ตอนที่ 740 ยอดคนเสเพล
นั่นมันควรเป็นบทพูดของเขาไม่ใช่หรือไง?
หลินเป่ยเฉินชักสีหน้าด้วยความโกรธแค้น
“สามหาวนัก”
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มดาวน์โหลดกระบี่เงินออกมาจากแอปไป่ตู้ เน็ตดิสก์
กระบี่คู่ลอยอยู่ในอากาศ
พวกมันหมุนวนรอบร่างของหลินเป่ยเฉินราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์
“ตายซะ”
กระบี่คู่พุ่งแหวกอากาศ
เล่มหนึ่งแยกไปทางซ้าย
อีกเล่มแยกไปทางขวา
หลินเป่ยเฉินอาศัยพลังปราณธาตุทองคำควบคุมกระบี่เหล่านี้ ใช้ออกมาด้วยกระบวนท่าจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทร
ลำแสงจากตัวกระบี่ลากเป็นทางยาวในอากาศ
มองดูแล้วไม่ต่างจากเครื่องบินเจ็ทสองลำกำลังบินผ่านผืนฟ้า
นี่คือสิ่งที่ย้ำเตือนให้หลินเป่ยเฉินนึกถึงโลกมนุษย์ใบเก่า
“หืม?”
ราชันย์งูพิษเบิกตาโตด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นกระบี่คู่พุ่งเข้ามาหาตนเอง
แต่เมื่อจับกระแสพลังจากตัวกระบี่ได้ ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาทันที
“ก็แค่ภาพมายาเท่านั้นแหละนะ” ราชันย์งูพิษหมุนวนฝ่ามือในอากาศ
ปรากฏคลื่นพลังสายฟ้าแผ่กระจายออกมาต้านทานกระบี่คู่
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
กระบี่เงินเกิดรอยแตกร้าวก่อนที่พวกมันจะแตกกระจายเป็นผุยผง
เอ่อ…
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินทอประกายผิดหวังออกมาเล็กน้อย
ที่สำคัญก็คือเขามีพลังลมปราณเพียงยอดปรมาจารย์ระดับสี่ คงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเอาชนะผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลายได้อยู่แล้ว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลินเป่ยเฉินไม่ใช้พลังปราณธาตุทองคำของตนเองควบคุมกระบี่สายฟ้าออกมาใช้งานตั้งแต่แรก
เพราะเขาเกรงว่าระดับพลังของตนเองอาจต่ำต้อยมากเกินไป ดีไม่ดีฝ่ายตรงข้ามอาจแย่งชิงกระบี่ไปครอบครอง และนั่นจะทำให้เขาพาลขายหน้าเอาเปล่าๆ
อีกอย่าง มันเป็นกระบี่ที่มีราคาแพงมากเกินไป
แต่บัดนี้ หลินเป่ยเฉินไม่มีทางเลือกอีกแล้ว นอกจาก…
ดวงตาของเด็กหนุ่มทอประกายวาวโรจน์ด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่เขาจะดาวน์โหลดกระบี่สายฟ้าออกมาถือในมือและคำรามว่า “รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลองหน่อยละนะ”
หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็พุ่งทะยานไปข้างหน้า
ราชันย์งูพิษแสยะยิ้ม ขยับเท้าก้าวออกมา และกระชับกระบี่อันงดงามที่ถืออยู่ในมือ ก่อนพูดว่า “ข้ามีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลาย แม้แต่ผู้มีพลังระดับเซียนในนครเจาฮุย ก็ยังไม่มีผู้ใดกล้ายุ่งกับข้า แล้วเจ้าที่มีพลังเพียงแค่ยอดปรมาจารย์ระดับสี่ ถือดีอย่างไรถึงได้มาชักกระบี่ใส่หน้าข้า? เจ้ามันโอหังมากเกินไปแล้ว… จงเตรียมตัวตายซะ!”
