บทที่ 76 ถนอมน้ำใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง
ยิ่งประมูลได้เข็มกลัดดาราไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งต้องเข้าร่วมการประมูลครั้งต่อไป
เพราะพวกเขาไม่ได้เก่งกาจ ให้หาเข็มกลัดด้วยตัวเองย่อมทำให้ได้ และในเมื่อการแข่งขันครั้งนี้ตัดสินด้วยจำนวนเข็มกลัด การทุ่มเทเงินทองเพื่อประมูลให้ได้มา จึงเป็นการต่อสู้เดียวที่พวกเขาพอจะทำได้
หลังการประมูลรอบที่ 4 จบลง หลินเป่ยเฉินก็หัวเราะเหมือนคนเสียสติ
การประมูลรอบนี้ ทำให้เขาได้เงินมากถึง 1,100 เหรียญทองคำ
เมื่อรวมเข้ากับเงินจากการประมูล 3 รอบก่อนหน้า เข็มกลัดดารา 40 เหรียญ ช่วยทำให้เขามีเงินถึง 2,660 เหรียญทองคำแล้ว
เทียบเท่ากับเงิน 26 ล้าน 6 แสนหยวนในโลกมนุษย์
เป็นจำนวนมากมายมหาศาลที่ทำเอาหลินเป่ยเฉินรู้สึกดีใจจนแทบบินได้
และเขายังมีเข็มกลัดดาราอยู่ที่ตัวอีกถึง 40 ชิ้น
หลังจากนิ่งคิดอยู่สักครู่หนึ่ง หลินเป่ยเฉินก็เปิดการประมูลรอบต่อไป
คราวนี้ เขานำเข็มกลัดดาราออกมาประมูล 20 ชิ้น…
ยิ่งเห็นจำนวนเข็มกลัดดารามากขึ้นกว่าเดิม เหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมการประมูลก็แทบจะสติแตกแล้ว
พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
คิดไม่ออกเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้สามารถเกิดขึ้นจริงได้อย่างไร
ทุกคนเพียงเข้าร่วมการประมูลตามสัญชาตญาณ และสู้ราคากันอย่างบ้าคลั่ง
บรรยากาศเกือบจะควบคุมไม่อยู่อีกแล้ว
“ช้าก่อน ข้ายินดีจ่าย 2,000 เหรียญทองคำสำหรับเข็มกลัดทั้ง 8 ชิ้นในมือของเจ้า” หลี่เทาที่นิ่งเงียบมาตลอดเวลา อยู่เฉยๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว เด็กหนุ่มตัดสินใจยอมเดิมพันครั้งใหญ่ พูดเสียงดังว่า “ข้าไม่เคยข่มเหงรังแกเจ้า ซ้ำยังชักชวนเจ้ามาร่วมกลุ่มอีกหลายครั้ง หลินเป่ยเฉิน เจ้าไม่จำเป็นต้องปฏิเสธเหรียญทองของข้า หรือถ้าคิดว่าราคาที่ข้าเสนอไปยังไม่สูงมากพอ เจ้าจงบอกราคาที่ต้องการมาได้เลย ข้าจะไม่ต่อรองสักเหรียญเดียว”
หลี่เทาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังจริงใจ
หลินเป่ยเฉินหัวเราะในลำคอ “ถูกต้อง เจ้าไม่เคยข่มเหงรังแกข้า”
หลี่เทารู้สึกใจชื้นขึ้นเป็นกอง
แต่ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินกลับมีสีหน้าเคร่งขรึมมากขึ้น และกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “แต่เจ้าทำร้ายหลิงเฉิน มันหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าเจ้าข่มเหงรังแกข้าเสียอีก ตั้งแต่วินาทีที่เจ้าตัดสินใจลงมือลอบทำร้ายนาง เท่ากับว่าเจ้าตัดสินใจที่จะเป็นศัตรูกับข้าไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น ต่อให้เจ้ามอบเมืองหยุนเมิ่งมาทั้งเมือง หรือแม้แต่จะมอบจักรวรรดิทะเลเหนือให้ข้า ข้าก็ไม่มีทางขายเข็มกลัดดาราให้เจ้าเด็ดขาด!”
