ตอนที่ 763 อาหารจานพิเศษ (ปลาย)
“ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่านี่คือศพของผู้ใด”
เหลียงหยวนเตาเงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดต้นไม้ที่สูงใหญ่ ดวงตาเป็นประกายเคร่งขรึม พูดว่า “ใครบอกเจ้าว่านี่คือศพของไต้จือฉุน?”
“อ้าว”
หลินเป่ยเฉินพลันเลิกคิ้วสูงด้วยความพิศวง “สรุปว่าไม่ใช่ศพของพี่ใหญ่ไต้หรอกหรือ? เอ่อ… ถ้าอย่างนั้นก็ช่างน่าอายเหลือเกิน ท่านเจ้าเมืองได้โปรดบอกข้ามาเถิด นี่คือศพของผู้ใดกันแน่?”
เหลียงหยวนเตานิ่งเงียบ
ในหัวใจเกิดความรู้สึกอึดอัดขัดใจบางอย่าง
ชายอ้วนรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่าอะไรคือสาเหตุของความไม่ชอบมาพากลนั้นกันแน่
“ท่านเจ้าเมืองได้โปรดบอกข้ามาเถิดขอรับ ตกลงนี่ใช่ศพของพี่ใหญ่ไต้หรือไม่? ข้าจะได้ร้องไห้ต่อ”
หลินเป่ยเฉินยังคงยืนจับราวระเบียงแน่นด้วยสองมือและตะโกนออกมาเสียงดัง
ดวงตาของเหลียงหยวนเตาเป็นประกายวูบวาบอีกครั้ง
ท่านเจ้าเมืองผู้วิปริตมั่นใจแล้วว่าความรู้สึกไม่ชอบมาพากลนี้ เขาไม่ได้คิดไปเอง
แต่ชายอ้วนก็หาคำตอบไม่ได้ว่าอะไรคือสิ่งผิดปกติ
ดังนั้น เหลียงหยวนเตาจึงนิ่งเงียบ
หลินเป่ยเฉินยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ
เขาหยิบแก้วมังกรซึ่งมีขนาดเท่ากับศีรษะมนุษย์ขึ้นมาปอกเปลือก ก่อนกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย “ตกลงท่านเจ้าเมืองมีอาหารจานพิเศษมาฝากข้าหรือไม่ ข้าอุตส่าห์ตั้งใจรอรับประทานเลยนะเนี่ย ส่วนระหว่างนี้ ขอทานผลไม้ไปพลาง ๆ ก่อนแล้วกัน”
ผลแก้วมังกรมีน้ำหวานไหลทะลักออกมาจำนวนมาก
เมื่อกัดกินคำหนึ่ง น้ำจากผลแก้วมังกรจะไหลลงตามง่ามนิ้วมือของหลินเป่ยเฉินเปรอะเปื้อนเต็มปากและใบหน้า
น้ำหวานของผลแก้วมังกรมีสีแดงราวกับโลหิต
กลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่หน้าค่ายผู้อพยพไม่เคยพบเห็นผลแก้วมังกรมาก่อน เมื่อเห็นการรับประทานของเด็กหนุ่ม ทุกคนก็ต้องเลิกคิ้วสูงด้วยความตกตะลึง
นี่มันอะไรกัน?
หลินเป่ยเฉิน…
กำลังรับประทานศีรษะมนุษย์อยู่หรือ?
เหตุไฉนถึงได้มีเลือดเต็มใบหน้า
น่ากลัวเหลือเกิน
คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเป่ยเฉินจะกลับกลายเป็นมนุษย์กินคนไปเสียได้
ทุกคนแตกตื่นตะลึงกันไปตาม ๆ กัน
เหลียงหยวนเตาใบหน้ากระตุก ตัดสินใจสลัดความว้าวุ่นในสมอง และเปลี่ยนเรื่องพูดหน้าตาเฉย “หลินเป่ยเฉิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?”
หลินเป่ยเฉินยกมือโบกสะบัดเมื่อได้ยินคำถามนั้น
น้ำหวานจากผลแก้วมังกรไหลลงตามนิ้วมือของเด็กหนุ่มไม่ต่างไปจากโลหิตสีแดงฉาน
“รอก่อนสิขอรับ”
หลินเป่ยเฉินหลับตาลงซึมซับความอร่อยของน้ำหวานจากผลแก้วมังกร “นับว่าท่านเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่แท้จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าให้ความร่วมมือกับท่านเป็นอย่างดี แล้วทำไมท่านถึงไม่ให้ความร่วมมือกับข้าบ้าง? ท่านรู้หรือไม่ว่าตนเองอาจจะต้องเดือดร้อนเพราะนิสัยเอาแต่ใจเช่นนี้เข้าสักวัน? ”
พูดจบ เด็กหนุ่มก็กัดกินผลแก้วมังกรอย่างมูมมาม ก่อนพูดต่อ “ถ้าอาหารจานพิเศษที่ท่านว่าคือสิ่งที่อยู่ในหีบเหล็กใบนั้นแล้วล่ะก็ มันก็ทำให้ข้ารู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้นจริง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า อันที่จริง ข้าก็เตรียมอาหารจานพิเศษไว้ให้ท่านเช่นกัน ทีแรกกะว่าจะเอาไว้เปิดตัวตอนสุดท้ายสักหน่อย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะรีบร้อนขนาดนี้”
หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็ยกมือโบกสะบัดและตะโกนเรียก
“พี่ไต้ ออกมาได้แล้วขอรับ”
ทันใดนั้น ไต้จือฉุนผู้สวมใส่เสื้อผ้าที่ถักทออย่างประณีตก็เดินออกมาจากด้านในกระโจม
ด้วยระดับพลังที่สูงมากขึ้น ทำให้ถึงไต้จือฉุนจะถูกทรมานและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ซ้ำยังเลื่อนระดับขึ้นได้อีกหนึ่งขั้น ชายหนุ่มจึงมีท่าทางสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เหมือนคนที่ได้รับบาดเจ็บสักนิด
“ท่านเจ้าเมืองเหลียง ไม่ได้พบกันนานเลยนะ”
ไต้จือฉุนประสานมือคำนับจากยอดต้นไม้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความเกลียดชัง
หัวใจของชายอ้วนกระตุกวูบ
ไต้จือฉุนขึ้นไปยืนอยู่บนนั้นได้อย่างไร
เหลียงหยวนเตาอยากจะยกมือตบหน้าตนเองเพื่อพิสูจน์ว่านี่ไม่ใช่ภาพมายาที่เขาจินตนาการไปเอง
ชายอ้วนจ้องมองไต้จือฉุนอึดใจใหญ่ ก่อนจะหันไปจ้องมองหลินเป่ยเฉินเป็นลำดับต่อมา
เด็กหนุ่มคนนี้แอบช่วยเหลือนักโทษออกมาจากคุกใต้ดินของเขาได้อย่างไร?
