บทที่ 133 ความคิดใหม่
ณ ตำหนักไม้ไผ่
หลินเป่ยเฉินกำลังนอนแช่น้ำอย่างมีความสุข
เมื่อมีพ่อบ้านหวังคอยดูแลอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารการกินหรือความบันเทิงส่วนตัวอีกต่อไป
ทันทีที่กลับมาถึงที่พัก นอกจากพ่อบ้านหวังจงจะเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขานอนแช่ในอ่างน้ำเรียบร้อยแล้ว หลินเป่ยเฉินถึงกับพบว่ามีเด็กสาวหน้าตาดีสองคนคอยมาปฏิบัติรับใช้ถึงในห้องอาบน้ำอีกด้วย แต่ด้วยความที่มีเป้าหมายอยากจะเป็นเซียนกระบี่ให้ได้ในเร็ววัน หลินเป่ยเฉินจึงห้ามใจตัวเองไม่ให้หลงใหลไปกับสิ่งยั่วยวนเหล่านี้เด็ดขาด
แต่เพื่อไม่ให้เกิดความพิรุธมากเกินไป เด็กหนุ่มจึงไม่ได้ปฏิเสธการจัดหาเด็กสาวของพ่อบ้านหวัง
“นายน้อยหลินช่างมีผิวพรรณขาวเนียนเหลือเกิน…”
“อิอิ นายน้อยผิวเต่งตึงดีจังเลย”
สาวรับใช้ทั้งสองคนมีอายุไม่น่าเกิน 16 ปี ล้วนมีหน้าตางดงามเนื้อตัวนุ่มนิ่ม เสมือนคนที่เกิดในตระกูลผู้ดีอย่างไรอย่างนั้น หลินเป่ยเฉินต้องปฏิเสธเสียงแข็ง พวกนางถึงล้มเลิกความคิดที่จะเปลื้องผ้าลงมาแช่น้ำกับเขา และเปลี่ยนการปฏิบัติมาเป็นเปลือยกายนวดเฟ้นหัวไหล่ทั้งสองข้างของเขาแทน
หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
“ทำไมยิ่งนวดยิ่งสยิววะเนี่ย?”
“แล้วฉันจะทำยังไงไม่ให้ความแตกว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีสาวๆ มาอาบน้ำให้นะ?”
“อดทนเข้าไว้ อดทนเข้าไว้”
“จะทนไม่ไหวแล้วโว้ย”
แต่สุดท้าย หลินเป่ยเฉินก็ต้องข่มใจทำสีหน้าเย็นชาต่อไป
ความจริง เขาไม่ได้อยากให้เด็กสาวเหล่านี้มานวดผ่อนคลายเลย แต่ที่อนุญาตให้เข้ามาได้ ก็เพราะไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของตนเองผิดเพี้ยนไปจากเดิม
หลินเป่ยเฉินคนเก่าเป็นทั้งอันธพาลและคนเสเพล คงเป็นเรื่องผิดสังเกตหากอยู่ดีๆ เขาจะมีนิสัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องสตรีอย่างนี้ อาจทำให้พ่อบ้านหวังสะดุดใจ ดีไม่ดีเกิดเรื่องรู้ไปถึงหูนักบวชจากวิหารเทพกระบี่มาตรวจสอบ แล้วความแตกว่าเขาเป็นวิญญาณที่ทะลุมิติมาจากต่างโลก ถึงตอนนั้น เขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร?
เพราะฉะนั้น การทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญต่อไป ก็คงเป็นเหตุผลที่เหมาะสมแล้วกระมัง?
