ตอนที่ 545 ท่านบอกว่าอยากสู้กับข้าสัก 300 ยกไม่ใช่หรือ?
แม้สีหน้าของชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนจะยังดูเป็นปกติ แต่หัวใจของพวกเขากำลังกระตุกวูบ
“แหะแหะ คุณชายหลินช่างมีอารมณ์ขัน”
เซียงต้าหลงพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
“คุณชายหลินขอรับ มารดาของข้าน้อยเสียชีวิตด้วยน้ำมือของพวกชาวทะเล ข้าน้อยเจิ้งเจินเจี้ยนแทบรอที่จะได้ถลกเนื้อเถือหนังพวกมันไม่ไหว แล้วข้าน้อยจะเป็นสายลับของพวกมันได้อย่างไร คุณชายได้โปรดอย่าเล่นมุกตลกเช่นนี้อีกเลย”
ชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งพูดออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ส่วนชายฉกรรจ์ที่มีใบหน้าอ้วนกลมได้แต่ยิ้มแย้มอย่างเขินอายและยกมือเกาศีรษะ เหมือนไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรดี
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูพวกท่านทำหน้าเข้าสิ ทำไมต้องตกใจถึงขนาดนั้นด้วย ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”
หลินเป่ยเฉินพลันหัวเราะออกมา
ให้ตายเถอะ
พิรุธเยอะเหลือเกิน
การสังหารชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนนี้ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่เรื่องยากคือการอธิบายกับคนอื่นๆ ต่างหาก
ก็จะให้เขาไปอธิบายได้อย่างไรว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนนี้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสายลับแฝงตัวมา เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นสาวกผู้ชื่นชอบหลินเป่ยเฉิน และหลินเป่ยเฉินจำเป็นต้องสังหารทิ้งไปเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
บัดนี้ หลินเป่ยเฉินรู้ดีว่าตนเองมีสถานะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองหยุนเมิ่ง และทุกคนก็พร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อเขาทั้งสิ้น หากหลินเป่ยเฉินฆ่าชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนนี้โดยไม่มีเหตุผล มันย่อมส่งผลกระทบต่อความศรัทธาในตัวชาวเมืองอย่างแน่นอน…
“หึหึ ข้าก็แค่ทดสอบพวกท่านทั้ง 3 คนเท่านั้น”
หลินเป่ยเฉินกลอกตาด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าวว่า “พวกท่านทั้ง 3 คนเป็นมือกระบี่ฝีมือดี เปรียบเสมือนหมู่มังกรในมวลมนุษย์ และความจริงแล้วนั้น เหตุผลที่ข้าเหลือพวกท่านทั้ง 3 คนเอาไว้ ก็เพราะข้ามีงานสำคัญอยากให้ทำ ก็ได้แต่หวังว่าพวกท่านคงไม่ปฏิเสธ เพราะพวกท่านต้องไม่ลืมว่าในกลุ่มคนนับพัน สุดท้ายข้าก็เลือกพวกท่านแค่ 3 คนเท่านั้น”
สีหน้าของชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนแสดงออกถึงความผ่อนคลายมากขึ้น
“คุณชายหลินได้โปรดออกคำสั่งมาได้เลย ไม่ว่าจะให้บุกน้ำลุยไฟไปที่แห่งหนใด ข้าน้อยฉินฉู่อี้ไม่มีทางปฏิเสธเด็ดขาด” ชายฉกรรจ์ใบหน้าอ้วนกลมที่ยกมือเกาหัวทำอะไรไม่ถูกอยู่เมื่อสักครู่นี้ พลันส่งเสียงพูดออกมาด้วยความจริงใจ
“ประเสริฐ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด”
หลินเป่ยเฉินไม่พูดอะไรมากความ ก็นำตัวชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนนั้นเดินลงจากภูเขาเสี่ยวซี และมุ่งหน้าตรงไปที่จวนผู้ว่าซึ่งอยู่ในตัวเมือง
“พวกเราจะไปทำอะไรกันหรือขอรับ คุณชาย?”