ดูจากสภาพการฟื้นตัวของร่างกาย ไต้จือฉุนคงได้รับการช่วยเหลือออกมานานพอสมควรแล้ว…
ถ้าอย่างนั้น นักโทษที่ถูกทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์อยู่ในคุกใต้ดิน รวมถึงถูกหั่นศพจับโยนลงในหีบเหล็กใบนั้นเป็นใครกันล่ะ?
หรือว่าหลินเป่ยเฉินจะมีคนในแทรกซึมอยู่ในจวนผู้ว่า?
แต่แล้วชายอ้วนก็ต้องรีบปฏิเสธความคิดนี้ไปทันที
เพราะถ้ามันเป็นเช่นนั้น
ก็หมายความว่าต้องมีสมาชิกหน่วยมือปราบอินทรีธูมรณะหักหลังเขาใช่หรือไม่?
เพราะการนำตัวนักโทษออกจากคุกใต้ดิน เป็นสิ่งที่บุคคลเพียงคนสองคนไม่สามารถทำได้เด็ดขาด
สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เหลียงหยวนเตาพยายามข่มกลั้นความสงสัยในหัวใจ สูดหายใจลึก ๆ และพูดว่า “อาหารจานพิเศษของเจ้า ข้าชมชอบยิ่งนัก ฮ่าฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมีความกล้าหาญถึงกับบุกเข้าไปชิงตัวนักโทษออกมาจากคุกใต้ดินของข้า รู้หรือไม่ว่าการกระทำเช่นนี้จะเกิดสิ่งใดตามมาบ้าง?”
หลินเป่ยเฉินยิ้มกริ่ม รับประทานแก้วมังกรต่อไป ในปากของเขาเต็มไปด้วยน้ำหวานสีโลหิต
นั่นเองกลุ่มขุนนางใหญ่ที่อยู่ด้านล่างจึงตั้งสติได้ว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มรับประทานอยู่ไม่ใช่ศีรษะมนุษย์ แต่มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างน่ากลัว มิหนำซ้ำ ของสิ่งนี้ยังมีโลหิตสีแดงสดอีกด้วย
ถึงจะไม่ใช่ศีรษะมนุษย์จริง ๆ แต่ก็คงเป็นอะไรบางอย่างที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วช่วยเสริมสร้างพลังเป็นแน่แท้
คงไม่พ้นพลังปีศาจ
เพราะของสิ่งนี้เองสินะ
ถึงไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะหลินเป่ยเฉินได้
นี่คือคำอธิบายว่าเพราะเหตุใดเด็กหนุ่มจึงสร้างปาฏิหาริย์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
บางทีเขาอาจเป็นสาวกปีศาจที่แฝงตัวเป็นผู้ที่ถูกเลือกของเทพีกระบี่ก็เป็นได้
เมื่อเหล่าขุนนางใหญ่คิดได้ดังนั้น หลินเป่ยเฉินในสายตาของพวกเขาก็กลับกลายเป็นตัวชั่วร้ายขึ้นมาทันที และบัดนี้ ที่พึ่งพิงเดียวของทุกคนก็คือเหลียงหยวนเตาเท่านั้น
“จะมีอะไรตามมาล่ะขอรับ?”
ในที่สุด หลินเป่ยเฉินก็รับประทานผลไม้รูปทรงหัวมนุษย์หมดสิ้นแล้ว เขายื่นมือไปหาเฉียนเจิน รับผ้าเช็ดหน้าสีขาวมาเช็ดคราบน้ำหวาน เพียงไม่กี่ลมหายใจต่อมา ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นก็มีสภาพเหมือนผ้าเปื้อนเลือดผืนหนึ่ง
“ท่านลองบอกออกมาสิ แล้วมาดูกันว่าข้าจะหวาดกลัวหรือไม่ ?”
เด็กหนุ่มยิ้มแย้มมองหน้าเหลียงหยวนเตา
สีหน้าของหลินเป่ยเฉินสื่อความหมายได้เพียงอย่างเดียวว่า
มีอะไรก็รีบพูดออกมาซะ ไอ้หมูตอน
ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก