บทที่ 175 เปิดเพลงสู้
โดนยาพิษตายกันหมดแล้วหรือ?
หลินเป่ยเฉินไม่อยากเชื่อ
หรือว่าจะเป็นยาพิษที่ผสมอยู่ในบ่อน้ำ?
หรือจะเป็นเพราะยาพิษที่โปรยเข้ามาจากประตูหน้าคฤหาสน์?
ว่าแต่ทำไมหัวหน้าใหญ่ถึงตายง่ายขนาดนี้เนี่ย?
ไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย
หลินเป่ยเฉินเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าไปดูสภาพศพใกล้ๆ
แล้วทันใดนั้น ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น
ศพของชายชราผมเทาผู้เป็นหัวหน้าใหญ่พลันลืมตาขึ้นมา เหมือนปีศาจร้ายฟื้นคืนจากความตาย ฝ่ามือของเขาส่องแสงสว่าง กระแทกพลังลมปราณใส่หน้าอกของหลินเป่ยเฉินเข้าเต็มแรง
ผลั่ก!
การโจมตีของฝ่ามือนี้รุนแรงมากพอที่จะทำให้หลินเป่ยเฉินร่างกายแหลกสลายอยู่ตรงนั้น
เด็กหนุ่มลอยกระเด็นมาไกลกว่า 15 วา กระแทกเข้ากับเสาหินข้างประตู ส่งผลให้อาคารทั้งหลังสั่นสะเทือนราวเกิดเหตุแผ่นดินไหว
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ผู้เป็นหัวหน้าใหญ่ของสมาคมนักล่าอสูรระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงหัวเราะก็ขาดหายไป
เนื่องจากว่าชายชรารับรู้ได้ถึงความผิดปกติ
หลินเป่ยเฉินที่ร่างกายแตกหักบิดเบี้ยวผิดรูปผิดร่างกลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลยสักหยดเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่ถูกฝ่ามือดับวิญญาณกระแทกเข้าไปเต็มรัก
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ชายชราผมเทาขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ที่แท้ก็แกล้งตายอย่างนั้นหรือ”
เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นที่ปากประตูทางเข้า
ทันใดนั้น ชายชราผมเทาก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นร่างของเด็กหนุ่มที่ควรเสียชีวิตไปแล้ว กลับเดินผ่านประตูหินเข้ามาหน้าตาเฉย
ถ้าไม่ใช่หลินเป่ยเฉิน แล้วจะเป็นใครไปได้อีก?
“ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ เป็นโจรชั่วยังไม่พอ ใจคอยังโหดร้ายอำมหิต ข้าเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการขนาดนี้ เจ้าก็ยังฆ่าได้ลงคอ…ไม่ทราบว่ามีคำพูดใดจะอธิบายหรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินคำรามด้วยความฉุนเฉียว
เขาระแวงเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้ หลินเป่ยเฉินจึงได้ใช้แอปสร้างภาพจำลอง 4 มิติขึ้นมา ฉายตัวตนจำลองของตัวเอง เดินเข้ามาในคฤหาสน์
โชคดีที่ชายชราผมเทาแกล้งตายอย่างที่เขาหวาดระแวงจริงๆ และด้วยความที่ต้องคอยกลั้นหายใจแกล้งเสียชีวิต ผู้เป็นหัวหน้าใหญ่ของสมาคมนักล่าอสูรจึงไม่ทันสังเกตว่า เด็กหนุ่มที่เดินเข้ามานั้น เป็นตัวปลอมที่ไม่มีชีวิตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
บัดนี้ ชายชรามีสีหน้าเยือกเย็นมากขึ้น
เขาหย่อนก้นกลับลงไปนั่งบนบัลลังก์หิน ดวงตาปรากฏความเข้มขรึมเกลียดชัง ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูผู้สังหารบิดาของตนเองก็ไม่ปาน “จอมโจรน้อย เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องมารังควานสมาคมนักล่าอสูรของข้าด้วย?”
