บทที่ 13 หลินเป่ยเฉินนี่ช่างหล่อเหลาเอาการจริง ๆ
ในห้อง 9 นั้น มีศิษย์ประมาณ 5 คนที่เก่งกล้ามากพอจะต่อกรกับฝีมือกระบี่ของหลินเป่ยเฉินได้ และศิษย์ทั้ง 5 คนนั้นก็ได้แก่ อินอี้ เฉิงขู่ เชวียเยว่ และ หลินเสวี่ยอิ๋นเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ นอกจากนั้น ไม่มีใครสู้เขาได้แม้แต่คนเดียว
นั่นหมายความว่าเจ้าคนโหลยโท่ยประจำห้อง 9 ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน 6 ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดประจำห้องเรียนแล้วอย่างนั้นหรือ?
ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาเลยหรือเปล่านะ?
เมื่อมองไปยังหลินเป่ยเฉิน แววตาของเด็กสาวบางคนในห้อง ก็เริ่มวิบวับขึ้นมาอย่างประหลาด
พอเจ้าแกะดำนี่แข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย…ดู ๆ ไปก็มีเสน่ห์ใช่ย่อยนะเนี่ย
เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ก้าวขึ้นสู่สังเวียนผู้กล้า หลังสูญเสียครอบครัวและเกียรติยศไปหมดสิ้น ช่างแสนจะทรงพลังเกินเอ่ยคำใด ไม่เพียงเท่านั้น แต่มันยังทำให้หัวใจของสาว ๆ อ่อนปวกเปียกไปด้วยความเห็นใจและเสน่หาอย่างน่าประหลาด และเมื่อรู้ตัวอีกที ความรู้สึกเหล่านั้นก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นบางอย่างที่คาดไม่ถึงเสียแล้วสิ
แต่แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันก็ขึ้นอยู่กับหน้าตาด้วย
ที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลินเป่ยเฉินนั้นมีหน้าตาเป็นทุนทรัพย์อยู่แล้ว
แต่หลังจากที่เขาได้เข้ามาสู่สถานศึกษาแห่งนี้ด้วยภาพจำของเจ้าคนไม่เอาไหน ซึ่งพ่วงมากับปัญหาทางด้านสมอง แถมยังเป็นคนละโมบและชอบรังแกผู้อื่นเป็นว่าเล่น ผนวกกับอีกสารพันความเลวทราม ใบหน้าอันหล่อเหลาของหลินเป่ยเฉินก็ไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป
แต่กระนั้น ที่ผ่านมาก็ถึงกับมีเหล่าคนช่างสอดจำนวนไม่น้อย ให้คะแนนรูปลักษณ์ของหลินเป่ยเฉินว่า เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่สุดในสถานศึกษาแห่งนี้ แถมยังบอกว่าเจ้าแกะดำคนนี้น่ะ อาจเป็นคนที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่สถานศึกษานี้จะเคยมีมาในรอบ 50 ปีเลยก็ว่าได้
แต่การกระทำของหลินเป่ยเฉิน ทำให้ความนิยมของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว
แม้แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาราวรูปปั้นแกะสลัก ก็ไม่สามารถกลบชื่อเสียงในทางไม่ดีของเขาได้
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
สาว ๆ บางคนจินตนาการไปถึงภาพของคนเลวผู้กลับใจ ตัววายร้ายที่กลับกลายเป็นสุภาพบุรุษ
แต่หลินเป่ยเฉินไม่ได้สังเกตถึงแววตาคนรอบ ๆ ตัวเลยแม้แต่น้อย
สิ่งเดียวที่เขาสนใจในตอนนี้ คือไอ้เจ้าไอคอนของแอปพลิเคชันใหม่นี่ต่างหาก
มันเป็นรูปอวตารของตัวการ์ตูนในท่านั่งขัดสมาธิ
และมันมีตัวอักษรระบุด้านใต้อย่างชัดเจนว่า พื้นฐานการหลอมรวมพลังลมปราณระดับกลาง
เขาคิดถูกจริง ๆ ด้วย
หลินเป่ยเฉินเดาถูกทั้งหมด
ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่า หากเขาอัดวิดีโอบทเรียนที่อาจารย์สอนลงในโทรศัพท์ เจ้าโทรศัพท์นี่ก็จะทำการแปรสภาพของวิดีโอให้มาอยู่ในรูปแบบแอปพลิเคชันด้วยพลังวิเศษบางอย่าง ก่อนที่จะปรากฏให้ดาวน์โหลดในแอปสโตร์
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ …”
“เรานี่นอกจากจะหล่อแล้วก็ยังฉลาดซะไม่มี!”