สุดท้าย กระบี่ถูกชักออกจากฝัก
คมกระบี่เป็นสีเงินวาววับ เมื่อโคจรพลังลมปราณใส่เข้าไป ประกายสายฟ้าก็ครอบคลุมไปทั่วลำตัวกระบี่
เงากระบี่แผ่กระจายในอากาศ
มวลอากาศเกิดความปั่นป่วนรุนแรง
พลังคุกคามจากตัวกระบี่กดดันทุกผู้คนที่ยืนอยู่โดยรอบ ขณะนี้ ความน่ากลัวที่แท้จริงของผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลายได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
เมื่อกระบี่ของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน พื้นดินก็เกิดรอยแตกร้าวกินรัศมีเป็นวงกว้าง
หลินเป่ยเฉินยกกระบี่ขึ้นต้านทานการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม พลังลมปราณสายฟ้าของราชันย์งูพิษพวยพุ่งเข้ามา ทำให้เส้นผมสีดำยาวสลวยของเขาปลิวไสวไปตามแรงลม
หลินเป่ยเฉินสูดหายใจลึกๆ
หลังจากนั้น…
“ข้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก!”
เด็กหนุ่มสะบัดข้อมือ
กำแพงสายลมปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
นี่คือกระบวนท่ากระบี่ที่เจ็ด
กระบี่สายฟ้าที่อยู่ในมือของเขายิ่งเปล่งประกายสว่างไสวมากกว่าเดิม
ทันใดนั้น พลังคุกคามจากทุกๆ การโจมตีของราชันย์งูพิษก็ถูกดูดกลืนหายไปในกำแพงสายลมเหล่านี้
“นี่มันอะไรกัน?”
ราชันย์งูพิษแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาแล้ว
ในเวลาเดียวกันนี้…
“กระบวนท่าที่หก”
กระบี่สายฟ้าในมือหลินเป่ยเฉินตวัดวูบวาบอีกครั้ง
เด็กหนุ่มสามารถบุกเข้ามาประชิดตัวราชันย์งูพิษได้สำเร็จแล้ว
การใช้กระบวนท่าจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรในรูปแบบสลับตำแหน่งก่อนหลัง ทำให้ศัตรูตั้งตัวไม่ทัน
หลินเป่ยเฉินเลือกจังหวะโจมตีตอนที่ฝ่ายตรงข้ามลืมป้องกันตัว
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราชันย์งูพิษ
เขามีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลาย แล้วเหตุไฉนถึงจัดการผู้ที่มีพลังอยู่เพียงขั้นยอดปรมาจารย์ระดับสี่ไม่ได้?
แต่มันก็เป็นแค่ความประหลาดใจเท่านั้น
“เจ้าเข้ามาใกล้ตัวข้าได้แล้วจะอย่างไร สุดท้ายก็ต้องตายเร็วมากกว่าเดิมอยู่ดี”
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะพลางวกกระบี่เงินในมือขึ้นโจมตีอีกครั้ง
พลังปราณธาตุสายฟ้าที่ครอบคลุมกระบี่เกิดเป็นประกายระยิบระยับราวกับดวงดาราในท้องฟ้าที่มืดมิด ดูไปแล้วสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ราชันย์งูพิษมีพลังสูงส่ง วิชากระบี่ที่เขาใช้ออกมาย่อมไม่ธรรมดา
ชายหนุ่มมั่นใจว่านี่คือกระบวนท่าที่สามารถเผด็จศึกได้แน่นอน
แต่ทันใดนั้น กระบี่สายฟ้าในมือของหลินเป่ยเฉินกลับใช้ออกมาด้วยกระบวนท่ากระบี่ที่ห้า
