บทที่ 72 วิธีแก้ปัญหาที่ชาญฉลาด
ไม่มีใครอยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
เข็มกลัดดาราถึง 10 ชิ้น
ตลอดระยะเวลาเก้าวันที่ผ่านมาสำหรับศิษย์ส่วนใหญ่ ถึงแม้พวกเขาจะออกตามหาเข็มกลัดทั้งวันทั้งคืน ทว่าก็ยังคว้าน้ำเหลว
แต่หลินเป่ยเฉินกลับมีอยู่ในการครอบครองถึง 10 ชิ้น
ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายลงคอดังชัดเจน
เซินเฟยถึงกับยืนอึ้งตะลึงงัน
เขาต้องยกมือขยี้ตาตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นความจริง
ขณะนี้ แม้แต่หลิงเฉินก็มีสีหน้าเชื่อไม่ลงแล้วเช่นกัน
หลินเป่ยเฉินหัวเราะในลำคอ
“พวกเจ้าคิดว่าไงล่ะ?” เจ้าแกะดำพูดด้วยน้ำเสียงอวดดี “ขอรับรองว่าเข็มกลัดในมือข้าไม่ใช่ของปลอม และจากลำดับคะแนนในปัจจุบัน หากเจ้ามีเข็มกลัดสักชิ้น ย่อมรับประกันได้ว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปแน่นอน ไม่ทราบว่าถ้าข้าอยากจะจำหน่ายเข็มกลัดเหล่านี้ พวกเจ้าสนใจซื้อหรือไม่”
คำพูดของเขาเหมือนเม็ดเกลือที่ถูกโรยลงไปบนบาดแผลสดๆ
เหล่าศิษย์โดยรอบพากันส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที
หลินเป่ยเฉินจะขายเข็มกลัดเหล่านี้อย่างนั้นหรือ?
ถ้าสามารถซื้อหามาได้จริงๆ แล้วอย่างนั้นจะฆ่าฟันกันต่อไปเพื่ออะไร?
เถาว่านเฉิงเห็นแล้วว่าสถานการณ์เริ่มกลับตาลปัตร จึงรีบพูดเสียงเข้มว่า “พวกเจ้าอย่าได้ถูกล่อลวงเด็ดขาด ตราบใดที่เราเอาชนะได้ เข็มกลัดก็จะเป็นของเราอยู่ดี แถมยังไม่ต้องเสียเงินให้หลินเป่ยเฉินสักเหรียญเดียวด้วย…แล้วแบบนี้พวกเจ้าจะไปฟังที่มันพูดทำไม?”
ดวงตาของทุกคนเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง
จริงด้วยสินะ
การปล้นไม่จำเป็นต้องใช้เงิน
แล้วพวกเขาจะต้องเสียเงินไปทำไม?
แต่ในทันใดนั้น หลิงเฉินก็ขยับเท้ามายืนหยัดอยู่ข้างกายหลินเป่ยเฉิน
การกระทำของนางเพียงเล็กน้อย เป็นเสมือนน้ำเดือดจัดที่ราดลงไปบนกองหิมะ ความมุ่งมั่นที่จะปล้นชิงเข็มกลัดดาราจากหลินเป่ยเฉินของพวกเขาหายวับไปในทันที
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยระดับฝีมือของหลิงเฉิน จะมีใครสามารถแย่งชิงเข็มกลัดดารามาจากหลินเป่ยเฉินได้หรือ?
อย่าว่าแต่ฝีมือของนาง ลำพังฝีมือของหลินเป่ยเฉินเพียงคนเดียว แม้แต่เซินเฟยก็ยังต้องพ่ายแพ้มาแล้ว
“เข็มกลัดราคาเท่าไหร่?” เผิงอี้หมิงถามขึ้นเป็นคนแรก
หลินเป่ยเฉินตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ข้าจะจัดประมูลเข็มกลัดดาราด้วยราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 10 เหรียญทองคำ พวกเจ้าสามารถสู้ราคากันได้ตามสบาย”
เป็นไงล่ะพวก!
หลินเป่ยเฉินอดทนทำงานหนักตลอดเกือบสิบวัน
ในที่สุดก็ได้เวลาที่เขาจะตักตวงผลประโยชน์แล้ว
เข็มกลัดดารามีราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 10 เหรียญทองคำเองหรือ?
ทำไมราคาถูกถึงเพียงนี้?