หลังจากใช้แอป NetEase Cloud Music เพิ่มพลังการต่อสู้ เด็กหนุ่มก็รู้สึกหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด
การนอนแช่น้ำอุ่นช่วยฟื้นฟูพละกำลังได้ดีมาก
“เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”
หลินเป่ยเฉินโบกมือไล่
แล้วเด็กสาวทั้งสองก็ลุกขึ้นสวมใส่เสื้อผ้า โค้งคำนับเขา ก่อนก้าวออกไปจากห้องอาบน้ำ
หลินเป่ยเฉินนอนแช่น้ำอุ่นพลางคิดถึงเรื่องราวในชีวิตขณะนี้
งานประลองกระบี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขาตกใจอยู่ไม่หาย
ตอนที่ติงซานฉือชักกระบี่ออกมาสังหารผู้คน ชายชรากลับกลายเป็นคนละคนได้อย่างเหลือเชื่อ นั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้ซึ้งแล้วว่า โลกใบนี้กับโลกมนุษย์แตกต่างกันอย่างไร
ถ้าเขาไม่แข็งแกร่งมากพอ สักวันหนึ่งก็อาจถูกฆ่าตายได้เช่นกัน
อย่างเช่นวันนี้ หลินเป่ยเฉินเกือบเสียชีวิตภายใต้การโจมตีของไป๋ไห่ชินเสียแล้ว
แต่โชคดีที่หลิงเฉินยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา
แต่ครั้งหน้าล่ะ?
ไม่มีสิ่งใดรับประกันเลยว่าเขาจะโชคดีแบบนี้ตลอดไป
การอาศัยอยู่ในพื้นที่ของสถานศึกษา ทำให้หลินเป่ยเฉินหลงลืมไปว่าโลกใบนี้มีกฎหมายเหมือนโลกมนุษย์ แต่ความจริงแล้ว ทุกอย่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เด็กหนุ่มจึงไม่ลืมย้ำเตือนกับตนเองว่า นับจากคืนนี้เป็นต้นไป ถ้าเขาไม่ระมัดระวังตัวให้ดี ก็อาจต้องสิ้นชีวิตลงโดยไม่รู้ตัวได้ทุกเมื่อ
เพราะฉะนั้น เขาต้องแข็งแกร่งกว่านี้ให้ได้
ถึงอยากจะใช้ชีวิตอยู่ในความสงบและปลอดภัยก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องทำให้ตนเองมีฝีมือที่แข็งแกร่งกว่านี้ให้เร็วที่สุด
หลินเป่ยเฉินได้รับแรงบันดาลใจมาจากตอนที่ต่อสู้กับเฉาพั่วเถียน
ก่อนหน้านี้ เขาเคยยึดมั่นในหลักคิดที่ถูกสั่งสอนจากสถานศึกษากระบี่ที่สามว่า ลูกศิษย์ทุกคนจะสามารถแข็งแกร่งได้ตามการสั่งสอนของอาจารย์เท่านั้น ตราบใดที่หมั่นฝึกฝนการโคจรพลังลมปราณและทบทวนวิทยายุทธ์ที่ร่ำเรียนอย่างต่อเนื่อง
แต่บัดนี้ หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่าในฐานะที่เขาทะลุมิติมาจากต่างโลก คงจะใช้ความคิดเดิมไม่ได้อีกแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เขาต้องหาวิธีการฝึกวิชาด้วยแนวทางที่เหมาะสมกับตนเองต่างหาก
ตอนอยู่โลกมนุษย์ หลินเป่ยเฉินไม่มีความสามารถที่จะบู๊กับใครในโลกของความเป็นจริง
แต่ถ้าเป็นในโลกแห่งเกมแล้วล่ะก็…
ไม่มีใครสู้เขาได้แน่นอน
ก่อนเกิดเหตุทะลุมิติมาที่โลกใบนี้ หลินเป่ยเฉินเป็นพวกที่ชอบขังตัวเองอยู่ในห้อง หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกม
เขาสามารถเล่นเกมออนไลน์ชื่อดังทั้งหลายแหล่ได้อย่างชำนาญหาตัวจับยาก
รวมถึงสามเกมชื่อดังอย่าง Dota The King of Glory หรือ League of Legends หลินเป่ยเฉินก็เล่นจนชำนาญหมดแล้วทั้งสิ้น
แต่ทั้ง 3 เกมที่กล่าวถึง ผู้เล่นจำเป็นต้องมีความเข้าใจต่อทักษะของตัวละครเป็นอย่างสูง โดยตัวละครแต่ละตัวจะมีความพิเศษแตกต่างกันไป มีอาวุธที่แตกต่างกันไป มีทักษะที่แตกต่างกันไป ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ต่างก็เป็นองค์ประกอบที่ดึงดูดผู้เล่นทุกคนให้เข้ามาใช้งาน
โดยเฉพาะทักษะประจำตัว
ทั้งสามเกมนี้มีตัวละครรวมกันหลายร้อยตัว แต่ละตัวต่างก็มีทักษะความสามารถไม่เหมือนกัน
เช่นเดียวกับบรรดาจอมยุทธ์ในโลกใบนี้ ที่แต่ละคนต่างก็มีวิชาตามความถนัดแตกต่างกันไป
เมื่อลองวิเคราะห์ดูให้ดี ไม่ว่าจะฝึกฝนวิชาที่แตกต่างกันแค่ไหน แต่โดยรวมแล้วจะมีปัจจัยที่เหมือนกันอยู่ 5 อย่างคือ : การเคลื่อนไหว การโจมตี การป้องกัน การรักษา และการควบคุม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากตัวละครในเกมมีปัจจัยทั้ง 5 นี้ครบถ้วนในตัวเดียว ก็จะกลายเป็นตัวละครที่น่ากลัว สามารถทำให้การต่อสู้ในเกมขาดสมดุลได้ทันที
แล้วถ้ามือกระบี่มีองค์ประกอบเหล่านี้ครบถ้วนล่ะ?
จะนับเป็นคนที่น่ากลัวเหมือนในเกมด้วยหรือไม่?
หลินเป่ยเฉินลองทบทวนความคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน นึกถึงเหตุการณ์ที่เขาสามารถเอาชนะเฉาพั่วเถียนได้ในค่ำคืนนี้ จึงพบว่ามันเป็นกลวิธีที่เขาปรับเปลี่ยนมาจากการเล่นเกมแทบทั้งหมด
เริ่มแรก หลินเป่ยเฉินใช้งานแอป NetEase Cloud Music เพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้ จากนั้นจึงโจมตีด้วยวิชาพลังจิตมังกรคำรณ ต่อด้วยการสร้างภาพโฮโลแกรมหลอกลวงคู่ต่อสู้ให้หลงทิศทาง สุดท้าย เขาก็โจมตีด้วยกระบวนท่าสูงสุดของวิชากระบี่สายน้ำไหล จนทำให้เฉาพั่วเถียนต้องพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพลังต่อสู้ การหลอกล่อคู่แข่ง และการโจมตีทีเผลอ ต่างก็เป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยดีในเกมออนไลน์
ถือเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
เพื่อความสำเร็จ หลินเป่ยเฉินจำเป็นต้องทุ่มเทความพยายามและเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าแผนการที่ตนเองวางมาตลอด มันก็เป็นเช่นเดียวกับกลยุทธ์ที่เขาเคยใช้ตอนเล่นเกมออนไลน์ไม่มีผิด
มันทำให้เขาสามารถเอาชนะเฉาพั่วเถียนได้ในที่สุด
นับเป็นความสำเร็จก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่
เป็นข้อพิสูจน์ที่ว่ากลยุทธ์ในเกมออนไลน์ของหลินเป่ยเฉินสามารถใช้งานได้จริง
เด็กหนุ่มกำลังนึกทบทวนดูว่าในโทรศัพท์มือถือของเขามีแอปวิชาอะไรอยู่บ้าง
เขาจำเป็นต้องมีมีฝีมือกระบี่ที่แข็งแกร่ง
เขาจำเป็นต้องมีทักษะการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม
เขาจำเป็นต้องมีพลังจิตไว้ใช้โจมตีคู่ต่อสู้ในเวลาคับขัน
