ตอนที่ 764 สิ่งที่อยู่ในหีบอีกใบ
“นานเหลือเกิน”
เหลียงหยวนเตาสูดหายใจลึกและพูดว่า “ครั้งสุดท้ายที่มีคนพูดจาสามหาวเช่นนี้กับข้า ข้าลืมไปแล้วว่ามันนานขนาดไหน ข้าจำได้เพียงแต่จุดจบของคนผู้นั้นต้องคุกเข่าร้องขอชีวิตอยู่บนพื้นดิน และในที่สุด หัวของมันก็ถูกตัดทิ้งทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่มีทางให้อภัยมันอยู่แล้ว… ฮ่าฮ่าฮ่า หลินเป่ยเฉิน เจ้าไม่ควรทำให้ข้าโมโหเลยจริง ๆ”
ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นในน้ำเสียงของท่านเจ้าเมือง
แม้ว่ามันจะเป็นกระแสความโกรธแค้นที่หลุดออกมาเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้รับฟังหลายคนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
เพราะทุกคนรับทราบดีว่ายามที่ท่านเจ้าเมืองโกรธแค้นและบันดาลโทสะ ชายอ้วนผู้นี้มีความน่ากลัวมากเพียงใด
พวกเขาจึงเริ่มไว้อาลัยให้แก่หลินเป่ยเฉินล่วงหน้า
แต่เด็กหนุ่มกลับหยิบ ‘บุุหรี่’ ออกมาจุดสูบอยู่หลังราวระเบียงหน้าตาเฉย เขาพ่นควันออกมาโขมง ก่อนยิ้มและพูดว่า “ข้ามันเป็นคนตกใจง่ายเสียด้วยสิ บอกตามตรงเลยนะขอรับท่านเจ้าเมือง ท่านเกือบทำให้ข้าหัวใจวายตายด้วยความหวาดกลัวแล้ว”
แน่นอนว่าบนใบหน้าของหลินเป่ยเฉินย่อมไม่มีวี่แววของความหวาดกลัว
เหลียงหยวนเตาเงยหน้ามองไปที่เด็กหนุ่มและระเบิดเสียงหัวเราะ
“ข้ารู้ว่าเจ้ามั่นใจในระดับพลังของตนเอง เจ้ามั่นใจในกองทัพคนงานขุดเหมืองของเจ้า จนเจ้ารู้สึกว่าข้าคงสู้เจ้าไม่ได้สินะ?”
เหลียงหยวนเตาพูดพลางเลียริมฝีปาก
หลินเป่ยเฉินสูดหายใจลึก พ่นควันออกมาเป็นรูปวงแหวน “มัวพูดมากอยู่ได้ เฮ้อ ตกลงว่าข้ากำลังจะต้องพบเจอกับอะไรกันแน่ ได้โปรดรีบบอกออกมาเถิด”
หากนี่เป็นนิยายออนไลน์สักเรื่องหนึ่ง คงโดนคนอ่านด่าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเดินเรื่องมีแต่น้ำ หาได้มีเนื้อเรื่องไม่
ชั้นไขมันบนใบหน้าของเหลียงหยวนเตาสั่นกระเพื่อม
แต่ทันใดนั้น เมื่อชายอ้วนสะบัดหน้าของตนเองไปมา ความโกรธแค้นก็หายไปจากสีหน้าของเขาอย่างรวดเร็วขณะพูดว่า “นับว่าเจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆ แต่ความอวดดีของเจ้าทำให้ข้านึกถึงตนเองตอนหนุ่ม ๆ ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้าถึงอยากให้โอกาสเจ้าแก้ตัวเสมอ”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เหล่าขุนนางและแม่ทัพนายกองที่รวมตัวกันอยู่ด้านหลัง ต่างก็พากันสงสัยว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่
ก็ในเมื่อสักครู่นี้ ท่านเจ้าเมืองยังโกรธแค้นถึงเพียงนั้น แล้วเหตุไฉนผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ เหลียงหยวนเตากลับคิดที่จะมอบโอกาสแก้ตัวให้แก่หลินเป่ยเฉินเสียแล้ว?