เมื่อได้ยินราคา พวกเขาก็พากันฉีกยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ไม่เคยมีใครตัดสินใจขายเข็มกลัดดารามาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดประมูลด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 10 เหรียญทองคำ ดังนั้นเรื่องนี้จึงย่อมเป็นไปไม่ได้
นั่นเป็นเพราะว่าเข็มกลัดดาราไม่ได้มีไว้ขาย
เมื่อเห็นสีหน้าดีใจเป็นล้นพ้นของฝ่ายตรงข้าม หลินเป่ยเฉินก็ต้องลอบคร่ำครวญในใจว่า “แม่งเอ๊ย! ราคาถูกกว่านี้ก็ให้ฟรีแล้วแหละ ที่จริงฉันก็อยากจะโก่งราคาพวกนายเหมือนกันนะ ตอนแรกกะจะขายที่ชิ้นละ 100 เหรียญทองคำสักหน่อย แต่สถานการณ์ตอนนี้คงทำไม่ได้ ขืนตั้งราคาไว้สูงขนาดนั้น แทนที่จะช่วยกันประมูล พวกนายคงอยากฆ่าฉันหมกป่าเอาน่ะสิ”
เซินเฟย เถาว่านเฉิง และหลี่เทาต่างก็ทำอะไรไม่ถูกอีกแล้ว
การเปิดประมูลเข็มกลัดดารานับเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ชาญฉลาดมาก!
แม้แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่อยากจะเชื่อผลลัพธ์ที่ออกมาเหมือนกัน
แต่สิ่งที่พวกของเซินเฟยสงสัยอยู่ในใจก็คือ หลินเป่ยเฉินมีเข็มกลัดดาราอยู่ในการครอบครองกี่ชิ้นกันแน่?
เด็กหนุ่มทั้งสามหันสบตากัน และลงความเห็นว่าเข็มกลัดเหล่านี้จะต้องเป็นของหลิงเฉินแน่นอน เพียงแต่นางแอบมอบให้หลินเป่ยเฉินตอนที่ไม่มีใครรู้เท่านั้น
“ถุย!”
ช่างไร้ยางอายนัก!
เด็กหนุ่มทั้งสามยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้า แต่ในหัวใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมโลกถึงไม่ยุติธรรมเช่นนี้
“เพียงมีหน้าตาหล่อเหลาก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามต้องการแล้วหรือ?”
แม้แต่เจ้าหญิงเย็นชาอย่างหลิงเฉินก็ยังต้องยอมศิโรราบให้แก่หลินเป่ยเฉินแล้ว
“พี่เฟย เราจะทำยังไงกันดี?” เถาว่านเฉิงถามเสียงแผ่วเบา
เซินเฟยขมวดคิ้วตอบว่า “ดูสถานการณ์ไปก่อน เข็มกลัดดาราแค่ 10 ชิ้นเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก…ต่อให้มันประมูลเสร็จสิ้น ยังไงพวกเราก็ได้เข้ารอบต่อไปอยู่ดี”
หลี่เทาพูดแทรกขึ้นว่า “แต่แบบนี้เราก็ทำให้หลิงเฉินตกรอบไม่สำเร็จน่ะสิ”
เซินเฟยพยักหน้า “ถูกต้อง แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ พวกเจ้าสนใจแค่ระดับคะแนนก็พอ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรากำจัดหลิงเฉินออกไปไม่ได้ ก็เป็นเพราะมีหลินเป่ยเฉินเข้ามาแทรกแซง แต่อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเราล้มเหลวในครั้งนี้ ก็คือความผิดพลาดทางข้อมูลที่พวกเราไม่รู้ว่าหลิงเฉินสามารถใช้กระบี่ด้วยมือซ้ายได้น่ากลัวกว่ามือขวา แต่ตอนนี้พวกเรารู้แล้ว ในการแข่งขันรอบต่อไป ยังมีโอกาสอีกมากมายรอให้เราเล่นงานนางได้อีก”
เด็กหนุ่มสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือหนึ่งในจุดแข็งของเซินเฟย
เขาไม่ยอมให้ความล้มเหลวเพียงชั่วครั้งชั่วคราวมาบั่นทอนตัวเองเด็ดขาด
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกพี่ใหญ่ เถาว่านเฉิงกับหลี่เทาก็สงบจิตใจลงได้แล้ว
จังหวะเดียวกันนี้ หลินเป่ยเฉินก็เริ่มต้นเปิดการประมูลเข็มกลัดดาราอย่างเป็นทางการ
“เข็มกลัดชิ้นแรกจะถูกประมูลนับจากนี้ ราคาเปิดประมูลอยู่ที่ 10 เหรียญทองคำ ทุกคนสามารถเพิ่มราคาได้ตั้งแต่ 1 เหรียญทองคำเป็นต้นไป…”
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างขณะดีดเข็มกลัดในมือลอยขึ้นไปสะท้อนประกายแสงอาทิตย์ระยิบระยับ
“ข้ายินดีจ่าย 10 เหรียญทองคำ” เผิงอี้หมิงพูดเสียงดัง
“11 เหรียญ…”
“12 เหรียญ!”