เซียงต้าหลงถามด้วยความสงสัย
หลินเป่ยเฉินตอบกลับมาเสียงเรียบ “เราจะไปลอบสังหารแม่ทัพฉลามอู๋หยากัน”
“เอ๋?”
“ว่าไงนะขอรับ?”
“นั่นมัน…”
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนแสดงสีหน้าตกตะลึงสุดขีด
พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าในสมองของหลินเป่ยเฉินกำลังคิดอะไรอยู่
ก็ไหนว่านัดประลองกันแล้วไม่ใช่หรือ?
อยู่ดีๆ ทำไมถึงได้คิดลงมือลอบสังหารเล่า?
“นี่ พวกท่านทำสีหน้าให้มันคึกคักหน่อยสิ” หลินเป่ยเฉินยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ “ข้าก็ไม่รู้หรอกว่าโอกาสที่เราจะชนะในการประลองมีมากเท่าไหร่ แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือตัวแทนของพวกชาวทะเลต้องมีฝีมือแข็งแกร่งกว่าพวกเราหลายเท่า ความห่างชั้นของระดับพลังมีมากเกินไป ดังนั้น พวกเรามีแต่ต้องลอบสังหารแม่ทัพฉลามอู๋หยาให้ได้ก่อนเท่านั้นจึงจะมีทางรอด ฮ่าฮ่าฮ่า”
“แต่ถ้าทำเช่นนั้น พวกชาวทะเลไม่โกรธแค้นเอาหรือขอรับ?”
เซียงต้าหลงถามกลับมา
ฉินฉู่อี้ขมวดคิ้วนิ่วหน้า พูดว่า “หากพวกชาวทะเลโกรธแค้นขึ้นมาเมื่อไหร่ เมืองนี้ทั้งเมืองคงถูกทำลายย่อยยับเป็นแน่แท้”
เจิ้งเจินเจี้ยนก็แสดงสีหน้าร้อนใจออกมาเช่นกัน
“ไม่เป็นไรหรอก”
หลินเป่ยเฉินพูดด้วยความมั่นใจ “อาจารย์ของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองคนใหม่เชียวนะ และภรรยาของเขาก็มีสถานะเป็นถึงองค์หญิงของพวกชาวทะเล ข้าจะบอกความลับให้ก็ได้ว่าการวางแผนสังหารครั้งนี้ เป็นความต้องการของอาจารย์ข้าเอง ส่วนการเผชิญหน้าเมื่อวันก่อน เป็นเพียงละครตบตาที่ทำให้พวกชาวทะเลตายใจเท่านั้น เพราะอาจารย์จะสามารถออกหน้าช่วยเหลือพวกเราได้สะดวกมากขึ้นหลังจากนี้ต่างหาก”
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนยิ่งมีสีหน้าตกตะลึงมากกว่าเดิม
ฉินฉู่อี้ยกมือเกาหัวพร้อมกับพูดว่า “แต่ได้ข่าวว่าอาจารย์ของท่านเป็นเพียงหุ่นเชิดขององค์หญิงแห่งท้องทะเลเท่านั้นนะขอรับ เป็นไปได้หรือที่นางจะยินยอมให้พวกเราเข้าไปลอบสังหารแม่ทัพคนสำคัญของนางเอง?”
