“ผมรู้” ลี่เฉินซีตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และในขณะเดียวกันก็จับมือเล็กซึ่งเย็นชาของเธอเอามาวางไว้ในมือของเขาด้วยความปวดใจ
ดวงตาของซูย้าวกะพริบเป็นประกายเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? คุณรู้หรือเปล่าคะ?” เขาก้มศีรษะลงปลอบเธอแล้วลุกขึ้นอุ้มเธอวางบนโซฟา เขาเอื้อมไปเทน้ำร้อนหนึ่งแก้วแล้ววางบนมือเธอ “ดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยๆฟังสิ่งที่ผมจะบอก”
“พินัยกรรมของลุงซู มันมีอยู่ก็จริง แต่พูดตามตรงแล้วมันเป็นเพียงข้อตกลงของคำพูดปากเปล่าที่ไม่ได้รับการยืนยันจากทนายความและการรับรอง”
ย้อนกลับไปตอนนั้น เมื่อพ่อของซูย้าวรู้แผนสมรู้ร่วมคิดของ ซัวฉ่ายลี่กับเซียวควน เขาอยากจะต่อสู้แต่ร่างกายของเขาทรุดโทรมลง เขารู้สึกว่าตนอาจจะไม่มีเวลามากนัก สิ่งเดียวที่เขาไม่สามารถวางใจได้ก็คือซูย้าว
เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเขาที่เชื่อมต่อกันด้วยสายเลือด และเป็นคนที่เขาคิดถึงมากที่สุด
ตระกูลซูและครอบครัวลี่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา โดยมีเรื่องราวในอดีตมากมาย หญิงชราผู้รับผิดชอบตระกูลลี่คือคุณย่าของลี่เฉินซี นางเป็นหนี้บุญคุณเขาอยู่
ดังนั้นเขาจึงทำพินัยกรรมกับนายหญิงใหญ่ลี่ โดยระบุว่าหากเขาเสียชีวิตกะทันหันโดยไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม ต้องประกาศให้สาธารณชนทราบว่าเขามีพินัยกรรมสามารถสืบทอดได้เฉพาะบุตรสาวซูย้าวเมื่อมีอายุครบยี่สิบปีเท่านั้น ตัวพินัยกรรมได้ฝากเอาไว้ที่ตระกูลลี่ ตราบใดที่บุตรสาวของเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ ห้ามเอาออกมาให้ใครเห็นเด็ดขาด
ลี่เฉินซีหันไปโอบเธอมาไว้ในอ้อมแขน “เมื่อตอนที่คุณย่าของผมยังมีชีวิตอยู่ ผมยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว ผมจึงได้รู้ถึงพินัยกรรมของตระกูลซูผ่านไดอารี่ที่คุณย่าทิ้งไว้เท่านั้น”
เขาจับมือซูย้าว นิ้วทั้งสิบนิ้วประสานกัน “พินัยกรรมนั้นเป็นความจริง คุณลุงซูวางแผนระยะยาวไว้สำหรับคุณก็เป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีใครคิดว่าคุณจะต้องทนทุกข์ทรมานมากหลังจากลุงซูเสียชีวิตลงมากแค่ไหน ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถปกป้องคุณให้เร็วกว่านี้……”
เมื่อตอนที่เขายังเด็ก เนื่องจากการจากไปของลุงซู แม้ว่าจู่ๆ ซูย้าวก็กลายเป็นใบ้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งทำให้หลายคนเกิดความสงสัย อย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของตระกูลซู ในฐานะคนนอก จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งด้วย ซึ่งมันก็ไม่สะดวกนัก
นอกจากนี้ ซัวฉ่ายลี่และเซียวควนในขณะนั้นไม่ได้ทำเรื่องใดให้น่าสงสัย ว่ากันว่าไม่มีข้อบกพร่องใดเลย เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการพวกเขาด้วยกฎหมาย
เมื่อเธอยัง เด็กลี่เฉินซีก็ยังอายุไม่มาก แม้ว่าเขาจะมีเจตนาที่จะปกป้องเธอในตอนนั้นเขาก็ทำไม่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของลี่เฉินซีก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาจับไหล่ของเธอไว้ด้วยแรงหนักแน่น “แต่มันจะไม่มีอีกแล้ว ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอไป ไม่ว่าคุณจะพยายามผลักผมออกไปหรือปฏิเสธผมก็ตาม ผมจะไม่จากไปแม้แต่ก้าวเดียว”
ซูย้าวตกตะลึง เธอพยายามหลีกเลี่ยงคำศัพท์ที่น่าประทับใจของเขาแล้วเอ่ยถามคำถามในใจขึ้นว่า “แล้วเมื่อมีพินัยกรรมทางวาจาแบบนี้ ทำไมจึงไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อตอนฉันอายุยี่สิบ?”
หากเปิดเผยต่อสาธารณะในเวลานั้น การสมรู้ร่วมคิดของซัวฉ่ายลี่และเซียวควนจะถูกเปิดเผยออกมา พวกเขาจะต้องชดใช้อย่างสาสมสำหรับการกระทำชั่วร้ายของพวกเขาก่อนหน้านี้!
เขามองมาที่เธอและแตะปลายจมูกของเธอด้วยนิ้วของเขาเบาๆ “เด็กโง่ เมื่อคุณอายุยี่สิบคุณมีผมแล้วนะ!”
นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นพินัยกรรมทางวาจา จึงไม่ได้รับการยืนยันจากการรับรองเอกสารใดๆ แม้ว่าจะเปิดเผยต่อสาธารณะ ก็จะถูกเปิดเผยโดยเซียวควนและซัวฉ่ายลี่ ดีไม่ดีอาจย้อนกลับมากัดเขาเองก็เป็นได้
“ถึงแม้ว่าระหว่างนั้นคุณต้องทนทุกข์ทรมานมาก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้รับโทษตามสมควร เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ปล่อยมันไปเถอะครับ อย่าไปคิดเรื่องนี้อีกเลย” เขาปลอบและลูบหลังเธอเบาๆ จับมือเธอแล้วพูดต่อว่า “อย่าคิดมากเลยครับ ผมชอบที่จะเห็นคุณมีความสุขมากกว่า……”
ซูย้าวส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “มันไม่ได้ผ่านไปแล้ว ในความเข้าใจของพวกคุณ คุณอาจรู้สึกว่าคนเลวได้ถูกลงโทษไปแล้ว แม้ว่ามันจะผ่านไปแล้ว แต่คุณจะไม่รู้สึกอย่างนั้นถ้าคุณไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกกระทำ!”
เมื่อตอนยังเด็กต้องมาเห็นพ่อของตัวเองถูกคนอื่นวางยาพิษต่อหน้าต่อตา และตนเองก็ถูกจัดการอย่างโหดเหี้ยม หลังจากประสบการณ์อันน่าเศร้าผ่านมากว่าสิบปี เมื่อโตขึ้นยังต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสองแม่ลูกซัวฉ่ายลี่ แต่งงานกับตระกูลลี่และกลายเป็น “เครื่องกดเงินสด” ของพวกเขา จนกระทั่งตั้งท้องและคลอดบุตร สองแม่ลูกก็พยายามจะฆ่าเธอ เอาเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอไปทิ้ง!
สองแม่ลูกที่จัดการกับเธออย่างไม่เลือกวิธี อีกทั้งเซียวควนผู้ชั่วร้าย กลับได้รับเพียงการลงโทษทางกฎหมายเท่านั้น จะแก้แค้นความเจ็บปวดของเธอที่เก็บเอาไว้เป็นเวลาหลายปีได้อย่างไร!
ซูย้าวคิดอย่างรอบคอบก่อนพูดว่า “เซียวควนถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ก็นับว่าดีเหลือเกินแล้ว แต่ แต่ซัวฉ่ายลี่……ใช่แล้ว ยังมีซัวฉ่ายลี่อีก!”
ยิ่งคิดเรื่องนี้เธอก็ยิ่งโมโหขึ้น คลื่นแห่งความแค้นที่ถูกระงับไว้นานหลายปีก็ปรากฏขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ มันฝังลงไปในก้นบึ้งของหัวใจ เลือดพุ่งงพล่านไปที่ลำคอของเธอ “แล้วยังมีซูหยวนนั่นอีก……”
ลี่เฉินซีบีบมือของเธอแน่น ดวงตาของเขาก็มืดลง “พวกเขาทุกคนได้รับโทษที่พวกเขาสมควรได้รับ อย่าคิดเรื่องนี้อีกต่อไปเลย ถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด!”
“คุณไม่ใช่คนถูกกระทำ คุณไม่ได้พบกับเรื่องทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าคุณคงรู้สึกว่ามันสามารถปล่อยไปได้ง่ายๆ แต่ฉันไม่เหมือนกัน!” ซูย้าวสะบัดมือของชายผู้นั้นด้วยความโกรธและลุกขึ้นเดินออกไปทันที
เธอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดอีกครั้งเมื่อไปถึงประตูห้องอ่านหนังสือ
ดวงตาสีเข้มของซูย้าวหรี่ลง ดวงตาที่ยุ่งเหยิงและซับซ้อนยากจะอธิบาย “ถ้าฉันเป็นซูย้าวจริงและไม่เคยผ่านประสบการณ์ในช่วงสองปีนั้น หากไม่เคยมีใครมายุ่งเกี่ยวกับความทรงจำ บางทีมันอาจจะเป็นตามแบบที่คุณพูด ปล่อยทุกอย่างในอดีตไป ไม่ต้องไปคิดถึงมันอีก”
อดีตนั้นซูย้าวใจดีมีคุณธรรม แต่ด้วยเหตุนี้เอง คนเหล่านั้นจึงใช้ความเมตตาของเธอเป็นจุดอ่อนครั้งแล้วครั้งเล่า จึงทำให้เป็นเช่นทุกวันนี้!
