ตอนที่ 611 อ่อนโยนชั่วคราว
ซย่าเสี่ยวมั่วไปหยิบปากกากับสมุดมาจดว่าเธอจะพูดอะไรกับชายหนุ่มบ้าง พอคิดวางแผนสักพักแล้วจึงโทรหาเหยียนเค่อ สัญญาณดังอยู่นานมากแต่ก็ไม่มีคนรับสายเสียที
ซย่าเสี่ยวมั่วใจหนักอึ้งถึงขั้นดำดิ่งไม่ได้กดโทรหาซ้ำอีก เธอขว้างสมุดไปอีกทางแล้วเอนตัวนอนหงายบนตียง สายตาจ้องไปที่เพดานด้านบน
เหยียนเค่อเพิ่งเดินมาที่ระเบียงเพื่อรอรับยา ฉินซื่อหลานขับรถเข้ามาด้านในเลย ชายหนุ่มยืนบนหลังคารถแล้วโยนยาขึ้นไปให้เหยียนเค่อ
เหยียนเค่อโบกมือให้จากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องไป ฉินซื่อหลานยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ด้านบนระเบียงได้ยินเสียงฝีเท้าแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาคน
“ช่างไร้เยื่อใยจริงๆ ถึงแม้จะมีระยะห่างแต่อย่างน้อยก็ควรออกมาสบตากันหน่อยไหม”
ฉินซื่อหลานก้มหัวมองระยะห่างระหว่างพื้นดินกับหลังคารถที่เขายืนอยู่ตาละห้อย ด้วยความสูงระยะนี้เขาไม่กล้าที่จะกระโดดลงไปจริงๆ แต่ถ้าจะลอดเข้าจากทางหน้าต่างรถ เกรงว่าด้วยขนาดลำตัวของเขาคงจะเข้าไปไม่ได้
ดังนั้นจึงได้แต่นั่งยองๆมองเงาตัวเองอยู่บนหลังคารถ กุมหัวตัวเองไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
เหยียนเค่อทายาลงที่ไหล่ของตนเอง ยังไม่ทันจะทำเสร็จก็มีเสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์
เหยียนเค่อเหลียวไปมอง พบว่าเป็นข้อความเตือนจากทางเครือข่ายโทรศัพท์ว่ามีคนโทรเข้ามา เขาใช้นิ้วก้อยเอื้อมไปเลื่อนดูหน้าจอ
ยายโง่…เหยียนเค่อไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกที่เอ่อล้นตอนที่เห็นชื่อคนโทรเข้ามาอย่างไรดี มันมีความผิดหวังที่รับสายหล่อนไม่ทันแต่ก็ไม่รู้ทำไมจู่ๆก็รู้สึกเศร้าลง
ถ้าหล่อนโทรกลับมาอีกรอบเขาจะรับสาย เหยียนเค่อรู้สึกไม่สบอารมณ์ ทุกครั้งที่ไม่ได้รับสายซย่าเสี่ยวมั่วต้องเป็นตนที่โทรกลับไปตลอด ซย่าเสี่ยวมั่วไม่เคยเลยที่จะโทรหาเขาเป็นครั้งที่สอง
เหยียนเค่อทายาเสร็จเรียบร้อยแต่ซย่าเสี่ยวมั่วก็ยังไม่โทรกลับมาอยู่ดี เขายิ้มเยาะตัวเอง คงจะเป็นเพราะโทรผิดกระมัง ขนาดโทรผิดยังดันมาโทรติดเป็นเบอร์เขาหล่อนนี่มันก็จริงๆเลยนะ
ซย่าเสี่ยวมั่วมองดูเพดานเพื่อผ่อนคลายความเครียดได้ไม่เท่าไหร่เจ้าโกลเด้นก็เริ่มอาละวาดอีกครั้ง ครั้งที่เริ่มมากเกินไปแล้ว กล้าเข้าออกห้องของเธอราวกับไม่มีคนอยู่ ขอแค่เพียงเป็นของที่มันมีแรงลากไหวมันก็ลากไปกองรวมกันที่ห้องรับแขกหมด
“แกต้องการอะไรกันแน่!” มันลากของออกไปชิ้นหนึ่งเธอก็ต้องไปลากกลับมาเหมือนเดิม สักพักเธอก็เริ่มมึนหัวหย่อนก้นลงนั่งบนพื้นไม่อยากลุกขึ้นมาแล้ว จากนั้นก็เอื้อมมือไปดึงของที่เจ้าโกลเด้นคาบมาแล้วโยนไปบนหลังบน
“แกแอบไปตกลงกับเหยียนเค่อว่าจะมารังแกฉันใช่ไหม” ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่าตนเองน่าสงสาร ทำท่าราวกับจะบีบของให้แตกคามือแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเหยียนเค่อ
เหยียนเค่อกำลังล้มเลิกที่จะรอให้ซย่าเสี่ยวมั่วโทรกลับมาหาตนแล้ว แต่พอเห็นโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมหน้าที่ระบุว่าเป็นซย่าเสี่ยวมั่วโทรมาเขาก็เริ่มลังเล