เมื่อคืนนี้อุตส่าห์ส่งเฉินหวันเหนียนกลับไปได้แล้วแท้ๆ คิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นอยู่แล้วเชียว
ไม่นึกเลยว่าเพียงคืนต่อมาเท่านั้น สถานการณ์ทุกอย่างกลับเลวร้ายดิ่งลงเหว
ก่อนหน้านี้ ชายชราเห็นว่าศพลูกสมุนที่ตกตายไปทุกคน ล้วนมีสาเหตุการเสียชีวิตเพราะถูกพิษทั้งสิ้น มิหนำซ้ำ ผู้คนทั่วทั้งเมืองแห่งนี้ไม่มีใครรอดเงื้อมมือของยาพิษอันตรายไปได้สักคนเดียว นับเป็นเรื่องราวที่ย่ำแย่เกินแก้ไขอย่างแท้จริง
แม้แต่ตัวชายชราเองก็ถูกพิษเล่นงานเข้าเช่นกัน
ชายชราไม่รู้เลยว่าศัตรูที่เล่นงานกลุ่มคนของตนเองนั้นคือผู้ใด
เพียงคืนเดียว สมาคมนักล่าอสูรประจำชายแดนเหนือ ก็ถูกกวาดล้างแทบหมดสิ้น
หมายความว่าศัตรูย่อมมีความแข็งแกร่งและมีขุมกำลังจำนวนมาก
ถึงอยากหลบหนีก็คงหนีไม่รอดแล้ว
ดังนั้น ชายชราจึงตัดสินใจแกล้งตาย
ใครจะไปคิดเลยว่าสุดท้ายกลายเป็นฝ่ายเขาเองที่ถูกตลบหลัง
หลินเป่ยเฉินยืนอยู่ข้างประตูทางเข้าห้องสุดท้าย เตรียมพร้อมเผ่นหนีได้ทุกเมื่อหากเกิดสิ่งไม่ชอบมาพากล
“เจ้าเป็นคนแรกที่หลอกลวงผู้อาวุโสได้สำเร็จ”
เด็กหนุ่มตะโกนตอบกลับไปว่า “นี่เรียกว่าวิธีการแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน”
ชายชราผมเทาหัวเราะในลำคอ “คิดว่าระดับฝีมืออย่างเจ้า ดีพอที่จะใช้วิธีการตาต่อตาฟันต่อฟันกับผู้อาวุโสได้อย่างนั้นหรือ? หลังจากนี้ไป ผู้อาวุโสจะส่งลูกสมุนไปสืบสวนหาคนที่สนับสนุนเจ้าทั้งหมด ต่อให้เจ้าสำนึกเสียใจได้ตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว”
“พูดจาเหลวไหลไร้สาระ”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “รู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้าเป็นบอสที่ดูกากสุด ตั้งแต่ที่ข้าเคยเจอมาในชีวิตนี้เลย”
ชายชราผมเทามองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความไม่เข้าใจในสิ่งที่เด็กหนุ่มพูด
เขาไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มหมายถึงอะไร
แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
วูบ!
ทันใดนั้น ร่างของชายชราก็ทะยานขึ้นจากบัลลังก์หิน การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมาก เพียงพริบตาเดียว ก็มาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าหลินเป่ยเฉินแล้ว
ตัวคนยังมาไม่ถึง แต่พลังลมปราณมาถึงก่อนแล้ว
การโจมตีรุนแรงหนักหน่วงราวมังกรคลั่ง
หลินเป่ยเฉินใช้วิชาตัวเบาย่องหาโฉมสะคราญหลบหลีกการโจมตี
แต่ผู้เป็นหัวหน้าใหญ่ของสมาคมนักล่าอสูรมีความรวดเร็วมากเกินไป เมื่อเด็กหนุ่มทิ้งตัวกลับลงไปยืนบนพื้นห้อง ร่างของชายชราก็กลับมาปรากฏขึ้นข้างตัวเขาเหมือนวาร์ปได้อย่างไรอย่างนั้น และในจังหวะนั้นเอง ฝ่ามือของชายชราก็กระแทกเข้าใส่หัวไหล่ซ้ายของเด็กหนุ่มเต็มแรง
ผลั่ก!
หลินเป่ยเฉินลอยละลิ่วไปกระแทกกับกรอบประตูหินบานที่สาม
กร๊อบ
ได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังชัดเจน
กระดูกหัวไหล่ของเขาหักครึ่ง
ความเจ็บปวดแล่นพล่าน
“มีระดับพลังเพียงเท่านี้ คิดมาต่อสู้กับผู้อาวุโส นับว่าไม่เจียมตัวเลยจริงๆ” เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองสำเร็จลงด้วยดี ชายชราผมเทาก็คลี่ยิ้มออกมาด้วยความสะใจ
“คิดว่าแค่นี้จะทำอะไรข้าได้หรือไง”
หลินเป่ยเฉินใช้วงแหวนวารีรักษาตัวเองสองครั้ง อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มกัดฟันพูดขณะลุกขึ้นยืน “สุนัขเฒ่า วันนี้เจ้าจะต้องตายโดยไร้แผ่นดินกลบฝัง”
“เด็กน้อย จงลงนรกไปซะเถอะ…”
ชายชรามีสีหน้าเรียบเฉย ร่างกายเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว บุกเข้ามากระแทกฝามือใส่หลินเป่ยเฉินอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงคำรามด้วยความเดือดดาลว่า “วิชากระบี่สายน้ำไหล…จงตายไปบัดเดี๋ยวนี้”
ในเวลาเดียวกันนั้น เด็กหนุ่มก็ร่ายรำกระบวนท่ากระบี่สายน้ำไหลออกมา
นี่คือวิชากระบี่ขั้นสูงสุดที่เขาสามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน
ภาพมายาของคลื่นน้ำปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
เสียงคลื่นทะเลโหมกระหน่ำ
ครืน!