“แต่ในขณะที่ฉันเป็นซูย้าว ฉันก็เป็นอานหว่านชิงด้วย มันเป็นธรรมชาติถ้าฉันจะแก้แค้น ลี่เฉินซี ขอบคุณที่บอกความจริงกับฉันทั้งหมดนี้ แต่นี่เป็นเรื่องของครอบครัวฉัน ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องสนใจมันอีกต่อไป”
เมื่อพูดจบเธอก็ก้าวออกจากห้องอ่านหนังสือ
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินลงไปข้างล่าง ลี่เฉินซีก็ไล่ตามเธอจากทางด้านหลัง จับเอวเรียวของเธอไว้ด้วยแขนยาวอย่างแม่นยำ ดึงเธอมาไว้ในอ้อมแขน ไม่สนใจการต่อสู้ขัดขืนและอุ้มเธอตรงกลับไปที่ห้องนอน
เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วเอนตัวลง ใช้มือข้างหนึ่งพยุงเธอเอาไว้ “ผมไม่สนใจก็ได้ คุณสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่คุณต้องการ แม้ว่าตอนนี้คุณจะวิ่งไปที่คุกแล้วฆ่าเซียวควนเสียตอนนี้ ผมก็แล้วแต่คุณ แต่ที่รัก คุณเหนื่อยเกินไปจริงๆ พักผ่อนให้เต็มที่ก่อนนะครับ”
ซูย้าวผงะไปครู่หนึ่ง เดิมทีเธอต้องการปฏิเสธโต้แย้ง แต่ถูกผนึกไว้ด้วยมือเรียวยาวของชายผู้นี้ “อย่าพูดว่าคุณไม่เหนื่อย ลองมองหน้าตัวเองดูสิ อาบน้ำให้สบายตัวแล้วหลับพักผ่อน เมื่อตื่นมาแล้วจะทำอะไรก็ตามใจคุณเลย ดีไหม?”
“เอ่อ……”
เธอทำตัวไม่ถูกและพูดไม่ออกเล็กน้อย ลี่เฉินซีเอนกายลงมาจุมพิตบนหน้าผากของเธอ ก่อนจะผละออกไปทางห้องน้ำ
เขาไปเปิดน้ำใส่อ่าง สักพักก็ออกมาเดินเข้าไปกอดเธอ “ไปอาบน้ำเถอะครับ อยากกินอะไรเดี๋ยวผมเตรียมให้”
การถูกโอบกอดแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกสูญเสียตัวตนเล็กน้อย เธอเขินอายเอื้อมมือไปจับกระโปรงของตัวเอง เสียงที่ลังเลของเธอดูคลุมเครือ “กินอะไรก็ได้ คุณออกไปก่อนได้ไหม?”
แม้ว่าจะมีการกระทำที่ใกล้ชิดกันมากมายระหว่างพวกเขา แต่เธอก็ทำใจไม่ได้จริงๆ ที่จะให้อาบน้ำกับเขา……
ลี่เฉินซีอุ้มเธอลงในอ่างอาบน้ำ เขาทดสอบอุณหภูมิของน้ำเมื่อรู้สึกว่าได้ที่แล้ว จึงมองไปที่เธออย่างลึกล้ำ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับเดินออกไป
บัดนี้ ซูย้าวค่อยๆเงยศีรษะขึ้นและหลับตาลง ปล่อยให้น้ำอุ่นที่อยู่รอบกายซึมซับไปทั่วร่างกายของเธอ เธอคลายความกังวลลงเล็กน้อย ความคิดของเธอสงบลงโดยไม่รู้ตัว
อันที่จริงสิ่งที่เธอเพิ่งพูดเมื่อครู่เป็นเพราะความโกรธมากกว่า
เนื่องจากเหตุการณ์ในวัยเด็กของเธอส่งผลกระทบอย่างมากต่อตัวเธอ ในขณะที่ความทรงจำของเธอถูกทำให้ลืมไป เธอก็ฝังความเกลียดชังเหล่านี้ไว้อย่างล้ำลึก ตอนนี้เมื่อความทรงจำของเธอถูกรื้อฟื้นขึ้นมา จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจะปลดปล่อยมัน
แต่เมื่อครู่เธอพูดถึงความโกรธแค้นออกมามากมาย เขากลับไม่ได้หยุดเธอ และไม่เถียงกับเธอเลย เขาเพียงทำตามความต้องการของเธอ หากมองในมุมนี้……เขาละเอียดอ่อนมากทีเดียว
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยกมือขึ้นแล้วเอาน้ำราดลงบนใบหน้า ความโกรธจนอาละวาดออกมาเมื่อครู่จางหายไป เธอค่อยๆ สงบลงอีกครั้ง เรื่องราวในอดีตควรปล่อยให้ผ่านไปจริงๆ หากเธอมัวจมอยู่กับอดีตและทรมานตนเองอยู่เช่นนี้ มันมีความหมายอย่างนั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนึกถึงซูหยวนในความทรงจำของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง……