ตอนที่ 703 ผลิตภัณฑ์ใหม่
“วันนี้นายท่านดูมีความสุขจังเลยนะเจ้าคะ”
เฉียนเหมยพูดระหว่างสวมใส่เสื้อคลุมให้หลินเป่ยเฉิน
“หา?”
หลินเป่ยเฉินหันกลับไปมองหน้า “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
สาวรับใช้ตอบกลับมาพลางหัวเราะคิกคัก “เพราะวันนี้นายท่านตื่นเช้าเจ้าค่ะ”
ใบหน้าของเด็กหนุ่มแข็งค้างอยู่อย่างนั้น
เฉียนเหมยพูดต่อ “ว่าแต่นายท่านเจ้าคะ เด็กสาวคนเมื่อคืนนี้เป็นใครกัน นางร้องครางเสียงดังมาก… งู๊ยยย”
หลินเป่ยเฉินอ้าปากเหวอด้วยความตกตะลึง
“เจ้าได้ยินด้วยหรือ?”
เขาพูดพร้อมกับรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
เฉียนเหมยพยักหน้ารัวๆ
นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่เฉียนเจินเดินเข้ามาพอดี นางลดเสียงลงเป็นกระซิบว่า “เสียงดังขนาดนั้น ข้าได้ยินเหมือนกันเจ้าค่ะ”
หลินเป่ยเฉินใบหน้ากระตุกด้วยความอับอาย
“เจ้าก็ได้ยินเหมือนกันหรือ?”
เขาพูดขณะที่รู้สึกผิดมากขึ้น
เฉียนเจินก้มหน้าตอบ “คำนวณจากระดับความดังของเสียงครางแล้ว น่าจะได้ยินไปทั่วทั้งค่ายที่พักเลยเจ้าค่ะ”
เฮ้ย
หลินเป่ยเฉินอยากเป็นลม
เป็นไปไม่ได้
กระโจมของเขามีค่ายอาคมกันเสียงเล็ดลอดออกไปภายนอก ด้านในก็ไม่ได้ติดตั้งลำโพงอยู่สักหน่อย จะได้ยินทั่วถึงกันขนาดนั้นได้อย่างไร
น่าอับอายขายหน้าเหลือเกิน
แล้วอย่างนี้เขาจะออกไปสู้หน้าผู้คนได้อย่างไร
หลินเป่ยเฉินรับประทานอาหารเช้าด้วยความวิตกกังวล แม้แต่เจ้าลูกหมาป่าน้อยก็ยังทำให้เขาอารมณ์ดีไม่ได้
แต่หลังจากลองคิดดูแล้ว เด็กหนุ่มก็พบว่าเป็นเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง
เดิมทีเขามีภาพลักษณ์เป็นเด็กหนุ่มจอมเสเพล แล้วจะต้องอายอะไรอีก?
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ
“เสี่ยวเอ้อร์ เสี่ยวซาน พวกเจ้าโตไวเกินไปแล้วนะ ข้าแทบหาของกินมาให้พวกเจ้าไม่ไหวแล้ว”
หลังจากสบายใจมากขึ้น หลินเป่ยเฉินก็หันกลับมาสนใจเจ้าลูกหมาป่าทั้งสอง ซึ่งในขณะนี้มีขนาดตัวเท่ากับม้าแกลบแล้ว เขาไม่ทราบเลยว่าพวกมันเติบโตรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร
โตเร็วจนผิดปกติ
มารดาของพวกมันที่ถูกปล่อยกลับเข้าป่านอกนครเจาฮุยก็ไม่ได้ตัวโตเช่นนี้สักหน่อย
สงสัยคงเป็นเพราะการกลายพันธุ์นั่นเอง
และปลาแห้งที่ให้รับประทานก่อนหน้านี้ก็น่าจะมีส่วนด้วยเช่นกัน
เมื่อคิดถึงปลาแห้ง หลินเป่ยเฉินก็ดาวน์โหลดปลาแห้งตัวใหม่ออกมาจากแอปไป่ตู้ เน็ตดิสก์ และพูดว่า “พวกเจ้าเก็บเอาไว้กินทีหลังบ้างนะ หรือถ้ากินเหลือ เอาไปแบ่งปันให้พี่ชายของพวกเจ้าบ้างก็ได้”
“โฮ่งโฮ่ง”
“โฮ่งโฮ่งโฮ่ง”
เจ้าลูกหมาป่าทั้งสองวิ่งเข้ามาใช้หัวดันมือของหลินเป่ยเฉิน หลังจากนั้นก็พยายามเลียฝ่ามือของเขาอย่างประจบประแจง
ลักษณะท่าทางของพวกมันน่ารักน่าชัง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมธิดาอู๋ไห่จือตี้ถึงชอบนักหนา
ดูจากลักษณะเส้นขนและหน้าตาของพวกมันแล้ว หลินเป่ยเฉินก็นึกถึงสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ขึ้นมาทันที
เด็กหนุ่มคิดอะไรบางอย่างอยู่เล็กน้อย ก็นำโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปลูกหมาป่าทั้งสองตัว และส่งรูปภาพไปให้ธิดาอู๋ไห่จือตี้ทางข้อความส่วนตัวในแอปเจิ้นอ้ายหว่าง
แต่นางยังไม่ได้ตอบข้อความกลับมา
สงสัยคงไม่ได้ออนไลน์อยู่เป็นแน่แท้
หลินเป่ยเฉินเก็บโทรศัพท์มือถือและนำลูกหมาป่าทั้งสองตัวเดินออกมานอกกระโจม
หิมะยังคงโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
หิมะตกมาหลายวันแล้ว พื้นดินกลายเป็นสีขาวโพลน
เด็กหนุ่มยืนอยู่บนยอดไม้ กวาดสายตามองรอบกาย
ค่ายที่พักของชาวเมืองหยุนเมิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากโข
หลินเป่ยเฉินอดรู้สึกภูมิใจในตัวเองไม่ได้
นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานหนักของเขา
“กระบี่เงินของข้า จงปรากฏออกมา ณ บัดนี้”
หลินเป่ยเฉินส่งเสียงเรียก
แล้วกระบี่เงินสองเล่มก็ลอยอยู่เบื้องหน้าเขาทันที
เขาอุ้มเจ้าหมาป่าทั้งสองตัวอยู่ในอ้อมแขน ก่อนกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนกระบี่ และลอยตัวลงไปด้านล่าง
คราวนี้เขาสามารถลงจอดได้อย่างนุ่มนวล
หลังผ่านคืนแห่งสมรภูมิสวาท หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกว่าตนเองมีพลังเต็มเปี่ยมจริงๆ
หลินเป่ยเฉินมุ่งหน้าไปหานายช่างเหลียวผู้ควบคุมการก่อสร้างในค่ายที่พักแห่งนี้
“นายท่านขอรับ พวกเรากำลังจะทดสอบการใช้งานโรงผลิตความร้อนแล้ว หากนายท่านมีเวลา รบกวนมาเป็นประธานในพิธีเปิดหน่อยสิขอรับ”
เหลียวหยงจงนอกจากคำว่าจงจะมาจากจงรักภักดีแล้ว คำว่าเหลียวยังมาจากไม่เหลียวมองผู้ใดอีกด้วย ดังนั้น นายช่างใหญ่จึงไม่ปล่อยให้โอกาสประจบประแจงเจ้านายหลุดลอยไป เพราะทุกคนทราบดีว่าคุณชายหลินถึงจะโหดร้ายกับศัตรูเพียงใด แต่เขาก็มักจะอ่อนโยนต่อกลุ่มผู้อพยพด้วยกันเสมอ
“หืม? พวกเจ้าสร้างโรงผลิตความร้อนได้เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”
หลินเป่ยเฉินเลิกคิ้วขึ้นสูง ดวงตาเป็นประกาย “งั้นพวกเราไปดูกันดีกว่า”
โรงผลิตความร้อนแห่งแรกตั้งอยู่ใจกลางค่ายที่พัก ซึ่งมันจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสร้างความอบอุ่นให้แก่ตึกสูง ซึ่งก่อสร้างด้วยรูปทรงอพาร์ทเม้นท์บนโลกมนุษย์ยุคปัจจุบัน
ภายในอาคารวางระบบท่อลำเลียงความร้อนโดยก่อสร้างมาจากปูนซีเมนต์ดัดแปลงพิเศษ และวัตถุที่ใช้ทำเป็นฉนวนหุ้มท่อนำความร้อนเหล่านี้ก็สามารถใช้งานได้ดีเกินคาด
เมื่อหลินเป่ยเฉินเดินไปถึงโรงผลิตความร้อน เขาก็พบว่าได้มีผู้คนจัดเตรียมพิธีการเปิดโรงผลิตความร้อนเรียบร้อยแล้ว
ทุกคนกำลังรอคอยการมาถึงของเขา
มือกระบี่ซึ่งมีพลังปราณธาตุไฟจำนวน 20 คน ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดีจากทั่วค่ายที่พักของชาวเมืองหยุนเมิ่ง พวกเขาสวมใส่ชุดเกราะชนิดพิเศษ มันทำมาจากทองคำที่นำความร้อนได้ดีเยี่ยมเป็นพิเศษ และมือกระบี่เหล่านี้ก็จะเป็นต้นกำเนิดพลังความร้อนของพวกเขานั่นเอง
หลังเสร็จสิ้นพิธีตัดริบบิ้นของหลินเป่ยเฉิน เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราว
หลังจากนั้น มือกระบี่ผู้มีพลังปราณธาตุไฟก็เดินเข้ามาในห้อง พวกเขาโคจรพลังปราณธาตุไฟเผาผลาญหม้อน้ำขนาดใหญ่จนใช้เวลาเพียงไม่นาน น้ำในหม้อก็เดือดปุดๆ
นี่คือการผสมผสานระหว่างวิธีสร้างความร้อนแบบโบราณกับวิธีการทำงานของเครื่องทำความร้อนในโลกสมัยใหม่ นอกจากจะมอบความอบอุ่นให้แก่อาคารที่พักของชาวเมืองได้แล้ว การสร้างความร้อนเช่นนี้ยังปลอดภัยไร้มลพิษ และสามารถกระทำได้อย่างต่อเนื่อง ขอแค่มีผู้มีพลังปราณธาตุไฟมาเปลี่ยนเวรคอยต้มน้ำให้เดือดอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
หลินเป่ยเฉินมองมือกระบี่ที่ถูกคัดเลือกเดินเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งใต้หม้อน้ำขนาดใหญ่ และเขาก็ต้องพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ดูสิ
นี่แหละการใช้พลังปราณธาตุให้เป็นประโยชน์
ถ้าทุกคนได้ฝึกฝนวรยุทธ์อย่างถูกต้อง ชีวิตของพวกเขาก็น่าจะดีขึ้นไม่ใช่หรือ?
ไม่เห็นต้องฝึกเอาไว้เพื่อฆ่าแกงกันเลย
“บัดนี้ เราสามารถสร้างความร้อนได้ก็จริง แต่จำนวนความร้อนที่ผลิตขึ้นได้ก็ยังมีจำกัด ซ้ำยังต้องอาศัยปัจจัยเสริมเป็นน้ำเดือดจำนวนมากอีกด้วย”
เหลียวหยงจงพูด “ดังนั้น ข้าน้อยจึงวางแผนที่จะปรับปรุงระบบส่งความร้อนใหม่ เราจะอาศัยค่ายอาคมเป็นตัวนำความร้อน ตามทฤษฎีแล้ว เราจะใช้ผู้มีพลังปราณธาตุไฟเพียงสามคนเท่านั้น นอกจากจะผลิตความร้อนออกมาได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้มีพลังปราณธาตุไฟก็ยังจะได้เสริมสร้างตบะของตนเองอีกด้วย หากการทดลองครั้งต่อไปของพวกเราสำเร็จด้วยดี ข้าน้อยประเมินดูแล้วค่ายที่พักของเราก็จะมีโรงผลิตความร้อนถึง 10 แห่งเชียวขอรับ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างโรงผลิตความร้อนอีก 20 แห่งให้แก่ผู้อพยพที่อาศัยอยู่นอกค่ายที่พักของพวกเราได้อีกด้วย”
หลินเป่ยเฉินพยักหน้าด้วยความพอใจมากกว่าเดิม
มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาน่ามหัศจรรย์
คิดไม่ถึงเลยว่านายช่างเหลียวจะสามารถนำความคิดของเขาไปต่อยอดได้ดีเยี่ยมถึงเพียงนี้
ที่สำคัญก็คือ เขาค้นพบว่านายช่างเหลียวซึ่งก่อนหน้านี้มีสภาพเป็นตาลุงวัย 50 เศษ มีชีวิตอยู่ไปวันๆ บัดนี้ก็กลับมาสดชื่นแจ่มใส มีชีวิตชีวา ราวกับว่าได้ย้อนกลับไปกลายเป็นหนุ่มฉกรรจ์อีกครั้ง
แน่นอนว่ายาชูกำลังที่ดีที่สุดของบุรุษ ก็คือการได้ทำงานที่ตนเองรักนั่นเอง
