ตอนที่ 601 แอบซ่อนสิ่งชั่วร้าย
เหยียนเค่อกลับไปที่ห้องของตน เอาสูทไปเก็บ ไม่รู้ว่าปู่ตนไปไหนแล้ว ไม้ตายคนสุดท้ายของเขาดันไม่รู้หายไปไหนแล้ว นอกจากจะหมดแรงแล้วยังเริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมาด้วยแล้วสิ
ถ้ารู้ว่าจะมีเรื่องเยอะขนาดนี้เมื่อคืนเขาคงไม่ดื่มเยอะขนาดนั้นหรอก…อยู่ที่บ้านอย่าว่าแต่ซุปสร่างเมาของซย่าเสี่ยวมั่วเลย ขนาดซุปสร่างเมาของฉินซื่อหลานเขายังไม่มีจะกินเลย
เหยียนเค่อไม่รู้ว่าพ่อของตนโมโหด้วยเรื่องอะไร จึงได้แต่เดินไปรับโทษให้ท่านด่าที่ห้องหนังสือก่อน จากนั้นค่อยถามหาสาเหตุ
พ่อเหยียนหลังจากที่ฟังเหยียนเฟิงรายงานเสร็จก็โกรธจนเขวี้ยงโถโบราณสมัยราชวงศ์ซ่งแตกไปใบหนึ่งแล้ว พอเห็นเหยียนเค่อเดินเข้ามาเลยขว้างแท่นฝนหมึกของราชวงศ์เดียวกันไปทางชายหนุ่ม
เหยียนเค่อไม่ได้หลบ ได้แต่ยื่นนิ่งๆอยู่ตรงนั้นทำให้แท่นฝนหมึกกระแทกโดนไหล่เขาอย่างจัง แป้นหมึกที่ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือตกลงไปกระทบบนพื้น มุมของแท่นฝนหมึกหักออกเป็นชิ้นใหญ่
“แกยังมีหน้าเข้ามาอีกนะ” พ่อเหยียนโมโหจนอดไม่ได้ที่อยากจะสาดที่ล้างพู่กันไปที่ชายหนุ่มทั้งหมด แต่พอเห็นสีหน้าที่ยังดูนิ่งๆไม่รู้ทุกข์รู้ร้อนของลูกชายตนก็ขี้เกียจจะไปตีมันให้เมื่อยมือ
“แม่บอกให้ผมมา”
“ถ้าแม่แกไม่บอกแกก็จะไม่มาใช่ไหม นี่ฉันเลี้ยงแกมาแบบไหนฮะ”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” ถ้าเลือกได้เขาก็อยากจะเลือกเกิดมาในครอบครัวธรรมดาเหมือนกัน
พ่อเหยียนถูกเหยียนเค่อทำให้โกรธจนพูดอะไรไม่ออก ขว้างแฟ้มใสที่อยู่บนโต๊ะทำงานไปที่ลูกชาย “ดูเรื่องที่แกทำเอาไว้ซิ ทางที่ดีแกบอกเหตุผลที่ฉันรับได้มาสักข้อ”
เงียบไปสักพักหนึ่ง พ่อเหยียนก็นึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ เอ่ยเสียงแข็ง “แกเตรียมตัวแต่งงานกับสวีอิ๋งอิ๋งซะดีๆ ผู้หญิงคนอื่นอย่าได้หวังเด็ดขาด มัวแต่เจ้าชู้ทำตัวเสเพลไปวันๆ แล้วดูซิว่าไปคว้าคนแบบไหนมา”
เหยียนเค่อทำหน้าเคร่งขรึมลง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าเปิดเอกสารดูอย่างลวกๆ แต่ว่าเนื้อหาสำคัญเขาก็พอจะเข้าใจเรื่องแล้ว เรื่องที่น่าขำที่สุดก็คืองบของโครงการที่อยู่ด้านในล้วนถูกนำมาใช้กับYAN ทั้งนั้น
“แกยังมีหน้ามายิ้ม” พ่อเหยียนเห็นลูกชายยกยิ้มมุมปากก็โมโหขึ้นมาอีกรอบ
นี่มันคือทางของคนที่อับจนหนทางอย่างที่สุดแล้ว ทำไมเขาจะยิ้มออกมาไม่ได้
กล้าคิดถึงขนาดที่ว่าเขาแอบเอางบจากบริษัทตระกูลเหยียนไปลงทุนในโครงการของYAN ขนาดเหยียนเค่อเองยังไม่รู้เลยว่ามันมีระบบที่สามารถดึงขโมยงบออกจากบริษัทตระกูลเหยียนไปใช้ได้ด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ชายของเขาคิดออกมาได้อย่างไร
“ผมว่ารายงานงบประมาณบางอย่างก็ดูจริงนะครับ”
“ก็จริงนะสิ ฉันว่ามันก็จริงทั้งหมดนั่นแหล่ะ!” พ่อเหยียนอยากจะหักขาลูกชายเสียจริง เงินลุงทนตั้งหลายร้อยล้านยังกล้ายักยอก เงินจำนวนนี้จะชดใช้อย่างไรก็ยังเป็นปัญหาอยู่เลย