หลี่เทายืนตัวแข็งทื่อ
เสียงฮือฮารอบตัวพลันเงียบงันลงไป
เซินเฟยโกรธแค้นจนตัวสั่น จ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ ราวกับว่าเขาอยากจะจดจำใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามให้ขึ้นใจ ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามของหลินเป่ยเฉินจะไม่มีทางลบเลือนไปจากใจเขาได้เด็ดขาด
ทางด้านมู่ซินเยว่ในขณะนี้ หัวใจของนางยิ่งปวดร้าวมากขึ้นทุกวินาที
เมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีต นางเคยพบเจอคำเยินยอและคำหวานจากเด็กหนุ่มมากหน้าหลายตา เกือบทุกคนล้วนสาบานว่ายินดีทำตามความต้องการของนางทุกอย่าง…แต่เมื่อลองนึกดูให้ดีแล้ว ในกลุ่มเด็กหนุ่มเหล่านั้น คนเดียวที่พร้อมจะทำตามทุกอย่างที่นางสั่งโดยไม่หวังผลตอบแทนจริงๆ กลับมีเพียงแค่หลินเป่ยเฉินเท่านั้น
แต่นั่นคือหลินเป่ยเฉินคนก่อน
และหลินเป่ยเฉินที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้านางในปัจจุบัน ก็กำลังกระทำต่อเด็กสาวคนอื่น เหมือนที่เขาเคยทำกับนางทุกอย่าง
ทันใดนั้น มู่ซินเยว่รู้ซึ้งแล้วว่านางได้สูญเสียสิ่งที่เคยเป็นของนางไปแล้วตลอดกาล
ที่ผ่านมานางไม่ใส่ใจเขามากเกินไป
ตอนนี้จึงต้องรู้สึกปวดใจเหมือนกับถูกคมมีดกรีดแทงนับพันเล่ม
ในเวลาเดียวกันนี้ ศิษย์หญิงจำนวนมากต่างก็พากันจับจ้องมองไปที่หลิงเฉินด้วยแววตาของความอิจฉาริษยา
หลิงเฉิน บุตรสาวคนเล็กของผู้ว่าการเมืองหยุนเมิ่ง ไข่มุกงามยอดอัจฉริยะผู้เป็นรองเพียงหลินถิงชานในประวัติศาสตร์ และได้รับการขนานนามให้เป็นสาวงามที่สุดในเมืองรุ่นปัจจุบัน นับว่าในอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงนางได้เลยจริงๆ
มิหนำซ้ำ นางยังเป็นเจ้าของหัวใจเด็กหนุ่มผู้สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อย่างเหลือเชื่ออีกด้วย
ทว่า หลิงเฉินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจของนาง
หลิงเฉินยืนอยู่เคียงข้างหลินเป่ยเฉิน ใบหน้าขาวนวลสวยงามยิ่งกว่าหยกแกะสลัก เย็นชาไร้ความรู้สึก ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวล้วนไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง เว้นแต่ว่าเรื่องนั้นจะเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายนางเท่านั้น
ในที่สุด เข็มกลัดดาราทั้ง 20 ชิ้นของหลินเป่ยเฉินก็ถูกประมูลไปหมดสิ้น เขาได้สัญญากู้ยืมมาอีก 1,800 เหรียญทองคำ เพราะเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ทุกคนที่อยากเข้ารอบต่อไปล้วนทุ่มเงินร่วมประมูลไม่อั้น สถานการณ์ในตอนนี้ ต่อให้มีเข็มกลัดดาราถึง 3 ชิ้นก็ยังไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ด้วยเหตุนี้ ราคาของเข็มกลัดดาราแต่ละชิ้นจึงพุ่งสูงมากขึ้นเกินกว่าที่หลินเป่ยเฉินจินตนาการเอาไว้
และมันก็ทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
การประมูลเข็มกลัดดารา 60 ชิ้น ทำให้เขาได้เงินมาแล้วถึง 4,460 เหรียญทองคำ
นับจากวันแรกที่ต้องมาอยู่ในโลกจอมยุทธ์ นี่คือการทำเงินที่เยอะที่สุดของหลินเป่ยเฉิน
ต่อให้เป็นสำนักมือกระบี่รับจ้าง ร้านแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือสำนักคุ้มกันสมบัติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหยุนเมิ่ง ก็ยังมีรายได้ต่อปีไม่มากเท่าเขาที่ทำได้ในวันนี้ด้วยซ้ำ
สำหรับหลินเป่ยเฉิน ด้วยเงินจำนวนนี้ ทำให้เขาสามารถชาร์จโทรศัพท์ได้เต็มที่ถึง 446 ครั้ง
นั่นเท่ากับว่าเขาสามารถชาร์จแบตเตอรี่แบบ 100% เต็มได้วันละครั้ง หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เขาสามารถใช้โทรศัพท์โดยไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดไปอีก 446 วันเลยทีเดียว
สำหรับการเอาตัวรอดในโลกจอมยุทธ์แห่งนี้ สิ่งเดียวที่หลินเป่ยเฉินเป็นกังวลมากที่สุด ก็คือการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ และเขาก็ไม่ต้องห่วงปัญหาข้อนี้อีกแล้ว อย่างน้อยก็คงอีกพักใหญ่หลังจากนี้
“หลินเป่ยเฉิน เจ้ายังมีเข็มกลัดอีกหรือไม่? เจ้าต้องมีแน่นอนอยู่แล้วจริงไหม?”