“ท่านจะไปรู้อะไร”
หลินเป่ยเฉินตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงติดเหยียดหยามเล็กน้อย “นั่นก็เป็นการแสดงของอาจารย์ข้าเช่นกัน เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้น องค์หญิงแห่งท้องทะเลหลงรักอาจารย์ข้าหัวปักหัวปำ เมื่ออาจารย์ข้าสั่งให้นางไปทางซ้าย นางย่อมไม่กล้าไปทางขวา สั่งให้นางฆ่าสุนัข นางย่อมไม่มีทางฆ่าเป็ดไก่”
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนหันมองหน้ากันด้วยความเหลือเชื่อ
หลินเป่ยเฉินยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “บัดนี้ องค์หญิงแห่งท้องทะเลอยู่ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ข้าอย่างเบ็ดเสร็จ อย่าว่าแต่การลอบสังหารแม่ทัพฉลามอู๋หยาเลย ต่อให้สั่งให้นางเลิกนับถือเทพเจ้าแห่งท้องทะเล องค์หญิงก็พร้อมทำตามโดยไม่มีข้อแม้ ส่วนภาพลักษณ์ที่อาจารย์ข้ากำลังแสดงออกมาในขณะนี้ ก็เพื่อทำให้พวกชาวทะเลมันตายใจเท่านั้น”
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนมีสีหน้าเหมือนได้รับฟังเรื่องราวปาฏิหาริย์เรื่องหนึ่ง
นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้รับฟังความลับสำคัญ
แต่มันจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันแน่?
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนกำลังขบคิดอยู่ในใจ
“ไม่ทราบว่าคุณชายวางแผนไว้ว่าอย่างไรบ้างขอรับ?”
เจิ้งเจินเจี้ยนถามอกมาด้วยความระมัดระวัง
“แผนการนั้นเรียบง่ายมาก เราก็แค่จะแฝงตัวเข้าไปในจวนผู้ว่า พวกท่านต้องช่วยสร้างโอกาสให้กับข้า ข้าจะใช้วิชาฝ่ามือลำแสงพิฆาตระเบิดหัวของแม่ทัพฉลามอู๋หยา พูดแล้วก็จะหาว่าคุย วิชาฝ่ามือลำแสงพิฆาตนี้ ต่อให้เป็นผู้มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลาย ก็ยังต้องตายเพราะวิชานี้ของข้ามาแล้ว”
หลินเป่ยเฉินพูดด้วยน้ำเสียงคุยโว
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็นำแผนที่ออกมาหนึ่งฉบับ
“พวกท่านดูนี่ให้ดี นี่คือแผนที่ในจวนผู้ว่าที่อาจารย์ของข้าแอบส่งออกมาให้”
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนนั้นมองรายละเอียดของแผนที่ด้วยความตื่นตะลึง บนแผนที่มีระบุแม้แต่จำนวนหน่วยลาดตระเวนที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ รวมไปถึงโครงสร้างจำลองภายในอาคารทุกซอกมุม มีแม้กระทั่งค่ายอาคมและห้องลับที่คนนอกไม่มีทางล่วงรู้เด็ดขาด พินิจดูจากรายละเอียดบนแผนที่ฉบับนี้แล้ว มันย่อมไม่มีทางเป็นของปลอมเด็ดขาด
ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนเชื่อแล้วว่าสิ่งที่หลินเป่ยเฉินพูดออกมาเป็นความจริงทุกประการ
…
ภูเขาเสี่ยวซี
“นายท่านเจ้าคะ เมื่อสักครู่ ข้าเห็นคุณชายหลินนำตัวสายลับของชาวทะเลทั้ง 3 คน ออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปที่จวนผู้ว่าแล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวในชุดแดงหน้าตางดงามผู้หนึ่งวิ่งตรงมาทางทะเลสาบ ซึ่งหลิงไท่ซวีกำลังลงเล่นน้ำอยู่กับบรรดาคณะนางคณิกาที่พาขึ้นเขามาด้วย
“หืม?”
ชายชรายืดตัวขึ้นเผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกำยำ ใบหน้าหล่อเหลานั้นแสดงออกถึงความสงสัย “เจ้าเด็กนั่นรับประทานยาผิดสำแดงเข้าไปหรือไร?”
