เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 307 จุดเริ่มต้นของพายุใหญ่

บทที่ 307 จุดเริ่มต้นของพายุใหญ่

หลินเป่ยเฉินไม่อยากคิดอะไรมาก

เขาเดินเข้าไปในห้องรับแขกของตัวบ้านพัก ซึ่งก็ปรากฏว่าหวังจงได้จัดเตรียมโต๊ะอาหารรอต้อนรับเขาเรียบร้อยแล้ว

หลังได้ลองลิ้มชิมรสสุราประจำโลกจอมยุทธ์จากโรงเตี๊ยมเยว่เล่ยไปเมื่อวันก่อน หลินเป่ยเฉินก็หยุดดื่มสุราไม่ได้แล้ว

หวังจงรู้ดีเสมอว่าเขาชอบอะไรบ้าง

อากวงมองอาหารที่จัดเรียงอยู่บนโต๊ะพลางกลืนน้ำลายเอื๊อก

หลินเป่ยเฉินนั่งลงที่หัวโต๊ะและพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ขึ้นมานั่งกินด้วยกันสิ พวกเราคนกันเองทั้งนั้น จะเกรงใจกันไปทำไม”

อากวงส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ มันโยนกระดานชนวนในมือทิ้งไป และกระโดดขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ตัวที่ว่างทันที

สองสาวรับใช้ประกบข้างกายหลินเป่ยเฉินคอยดูแลเขาไม่ห่าง

คนหนึ่งเติมสุราลงในจอก

อีกคนตักอาหารตักน้ำซุป

ใบหน้ายิ้มแย้มพริ้มพราว ลมหายใจหอมหวล

หลินเป่ยเฉินซึมซับบรรยากาศเหล่านี้อย่างมีความสุข

อากวงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร

หวังจงยิ้มอย่างมีความสุข และรับประทานอาหารในอัตราความเร็วที่ไม่น้อยหน้าเจ้าหนูอากวง

“นายน้อยขอรับ บ่ายวันนี้พวกกงกงส่งข่าวมาว่ากระทรวงบริหารภายในของมณฑลเฟิงอวี่ ได้ส่งจดหมายแต่งตั้งหลินเจิ้นหนานให้เข้ารับตำแหน่งขุนนางนักรบแห่งสวรรค์ และครอบครองคฤหาสน์หลังเก่าของพวกเราแล้วขอรับ…”

พ่อบ้านชราสังเกตอยู่นานแล้วว่าคืนนี้หลินเป่ยเฉินอารมณ์ดีสุดขีด เขาถึงได้กล้าบอกข่าวนี้แก่ผู้เป็นนายน้อย

ตอนแรกหวังจงคิดว่านายน้อยจะต้องโกรธแค้นมาก

แต่ที่ไหนได้ หลินเป่ยเฉินกลับรับจอกสุราจากสาวรับใช้มาจิบอึกหนึ่ง ก่อนจะถามเหมือนไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ขอถามหน่อยสิว่าเจ้าหลินเจิ้นหนานอะไรนั่นเป็นใครมาจากไหน? เป็นน้องชายของท่านพ่อหรือ? ทำไมข้าถึงจำเขาไม่ได้เลย มิหนำซ้ำ ลูกชายเขายังมาทำตัวเป็นพี่น้องกับข้าอีก ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ”

ถามออกไปแล้ว หลินเป่ยเฉินถึงได้รู้ตัวว่าพลาด

ฉิบหายแล้ว

เขาถามคำถามแบบนี้ออกไปได้อย่างไร?

ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์หวังจงมีหวังได้สงสัยเขาแน่ๆ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็พิสูจน์แล้วว่าเด็กหนุ่มคิดมากเกินไป

หวังจงอธิบายเหมือนไม่มีสิ่งใดผิดปกติ “นายน้อยไม่ค่อยสนใจเรื่องราวเหล่านี้อยู่แล้ว จะจำเขาไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คือว่าเรื่องมันยาวน่ะขอรับ…”

สีหน้าของหวังจงเต็มไปด้วยความหดหู่ใจที่หาได้ยากยิ่ง

เขายกจอกสุราขึ้นดื่มและพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “หลินเจิ้นหนานผู้นั้นมันจะมีอะไรมาเป็นน้องชายของบิดาท่านขอรับ มันเป็นเพียงขุนนางชั้นต่ำคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถอันใดพิเศษโดดเด่น ผู้คนมากมายล้วนแล้วแต่ดูถูก เปรียบเทียบกับนายท่านแล้ว เรียกว่าอยู่กันคนละโลกก็ว่าได้ขอรับ…”

“ถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้องกัน แล้วเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่?” หลินเป่ยเฉินขัดขึ้นด้วยความสงสัย เขาขี้เกียจฟังเรื่องราวซุบซิบนินทาที่ไม่มีประโยชน์

หวังจงดื่มสุราอีกหนึ่งจอกเต็มๆ ก่อนกล่าวว่า “ที่มันมาอยู่ในตระกูลหลินของพวกเราได้ ก็เป็นเพราะหลินเจิ้นหนานแต่งงานกับน้องสาวบุญธรรมของนายท่านขอรับ ก่อนหน้านี้ หลินเจิ้นหนานไม่ได้มีแซ่หลินด้วยซ้ำ มันเพิ่งจะมาเปลี่ยนชื่อเป็นหลินเจิ้นหนานในตอนหลังนี่เอง ฟังดูว่ามันมีความสนิทสนมกับนายท่านมาก นายท่านก็เลยยกน้องสาวบุญธรรมให้กับมัน และนั่นก็ทำให้หลินเจิ้นหนานได้กลายเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งของตระกูลหลิน ต่อให้มันจะไร้ยางอายและไร้ความสามารถขนาดไหน ข้าก็ยังต้องยอมที่จะก้มหัวให้กับมัน”

หลินเป่ยเฉินได้รับฟังดังนั้นแล้ว ก็เข้าใจทันทีว่าหลินเจิ้นหนานมีทุกสิ่งทุกอย่างได้เพราะอาศัยเกาะน้องสาวบุญธรรมของบิดาเขานี่เอง

นับว่าไร้ยางอายจริงๆ

หวังจงเล่าต่อไป “ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับนายท่าน และจวนสกุลหลินของพวกเราถูกตรวจค้น ปรากฏว่าหลินเจิ้นหนานเป็นคนแรกที่หันหลังให้กับพวกเรา นอกจากไม่คอยปกป้องนายน้อยแล้ว มันยังพยายามใส่ร้ายป้ายสีนายท่านอีกหลายครั้ง เพียงเพราะหวังว่าจะหาทางรอดให้แก่ตนเอง สุดท้ายมันก็ใช้เส้นสายที่สั่งสมไว้ตลอดหลายสิบปี สามารถยึดครองตำแหน่งของนายท่านได้สำเร็จ… นับดูในโลกใบนี้ ยังจะมีใครไร้ยางอายมากไปกว่าหลินเจิ้นหนานอีกหรือ?”

หลินเป่ยเฉินเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

หลินเจิ้นหนานนับว่ามีความชั่วร้ายเหลือเกิน

“ว่าแต่ท่านพ่อข้ามีน้องสาวบุญธรรมตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หลินเป่ยเฉินถามออกมาอีกครั้ง

เมื่อถามไปแล้วเขาก็นึกเสียใจ

เขาถามคำถามที่ไม่น่าถามออกไปอีกแล้วสิ

แต่ดูเหมือนว่าหวังจงจะไม่ติดใจสงสัยอะไรเลย และยังคงรับหน้าที่อธิบายต่อ “เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้วขอรับ และนายท่านก็ไม่ค่อยได้เอ่ยถึงสักเท่าไหร่ นายน้อยไม่ทราบจึงไม่ใช่เรื่องแปลก น้องสาวบุญธรรมของนายท่านเป็นคนน่าสงสารมากขอรับ พี่ชายของนางเป็นนายทหารร่วมรบกับนายท่าน พวกเขามีความสนิทสนมกลมเกลียว ภายหลังนายทหารคนนั้นเสียชีวิต จึงได้ฝากฝังน้องสาวของตนเองให้นายท่านดูแล เมื่อนายท่านได้ประดับยศเป็นแม่ทัพใหญ่ นายท่านก็รับตัวหญิงสาวผู้นั้นมาเลี้ยงดูเป็นน้องสาวบุญธรรม…”

อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง

หลินเป่ยเฉินพูดว่า “แล้วน้องสาวบุญธรรมของพ่อข้าดวงตามืดบอดหรืออย่างไร ทำไมถึงได้ไปตกหลุมรักเศษเดนอย่างหลินเจิ้นหนานได้เล่า?”

หวังจงตอบเสียงเศร้า “อย่าไปโทษนางเลยขอรับ นางเป็นเพียงเด็กสาวใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง ต้องโทษหลินเจิ้นหนานผู้ชั่วร้ายมากเหลี่ยม เฮ้อ พูดไปแล้วหวังจงผู้ต่ำต้อย ก็น้อยใจในวาสนาของตนเองเหลือเกินขอรับ”

หลินเป่ยเฉินหันกลับมามองหน้าหวังจงด้วยแววตาประหลาดใจ

ทำไมฟังดูเหมือนตาแก่นี่จะมีความหลังกับน้องสาวบุญธรรมของพ่อเขาชอบกลนะ?

