ซูหยวนโกรธจนเนื้อตัวสั่น เดินพุ่งเข้าไปหาเธอด้วยความกรุ่นโกรธ เตรียมที่จะสวนกลับ แต่ในตอนที่ยกมือขึ้น ก็ถูกซูย้าวสกัดจับเอาไว้
“ที่สร้างตัวตนคุณหนูกรุ๊ปอู๋ซื่อ และศัลยกรรมมาทั้งหน้า ก็เพื่อที่จะล้างแค้นฉัน ถูกไหม?”แม้ว่าเสียงเยือกเย็นของซูย้าวจะไม่ได้ดังนัก แต่ถ้อยคำกลับหนักแน่น
ได้ยินดังนั้นซูหยวนพลันหน้าขาวซีด ดวงตาลูกอัลมอนด์วูบไหว กะพริบถี่รัว “เธอ เธอ……”
ไม่รอให้เธอพูดจบ ซูย้าวก็สะบัดข้อมือของเธอออกอย่างแรง พร้อมกันนั้นก็ยกมือซ้ายขึ้นมา ฟาดปั๊วะเข้าที่หน้าของเธออีกครั้ง!
ใบหน้าของซูหยวนโดนตบจนแสบร้อน สมองก็คิดอะไรขึ้นมาทันที
“ในเมื่อคนที่เธอเกลียดคือฉัน แล้วทำไมต้องไปลงกับลูกของฉันด้วย? ถ้าเธอแน่จริง ก็มาลงที่ฉันสิ!”ความกรุ่นโกรธที่มีอยู่เต็มอกพุ่งทะยาน แค่นึกถึงภาพที่ลี่หมิงนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ตกอยู่ในอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า คุณหมอกว่าหลายสิบคนต้องผลัดเวียนกันรักษาเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้ เด็กอายุแค่นั้น แต่ต้องมาเจอวิบากกรรมแบบนี้ บอกไว้เลยว่าเธอไม่ยอมปล่อยผู้หญิงตรงหน้าไปแน่!
ซูหยวนสั่นเทาเพราะแรงโทสะของอีกฝ่าย ตอนนี้เธอถูกเปิดโปงจนไม่มีที่ให้หลบซ่อนแล้ว ในตอนที่กำลังขบคิดอยู่นั้น ซูย้าวก็เดินเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอ “เธออยากแก้แค้นฉันไม่ใช่เหรอ? เอาสิ งั้นเรามาคิดบัญชีกันเลย!”
เมื่อก่อน ซูย้าวยังคิดว่า ถึงแม้พวกเธอจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่ถึงจะร้ายดียังไงก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าซูหยวนจะเคยทำอะไร แต่ในเมื่อไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เธอ ก็พอจะให้อภัยได้ แต่ว่าตอนนี้ ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาเธอจะใจดีมากไปเสียแล้ว!
“ตั้งเด็กจนโตเธอทำอะไรกับฉันบ้าง ยังจำได้ไหม? เพราะตัวเองให้กำเนิดไม่ได้ เลยวางแผนฆ่าฉันตอนที่ฉันคลอดเพื่อขโมยลูกฉันไป พอแต่งงานกับลี่เฉินซี ก็เอาแต่อ่อยสามีเก่าฉันครั้งแล้วครั้งเล่า วางแผนทำร้ายฉันนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้ ยังทำแบบนี้กับลูกของฉันอีก ซูหยวน เธอว่าฉันควรจัดการเธอยังไงดี?”
ความคิดของซูหยวนเริ่มฟุ้งซ่าน สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน ทั้งตะลึงและหวาดหวั่น อาศัยสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่เพียงนิด ปฏิเสธออกมาทันควัน “เธอ เธอพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจ!”
“ฉันคืออู๋หยาน ไม่ใช่ซูหยวนที่เธอพูดถึง ไม่ใช่! ไม่มีหลักฐาน ก็อย่ามาปรักปรำคนอื่นสิ!”
คำอธิบายของซูหยวนดูเบาบางมากเกินไป ทุกอย่างมันโป๊ะออกมาหมดแล้ว ไหนจะสีหน้าลุกลี้ลุกลนที่มีอยู่ในตอนนี้ มาถึงขั้นนี้แล้ว ช่างโกหกไม่เนียนเอาเสียเลย
ซูย้าวแสยะยิ้ม พร้อมกับคลายมือออก “เธอไม่ใช่ซูหยวน?”