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่าว่าแต่เหลียงหยวนเตาจะเคยให้อภัยผู้คนที่พูดจาหยาบคายกับตนเองเช่นนี้เลย ขอแค่ขัดขวางแผนการของเขาโดยไม่รู้ตัว หรือแม้แต่พูดจาผิดหูออกมาคำเดียวเท่านั้น ความตายก็จะมาเยือนคนผู้นั้นโดยทันที…
ตราบใดที่เหลียงหยวนเตารู้สึกไม่ชอบใจผู้ใด นั่นก็จะหมายความว่าเวลาตายของคนผู้นั้นได้มาถึงแล้ว
แต่ตอนนี้เล่า?
เพราะอะไรชายอ้วนถึงให้อภัยหลินเป่ยเฉินครั้งแล้วครั้งเล่า?
หรือความจริง ท่านเจ้าเมืองเหลียงหยวนเตาชื่นชอบคนที่กล้าขัดขืนตนเอง ยิ่งแสดงความเป็นปรปักษ์มากเท่าไหร่ เหลียงหยวนเตาก็ยิ่งชื่นชอบมากเท่านั้น?
“ฮ่าฮ่าฮ่า โอกาสแก้ตัวที่ท่านพูดถึง คงหมายถึงข้อตกลงก่อนหน้านี้ของพวกเราใช่หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินดีดก้นบุหรี่ทิ้งไปในอากาศด้วยท่วงท่าที่คิดว่าเท่ที่สุด จากนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ “แต่บัดนี้พี่ใหญ่ไต้ของข้าปลอดภัยแล้ว เหตุไฉนข้ายังจะต้องทำตามข้อตกลงของพวกเราอยู่อีก?”
“เจ้าคิดว่าตนเองจะเอาตัวรอดไปได้ตลอดหรืออย่างไร?”
เหลียงหยวนเตาหัวเราะในลำคอ “หลินเป่ยเฉิน เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าควรจะรู้ดีว่าข้าหมายถึงอะไร ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของเจ้า ขอแค่ทุกคนเดินออกมานอกค่ายที่พักเท่านั้น พวกเขาก็จะถูกสังหารโดยทันที และถึงจะเก็บตัวอยู่ด้านในค่ายที่พัก ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันความปลอดภัยได้อยู่ดี”
“จริงด้วยสินะ”
ก้นบุหรี่ที่หลินเป่ยเฉินดีดทิ้งลงมานั้นตกมาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งมีแผ่นป้ายแขวนเอาไว้เป็นข้อความบอกว่า ‘ห้ามทิ้งก้นบุหรี่’
“เอาละ ในเมื่อท่านเจ้าเมืองอุตส่าห์ให้โอกาสแก้ตัวกับข้าทั้งที แล้วข้าจะไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้ได้อย่างไร”
เด็กหนุ่มยกมือโบกสะบัด และส่งเสียงเรียกใครบางคน “กงกง”
บุคคลที่ชื่อกงกงพลันปรากฏตัวขึ้นข้างกายหลินเป่ยเฉินราวกับเป็นภูตผีตนหนึ่ง และเขาก็กำลังใช้สองมือถือหีบขัดเงาใบหนึ่ง
การปรากฏตัวของกงกงทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านล่างประหลาดใจ
ชายฉกรรจ์ร่างกำยำผู้ไว้ผมจุกบนศีรษะคนนี้มาปรากฏตัวได้อย่างไร?
แม้แต่ยอดฝีมือระดับเจ้าสำนักก็มองไม่ออก
หลินเป่ยเฉินเอื้อมมือไปสัมผัสหีบขัดเงาใบนั้นเล็กน้อย ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ก่อนสะบัดข้อมือวูบ และส่งหีบใบนั้นลอยกระเด็นออกไป
วูบ!