ริมฝีปากของหลินเป่ยเฉินกระตุกเป็นรอยยิ้มดีอกดีใจ
เด็กหนุ่มไม่ลังเลเลยก่อนจะกดเข้าไปยังไอคอนใหม่นั่น
ตั้งแต่ที่ใช้แอปพลิเคชันเพื่อฝึกฝนพลังลมปราณ และยกระดับพลังยุทธ์ของตนเองขึ้นสู่ขั้นที่ 3 จนสามารถใช้กระบวนท่ากระบี่สามพิฆาตได้อย่างคล่องแคล่วนั้น หลินเป่ยเฉินก็มั่นใจสุดตัวว่าเขาจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ในการสอบกลางภาคได้อย่างแน่นอน และนั่นหมายความว่าเมื่อได้เลื่อนชั้นสู่ชั้นเรียนปีถัดไป เขาก็จะยังสามารถอาศัยอยู่ในสถานศึกษานี้ต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา
กล่องข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาอีกครั้ง “การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้ต้องการพื้นที่ 100 MB คุณเหลือพื้นที่จัดเก็บ 200 MB ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”
เอ๋?
การจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน พื้นฐานการหลอมรวมพลังลมปราณระดับกลาง ใช้เนื้อที่เพียงแค่ 100 MB เองเหรอ?
นั่นมันน้อยกว่าตอนโหลดแอปพลิเคชัน กระบวนท่ากระบี่สามพิฆาต อีกนี่นา
หมายความว่ายังไงกันนะ
ในระบบของโทรศัพท์เครื่องนี้…การฝึกฝนกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาตสามารถทำได้ยากกว่าการฝึกพื้นฐานการหลอมรวมพลังลมปราณระดับกลางอย่างนั้นหรือ?
แต่แล้วหลินเป่ยเฉินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อคืนนี้เขามีเนื้อที่จัดเก็บ 254 MB ในขณะที่วันนี้มีเพียง 200 MB นั่นทำให้เขาเข้าใจทุกอย่างได้ง่ายขึ้น
พื้นที่จัดเก็บขึ้นอยู่กับพลังลมปราณที่ถ่ายทอดเข้าไปในแต่ละวัน
เมื่อวานนี้ การดาวน์โหลดแอปกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาตนั้นใช้พื้นที่หรือพลังงานแทบจะหมดตัว แถมเขายังไม่เคยฝึกหลอมรวมพลังลมปราณมาก่อน แต่เพียงข้ามคืน กระบวนการในร่างกายของเขาก็ได้สร้างพลังงานขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ในวันนี้ พื้นที่จัดเก็บหรือพลังงานในร่างกายเขา จึงมีถึง 200 MB ซึ่งถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง
หลินเป่ยเฉินกด “ตกลง”
เพียงชั่วอึดใจต่อมา ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง
พลังลมปราณในร่างกายหลั่งไหลเข้าสู่โทรศัพท์ไม่หยุดหย่อน ทำให้หลินเป่ยเฉินหน้ามืดราวกับถูกรีดเลือดออกมาตลอดเวลา
ความรู้สึกอ่อนแอกลับมาอีกครั้งอย่างที่คาดไว้
แถบแสดงสถานะการดาวน์โหลดปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
เพียงไม่กี่นาทีต่อมา เสียง ‘ติ๊ง’ ก็ดังขึ้น
แอปพลิเคชันดาวน์โหลดเสร็จสิ้น
เริ่มต้นการติดตั้ง
และไม่นานเกินรอ การติดตั้งก็เสร็จสมบูรณ์
หลินเป่ยเฉินกดออกจากแอปสโตร์และพบว่าไอคอนของแอปพลิเคชันใหม่ได้ขึ้นมาอยู่บนหน้าจอหลักของเขาเป็นที่เรียบร้อย
แอปพลิเคชันใหม่นี้อยู่ข้าง ๆ กับไอคอนของแอปพลิเคชันกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาต
หลินเป่ยเฉินกดเข้าไปโดยไม่ลังเล
ภาพวาดด้วยหมึกและกราฟิกพื้นหญ้าสีเขียวปรากฏขึ้น แสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันนี้กำลังทำงานอยู่
และแน่นอนว่าตัวอวตารที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นหญ้านั้นหน้าตาเหมือนตนเองไม่มีผิดอย่างที่เขาคาดไว้ เพียงแต่ร่างอวตารนั้นไม่ได้ดูเป็นร่างเนื้อแต่อย่างใด หากแต่มันมีเส้นสีขาวโยงใยไปทั่วร่างอวตาร ไล่จากหน้าท้องไปยังอก จากอกแตกแขนงไปยังแขนขา และวกกลับมายังหน้าท้องอีกครั้ง
“นี่มัน..”