ได้ยินดังนั้น อีกฝ่ายก็พยักหน้ารัวๆ “OK สรุปแล้วเธอจะใช่ซูหยวนหรือเปล่านั้น เดี๋ยวได้เปิดเผยเร็วๆ นี้แน่”
พูดจบ ซูย้าวก็ยกขา ขึ้นถีบซูหยวนให้ถอยไปยังประตูห้องผู้ป่วย อีกฝ่ายทรงตัวไม่อยู่ จึงหกล้มคลุกคลานเข้ามาในห้อง
ซูหยวนหมอบกับพื้นด้วยท่าทางน่าอนาถ ดิ้นขลุกขลักอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นมาได้ ไฟโกรธที่สุมในอกแตกเพล้ง กัดฟันกดเสียงต่ำขึ้นมาว่า “ซูย้าว เธอมันชั้นต่ำ เธอกล้า……”
ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรออกมา คำพูดก็ชะงักค้างโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งไร้สุ้มเสียง
ท่าทีกรุ่นโกรธเหมือนอยากจะฆ่าคนเพื่อระบายอารมณ์ที่มีอยู่เต็มอก พลันหายวับไปกับตา สาเหตุมาจากหางตาของซูหยวนเหลือบไปเห็นผู้หญิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่ใกล้ไม่ไกล
ตรงนั้น มีผู้หญิงค่อนข้างมีอายุนอนอยู่บนเตียงในสภาพหมดสติ ร่างกายเต็มไปด้วยสายระโยงระยางจากเครื่องช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิต บนแขนถูกฝังด้วยเข็มเพื่อรับน้ำเกลือหยดแล้วหยดเล่าข้าสู้ร่างกาย
ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนอาการหนัก บริเวณท้องน้อยโป่งพอง บวมเป่งอย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในภาวะหมดสติ แต่ใบหน้าก็บิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด ทำให้รู้ว่าอาการป่วยใกล้ขั้วหัวใจ
ซูหยวนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้หญิงที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าในตอนนี้ จะเป็นซัวฉ่ายลี่แม่แท้ๆ ของเธอ
เท่าที่นึกได้ แม่น่าจะอยู่ในคุก แต่ทำไมตอนนี้ถึง……
ต่อให้ซูหยวนจะเจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัดมากแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่แท้ๆ ผู้ให้กำเนิด ก็อดที่จะอ่อนไหวไม่ได้ เธอพุ่งเข้าไปข้างเตียงโดยไม่มีหยุดคิด ในตอนที่กำลังจะเอ่ยคำว่า “แม่” ออกไป กลับนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีใครอีกคนมองอยู่ จึงต้องกลืนคำนั้นลงไป
เธอนั่งมองซัวฉ่ายลี่ที่นอนอยู่บนเตียงแน่นิ่ง นิ้วมือกำเข้าหากันอย่างเสียใจและกรุ่นโกรธ นัยน์ตาแดงเถือกราวกับไฟที่กำลังลุกโชน
ซูหยวนหันไปมองซูย้าวที่กำลังเดินเข้ามาข้างหลัง “เธอทำอะไร? ผลักฉันเข้ามาในนี้ทำไม? แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”
ดวงตาสวยของซูย้าวทอแววลุ่มลึก เริ่มรู้สึกยอมใจในความหน้าทนของอีกฝ่าย ต้องบอกว่าเธอเฉลียวฉลาด หรือว่าสันดานหมาดีล่ะ?
อยู่ต่อหน้าแม่ตัวเองแท้ๆ ยังเสแสร้งว่าไม่รู้จักอีก
ซูย้าวครุ่นคิดอยู่สักพัก ก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “ไม่เลวเลยนี่ การแสดงใช้ได้เลย”
เธอเดินเข้ามาช้าๆ แล้วอ้อมไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่งของเตียง “ซัวฉ่ายลี่เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย เลยถูกประกันตัวออกมารักษาที่โรงพยาบาล ยื้อชีวิตมาถึงตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอเองก็เห็น อาการของซัวฉ่ายลี่หนักมากๆ อาจจะ……”
ซูย้าวจงใจลากเสียงยาว เมื่อเห็นซูหยวนเม้มริมฝีปากข่มกลั้นความโกรธ ถึงได้เอ่ยเสริมอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ตายได้ตลอดเวลา!”
ซูหยวนพยายามควบคุมร่างกายที่กำลังสั่นเทิ้ม เอ่ยออกมาทีละคำชัดๆ ว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
อู๋หยานตัวจริงตายจากโลกนี้ไปแล้ว ตราบใดที่อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมายอมรับความจริงไม่ได้ ก็จะไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของซูหยวน เพราะเธอคืออู๋หยาน คุณหนูที่แท้จริงของตระกูลอู๋!