พลังลมปราณระเบิดตัวจากคมกระบี่
ปะทะเข้ากับพลังลมปราณจากฝ่ามือของชายชราผมเทา
แล้วหลินเป่ยเฉินก็ต้องมีอันลอยกระเด็นกลับไปกระแทกกับเสาหินอย่างรุนแรงอีกครั้ง
กระดูกสันหลังของเขาหักครึ่ง ร่างกายชาดิกปราศจากความรู้สึก
“ไอ้แก่นี่แม่งเก่งเหมือนกันนี่หว่า”
หลินเป่ยเฉินลอบคำรามอยู่ในใจ
เขาใช้วงแหวนวารีครอบคลุมตนเอง 3 ถึง 4 รอบ สุดท้ายเมื่อมีวงแหวนสีฟ้าลอยอยู่เหนือศีรษะ อาการบาดเจ็บทั้งมวลก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ชายชราฝ่ายตรงข้ามถึงกับต้องผงะถอยหลังไปสามก้าวโดยไม่รู้ตัว
“ฮึ ดูเหมือนว่าจอมโจรน้อยจะมีฝีมือไม่ใช่เล่นเหมือนกันสินะ”
ระหว่างที่ถอยหลังไปตั้งหลัก ชายชราก็ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า “ถึงจะถูกเราโจมตีเข้าไปหลายครั้ง แต่พลังลมปราณก็สามารถฟื้นฟูกลับขึ้นมาได้รวดเร็วมาก แสดงว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องมีฝีมือเเท้จริงน่ากลัวกว่าที่เขาแสดงออกมา…หรือว่าเขาจะเป็นทายาทจากตระกูลใหญ่ในตัวเมือง?”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลินเป่ยเฉินก็รักษาอาการบาดเจ็บให้ตนเองเสร็จเรียบร้อยพอดี
เมื่อเห็นพลังที่แท้จริงของฝ่ายตรงข้าม หลินเป่ยเฉินก็รู้แจ้งแก่ใจแล้วว่าหากไม่รีบหนีในตอนนี้ อีกไม่นานตนเองคงได้เสียชีวิตเป็นศพไร้ญาติอยู่ที่นี่แน่
ความคิดที่จะเอาชนะชายชราสลายหายวับไป
จังหวะนั้น เสียงดนตรีบรรเลงปลุกใจก็ดังก้องกระหึ่มในโถงทางเดิน
“ชีวิตเขาแสนเปลี่ยว เพียงผู้เดียวดาย สู้ไม่เคยรู้หน่าย ใจนั้นรักศักดิ์ศรี เขาผู้ทรนง เขาผู้ทรงความดี ฝ่าฟันผองไพรี กระบี่เพื่อนตาย…”
แอป NetEase Cloud Music กำลังเปิดเพลงในพื้นหลัง
หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่าเลือดลมในร่างกายเกิดความพุ่งพล่านขึ้นมาทันที พลังลมปราณไหลเวียนรุนแรง ในเวลาเดียวกันนั้น กำลังวังชาของเขาก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ พร้อมแล้วที่จะเข้าประจัญหน้ากับคู่ต่อสู้ เพื่อหาโอกาสให้ตนเองหลบหนี
“กระบวนท่ากระบี่สลายสายน้ำ!”
หลินเป่ยเฉินร้องคำรามเสียงดังสนั่น
มีดเจิ้งอี้อยู่ในมือซ้าย กระบี่โดรานอยู่ในมือขวา ตัวคนพุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนสุนัขบ้าตัวหนึ่ง
ชายชราผมเทาเห็นอากัปกิริยาที่เปลี่ยนแปลงไปของหลินเป่ยเฉิน พลันแววตาก็เป็นประกายอำมหิต จิตสังหารแผ่พุ่ง หมุนวนฝ่ามือโคจรพลัง ก่อนจะยิงลมปราณเข้าใส่เด็กหนุ่มด้วยความหนักหน่วงรุนแรง
มวลอากาศปั่นป่วน ลำแสงสีเหลืองเข้มพุ่งเข้ามาเหมือนดาวตก มวลพลังอันหนักหน่วงกระแทกเสาหินล้มต้องไปหลายต้น เศษฝุ่นร่วงกราวลงมาจากเพดาน ปกคลุมร่างของหลินเป่ยเฉินหมดสิ้น
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เด็กหนุ่มควงกระบี่และมีดทั้งสองมือรับการโจมตีเป็นพัลวัน
แต่สุดท้ายก็ต้องลอยกระเด็นกลับออกมาอยู่ดี
ระหว่างที่ลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศ หลินเป่ยเฉินก็ใช้วงแหวนวารีครอบคลุมลงมาที่ร่างกายของตนเอง 4 ครั้งซ้อน จนกระทั่งเหนือศีรษะมีวงแหวนสีฟ้าลอยอยู่ด้านบน อาการบาดเจ็บตามส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จางหายไป
ดังนั้น เมื่อลอยไปกระแทกกับกำแพงหินของห้องโถงใหญ่ดังโครม แทนที่จะรู้สึกเจ็บปวด เด็กหนุ่มกลับรู้สึกเพียงแสบๆ คันๆ เท่านั้น