ตั้งแต่ที่คุณหนูหย่ากับคุณลี่ไป ทั้งนายท่านและนายหญิงก็ถูกจับ บ้านจึงว่างร้าง เนื่องจากทั้งสองท่านเป็นหนี้เงินจำนวนมาก บ้านหลังนี้จึงถูกธนาคารนำไปจำนอง คุณลี่เป็นคนจ่ายเงินประมูลในครั้งนั้นและได้กลับมาเป็นของคุณหนูดังเดิม”
“เขาบอกดิฉันว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ และต้องรักษาไว้ ดังนั้น……”
พ่อบ้านแก่ยังพูดอีกมากมายหลังจากนั้น แต่โดยรวมแล้วซูย้าวไม่ได้ยินอะไรมาก เธอคิดถึงเพียงเรื่องลี่เฉินซีประมูลบ้านนี้ด้วยเงินของเขาเอง และยังให้ค่าจ้างแก่พ่อบ้านแก่ พี่เลี้ยงและคนอื่นทุกปี……
โอ้โห!
เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ช่างละเอียดอ่อนเหลือเกิน
แต่ที่จริงนั้นเขาละเอียดอ่อนหรือมีแผนอะไรซ่อนไว้ ก็ไม่แน่ใจเช่นกัน
เธอขมวดคิ้วอย่างรวดเร็วแล้วยัดเงินให้พ่อบ้านแก่ “เก็บไว้เถอะนะ ไม่เป็นไรหรอก นี่ก็ดึกมากแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะค่ะ”
พูดจบเธอก็ขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง
แทนที่จะกลับไปยังห้องนอน เธอกลับเดินเข้าไปในห้องอ่านหนังสือ เปิดประตูเปิดไฟ ทำให้เห็นห้องอันสว่างไสวสะอาดสะอ้าน เห็นได้ว่ามีคนทำความสะอาดห้องนี้เป็นประจำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
เธอไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้มากนัก กลับเดินไปอย่างช้าๆ และมองไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาของเธอก็จมลึกลงในทันที
เธอเอื้อมมือไปจับโต๊ะอย่างอ่อนโยนแล้วถอนหายใจเล็กน้อย เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กเธออาศัยอยู่ที่นี่ เธอเห็นพ่อของเธอถูกซัวฉ่ายลี่หลอกให้กินยาพิษและตายต่อนหน้าต่อตา
ฉากนั้น คือฉากที่พ่อของเขากำลังจะตายอย่างดิ้นรน ทุกคำที่เขาพูดออกมาทั้งหมดยังตราตรึงในใจ พ่อของเธอพยายามสูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายเพื่อหลอกล่อให้ซัวฉ่ายลี่ออกไป จากนั้นดึงเธอขึ้นมาจากโต๊ะ กุมแก้มเธอไว้ทั้งน้ำตาพูดขึ้นว่า “พ่อขอโทษนะ ย้าวย้าว พ่อเกรงว่าคงจะไม่มีวันได้เห็นลูกเติบโตขึ้นแล้ว จากนี้ไปลูกจะต้องอยู่คนเดียวให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกต้องเข้มแข็ง ลูกต้องมีชีวิตอยู่……”