ตอนที่ 470 ขอทานที่แข็งแกร่งในหมู่ขอทาน
“เจ้าจงจำแผนที่นี้ให้ขึ้นใจ แล้วนำกับระเบิดของเจ้า ไปวางไว้ตามจุดที่ระบุไว้บนแผนที่ เจ้าคิดว่ากว่าจะวางกับระเบิดได้หมด ต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่?”
หลินเป่ยเฉินวาดแผนที่ซึ่งอ้างอิงมาจากตำแหน่งในแอปพลิเคชันไป่ตู้ แมปซึ่งเป็นพื้นที่โดยรอบวิหารประจำเมือง โดยจุดสีดำที่อยู่บนแผนที่นั้น เป็นตำแหน่งที่อากวงจะต้องไปอึทิ้งไว้เพื่อวางกับระเบิด
อากวงยกมือปาดเลือดกำเดาและก้มหน้ามองแผนที่ เมื่อมันคิดคำนวณดูอยู่สักครู่หนึ่ง ก็เขียนข้อความลงบนกระดานชนวนว่า “ต้องใช้เวลาประมาณ 3 วันขอรับนายท่าน”
3 วันเลยหรือ?
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วและคิดว่า 3 วันมันนานมากเกินไป
ดังนั้น เขาจึงหยิบหญ้าดาราน้อยที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งออกมาพูดว่า “แล้วถ้าเจ้าได้รับประทานสิ่งนี้ล่ะ?”
อากวงเบิกตาโต ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
นี่คือหญ้าวิเศษที่เพิ่มพลังให้กับมันในหลายๆ ด้าน
แม้ว่าหญ้าดาราน้อยในขณะนี้จะเหี่ยวแห้งไปแล้ว แต่สรรพคุณยามรับประทานเข้าไปยังคงอยู่ครบถ้วน ทันทีที่เจ้าหนูได้เห็นต้นหญ้าในมือของผู้เป็นเจ้านาย น้ำลายในปากของมันก็เริ่มไหลย้อย อากวงมีความคิดเพียงอย่างเดียวหลงเหลืออยู่ในหัวสมองว่า
“อยากกินจังเลยน้า”
ครืด ครืด ครืด
อากวงเขียนข้อความลงไปบนกระดานว่า “ครึ่งวันก็เสร็จแล้วขอรับ”
หลินเป่ยเฉินโยนหญ้าในมือให้สัตว์เลี้ยงของตนเองพร้อมกับกล่าวว่า “ดีมาก นี่คือของรางวัลของเจ้า”
อากวงกระโดดรับหญ้าดาราน้อยด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ในโลกนี้ไม่มีใครจะประเสริฐไปกว่านายท่านอีกแล้ว”
เจ้าหนูเขียนข้อความชื่นชมผู้เป็นเจ้านายด้วยความซื่อสัตย์
“รีบไปจัดการตามที่ข้าสั่งได้แล้ว”
หลินเป่ยเฉินเอื้อมมือออกไปขยี้หัวอากวง มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่โปรดจำไว้ว่าเจ้าต้องวางกับระเบิดไว้ให้ตรงกับจุดที่ระบุในแผนที่ ห้ามวางกับระเบิดผิดตำแหน่งเด็ดขาด มิฉะนั้นแล้ว ข้าจะจับเจ้ามาทำเป็นอาหารเย็นสำหรับรับประทานวันพรุ่งนี้”
“จี๊ด?”
อากวงได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้ายืนยันด้วยความหนักแน่น ว่ามันจะไม่มีทางวางกับระเบิดผิดตำแหน่งเด็ดขาด
เมื่ออดีตราชันหนูอสูรกลับออกไปจากห้องพักแล้ว หลินเป่ยเฉินก็ยืนอยู่ในห้องเพียงคนเดียวด้วยความเคว้งคว้าง
ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกลและเขายังไม่อยากนอน
หลินเป่ยเฉินนำโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูแอปพลิเคชัน Keep
หน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาแจ้งเตือนว่า…
‘อนุญาตให้สแกนร่างกายเพื่ออัพเดทข้อมูลหรือไม่?’
หลินเป่ยเฉินยกมือจับคางใช้ความคิดอยู่สักครู่ สุดท้ายก็กดตัวเลือก ‘ตกลง’
หลังจากนั้น แอปพลิเคชัน Keep ก็เริ่มทำการสแกนร่างกายของเด็กหนุ่มใหม่อีกครั้ง
อย่างที่แอปพลิเคชันสำหรับการออกกำลังกายควรจะทำ
ลำแสงสีแดงถูกยิงออกมาจากโทรศัพท์สแกนร่างกายของหลินเป่ยเฉินตั้งแต่หัวจรดเท้า
‘กำลังวิเคราะห์ข้อมูล’
หลอดพลังสีแดงปรากฏขึ้นในอากาศ
ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที หลอดพลังสีแดงก็สแกนข้อมูลเต็มร้อย
ผลการวิเคราะห์ปรากฏขึ้นเป็นหน้าต่างข้อความบนหน้าจอ
‘หลินเป่ยเฉิน อายุ 15 ปี… เพศชาย วัยรุ่น’
‘สูง 178 เซนติเมตร หนัก 70 กิโลกรัม… ยังสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้’
‘มวลไขมันในร่างกาย…’
‘ความดันโลหิต…’
‘ระดับน้ำตาลในเลือด…’
‘กระดูกทองแดง… เปราะบางยิ่งกว่ากิ่งไม้เน่าผุ’
‘ระดับพลังลมปราณ : ยอดปรมาจารย์ระดับ 1…เปรียบเสมือนจ่าฝูงของสุนัขข้างถนน’
‘พลังปราณธาตุ : เปลวไฟสีเงินบริสุทธิ์… ยังไม่สามารถควบคุมพลังได้เพราะความอ่อนหัด’
‘พลังในการต่อสู้ : ไม่พ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดในขอบเขตพลังเดียวกับตนเอง… เปรียบเสมือนขอทานที่แข็งแกร่งในหมู่ขอทานด้วยกัน’
‘ความมุ่งมั่นในการฝึกฝน : ห่วยแตก… ไม่สมควรมีระดับพลังสูงล้ำอย่างปัจจุบันนี้แม้แต่นิดเดียว’
‘เป้าหมายในการฝึกฝนต่อจากนี้ : สร้างความห่วยแตกให้น้อยล’ …บางทีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คือการทำตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง ไม่ต้องไปต่อสู้กับใครทั้งนั้น’
‘สรุปผลการประเมินเบื้องต้น : ต่ำต้อยยิ่งกว่าก้อนดินเหนียว… สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้จนถึงวันนี้ เป็นเพราะอาศัยใบหน้าที่หล่อเหลา และความสามารถของแอปพลิเคชัน Keep เพียงอย่างเดียวเท่านั้น’
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลร่างกายของหลินเป่ยเฉินถูกฉายออกมาอยู่ในอากาศเบื้องหน้าเขาเต็มๆ ตา
เด็กหนุ่มอ่านข้อความเหล่านั้นด้วยใบหน้าที่กระตุกอยู่ตลอดเวลา
วิเคราะห์ร่างกายไม่ว่า
แต่ทำไมจะต้องดูถูกกันด้วยเนี่ย?
