บทที่ 93 ทำลายมันด้วยมือของตัวเอง
โม่หว่านหว่านมองไปที่แฟลชไดรฟ์เล็กๆบนโต๊ะด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นก็ยิ้ม และถามว่า “ช่วยได้ ไม่มีปัญหา แต่ว่าในนี้มีอะไรหรอ”
เธอพูดพลางหยิบแฟลชไดรฟ์ขึ้นมาเสียบกับมือถือ เพื่อดูข้อมูลข้างใน
ผ่านไปสักพัก โม่หว่านหว่านก็ถอดแฟลชไดรฟ์ออกด้วยยุ่งเหยิง และมองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ “ซูหยวนมากวนเธอหรอ”
ซูย้าวส่ายหน้า
“แต่ข่าวในนี้ เกี่ยวข้องกับบริษัทซู่ซือ และซูหยวนทั้งหมด ถ้าปล่อยออกไป ต้องกระทบกับบริษัทซูซื่อ…หนักมากแน่ๆ” โม่หว่านหว่านพูด
แต่ซูย้าวกลับยิ้มบางๆ และพูดด้วยภาษามือว่า “ทำให้กระทบต่อบริษัทซูซื่อ นี่เป็นจุดประสงค์ของฉัน”
โม่หว่านหว่านแปลกใจ “เธอจะทำลายบริษัทซูซื่อหรอ นั่นมันมีประโยชน์อะไรกับเธอ ถ้าบริษัทซูซื่อล้มละลาย เธอจะไม่ได้รับมรดกอะไรเลยนะ”
“จากสภาพตอนนี้ ภายในสองปีบริษัทซูซื่อก็ต้องล้มละลาย และฉันก็จะไม่ได้รับมรดกอะไรอยู่ดี” ซูย้าวรีบตอบกลับ
มากไปกว่านั้น ซัวฉ่ายลี่และเซียวควน สองผัวเมีย ก็ไม่มีทางส่งบริษัทตอนที่มีสภาพคงตัวให้มาอยู่ในมือเธอง่ายๆ เพื่อรอให้เธอแบ่งมรดกแน่
เธอต้องลงมือก่อน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น โม่หว่านหว่านก็พยักหน้า “ที่เธอพูดก็ถูก แทนที่จะปล่อยให้คนอื่นทำลายบริษัทซูซื่อ สู้เธอทำเองดีกว่า”
ยังไงทายาทโดยตรงของบริษัทซูซื่อก็มีเพียงซูหยวน และพี่น้องซูย้าวเท่านั้น และจากนิสัยของซูหยวนเธอไม่สามารถประคับประคองธุรกิจต่อไปได้ สุดท้ายชะตากรรมของบริษัทซูซื่อก็ต้องล้มละลายอยู่ดี
โม่หว่านหว่านหยิบแฟลชไดรฟ์นั้นมา และตบอกสัญญา “เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง สบายใจได้”
ซูย้าวพยักหน้า เมื่อบริษัทซูซื่เป็นข่าว แน่นอนว่าราคาหุ้นต้องผันผวน จนทำให้ซัวฉ่ายลี่ และเซียวควนสองผัวเมียเครียด และนี่ก็จะเป็นวิธีที่จะให้เธอได้แม่กลับมา
ชะตากรรมของบริษัทซูซื่อต่อจากนี้ เธอก็มีแผนไว้แล้ว
เรื่องที่โม่หว่านหว่านทำเชื่อถือได้แน่นอน
หลังจากตกปากรับคำแล้ว เธอก็จัดการทีละขึ้น จนวันถัดไปข่าวก็ถูกกระจายออกไป จนทั้งเวยป๋อมีแต่ข่าวเกี่ยวกับบริษัทซูซื่อ
ด้านบ้านตระกูลซู ทันทีที่ซูหยวนตื่นขึ้นมาก็เห็นตัวเองกำลังเป็นประเด็นอยู่ในเวยป๋อ
เทรนอันดับหนึ่ง และสองต่างเป็นข่าวเกี่ยวกับตัวเอง และบริษัทซูซื่อ
‘ซูหยวนลูกสาวคนโตของตระกูลซูคบเพื่อนไม่ดี จัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ที่บ้านพักริมทะเล’
‘ปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ของซูหยวน’
‘ผู้หญิงเสื่อม’
‘นับดูจำนวนผู้ชายรวย และสกปรกหลายคนที่ซูหยวนคบค้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา’
…….