ซูย้าวมองเข้ามาที่ดวงตาเม็ดอัลมอนด์ของเธอ “ยังไม่ยอมรับอีกเหรอ นี่แม่แท้ๆ ของเธอเลยนะ แม่ที่รักเธอมาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าเธอจะเคยทำอะไร หรือต่อให้เธอมีความผิดฐานฆ่าคน ก็จะคอยอยู่ข้างๆ อย่างไม่สนสิ่งใด แต่ตอนนี้ แม้แต่ความกล้าที่จะยอมรับและเรียกอีกคนว่าแม่เธอก็ไม่มีเลยเหรอ?”
“จากอาการของซัวฉ่ายลี่ในตอนนี้ คงอยู่อีกได้ไม่นาน ถ้าอยากยอมรับว่าเธอเป็นแม่ ก็รีบๆ ซะนะ!”
ซูย้าวพูดออกมาชัดเจนขนาดนี้แล้ว แต่ซูหยวนก็ยังคงใจร้าย ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมรับ เธอพยายามอดทนสุดความสามารถ “ก็แล้วแต่เธอจะคิดยังไงก็แล้วกัน แต่ขอโทษที ฉันไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้!”
“อ่อ ไม่รู้จักงั้นเหรอ งั้นก็แปลว่าที่ฉันพูดมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่จริงน่ะสิ?” ซูย้าวย้อนถาม “เธอคือคุณหนูอู๋หยานตัวจริง ที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนของกรุ๊ปอู๋ซื่อ ที่หมั้นกับเจียงจี้เซิงมาตั้งแต่เด็กๆ ที่ไปเรียนเมืองนอกเป็นเวลาหลายปี ที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างผู้ดี ใช่ไหม?”
ซูหยวนมองมาที่เธออย่างเดือดดาล สายตาร้ายกาจเหมือนงูพิษ มือที่แนบอยู่ข้างลำตัวกำเข้าหากันทีละนิด กัดฟันตอบกลับไปว่า “ใช่ ฉันนี่แหละอู๋หยาน!”
ซูย้าวเผยรอยยิ้มแสยะออกมา จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นไปหยิบน้ำเปล่าเย็นๆ ที่วางอยู่บนหัวเตียงเทลงในแก้ว ขณะเดียวกันก็หยิบสิ่งของบางอย่างรูปร่างคล้ายยาออกมาจากกระเป๋าเล็กๆ จากนั้นก็เทลงในแก้ว
เธอใช้หลอดคนเบาๆ เพื่อนให้ยาผสมกับน้ำ จากนั้นก็ยกแก้วพร้อมกับมองมาที่ซูหยวน “ในเมื่อเธอไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ ถ้าอย่างนั้น ถ้าฉันจะทำอะไรกับซัวฉ่ายลี่ ก็คงไม่เกี่ยวกับเธอสินะ”
พูดจบ ซูย้าวก็หลุบมองซัวฉ่ายลีบนเตียงผู้ป่วย อีกฝ่ายยังคงหมดสติ สภาพในตอนนี้ ทำให้ซูย้าวไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมากมาย เธอลงมือแยกปากของหญิงวัยกลางคนออก “ตอนนั้น ผู้หญิงคนนี้เคยวางยาพิษพ่อฉันแบบนี้แหละ ตอนนี้ฉันจะแก้แค้นแทนพ่อฉันในแบบเดียวกัน ก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่นะ!”
“เธอ……”ซูหยวนตะลึงงันไปชั่วขณะ เบิกตามองซูย้าวเตรียมกรอกน้ำในแก้วเข้าปากแม่ของตัวเอง สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว
ซูหยวนพุ่งพรวดเข้าไป จับมือของซูย้าวเอาไว้ “นั่นมันเรื่องในอดีต อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็เคยถูกจับเข้าคุกไปรับโทษแล้วไม่ใช่หรือไง? การที่เธอคิดจะฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาแบบนี้ เธอเห็นชีวิตคนอื่นเป็นอะไร?”
ซูย้าวหยุดชะงักการกระทำ ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังยื้อแย่งกันอยู่นั้น น้ำในแก้วก็กระฉอกออกมาเพราะแรงเคลื่อนไหว ซัวฉ่ายลี่ที่ตอนแรกนอนหมดสติ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเพราะมีเสียงดังรบกวน
“ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ ฉันจะทำอะไรมันก็เป็นเรื่องของฉันหรือเปล่า? ฉันแก้แค้นแทนพ่อ แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?” ซูย้าวจงใจย้อนถาม