หีบขัดเงาสีแดงเข้มหมุนวนในอากาศขณะร่วงดิ่งลงสู่พื้นดินด้านล่างด้วยความเร็วระดับปานกลาง
หีบใบนี้ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
แต่เหล่าจอมยุทธ์ยอดฝีมือกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังแฝงที่อัดแน่นอยู่ด้านใน
“ไปเอาหีบใบนั้นมาให้ข้า”
เหลียงหยวนเตาออกคำสั่ง
มือปราบอินทรีธูมรณะผู้มีขีดห้าขีดอยู่บนแขนเสื้อพลันลอยตัวขึ้นไปในอากาศ และเอื้อมมือคว้าหีบขัดเงาใบนั้นได้อย่างแม่นยำ
ท่วงท่าสง่างาม
รวดเร็วฉับไว
การเคลื่อนไหวของมือปราบอินทรีธูมรณะผู้นี้สร้างความพอใจให้แก่ยอดฝีมือระดับเจ้าสำนักจำนวนมาก
สมแล้วที่เป็นถึงองครักษ์ข้างกายของท่านเจ้าเมืองเหลียงหยวนเตา
ยิ่งมือปราบอินทรีธูมรณะมีขีดบนแขนเสื้อมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีระดับพลังสูงส่งมากเท่านั้น
การคว้าจับหีบเพียงใบเดียวคงไม่มีปัญหาอะไรกระมัง?
แต่จังหวะที่มือของมือปราบอินทรีธูมรณะสัมผัสเข้ากับหีบขัดเงาใบนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปทันที ตัวคนสั่นกระตุก ได้ยินเสียงดังปัง แล้วมือของเขาที่จับตัวหีบก็ระเบิดกระจาย กล้ามเนื้อและเลือดสีแดงสดกระเด็นไปทุกทิศทุกทาง เศษกระดูกกระจัดกระจายกลายเป็นละอองสีขาว
“อ๊าก…”
มือปราบผู้เคราะห์ร้ายร้องเสียงโหยหวนขณะตัวคนปลิวกระเด็นออกไป
เมื่อร่างกายของเขาตกกระแทกพื้นดิน แขนขวาก็ห้อยต่องแต่ง เห็นได้ชัดว่ากระดูกแตกละเอียดไปทั้งแขนแล้ว
และหีบขัดเงาใบนั้นก็ยังคงหมุนวนเคลื่อนเข้ามาทางเสลี่ยงของเหลียงหยวนเตาอีกด้วย
วูบ!
ปรากฏเงาคนอีกสองสายพุ่งขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง
พวกเขาคือมือปราบอินทรีธูมรณะที่มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ ทั้งสองคนชักกระบี่ออกมา คมกระบี่สาดประกายแวววาวขณะทิ่มแทงเข้าไปยังหีบใบนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดจะใช้วิชากระบี่ของตนเองสลายค่ายอาคมที่อยู่บนตัวหีบลงให้ได้
แต่ลมหายใจต่อมา…
เปรี้ยง!
เปรี้ยง!
เปรี้ยง!
กระบี่ของพวกเขาแตกกระจายลอยกระเด็น
มือปราบหนุ่มทั้งสองคนกระอักเลือดออกมาจากปาก ตัวคนร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน
ขณะนี้ หีบขัดเงายังคงหมุนวนตรงเข้ามาหาเสลี่ยงของท่านเจ้าเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ
เหลียงหยวนเตาใบหน้ากระตุกด้วยความไม่ชอบใจ
“ข้าน้อยจะไปเอามาให้นายท่านเองขอรับ”
ขันทีเฒ่าเซียวเซียวที่คุกเข่าก้มหน้าอยู่บนพื้นดินส่งเสียงตะโกน ก่อนที่ตัวคนจะโผพุ่งขึ้นไปในอากาศราวกับเป็นอินทรียักษ์ตัวหนึ่ง เขาประทับมือทั้งสองข้างลงไปที่หีบขัดเงาใบนั้น ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
แต่ในที่สุด ชายชราก็สามารถอุ้มหีบเจ้าปัญหากลับลงมาสู่พื้นดินได้สำเร็จ ขันทีเฒ่าเซียวเซียวต้องเซถลาไปหลายก้าวจึงจะสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง
ติ๋ง!