หลินเป่ยเฉินลองอ่านผลการประเมินดูอีกครั้งและเทียบกับผลการประเมินร่างกายของเขาก่อนหน้านี้ จึงได้พบว่าตนเองมีการพัฒนาขึ้นพอสมควร อย่างน้อย เขาก็ได้เป็นจ่าฝูงของสุนัขข้างถนน และมีพลังการต่อสู้ในระดับขอทานที่แข็งแกร่งไม่แพ้ใครในหมู่ขอทานด้วยกันเอง…
เอ่อ…
นี่คงเรียกว่าการพัฒนาได้… ใช่ไหม?
ต้องใช่แน่ๆ
เห็นไหมล่ะ
เมื่อเราเปลี่ยนมุมมองเพียงนิดเดียว โลกนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น
“เฮ้อ ทำไมเราถึงได้ห่วยแตกแบบนี้นะ”
กับ
“ฮ่าฮ่า เรานี่มันห่วยแตกจริงๆ เลย”
เนื้อหาใจความแบบเดียวกัน แต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ต่างกัน แค่นี้ก็ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่ามากกว่าเดิมหลายเท่าแล้ว
บัดนี้ แอปพลิเคชัน Keep มีแผนสำหรับการฝึกฝนรูปแบบใหม่ให้หลินเป่ยเฉินได้ออกกำลังกาย เพราะแผนการรูปแบบเก่านั้น เด็กหนุ่มสามารถทำได้สำเร็จโดยไม่มีปัญหา และมันก็ทำให้เขาเลื่อนระดับพลังแบบก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในขอบเขตยอดปรมาจารย์ระดับ 1 ได้ในพริบตาเดียว ดังนั้นรูปแบบการออกกำลังกายต่อไปนี้ จึงดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีความเชื่องช้า แต่ว่ามั่นคง
…
ด้านนอกบ้านพัก
ยังคงมีพายุโหมกระหน่ำ
ด้านในบ้านพัก
หลินเป่ยเฉินกำลังนอนคว่ำหน้าวิดพื้นอยู่บนเตียงที่เป็นแผ่นไม้กระดาน
จังหวะการวิดพื้นของเขารวดเร็วมาก
“หนึ่ง สอง สาม สี่ หนึ่ง สอง สาม สี่ หนึ่ง สอง สาม สี่ อีกรอบนึง…”
เขาร้องตะโกนเสียงดังในขณะที่ออกกำลังกายไปด้วย
ในห้องพักจุดเทียนไขให้แสงสว่าง เทียนไขเล่มนี้มีกลิ่นหอมราวกับกลิ่นกำยาน
นักพรตหญิงชินไม่รู้เลยว่ามายืนอยู่หน้าประตูบ้านพักของเด็กหนุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อนางเห็นเงาของหลินเป่ยเฉินที่กำลังขยับขึ้นๆ ลงๆ อยู่บนเตียงนั้น สีหน้าของนักพรตหญิงชินก็แปรเปลี่ยนไปทันที ความโกรธเคืองปรากฏขึ้นในแววตาคู่งามนั้นเล็กน้อย แล้วหัวหน้านักบวชสาวก็หมุนตัวเดินหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
…
สายลมส่งเสียงหวีดหวิว
สายฝนยังคงตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง
บนภูเขาเสี่ยวซี สายฝนไหลรินลงสู่ลำธาร
ลำธารทุกสายมีน้ำท่วมทะลักล้น
ครืน!
ท้องฟ้าคำราม สายฟ้าแลบแปลบปลาบ
พื้นที่บริเวณเชิงเขามีน้ำท่วมสูง
สวนแตงโมถูกกลืนหายไปภายใต้กระแสน้ำ
เกิดเหตุดินโคลนถล่มพัดพาเอาต้นไม้ใบหญ้าเถาวัลย์วัชพืชและก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วน ทะลักทลายลงไปยังเหมืองหินที่เพิ่งจะถูกขุดขึ้นเมื่อวานนี้
นี่คือภัยธรรมชาติระดับรุนแรง ในพื้นที่นี้ไม่มีใครขอบเขตต่ำกว่าระดับยอดปรมาจารย์จะสามารถรั้งอยู่ได้อีกต่อไป