ประกายระยิบระยับดั่งดวงดาวจากคมกระบี่ของราชันย์งูพิษพลันสลายหายไป
ราชันย์งูพิษฉีกยิ้มและพยักหน้าด้วยความพอใจ “มิน่าเล่า เจ้าจึงอวดดีถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็มีเพลงกระบี่ไม่ธรรมดานี่เอง แต่มันก็เท่านี้แหละนะ เหอเหอเหอ”
กระบี่ที่งดงามในมือประมุขป้อมอสรพิษพลันบังเกิดแสงสว่างเป็นประกายระยิบระยับมากกว่าเดิม
แหกระบี่แผ่ครอบคลุมในรัศมีสองวา
หลินเป่ยเฉินตกอยู่ในรัศมีแหกระบี่ จึงจำเป็นต้องใช้กระบวนท่ากระบี่ที่เจ็ดออกมาอีกครั้ง
นี่คือครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับมือกระบี่ ซึ่งมีฝีมือน่ากลัวขนาดนี้
ราชันย์งูพิษไม่รีบร้อนเปิดเผยถึงพลังที่แท้จริงของตนเอง แต่กลับรอรับการโจมตีของหลินเป่ยเฉินด้วยความเยือกเย็นมาโดยตลอด
หลินเป่ยเฉินมีร่างกายอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลาย มันช่วยทำให้เขาสามารถฟาดฟันกระบี่ออกไปได้อย่างรุนแรงมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม อานุภาพการโจมตีก็ต้องพึ่งพาพลังลมปราณเป็นหลัก
ก่อนหน้านี้ หลินเป่ยเฉินฝึกฝนกระบวนท่าจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรได้ทั้งเจ็ดกระบวนท่าแล้ว และโทรศัพท์มือถือก็ช่วยเขาถอดรหัสกระบวนท่าที่แปดออกมาได้สำเร็จ
และเมื่อใช้งานกระบวนท่าเหล่านี้บ่อยเข้า
ฝีมือกระบี่ของหลินเป่ยเฉินก็ยิ่งพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบ
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับราชันย์งูพิษ ฝีมือกระบี่ของหลินเป่ยเฉินกลับสู้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
นั่นทำให้เฉียนเหมยที่ยืนดูอยู่ห่างๆ รู้สึกร้อนรุ่มใจ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือผู้เป็นเจ้านายเต็มที่
แต่หวังจงกับเฉียนซื่อก็เป็นผู้หยุดยั้งนางเอาไว้
เฉียนเหมยไม่เข้าใจเลย
ชายชราทั้งสองคนนี้อยากเห็นนายน้อยพ่ายแพ้หรืออย่างไร?
แต่ที่น่าสนใจก็คือหวังจงกับเฉียนซื่อไม่ได้มีสีหน้าตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
เป็นเพราะเหตุใดกัน?
ด้วยนิสัยรักตัวกลัวตายของหวังจง ถ้าเขาแน่ใจว่านายน้อยจะพ่ายแพ้ ป่านนี้คงหลบหนีไปนานแล้ว
แต่นี่ชายชรายังยืนดูอยู่ต่อไปในความสงบ
ดังนั้น เฉียนเหมยจึงทำได้เพียงข่มใจยืนดูการต่อสู้ต่อไปเช่นกัน
บนยอดหอคอยที่ห่างไกลออกไป
คู่หูคู่ใหม่อย่างเซียวปิงกับฉิวหลิงก็กำลังให้ความสนใจอยู่ที่การต่อสู้อย่างใกล้ชิด
ราชันย์งูพิษมีสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง
“หึหึ เห็นว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งจากเมืองหยุนเมิ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีดีเพียงเท่านี้ ช่างไม่สมกับความยโสโอหังของเจ้าเลยจริงๆ”