จากนั้น เด็กหนุ่มถึงได้รู้ว่าเขาคิดผิดที่เข้ามาเป็นประธานเปิดตัวโรงผลิตความร้อนแห่งแรกในเช้าวันนี้
เพราะเขาไม่มีทางปฏิเสธคำเชิญของเหลียวหยงจงและพรรคพวกที่ให้ขึ้นไปสำรวจดูอพาร์ทเม้นท์แห่งแรกที่มีความสูงเท่ากับตึก 16 ชั้น หนำซ้ำยังต้องเดินขึ้นลงด้วยบันไดตั้งแต่ต้นจนจบ
ถึงแม้ว่าแผนผังโครงสร้างที่หลินเป่ยเฉินวาดออกมาจะดูยุ่งเหยิงเต็มที แต่นายช่างเหลียวและกลุ่มคนงานก่อสร้างกลับสามารถทำออกมาในโลกแห่งความจริงได้อย่างดีเยี่ยม และใช้เวลาก่อสร้างเพียงสองวันเท่านั้น
ฟังดูเป็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้
แต่ถ้าพิจารณาถึงองค์ประกอบโดยรวมดูดีๆ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
เพราะคนงานแต่ละคนมีระดับพลังไม่ต่ำต้อย อิฐทุกก้อน แผ่นไม้ทุกแผ่น วัสดุก่อสร้างทุกอย่าง ถูกจัดวางอย่างแม่นยำและมั่นคงแข็งแรง แม้แต่การก่อกำแพงด้วยปูนซีเมนต์ ก็ยังไม่ผิดเพี้ยนจากแผนผังการออกแบบสักนิดเดียว
เมื่อประกอบกับผู้มีพลังทั้งห้าธาตุคอยช่วยเหลือเกื้อหนุนในส่วนที่ขาดหาย การก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยจึงดำเนินไปด้วยความรวดเร็วราวกับการสร้างบ้านเด็กเล่นก็ไม่ปาน
เหตุผลสำคัญคือพวกเขาใช้งานผู้ฝึกยุทธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด
หลินเป่ยเฉินเดินตรวจสอบอพาร์ทเม้นท์ชั้นต่างๆ ตามมารยาท เหล่าคนงานพยายามสอบถามว่าเขาจะตั้งชื่อที่อยู่อาศัยเหล่านี้ว่าอะไร หลินเป่ยเฉินคิดแล้วคิดอีกก็ตัดสินใจไม่ได้สักที สุดท้ายจึงบอกให้ทุกคนเรียกมันว่า ‘อพาร์ทเม้นท์เป่ยเฉิน’ ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกมา โดยไม่ให้คำอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกเลย
แต่ยังไม่ทันจะได้เดินมานั่งพักหายใจ อานมู่ซีซึ่งได้ข่าวว่าเด็กหนุ่มมาร่วมพิธีตัดริบบิ้นเช้าวันนี้ ก็รีบวิ่งกุลีกุจอเข้ามาพร้อมกับสูตรยาชนิดใหม่ ซึ่งเตรียมการผลิตอยู่ในโรงหลอมโอสถเป่ยเฉินอีกหลายชนิด
“นอกจากเราจะผลิตโอสถเป่ยเฉินได้แล้ว บัดนี้ โรงหลอมโอสถยังเตรียมการผลิตตัวยาอีกหลายชนิดเชียวขอรับ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อเป่ยเฉิน ยาถ่ายพยาธิเป่ยเฉิน ยาแก้ไข้เป่ยเฉิน ยานอนหลับเป่ยเฉิน รวมไปถึงยาปลุกกำหนัดเป่ยเฉินด้วยขอรับ คุณชายหลินกล่าวได้ถูกต้องทุกประการ คำนวณจากราคาของโอสถเหล่านี้แล้ว พวกเราจะต้องมีรายได้มากมายมหาศาลแน่นอนขอรับ”
อานมู่ซีพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เขารู้สึกว่าตนเองได้ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่เพราะวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของหลินเป่ยเฉินแท้ๆ
หลินเป่ยเฉินกะพริบตาปริบๆ
ยาถ่ายพยาธิเป่ยเฉินกับยาปลุกกำหนัดเป่ยเฉินนั่นคืออะไร?
เด็กหนุ่มรู้สึกตงิดใจขึ้นมาชอบกล