แต่ละโพสต์ล้วนแต่มีชื่อของซูหยวนอยู่ในนั้น เธอจ้องไปที่โทรศัพท์ และเปิดหัวข้อที่เกี่ยวข้องไปเรื่อยๆ ฤดูร้อนปีที่แล้ว เธอและเพื่อนหลายๆคนจัดปาร์ตี้ที่บ้านพักริมทะเล ตอนนั้นเธอดื่มหนัก และเสพยาด้วย ทำให้หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น เธอก็จำไม่ค่อยได้
พอตื่นมาก็เห็นแต่ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วกระจายอยู่ทุกที่…
ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้สิถึงจะถูก
ซูหยวนประหลาดใจ เรื่องมันผ่านมาปีนึงแล้ว ใครกันนำเรื่องเก่าๆมาเปิดเผย
ขณะที่เธอสงสัยอยู่นั้น ประตูก็ถูกดันเข้ามาจากข้างนอก
ซัวฉ่ายลี่ รีบเข้าไปในห้องด้วยความโกรธ เธอจ้องลูกสาวด้วยความโกรธเกลียด จากนั้นก็กัดฟันพูด “แกนะแก ทำไมเรื่องดีๆไม่รู้จักจำบ้าง วันๆไม่ทำงานฉันก็ไม่ว่า แต่แกยังทำเรื่องอย่างนี้อีก มียางอายบ้างมั้ย”
“หนู……”
ซูหยวนก้มหน้าลงอย่างมีสำนึก และพูดไม่ออก
“เดิมทีสถานการณ์ของบริษัทซูซื่อไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พอมีการเปิดโปงข่าวแบบนี้ อาเซียวของเธอกับโทรศัพท์บ้านก็ถูกสื่อกระหน่ำโทรหาไม่หยุด หยวนหยวน เธอนี่มันตัวทำลายครอบครัวจริง”
ซัวฉ่ายลี่โกรธจนหัวใจสั่นไหว จ้องไปที่ลูกสาวด้วยใบหน้าซีดเซียว อย่างไม่รู้จะว่ายังไงดี
ซูหยวนรู้สึกผิดไปทั้งใจ เธอกระพริบตาบีบน้ำตาออกมา “หนูก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้สักหน่อย เรื่องนี้มันเกิดมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ใครจะไปคิดว่าเรื่องมันจะถูกเปิดเผยเอาตอนนี้…..”
“ปีที่แล้วหรอ”
ซัวฉ่ายลี่ตะลึง เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องของปีที่แล้ว เรื่องมันผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ต้องมีคนตั้งใจปล่อยข่าวแน่ๆ
คนคนนั้นน่าจะเป็น….