ติ๋ง!
ติ๋ง!
โลหิตไหลหยดลงมาจากง่ามนิ้วมือของชายชรา
ปรากฏว่าเพื่อโอบอุ้มหีบใบนี้กลับลงมาสู่พื้นดินให้สำเร็จ ขันทีเฒ่าเซียวเซียวจำเป็นต้องกัดฟันทนความเจ็บปวด ต้านทานแรงระเบิดนับไม่ถ้วน ทำให้มือของเขาทั้งสองข้างเกิดเป็นบาดแผลฉกรรจ์
แต่เขาก็สามารถนำหีบมามอบให้แก่นายท่านได้สำเร็จแล้ว
เซียวเซียวไม่ได้ทำให้เหลียงหยวนเตาอับอาย
“นายท่านขอรับ”
ขันทีเฒ่าหมุนตัวกลับไปประคองหีบขัดเงาใบนั้นด้วยสองมือ
เหลียงหยวนเตาออกคำสั่งโดยไม่ขยับตัวสักนิด “เปิดดูด้านใน”
เซียวเซียววางหีบลงและเปิดฝาหีบดูโดยทันที
กลิ่นของยาสมุนไพรจาง ๆ ลอยขึ้นมาจากด้านใน
เมื่อเหลียงหยวนเตากวาดตามองสิ่งที่อยู่ด้านใน ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย
สิ่งที่บรรจุอยู่ด้านในหีบคือหัวมนุษย์
เป็นหัวของเกาเฉิงฮั่น
หัวที่ผ่านการเคลือบตัวยาบางอย่างเพื่อให้เห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน เป็นหัวของเกาเฉิงฮั่นผู้มีพลังระดับเซียนซึ่งประจำการอยู่ในกองทัพของนครเจาฮุย
ตกลงว่าหลินเป่ยเฉินสามารถสังหารเกาเฉิงฮั่นได้จริง ๆ หรือ?
เหลียงหยวนเตาโคจรพลังลมปราณ และอาศัยเคล็ดวิชาลับของตนเอง เพ่งดวงตามองหาความผิดปกติของหัวมนุษย์หัวนี้
แต่ปรากฏว่านี่คือหัวของเกาเฉิงฮั่นจริง ๆ
ด้วยการใช้วิชาเนตรมหาจำแนก จึงไม่มีสิ่งปลอมแปลงใด ๆ สามารถรอดพ้นสายตาของเหลียงหยวนเตาได้เด็ดขาด
“เอาไปให้ทุกคนดู”
เหลียงหยวนเตาออกคำสั่งอย่างแช่มช้า
เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลินเป่ยเฉินจะสามารถฆ่าเกาเฉิงฮั่นได้สำเร็จ เพราะฉะนั้น เมื่อเห็นหัวของยอดฝีมือระดับเซียนผู้นั้นมาปรากฏขึ้นตรงหน้า ชายอ้วนจึงอดตกตะลึงไม่ได้
ก่อนหน้านี้เคยมีพลังคุกคามแผ่กดดันไปทั่วค่ายที่พักของชาวเมืองหยุนเมิ่งวูบหนึ่ง
หรือมันจะเป็นพลังที่ระเบิดออกมาขณะเกิดการปะทะกันระหว่างหลินเป่ยเฉินกับเกาเฉิงฮั่น?
ขันทีเฒ่าเซียวเซียวยกหีบใบนั้นไปให้กลุ่มขุนนางใหญ่และเหล่ายอดฝีมือระดับเจ้าสำนักซึ่งยืนรวมตัวอยู่โดยรอบได้รับชม
ทันใดนั้น พื้นที่หน้าทางเข้าค่ายที่พักผู้อพยพก็เต็มไปด้วยเสียงอุทานด้วยความแตกตื่นตกใจ
ขุนนางใหญ่หลายคนส่งเสียงร้องอุทานออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ
พวกเขาล้วนไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าสิ่งที่ถูกบรรจุอยู่ในหีบจะเป็นหัวของเกาเฉิงฮั่น