เขาจำเป็นต้องมีสิ่งที่ช่วยใช้รักษาเวลาบาดเจ็บ
เขาจำเป็นต้องมีทักษะการป้องกันตัวเองดีเลิศ
ทั้งหมดนี้คือ 5 องค์ประกอบสำคัญ
วิชากระบี่ที่หลินเป่ยเฉินสามารถใช้งานได้ในขณะนี้ ประกอบไปด้วยวิชากระบี่สายน้ำไหล วิชากระบี่ทะลวงจันทร์ที่ได้รับเป็นของรางวัลจากสถานศึกษา รวมถึงคัมภีร์กระบี่รักนิรันดร์ที่อาจารย์ใหญ่ให้มาเป็นการส่วนตัว
ในจำนวนทั้ง 3 วิชานี้ ตัดวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ทิ้งไปได้เลย
ส่วนอีกสองวิชาที่เหลือต่างก็เป็นเพียงคัมภีร์ระดับ 2 ดาว พลังในการโจมตียังจำกัด
ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจำเป็นต้องหาคัมภีร์กระบี่ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่านี้มาฝึกฝน
เรื่องทักษะการเคลื่อนไหว เขาสามารถใช้วิชาตัวเบาอย่างวิหคดั้นเมฆและย่องหาโฉมสะคราญได้อย่างดีเลิศ วิชาแรกเอาไว้ใช้เคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว และสามารถหลบหนีการโจมตีระหว่างต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนวิชาที่สองมีไว้สำหรับช่วยเหลือบุคคลอื่นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซ้ำยังสามารถดัดแปลงสำหรับการลอบโจมตีได้อีกด้วย
หากแต่เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีความเก่งกาจอย่างไป๋ไห่ชิน เด็กหนุ่มก็ไม่มีเวลาให้คิดหนีด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น แทนที่จะฝึกวิชาตัวเบาเพื่อเอาไว้หลบหนี หลินเป่ยเฉินคิดว่าตนเองควรหาอะไรที่สามารถป้องกันการโจมตี จากผู้มีพลังขั้นยอดปรมาจารย์ติดตัวเอาไว้บ้างจะดีกว่า
ส่วนวิชาที่ใช้พลังจิตอย่างวิชามังกรคำรณ เขาก็ยังฝึกฝนได้ไม่ถึงไหน
ในด้านความสามารถรักษาอาการบาดเจ็บ วิชากระบี่เร้นกายจะนับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้หรือไม่?
แต่วิชาที่เป็นทักษะการป้องกันตัว…หลินเป่ยเฉินพบว่าตนเองไม่มีเลยสักวิชาเดียว
เด็กหนุ่มนึกทบทวนถึงข้อดีและข้อเสียอยู่ในใจ จากนั้น สมองของเขาก็สว่างไสวด้วยความรื่นรมย์
“ถ้าเรามีองค์ประกอบทั้ง 5 อย่างนี้ครบถ้วน ก็คงกลายเป็นเซียนกระบี่ไร้เทียมทานตัวจริงแน่ๆ”
“ฮ่าๆ พวกอาจารย์จะต้องไม่เคยเห็นลูกศิษย์ที่เก่งเกินมนุษย์แบบเรามาก่อน”
แต่จากสภาพในตอนนี้ หลินเป่ยเฉินยังห่างไกลความเป็นผู้ที่มีองค์ประกอบทั้งห้าครบถ้วนอยู่อีกมาก
ดังนั้น เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นว่า
“เราจะต้องขยันให้มากกว่านี้”
“เราจะต้องอดทนให้มากกว่านี้”
ประสบการณ์จากสมรภูมิออนไลน์สอนให้เขารู้ว่า ถ้าใครสักคนมีความพยายามและความอดทนมากพอ ก็จะสามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นคง และไม่ว่าจะอยู่ในเกมออนไลน์เกมไหนก็ตาม หากใช้วิธีที่ว่ามา คนที่ใช้ก็มักจะมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างยืนยาวเสมอ