“หรือจะเป็นนังซูย้าว นังชั้นต่ำนั่นทำ” ซัวฉ่ายลี่เดา
ซูหยวนมองไปที่เธอ “ซูย้าวหรอ เธอไม่รู้เรื่องปีที่แล้วสักหน่อย และเธอก็ไม่น่ากล้าทำ”
“ทำไมจะไม่กล้า ก่อนหน้านี้มันยังขู่ฉันอยู่เลย นังชั้นต่ำนี่ปีกกล้าขาแข็งแล้วจริงๆสินะ ถึงคิดจะตอกกลับแบบนี้”
ซัวฉ่ายลี่นั่งลง และเล่าเรื่องที่เธอกับซูย้าวคุยกันก่อนหน้านี้ให้ลูกสาวฟัง
หลังจากที่ได้ฟังแล้วซูหยวนก็โกรธมาก และเธอก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า “งั้นต้องเป็นนังซูย้าวทำแน่ คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา แถมตอนนี้ยังคิดจะต่อกรกับฉันอีก”
“หึ แกอยากจะเล่นใช่มั้ย ได้! งั้นมาดูกันว่าไม้ซีกอย่างแก จะงัดไม้ซุงได้มั้ย” ซัวฉ่ายลี่แสยะยิ้มเย็นราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะค่อยๆยิ้มอย่างร้ายกาจออกมา และเดินออกไป
ในขณะที่บริษัทซูซื่อกำลังมีข่าวอื้อฉาว และมีข่าวด้านลบออกมามากมาย บริษัทของหานฉ่ายลี่ก็ถูกตรวจสอบเนื่องจากสงสัยว่ามีการยักยอกทรัพย์เกิดขึ้น
ตำรวจรวบรวมหลักฐาน และหานฉ่ายหลิงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก เกิดความวุ่นวายในทุกด้าน และเพราะลี่เฉินซีต้องช่วยเธอ จึงทำให้โครงการ CCU ที่ทำร่วมกับ Kกรุ๊ปล่าช้าไปอีก
เป็นเวลากว่าสิบวันแล้ว ตั้งแต่ที่เขากลับมาที่ประเทศจีน แต่โครงการ CCU กลับล่าช้าออกไปอีก ทำให้ทางฝั่ง K กรุ๊ปเริ่มวิจารณ์ออกมา
หวางอี้ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังจากแก้ไขสถานการณ์กับ Kกรุ๊ปเสร็จ เขาก็มองไปที่ประตู และคิดถึงประธานบริษัทHSขึ้นมา และได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆ
กว่าเขาจะใช้ตำแหน่งส่งกาแฟเข้ามาในห้องทำงานได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขายืนอยู่ข้างโต๊ะ และลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา “คือว่าประธานลี่ โครงการ CCU พวกเราควรเริ่มลงมือแล้วรึเปล่าครับ ทางKกรุ๊ปก็รออยู่ ถ้าเลื่อนไปอีก เกรงว่ามันจะไม่ดี”
“โครงการ CCU ไม่ต้องรีบก็ได้” ลี่เฉินซีไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขาเพียงแค่ตอบอย่างเย็นชาเหมือนเดิม
หวางอี้อึ้ง “อันที่จริงโครงการนี้ก็ด่วนมากเหมือนกัน ประธานไซม่อนเร่งมาหลายครั้งแล้ว”
คราวนี้ลี่เฉินซีเงยหน้าขึ้น และจ้องมองอย่างเย็นชา ทำให้หวางอี้ตกใจกลัว เงียบไปทันที
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ และเย็นชา “ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย โครงการนั้นไม่ต้องรีบ!”
หยุดไปครู่หนึ่ง และพูดต่อว่า
“ ถ้า Kกรุ๊ปก็รีบให้ไซม่อนเลือกเอาคนอื่นเลย”
“…..”
หวางอี้ก้มหน้าลงอย่างทำอะไรไม่ได้ ประโยคเมื่อสักครู่ลี่เฉินซีพูดได้ แต่เขาไม่อาจพูดออกไปได้
ไม่สามารถพูดให้ Kกรุ๊ปได้ยินโดยเด็ดขาด
ทุกคนรู้ดีว่าโครงการ CCU เป็นที่จับตามองแค่ไหน แม้ว่าบริษัทลี่ซื่อจะมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีบริษัทอื่นมาแทนที่ได้
ไม่ง่ายเลยกว่าจะชนะโครงการ CCU ดังนั้นจะปล่อยมันไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มไม่ได้
แถมค่าปรับยังมีอีกมากโข
ลี่เฉินซีไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้เลยหรอ
หวางอี้ออกจากห้องทำงานด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ใจเขาจากที่กังวลอยู่แล้ว ก็กังวลขึ้นไปอีก
ทางด้านบ้านตระกูลลี่ หลังจากที่ซูย้าวคอยมาหลายวัน ในที่สุดเจียงเวินอี๋ก็พาลูกของเธอกลับมา
ทันทีที่เธอได้เจอกับลูกชายที่อดคอยเฝ้าคิดถึงทุกวันคืน เธอก็กอด และหอมไม่หยุด และไม่ทันไร โทรศัพท์ก็ดังขึ้น มีคนส่งคลิปบางอย่างมา
และเมื่อเธอดูคลิปนั้นก็ตะลึงในทันที