“คงไม่ใช่เจ้าโกลเด้นโทรมาหรอกใช่ไหม” เหยียนเค่อพึมพำ แต่ก็กดรับสาย
เสียงของฝ่ายนั้นไม่ค่อยดัง แต่ก็ได้ยินเสียงหอบหายใจชัดเจน เหยียนเค่อรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า เหมือนว่าตนจะเดาถูกสินะ
“โทรหาฉันทำไม”
เหยียนเค่อนึกว่าฝ่ายตรงข้ามไปแค่หมาตัวหนึ่งดังนั้นน้ำเสียงที่ใช้พูดเลยไม่ได้อ่อนโยนนัก ซย่าเสี่ยวมั่วตกใจกับน้ำเสียงขึงขังแบบนี้จนลืมไปหมดแล้วว่าตนเองจะพูดอะไร
เหยียนเค่อก็ไม่ได้คิดว่าผ่ายตรงข้ามจะตอบกลับมาได้ “แกแอบขโมยโทรศัพท์ของซย่าเสี่ยวมั่วมาโทรหาฉันแบบนี้ไม่กลัวโดนหล่อนตีหรืออย่างไร”
ซย่าเสี่ยวมั่วตะลึงไปพักหนึ่ง รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง พอประมวลผลได้ก็กัดฟันกรอด ตะโกนออกไปอย่างโมโห “นายสิเป็นหมา”
เหยียนเค่อถูกเสียงช็อกกับเสียงของ ‘เจ้าโกลเด้น’ ที่อยู่ๆก็ดังขึ้น เขานิ่งเงียบไม่พูดจา…ในสายไม่มีคนพูดมีแต่เสียงหอบหายใจจะมาโทษเขาได้อย่างไร
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าตนแสดงกริยารุนแรงไปหน่อย จึงปรับโทนเสียง เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อคือ…โทษทีคือฉัน…”
“มีธุระอะไร” เหยียนเค่อเอ่ยช่วยซย่าเสี่ยวมั่วเปลี่ยนเรื่อง
ตอนที่ 612 เรื่องแปลกๆ
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกขอบคุณมาก ก่อนจะพูดเข้าเรื่องเธอควรจะเกริ่นนำก่อนหรือเปล่า…เอ๋? สมุดของเธอล่ะ!?
เจ้าโกลเด้นมองเจ้านายของตัวเองคลานไปบนเตียงความหาสมุดเล่มนั้น มันกระดิกหางไปมายังคงไม่หยุดเคลื่อนย้ายของออกไปไว้ด้านนอก
“หืม?” เหยียนเค่อรออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงหล่อนเอ่ยพูดจึงคิดว่าหล่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า
ซย่าเสี่ยวมั่วพบว่าคำพูดที่ว่าการเกริ่นนำที่ดีก็จะทำให้ประสบความสำเร็จไปกว่าครึ่งนั้นเป็นจริงมากๆ การพูดเปิดการสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่ไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องที่มีสาระกันต่อเลยจริงๆ
ซญ่าเสี่ยวมั่วทำได้แค่พึงตนเองแล้ว “นาย ไม่เป็นไรใช่ไหม”
เหยียนเค่อได้ยินคำถามไถ่จากหล่อนก็รู้สึกตื่นเต้น รู้สึกอบอุ่นจนยกยิ้ม น้ำเสียงอ่อยโยนมีความสุขจนตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัว “ไม่เป็นไร”
แย่แล้ว แย่แล้ว เลือดกำเดาจะไหล…ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินน้ำเสียงของชายหนุ่มแล้วเลือดกHแทบสูบฉีดไปรวมอยู่ที่ใบหน้าหมดแล้ว สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยงชั่วขณะเลยพูดทำลายบรรยากาศออกไปประโยคหนึ่ง “ได้ยินเสียงนายแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอะไรเลยนะ”
เหยียนเค่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกเหมือนกับว่าพอได้ยินเสียงของซย่าเสี่ยวมั่วเขาก็ตื่นเต้นราวกับได้กินยาต้องห้าม…