“ฮ่าฮ่า นับเป็นกระบวนท่าที่ดี”
“หุหุ หนุ่มน้อย เจ้ายังอ่อนหัดนัก”
“ฝีมือกระบี่ของเจ้าไม่เห็นจะเก่งเหมือนฝีปากของเจ้าสักนิด”
“เฮ้อ ช่างอ่อนแอยิ่ง…”
ระหว่างที่รับมือการโจมตีจากหลินเป่ยเฉิน ราชันย์งูพิษก็ระเบิดเสียงหัวเราะ พูดจาถากถางตลอดเวลา
ที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของนายทหารหน่วยคนงานขุดเหมือง
การสังหารฝ่ายตรงข้าม อาจไม่ใช่วิธีเอาชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่การทำลายขวัญกำลังใจของศัตรู อาจก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงให้กับฝ่ายตรงข้าม มากยิ่งกว่าการฆ่าผู้เป็นหัวหน้าทื้งเสียอีก
หลินเป่ยเฉินไม่ตอบรับคำใด นอกจากใช้กระบี่ตีโต้ โจมตีและตั้งรับ สลับกันตลอดเวลา
ผ่านไปชั่วหนึ่งก้านธูป
กระบวนท่ากระบี่ยิ่งมายิ่งร้อนแรง
พลังคุกคามเล่นงานคู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน
ในที่สุด ราชันย์งูพิษก็หมดอารมณ์เล่นสนุกแล้ว
“ถือเป็นเกียรติของเจ้าเชียวนะที่ได้ตายภายใต้คมกระบี่ของข้า… ตำนานผู้กล้าจากเมืองหยุนเมิ่ง ข้าจะเป็นคนจบมันแต่เพียงเท่านี้”
ชายหนุ่มตวัดกระบี่
นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่หลินเป่ยเฉินวกกระบี่กลับมาด้วยมือขวา และสะบัดมือซ้ายฟาดใส่ใบหน้าของราชันย์งูพิษสุดแรงเกิด
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือของเด็กหนุ่มกระแทกใส่ใบหน้าประมุขป้อมอสรพิษเข้าอย่างจัง
ราชันย์งูพิษหมุนคว้าง 360 องศา ลอยกระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพงหินที่อยู่ด้านหลัง ร่างกายจมลึกหายเข้าไปในเนื้อหินเป็นรูปร่างตัวคน
การต่อสู้อันดุเดือดจึงหยุดชะงักลงด้วยเหตุนี้
นี่อาจจะยังไม่สามารถกล่าวได้ว่าหลินเป่ยเฉินพลิกจากผู้แพ้กลายมาเป็นผู้ชนะ
แต่ทว่า…
ความรู้สึกบางอย่างได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของทุกคน
ราชันย์งูพิษหลงกลหลินเป่ยเฉินเข้าเสียแล้ว
น่าอับอายยิ่งนัก
ต้องใช้เวลาอึดใจใหญ่ทีเดียว กว่าที่ชายหนุ่มจะแกะตัวเองออกมาจากร่องลึกบนกำแพงหินได้สำเร็จ
บัดนี้ แม้แต่ ‘นางพญางูพิษ’ ที่อยู่ด้านข้างก็ทำอะไรไม่ถูกแล้วเช่นกัน
“ท่านพี่…”
หญิงสาวอุทานด้วยความตกตะลึง
“คิกคิกคิก… ไม่เบาเลยแฮะ”
หลินเป่ยเฉินพูดพลางสะบัดมือของตนเองเหมือนกำลังผ่อนคลายกล้ามเนื้อ “ใบหน้าของผู้มีพลังระดับยอดปรมาจารย์ตอนปลายมีความหนามากกว่าใบหน้าของคนทั่วไป ทำเอาข้ามือชาเลยนะเนี่ย”
ช่องว่างของระดับพลังระหว่างพวกเขาแตกต่างกันมากเกินไป
แต่ผู้มีพลังระดับยอดปรมาจารย์ตอนปลาย กลับถูกผู้ที่มีพลังระดับยอดปรมาจารย์ระดับสี่ตบกระเด็นออกไปหน้าตาเฉย
ทุกคนได้แต่กะพริบตาปริบๆ
ตุบ!