“14 เหรียญ! ได้โปรดอย่าแข่งกับข้าเลยนะ” หลี่รุ่ยส่งเสียงออกมาเป็นคนสุดท้าย
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มลังเล เข็มกลัดชิ้นแรกจึงตกเป็นของหลี่รุ่ย อัจฉริยะจากสถานศึกษากระบี่ที่สอง ผู้อยู่ลำดับ 8 ในรายชื่อก่อนการแข่งขัน ด้วยราคา 14 เหรียญทองคำ
หลินเป่ยเฉินยิ้มเหมือนนายพรานที่เห็นสุนัขจิ้งจอกเข้ามาติดกับดัก
เมื่อจ่ายเงินแล้วถึงจะรับเข็มกลัดไปได้
หลังจากหลี่รุ่ยส่งมอบเหรียญทองคำทั้ง 14 เหรียญเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็มอบเข็มกลัดดาราให้เขาไปโดยดี
หลี่รุ่ยนำเข็มกลัดไปหักบิดตรวจสอบทุกซอกทุกมุม สุดท้ายก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างมีความสุข พูดว่า “เป็นเข็มกลัดของแท้จริงด้วย ขอบคุณเจ้ามากนะ หลินเป่ยเฉิน”
จากลำดับคะแนนในตอนนี้ มีเข็มกลัดเพียงชิ้นเดียว ก็สามารถส่งให้หลี่รุ่ยเข้าสู่รอบต่อไปได้แล้ว
เขาเข้ารอบได้ด้วยการจ่ายเงินเพียง 14 เหรียญทองคำเท่านั้น
ช่างคุ้มค่าเหลือเกิน
หลี่รุ่ยรู้สึกเหมือนตนเองสามารถตักตวงกำไรจากหลินเป่ยเฉินได้อย่างไรอย่างนั้น และมันก็ทำให้เขามองหลินเป่ยเฉินด้วยแววตาที่เป็นมิตรมากขึ้น
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะอยู่ในใจว่า “เฮอะ นายคิดว่าตัวเองกำลังตักตวงผลประโยชน์จากฉันอยู่ใช่ไหม? อีกไม่นานเดี๋ยวนายก็ต้องร้องไห้แล้ว”
หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็จัดการประมูลเข็มกลัดชิ้นที่สองต่อทันที “เข็มกลัดชิ้นต่อไป…”
“11 เหรียญทองคำ!”
“12 เหรียญ!”
“15 เหรียญ ข้ายอมจ่าย 15 เหรียญ!”
“17 เหรียญ…”
“20 เหรียญ เข็มกลัดชิ้นนี้ต้องเป็นของข้า” หวังซินอวี่จากสถานศึกษากระบี่ที่หนึ่งถึงกับต้องกรีดร้องออกมาแล้ว
ก่อนการแข่งขัน นางมีรายชื่ออยู่ในอันดับ 4 ถ้าไม่นับคนจากสถานศึกษากระบี่หลวง หวังซินอวี่ก็จะถือเป็นศิษย์ที่มีอันดับสูงสุด เด็กสาวจึงค่อนข้างภาคภูมิใจในตัวเอง การที่ต้องเข้าร่วมประมูลเข็มกลัดทองคำอย่างนี้ ย่อมหมายความว่าหวังซินอวี่หมดหนทางแล้วจริงๆ
“จัดไป”
หลินเป่ยเฉินรับเหรียญทองคำและส่งมอบเข็มกลัดดาราให้แก่เด็กสาวอัจฉริยะจากสถานศึกษากระบี่ที่หนึ่ง
เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่าเข็มกลัดนี้เป็นของแท้ หวังซินอวี่ก็ยิ้มหน้าบาน
หลินเป่ยเฉินกระแอมไอ กำลังจะเริ่มเปิดประมูลเข็มกลัดชิ้นต่อไป พลัน มู่ซินเยว่กลับส่งเสียงแทรกขึ้นว่า “หลินเป่ยเฉิน ขอบคุณเจ้ามากที่ยอมขายเข็มกลัดดาราพวกนี้ให้เรา แต่ข้าเกิดความสงสัย ไม่รู้ว่าควรถามออกไปดีหรือไม่”
“ไม่รู้ก็ไม่ต้องถาม” หลินเป่ยเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
มู่ซินเยว่ทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยินคำตอบของเขา “เราสามารถประมูลเข็มกลัดมาได้ก็จริง แต่ปัญหาคือที่นี่อยู่ห่างจากค่ายพักเกือบ 30 ลี้ เกิดระหว่างทางมีคนปล้นชิงเข็มกลัดไปจากเราจะทำอย่างไร? เช่นนั้นไม่กลายเป็นว่าพวกเราเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์หรือ”
นางตั้งใจส่งเสียงตะโกนเพื่อให้ได้ยินกันทุกคน
คำพูดของมู่ซินเยว่ทำให้พวกศิษย์คนอื่นๆ เกิดความลังเลใจขึ้นมาอีกครั้ง