ฝ่ายตรงข้ามเงียบไปครู่หนึ่ง ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกร้อนใจ กลัวว่าตนจะทำให้เหยียนเค่อโมโหอีกแล้ว กลืนน้ำลายลงคอ เอ่ยอย่างกระวนกระวาย “เมื่อกี้ฉันพูดเล่นเฉยๆ นายไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม”
“อือ ไม่เป็นไร” เหยียนเค่อกลัวว่าซย่าเสี่ยวมั่วจะกังวลจึงพูดยืนยันอย่างละเอียดอีกรอบ
ซย่าเสี่ยมั่วฟังไม่เข้าใจ เหยียนเค่อก็ไม่ได้คิดว่าหล่อนจะเข้าใจ แค่อยากจะบอกให้หล่อนรู้ไว้เฉยๆ
พระอาทิตย์ตกดินในยามค่ำ น้ำเสียงนุ่มเย็นของชายหนุ่มดังผ่านโทรศัพท์มากระทบหูของเธอ ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายแต่ก็ทำให้ใจสลายได้เหมือนกัน นี่คือการบอกให้เธอรู้ชัดเจนถึงเส้นแบ่งความแตกต่างระหว่างพวกเธอสองคนหรือเปล่า
เหยียนเค่อไม่รู้ว่าความตั้งใจของตนเองจะถูกซย่าเสี่ยวมั่วคิดไปอีกแบบหนึ่ง สำหรับเขาแล้วซย่าเสี่ยวมั่วเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาเล่าเรื่องพวกนี้ออกมาให้ฟังได้ หล่อนเป็นคนเดียวที่เขาไว้ใจ
เนื่องจากเหยียนเค่อพูดไปเยอะ ทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วกลับไปเป็นคนเดิมเมื่อตอนที่อยู่กับเหยียนเค่อเมื่อก่อนแล้วเอ่ยขัดชายหนุ่ม “สรุปง่ายๆก็คือ เป็นความรักความแค้นของพวกคนรวย พี่ชายน้องชายไม่รักกันแต่กลับเกลียดกันแทน จากนั้นพวกนายสองฝั่งก็หันมาจัดการกันเองใช่ไหม”
เหยียนเค่อนิ่งลง เขารู้สึกว่าซย่าเสี่ยวมั่วฟังไม่ค่อยเข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ รวมไม่ถึงเรื่องการขัดแย้งด้านผลประโยชน์กับเหยียนเฟิงด้วย แต่ก็ยังดีที่เข้าใจว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเขามันแย่ขนาดไหน เขาน่าจะประเมินสติปัญญาของหล่อนสูงไปนิด…
“ฉันอยากพูดกับเจ้าโกลเด้น” เหยียนเค่อใช้วิธีนี้เพื่อแอบบอกเป็นนัยๆว่าสติปัญญาของซย่าเสี่ยวมั่วมันน้อยมาก
ความจริงซย่าเสี่ยวมั่วเข้าใจ และรู้ว่าชายหนุ่มผ่านมาอย่างยากลำบาก แต่ด้วยความสัมพันธ์แปลกๆของพวกเขาเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ถึงนำได้แค่เอ่ยล้อเล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
เธอได้ยินเหยียนเค่อแขวะตนเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร อ้าปากหาว หางตามีน้ำตาปริ่มออกมา เหลือบตาไปมองก้เห็นว่าเจ้าโกลเด้นลากออกไปแม้กระทั่งผ้าปูโซฟาของเธอ
“**!”
เหยียนเค่อไม่รู้ว่าฝั่งของหล่อนเกิดอะไรขึ้น ได้แต่เอ่ยสอนหล่อนอยากจริงจัง “เป็นผู้หญิงอย่าสบถคำหยาบออกมา”
ซย่าเสี่ยวมั่วถึงได้นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องสำคัญเรื่องที่สองที่อยากจะพูดอีก “คือว่า…นายได้ทำอะไรแปลกๆกับหมาของฉันหรือเปล่า”
ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นขนาดที่ว่าเจ้าโกลเด้นมากคาบถุงเท้าเหม็นๆที่ยังไม่ได้ซักของหล่อนออกไปด้านนอก
เหยียนเค่อรู้สึกเห็นใจตัวเองมากๆ แต่ครั้งนี้เขากลับควบคุมอารมณ์ไม่ให้โมโหได้
“ทำไม”
ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินสองคำนี้ก็ตัวสั่น เธอยังไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ทำให้ชายหนุ่มโมโหอยู่ ตอนนี้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ดูเหมือนว่าจะไม่จริง..