“ข้าอยากได้ ข้าอยากได้!”
“เอามาขายให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ!”
พวกเขาหลายคนดวงตาแดงก่ำ หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ต่างพากันตะโกนใส่หน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความไม่พอใจ
“การประมูลจบแล้ว”
หลินเป่ยเฉินทำลายความฝันของผู้เรียกร้องลงอย่างไม่ไยดี
วินาทีต่อมา เด็กหนุ่มหยิบเข็มกลัดดาราออกมาอีก 4 ชิ้น แล้วก็ยื่นส่งให้เยว่หงเซียงหน้าตาเฉย
เด็กสาวคงแก่เรียนเบิกตาโตมองเขาด้วยความไม่อยากเชื่อ
“เจ้า…มอบให้ข้าหรือ?”
เยว่หงเซียงถึงกับพูดอะไรไม่ออก
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างและตอบว่า “ข้าก็ต้องให้เจ้าอยู่แล้ว รับไปเถอะ หลายวันที่ผ่านมานี้ ถ้าไม่มีผลไม้ป่ากับพืชผักสมุนไพรจากเจ้า ข้าคงอดตายไปนานแล้ว เมื่อเจ้าช่วยเหลือข้า ข้าก็ต้องช่วยเหลือเจ้าเป็นธรรมดา คิดเสียว่าเข็มกลัดดาราทั้ง 4 ชิ้นนี้เป็นค่าอาหารก็แล้วกัน”
เยว่หงเซียงยืนนิ่งเหมือนเป็นรูปปั้น
นางคิดไม่ถึงเลยว่าค่าตอบแทนจากการเก็บผลไม้ป่าและพืชผักข้างทางมาให้เขารับประทาน จะมีค่ามากถึงเข็มกลัดดาราถึง 4 ชิ้น
ปกติแล้วพืชผักและผลไม้ป่าเหล่านั้น มีค่าไม่ถึงหนึ่งเหรียญทองคำด้วยซ้ำ
“แต่ว่า…มันเยอะเกินไป…ขะ…ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก…”
หลินเป่ยเฉินยัดเข็มกลัดใส่มือนางและกล่าวว่า “เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกัน อย่าเกรงใจเลย เจ้ารู้ไหมว่ามิตรภาพของเราแข็งแกร่งขนาดไหน มันเริ่มจากการที่พวกเราได้นะ…” เด็กหนุ่มกำลังจะพูดว่าพวกเราได้นอนด้วยกัน แต่มันก็ฟังดูสองแง่สองง่ามชอบกล โชคดีที่สมองไว จึงรีบเปลี่ยนเรื่องได้ทันเวลา “สำหรับข้า ผลไม้ป่าและผักสมุนไพรเหล่านั้นมีค่ามากกว่าเหรียญทองคำพวกนี้นัก คงมีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อประมูลพวกมันไป”
บรรดาศิษย์ที่เข้าร่วมการประมูลเบิกตาโตอ้าปากค้าง
“พวกเราเพิ่งจ่ายเงินประมูลเข็มกลัดดารามาจากเจ้าเองนะ อย่างน้อยก็ช่วยถนอมน้ำใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง”
ในที่สุด เยว่หงเซียงก็จำเป็นต้องรับเข็มกลัดดาราทั้ง 4 ชิ้นไปอย่างเสียไม่ได้