หลินเป่ยเฉินเข้าใจได้ในทันที
นี่เป็นจุดกำเนิดของพลังลมปราณสินะ
ฟังก์ชันหลักของแอปพลิเคชันนี้ คือการฝึกโคจรพลังลมปราณในร่างกาย
และในขณะเดียวกัน หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกได้ถึงกระแสลมปราณไหลเวียนไปทั่วร่าง เป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้สักนิดเดียว
“อ้า…”
เด็กหนุ่มรู้สึกสบายตัวอย่างประหลาด ถึงกับส่งเสียงครางออกมาโดยไม่รู้ตัว
มันช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดและยากจะอธิบายด้วยภาษามนุษย์
แอปพลิเคชันในโทรศัพท์เริ่มเข้าสู่โหมดการฝึกฝน
หลินเป่ยเฉินหลับตาลงและแสร้งทำเป็นกำลังฝึกฝนอยู่เช่นกัน
หรืออันที่จริง จะว่าเขากำลังพยายามทำความเข้าใจเจ้าแอปนี้ก็คงไม่ผิดนัก
สำหรับในโลกจอมยุทธ์แห่งนี้ พลังลมปราณจะถือกำเนิดเกิดขึ้นจากมวลพลังงานชนิดหนึ่งที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ มวลพลังงานนั้นกระจายอยู่บนผืนโลก ระหว่างสรวงสวรรค์กับพื้นพสุธา เช่นเดียวกับอากาศที่แม้จะมองไม่เห็น แต่ก็ยังคงพัดพาและรักษาสมดุลของจักรวาลนี้
ช่างลึกลับและยากจะคาดเดา จึงเป็นเหตุผลที่มันถูกเรียกขานว่าพลังงานสสารปริศนา
สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ สามารถซึมซับพลังงานนี้ได้ผ่านการฝึกฝน
ไม่เพียงคอยเสริมพลังให้ร่างกาย หากแต่มันยังสามารถใช้โจมตีคู่ต่อสู้ได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการโคจรพลังลมปราณเพื่อต่อสู้ การสร้างม่านพลังขึ้นมาเพื่อป้องกันร่างกาย หรือแม้แต่การปรุงยา ล้วนต้องอาศัยพลังงานลึกลับนี้ทั้งสิ้น
และในตอนนั้นเอง ที่หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงความวิเศษของพลังลมปราณที่กระจายไปทั่วทุกอณูของร่างกาย
ความรู้สึกอบอุ่นถูกเติมเต็มไปทั้งร่างตั้งแต่ภายในออกมาจนถึงภายนอก ทั้งความอ่อนแอและความเหนื่อยล้าต่าง ๆ ล้วนถูกขจัดหายไปหมดสิ้น ร่างกายของเขานั้นรู้สึกดียิ่งกว่าได้ดื่มสุราใด ๆ บนโลกใบนี้
และในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เวลาหนึ่งชั่วยามก็ผ่านไป
ความรู้สึกของพลังงานที่หลั่งไหลอยู่ในตัวนั้นหายไปแล้ว แต่ความรู้สึกสบายกายยังคงอยู่
หลินเป่ยเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเดาว่าคงเป็นเพราะร่างกายของเขาปรับตัวเข้ากับพลังงานสสารปริศนานั่นได้แล้ว จึงทำให้มีแต่ความรู้สึกสบายตัวเท่านั้นเมื่อรีดเค้นมันออกมา
เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นก่อนจะปลดล็อกโทรศัพท์
และในเพียงแวบแรก สีหน้าของเขาก็สลดลงทันที
เพราะแบตเตอรี่ลดลงไปอีกแล้ว
ตอนนี้เหลือเพียง 6% เท่านั้น
หลินเป่ยเฉินรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“สวรรค์ทรงโปรด บอกด้วยเถิดว่าลูกช้างต้องทำยังไง ถึงจะชาร์จไอ้เจ้าโทรศัพท์เฮงซวยเครื่องนี้ได้เนี่ย”
เขามีลางสังหรณ์ว่าการชาร์จไอ้เจ้าโทรศัพท์เครื่องนี้ คงไม่ใช่วิธีปกติทั่วไปเป็นแน่
แต่น่าเสียดายที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี
หลินเป่ยเฉินคิดอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดแอปพลิเคชันกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาตลง
เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ก็เหลือเพียงแอปพลิเคชันการหลอมรวมพลังลมปราณระดับกลางที่ยังทำงานอยู่ และหลินเป่ยเฉินก็หวังว่า มันคงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ให้ลดลงช้ากว่าเดิมบ้างสักหน่อยก็ยังดี