เด็กหนุ่มอยากจะฟังเรื่องเล่าต่อ แต่พ่อบ้านชราก็ไม่ยอมเปิดปากพูดอีกแล้ว

“นายน้อยขอรับ จวนตระกูลหลินของพวกเราเป็นสิ่งที่สืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ นายน้อยต้องหาทางทวงคืนมาให้ได้นะขอรับ จะปล่อยให้หลินเจิ้นหนานครอบครองอยู่แบบนี้ไม่ได้ มันไม่ได้มีสายเลือดตระกูลหลิน มันไม่ควรเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนั้น”

หวังจงเปลี่ยนเรื่องพูด

หลินเป่ยเฉินอยากจะปฏิเสธ

แต่โชคดีที่เขาตั้งสติได้เร็วมากพอ ต้องไม่ลืมสิว่าเขาเป็นทายาทตระกูลหลิน ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องราวเหล่านี้ หวังจงจะสงสัยเอาได้

“ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานข้าจะไล่หลินเจิ้นหนานออกไปจากจวนสกุลหลินของพวกเรา ข้าจะทำให้มันอาเจียนออกมาและบังคับให้มันนั่งกินอ้วกของตนเองให้พวกเรารับชม”

เด็กหนุ่มตบอกผางด้วยความเชื่อมั่น

อากวงที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารอยู่ด้านข้างหยุดชะงักทันที

แค่นึกภาพการรับประทานอ้วกตามที่เด็กหนุ่มบอก มันก็รู้สึกขยะแขยงอยากอาเจียนแล้ว

การรับประทานอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจบสิ้นลงในอีกครึ่งชั่วยามต่อมา

หลินเป่ยเฉินได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากคนรอบข้าง นั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากโลกแปลกหน้า และไม่ว่าชีวิตจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน แต่เมื่อได้กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว บ้านก็คือสถานที่ที่สงบสุขที่สุดเสมอ

หลินเป่ยเฉินอาจจะต้องระงับจิตใจบ้างเมื่อมีสองสาวรับใช้คอยป้วนเปี้ยนอยู่ข้างกาย

เมื่อรับประทานอาหารค่ำเสร็จเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็กลับขึ้นไปนอนแช่น้ำอุ่นชำระล้างร่างกาย เมื่อกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็เผลอหลับไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

สิ่งที่เขาต้องทำก็ทำไปแล้ว สิ่งที่เขาติดหนี้บุญคุณผู้อื่น ก็สะสางไปครบแล้ว ความแค้นทั้งหมดที่แบกรับเอาไว้ ก็ล้างแค้นเรียบร้อยแล้ว…

เขาจัดการเรื่องราวทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยในการแข่งขันวันนี้

สิ่งเดียวที่ทำได้ในขณะนี้ก็คือพักผ่อนให้เต็มที่ นอนหลับให้เต็มอิ่ม ก่อนที่จะตื่นไปร่วมงานมอบรางวัลในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็ทวงถามคำสัญญาการเดิมพันชีวิตจากเฉาพั่วเถียน

บัดนี้ หลินเป่ยเฉินมีเงินทองอยู่มากมาย ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการชาร์จแบตโทรศัพท์อีกต่อไป ถ้าไม่นับว่ามีใครบางคนอยากจะสังหารเขา ชีวิตหลังจากนี้ก็น่าจะราบรื่นอยู่ภายใต้ความสงบสุข เขาจะกินดื่มและรอวันตายบนกองเงินกองทอง… ไม่ใช่สิ เขาควรหาเงินทองมาอัพเดทระบบโทรศัพท์ เพื่อหาทางกลับบ้านต่างหาก !!!

คืนนี้ หลินเป่ยเฉินนอนหลับฝันหวานมากที่สุดในชีวิต

ในความฝันของเขา หลินเป่ยเฉินได้เดินทางกลับโลกมนุษย์ ได้พบเจอพ่อแม่ ได้พบเจอญาติสนิทมิตรสหายและเพื่อนพ้อง ได้รับประทานอาหารที่อยากกิน ได้ดื่มน้ำอัดลมที่อยากดื่ม ได้รับชมภาพยนตร์ที่อยากดู ได้รับชมละครทีวีที่ติดงอมแงมต่อจากเดิม…

แต่เด็กหนุ่มคิดไม่ถึงเลยว่าทุกอย่างยังไม่จบ

และนี่ มันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพายุใหญ่เท่านั้นเอง !!!!

Related

เซียนกระบี่มาแล้ว

เซียนกระบี่มาแล้ว

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

Options

not work with dark mode
Reset