เหยียนเค่อไม่อยากเปิดโปงเหยียนเฟิง แต่ว่านอกจากวิธีนี้แล้วก็คงไม่มีวิธีอื่นอีกที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้
“เดี๋ยวผมเอาเอกสารบางส่วนมาให้พ่อดู เดี๋ยวก็รู้ว่าจริงๆใครกันแน่ที่มีปัญหา”
พ่อเหยียยโบกมือไล่ให้เหยียนเค่อไปอย่างรำคาญ เขาไม่กลัวว่าลูกชายจะไปแล้วไม่กลับมา ทั้งบ้านถูกเขาควบคุมไว้หมดแล้ว ขนาดผู้เฒ่าเหยียนเขายังถูกเขาหลอกล่อให้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆสักสองสามวันเลย
พอผู้เฒ่าเหยียนกลับมาแล้วเรื่องก็คงชัดเจนเรียบร้อย แต่ให้เหยียนเค่อจะคัดค้าน แต่ผู้เฒ่าเหยียนที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์อีกหลายด้านก็คงต้องยอมจำนนเงียบๆ
แผนการที่ชัดเจนขนาดนี้ถ้าเหยียนเค่อมองไม่ออกถึงเป้าหมายของพ่อตนก็คงจะโง่เต็มที
แต่เรื่องพวกนั้นมันจัดการกันได้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องภายในของ YAN
เหยียนเค่อมีลางสังหรณ์ไม่ดี พอเปิดหน้าอินเตอร์เน็ต ข่าวที่เป็นประเด็นร้อนที่สุดก็คือ “ประธานบริหารบริษัทYAN ทายาทลำดับสองของตระกูลเหยียน แอบยักยอกเงินของตระกูลเหยียนเอาไปใช้เอง”
เซ่าหมิงฟ่านได้รับโทรศัพท์จากเยียนเค่อและก็เป็นไปตามที่เขานึกไว้ ไม่ต้องรอให้เหยียนเค่อกำชับ เขาก็เอ่ยปลอบ “วางใจได้ ฉันอยู่รักษาการที่ YAN แล้ว นายจัดการเรื่องที่บ้านของนายตามสบาย ทางนี้ฉันจัดการเอง”
“อืม” เหยียนเค่อตอบรับ แต่ตอนนี้เขาก็ยังทำหน้านิ่งๆเอ่ยล้อเล่นได้อยู่ “ที่ฉันอยากพูดไม่ใช่เรื่องนี้”
ตอนที่ 602 แทนที่
เหยียนเค่อมองตารางที่ได้รับมาจากพ่อมองเห็นภาพแผนภูมิที่ดูคุ้นตาจึงรู้ว่าตัวเองอยู่นิ่งๆต่อไปไม่ได้แล้ว เขารู้ว่าเซ่าหมิงฟ่านต้องเริ่มลงมือในทันที แต่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือต้องกระชากหน้ากากที่แอบซ่อนไว้มานาน
“ไล่ชวีหน่ายออก แล้วแผนกบุคคลให้ Belle เป็นคนดูแล”
“Belle ไม่ได้อยู่ที่ฮุยเถิงเหรอ”
“ให้เธอดูแลทั้งสองที่ เธอทำได้” ที่สำคัญ Belle คุ้นเคยกับวิธีการทำงานของเหยียนเฟิง ต่อให้ถึงแม้ว่าจะเสียหายแต่ก็คงไม่มากเท่าไหร่ เหยียนเค่อรู้สึกว่า Belle ว่างมากเกินไปแล้ว ให้หล่อนดูแลทั้งสองที่ได้สบายๆ ถือว่าเป็นการแก้แค้นที่หล่อนไปพูดจามั่วๆให้ซย่าเสี่ยวมั่วฟัง
“ได้” ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาถามหาเหตุผล หลังจากที่เซ่าหมิงฟ่านวางสายจากเหยียนเค่อแล้วก็รีบไปจัดการเรื่องตามนั้นทันที
ก่อนที่ Belle จะได้รับโทรศัพท์แต่งตั้งตำแหน่งเธอยังรู้สึกสบายๆอยู่ แต่หลังจากได้รับสายว่ามีการแต่งตั้งตำแหน่งให้เธอแล้วนั้นเธอก็แทบจากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง มีใครแก้แค้นได้ออกนอกหน้าขนาดนี้บ้างนะ
Belle รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพร่ำบ่น เธอต้องช่วยอย่างสุดความความสามารถเพื่อให้ YAN ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
ตอนที่ชวีหน่ายได้รับคำสั่งปลดเธอออกอย่างเป็นที่แน่ชัดแล้วเธอยังรับเรื่องนี้ไม่ได้