ร่างของราชันย์งูพิษทรุดลงไปกองอยู่บนพื้นดิน
ริมฝีปากมีเลือดไหลซึมออกมา
ใบหน้าที่เคยหล่อเหลากลายเป็นบวมช้ำไม่ต่างจากลูกพลัมสุกได้ที่ซึ่งตกลงมากระแทกพื้นแรงมากเกินไป
หลังจากนั้น เขาก็กระอักเลือดออกมาจากปากคำใหญ่ และในกองเลือดที่ทะลักออกมา ก็มีฟันสีขาวปะปนออกมาหลายซี่…
“ศิษย์น้อง… ช่วยแก้แค้นแทนข้าด้วย…”
ราชันย์งูพิษซึ่งมีผู้คุ้มกันตึกวิ่งเข้ามาประคองลุกขึ้นยืนพลันส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความดุร้าย
“ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะแก้แค้นแทนท่านเอง”
ดวงตาของนางพญางูพิษทองประกายด้วยความโกรธแค้นเกลียดชัง ก่อนที่นางจะหันมามองหน้าหลินเป่ยเฉิน
ริมฝีปากสีแดงสดของนางเปล่งประกายอย่างมีเสน่ห์เย้ายวนใจ
ระหว่างหัวคิ้วของนางพลันมีพลังงานบางอย่างถูกปลดปล่อยออกมา ช่วยเสริมสร้างให้หญิงสาวมีเสน่ห์น่าลุ่มหลงมากกว่าเดิม
หลินเป่ยเฉินถึงกับตกตะลึงไปเล็กน้อย
มนต์เสน่ห์ของนางพญางูพิษทำให้กลุ่มนายทหารคนงานขุดเหมืองตกอยู่ในภวังค์ พวกเขาแสดงสีหน้าเคลิบเคลิ้มชวนฝัน ไม่ต่างจากคนที่ถูกสะกดจิต
คล้ายกับได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงเพลงในอากาศ
รอบกายของนางพญางูพิษปรากฏหมอกขาวลอยขึ้นมาช้าๆ
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ร่างของนางก็กลืนหายเข้าไปในม่านหมอก
เช่นเดียวกับร่างของหลินเป่ยเฉิน
เด็กหนุ่มและหญิงสาวถูกหมอกขาวกลืนหายเข้าไปทั้งคู่
“หึหึ…”ราชันย์งูพิษยิ้มมุมปาก มั่นใจว่าคนรักของตนเองต้องแก้แค้นได้สำเร็จ “ไม่เคยมีบุรุษผู้ใดสามารถต้านทานวิชาจุมพิตปลิดวิญญาณของนางได้มาก่อน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
ถึงฟันที่หักออกไปจะทำให้ชายหนุ่มพูดไม่ชัดเหมือนเดิม แต่เขาก็ยังสามารถระเบิดเสียงหัวเราะกึกก้องได้อยู่ดี
ทว่า เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
“โอ๊ย…”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น
โครม!
ร่างของใครบางคนลอยกระเด็นออกมาจากด้านในม่านหมอกขาวและลอยไปกระแทกกับกำแพงหินจมลึกเข้าไปในเนื้อหินกลายเป็นรูปร่างคนอีกครั้ง
เจ้าของร่างสวมใส่ชุดสีขาว
เจ้าของร่างในชุดขาวไถลตัวลงจากกำแพงอย่างช้าๆ
หากไม่ใช่นางพญางูพิษแล้วจะเป็นผู้ใดได้อีก?
“เป็นไปไม่ได้ ทำไมเจ้าถึง…”
นางพญางูพิษพูดตะกุกตะกัก ปิ่นปักผมทองคำหลุดจากศีรษะ เสื้อผ้ายับยู่ยี่ นางพยายามยันกายลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าวว่า “เจ้า… สามารถทนทานการเล้าโลมจากข้าได้อย่างไร ไม่ว่าข้ายั่วยวนอย่างไร เจ้าก็ไร้การตอบสนอง เจ้า…”
หญิงสาวพูดด้วยความไม่เข้าใจ
แต่ราชันย์งูพิษที่ยืนหน้าบวมเป่งอยู่ด้านข้าง กลับมีความไม่เข้าใจมากกว่านางเสียอีก
นี่คือเรื่องที่แปลกประหลาดและน่าเหลือเชื่อมากกว่าการที่เขาถูกหลินเป่ยเฉินตบกระเด็นออกมาก่อนหน้านี้หลายเท่า
ศิษย์น้องของเขา ‘พ่ายแพ้’ ได้อย่างไร?
มันจะเป็นไปได้อย่างไร
นางมีความสามารถพิเศษในการควบคุมบุรุษได้ทุกคน แต่ว่า…
ราชันย์งูพิษมองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความตื่นตระหนก
เด็กหนุ่มผู้นี้… เป็นคนเสเพลประจำเมืองหยุนเมิ่ง
ยอดคนเสเพล
ไม่ทราบเลยว่าในชีวิตนี้ เด็กหนุ่มผ่านสตรีมาแล้วมากมายเพียงใด!