ผิวน้ำสาดกระจาย
หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมบางเบาผู้หนึ่งเดินหัวเราะคิกคักเข้ามาหาชายชราพร้อมกับพูดว่า “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว คุณชายหลินอาจจะจับพิรุธได้ว่าทั้ง 3 คนนั้นเป็นสายลับแฝงตัวมาก็ได้เจ้าค่ะ นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงมากเกินไป”
“อิอิ ใช่แล้วเจ้าค่ะ คุณชายหลินฉลาดกว่าที่นายท่านคิด นายท่านเคยพูดว่าคุณชายหลินไม่มีทางดูออกว่าทั้ง 3 คนนั้นเป็นสายลับแฝงตัวมาเหมือนกับที่นายท่านสามารถดูออกตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรก แต่ดูเหมือนว่าหลังจากสลบไปยาวนานในครั้งนี้ คุณชายหลินจะฉลาดขึ้นนะเจ้าคะ”
“สมแล้วที่คุณชายหลินจะเป็นทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งสุดยอดคนเสเพลประจำเมืองของนายท่าน”
“นี่ นายท่านเจ้าคะ เรากลับมาเล่นน้ำกันต่อเถอะเจ้าค่ะ”
บัดนี้ในทะเลสาบเต็มไปด้วยสาวงามกำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำนับจำนวนสิบคน ราวกับเป็นนางฟ้านางสวรรค์ก็ไม่ปาน
พวกนางทยอยเดินเข้ามาล้อมรอบกายชายชรา หยดน้ำไหลไปตามเรือนร่างขาวผ่องปราศจากราคี ความชุ่มฉ่ำของน้ำในทะเลสาบทำให้ผิวของพวกนางชุ่มชื่น เสื้อผ้าเนื้อบางเบาแนบติดกับลำตัว เผยให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้งชวนให้หัวใจจะวายตาย
หลิงไท่ซวีหยุดชะงักไปเล็กน้อย พูดว่า “โหยวเหนียง ไฉเว่ย เสี่ยวเจี๋ย พวกเจ้าทั้ง 3 คนอยู่ประจำการบนภูเขาเสี่ยวซี คอยสังเกตการณ์ทุกอย่างให้อยู่ในสายตา แต่ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์คับขันขึ้นจริงๆ ห้ามลงมือเข้าแทรกแซงเด็ดขาด ปล่อยให้พวกอาสาสมัครเหล่านั้นจัดการแก้ปัญหาด้วยตนเองซะ”
สาวงามทั้ง 3 คนก้มหัวรับคำสั่ง เดินขึ้นจากทะเลสาบ พวกนางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดเสื้อคลุมบางเบามาสวมใส่ชุดเกราะหนังและคาดกระบี่อยู่ที่ข้างเอว จากนางคณิกาไม่กี่ลมหายใจก่อน บัดนี้พวกนางกลายเป็นทหารหญิงที่ดูแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และเพียงอึดใจต่อมาเท่านั้น หญิงสาวทั้ง 3 คนนี้ก็หายตัวไปในป่าบนภูเขา
แสดงให้เห็นว่าระดับพลังของพวกนางไม่ต่ำต้อย
“ฮ่าฮ่า ส่วนพวกเจ้าคนที่เหลือ กลับบ้านก็ระวังตัวกันด้วยล่ะ”
หลิงไท่ซวีกระโดดขึ้นจากทะเลสาบและทิ้งตัวลงไปยืนอยู่บนริมฝั่ง พลังลมปราณแผ่ออกจากร่างกาย ส่งผลให้หยดน้ำที่เคยเกาะอยู่ตามลำตัวของเขาระเหยหายไปทันที
“ฮื่อ นายท่านไม่อยากเล่นน้ำแล้วหรือเจ้าคะ?”
“นั่นสิ ท่านบอกว่าอยากสู้กับข้าสัก 300 ยกไม่ใช่หรือ?”
หญิงสาวอีกนางหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่
หลิงไท่ซวีตอบว่า “เจ้าเด็กนั่นเล่นพาสายลับทั้ง 3 คนนั้นตรงไปที่จวนผู้ว่าเช่นนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย ก็เลยว่าจะแอบติดตามไปสังเกตการณ์ดูสักหน่อยน่ะ”