“ประธานเซ่า คุณไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้ ประธานเหยียนเป็นคนรับฉันเข้ามาเอง ถ้าจะไล่ออกก็ต้องเป็นประธานเหยียนเป็นคนไล่ฉันเองเท่านั้น” ชวีหน่ายรู้สึกกระวนกระวายใจ จนไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเองเลย
“นี่เป็นคำสั่งจากประธานเหยียน ส่วนสาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้นเดี๋ยวประธานเหยียนก็คงให้คำตอบที่ชัดเจนแก่คุณ แต่ตอนนี้เขายังไม่มีเวลามาอธิบายให้คุณฟัง”
“ฉันชอบเขาฉันผิดมากเหรอ ทำไมต้องผลักไสให้ฉันไปอยู่ไกลๆ ทำไมต้องทำให้ฉันเสียงานที่ทำอยู่ด้วย”
เธอยอมรับว่าเธอแอบไปมีใจให้ชายหนุ่มและยังคงหวังตัวเขาอยู่มันเป็นความผิดของเธอ แต่เขาไม่มีสิทธิมาตัดสินว่าเธอไม่ควรจะอยู่ที่ YAN ต่อ เธอเสียสละทำเพื่อ YAN ตั้งมากมาย พอคิดได้ถึงตรงนี้เธอก็รีบดึงสติกลับมาให้เป็นปกติ
ใช่ คนเราสามารถขอร้องอ้อนวอนได้อย่างไร้ศักดิ์ศรี ในตอนที่คนเราอับจนหนทางแล้วจริงๆก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
ชวีหน่ายไม่รอให้เซ่าหมิงฟ่านพูดอะไรขึ้นมาเธอก็รีบเสนอข้อเสนอไปก่อน “ถ้าเกิดว่า YAN ให้คำตอบที่น่าพอใจสำหรับการที่ฉันทำงานมาอย่าขยันตั้งหลายปี ฉันก็จะยอมลาออก”
เซ่าหมิงฟ่านไม่รู้ว่าเหยียนเค่อจะไล่ชวีหน่ายออกทำไม แต่เห็นว่าชวีหน่ายก็ทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด เลยกะว่าจะให้ค่าตอบแทนปีนี้ให้คุ้มค่า อีกอย่างเหยียนเค่อก็เป็นคนใจอ่อนอยู่แล้วคงไม่เอาเปรียบหล่อนหรอก แต่พอเซ่าหมิงฟ่านได้ยินหล่อนพูดเสนอออกมาเองแบบนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
“คุณกลับไปก่อนเถอะ ตำแหน่งนี้ว่างไว้ก่อน ส่วนคุณตั้งแต่วันนี้ไปก็ไม่ต้องมาบริษัทแล้ว รอประธานเหยียนกลับมาค่อยให้คำตอบ” เซ่าหมิงฟ่านเป็นคนใจอ่อนยิ่งกว่าเหยียนเค่อ แต่สำหรับคนละโมบโลภมาก เขาไม่เคยจะเสียเวลาไปเห็นใจ
ถึงแม้จะบอกว่าการหาผลประโยชน์มันเป็นสันดานของมนุษย์ แต่เธอก็มีเจ้านายที่ดีที่คอยคิดเพื่อลูกน้องอยู่แล้ว ยังจะมาคิดเอาเปรียบข่มขู่อีก ช่างน่ารังเกียจจริงๆ
ชวีหน่ายหมุนตัวเดินออกไป อาการกระฟัดกระเฟียดแบบนั้นทำให้คนรู้สึกสงสารและรังเกียจ
เซ่าหมิงฟ่านเริ่มลงมีจัดการปัญหาความเสียหายของ YAN ไม่รู้ว่าครั้งนี้เหยียนเฟิงวางแผนมานานเท่าไหร่ ถึงแม้การโจมตีครั้งนี้จะไม่ได้ถูกจุดสำคัญของ YAN แต่ก็มากพอที่ทำให้คนภายนอกคิดว่า YAN หลอกลวงพวกเขา อีกอย่างจะทำให้ตัวตนของเองเค่อที่ดูเป็นคนลึกลับมาตลอดถูกมองว่าเป็นคนขี้โกงหลอกลวง ทำให้ภาพลักษณ์ของชายหนุ่มดูแย่ลงไปเยอะ
หลังจากที่เหยียนเค่อมอบหมายงานให้เสร็จก็เดินถือโน้ตบุ๊คออกไป เขาเชื่อว่าเซ่าหมิงฟ่านรับมือกับเรื่องพวกนี้ได้ อีกอย่างสวีอันหรานก็คงไม่ดูอยู่เฉยๆเหมือนกัน คนทั้งคู่ต้องร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นนอกจากการมอบหมายภารกิจไปให้เซ่าหมิงฟ่านทำแล้ว สิ่งสำคัญที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือการกระชากหน้ากากของเหยียนเฟิงออกมา